ตอนที่ 724 ฟ้าส่งมาคู่กัน
หน้าต่างของห้องผู้ป่วยเปิดไว้ข้างหนึ่ง ม่านถูกยึดเข้ากับห่วงโลหะ สายลมสัมผัสกับขอบหน้าต่าง ผ้าม่านเต้นรำเบาๆ
แสงอาทิตย์ส่องทะลุหน้าต่าง กระทบบนแจกันที่วางอยู่บนโต๊ะ ดอกลิลลี่และดอกกุหลาบสีชมพูก็สั่นไหว
เกาหยิ่งจือชำระล้างล่วงหน้า แต่งหน้าอ่อนๆ ใช้รองพื้นและคอนซีลเลอร์ปกปิดจุดต่างๆ บนใบหน้า ริมฝีปากที่ไม่มีสีเลือดถูกแต่งแต้มด้วยลิปสี่ชมพู ผมสั้นถูกจัดให้นุ่มฟู
เธอสวมชุดผู้ป่วยลายสก๊อต นั่งเงียบๆ ตอนนี้เธอเพียงแค่มองถังจิ้นเหยียน เขาก็มองเธอเช่นกัน
เวลานาน ถังจิ้นเหยียนพูด “ฉันเพิ่งออกมาจากห้องทำงานของผู้อำนวยการ หมอของเธอฉันก็พบแล้ว”
ใบหน้าซีดเซียวของเกาหยิ่งจือเผยมีความสุขจางๆ แต่ความสุขเป็นเพียงแวบเดียว “ดังนั้นนายรู้แล้ว อาการของฉันหนักมาก ถึงขั้นผ่าตัดไม่ได้แล้ว”
ถังจิ้นเหยียนจำใจต้องพยักหน้า “จริงๆแล้ว ทุกอย่างมีที่ว่างสำหรับการกลับตัว ปาฏิหาริย์ทางการแพทย์มีไม่น้อย เธอต้องเชื่อมั่นในตัวเอง เธออย่าเพิ่งยอมแพ้ก่อน”
เกาหยิ่งจือติดกระดุมผ้านวม หยิบไว้ในกำมือ แล้วขย้ำให้เป็นวงกลม “ขอโทษนะ ฉันโกหกนาย ฉันไม่สามารถผ่าตัดได้ แต่ว่าฉันอยากเจอนาย”
เกาหยิ่งจือพูดความจริงและตรงไปตรงมาของ ถังจิ้นเหยียนไม่สามารถทนได้ที่จะพูดคำตำหนิ เพียงแค่พูด “ไม่เป็นไร ไม่ใช่ความผิดขอเธอ”
ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้ายังคงสง่างาม สูงส่ง นั่งอยู่บนโซฟาธรรมดา ก็ไม่สามารถปกปิดความอ่อนโยนได้ ดีจัง…… เธออยากมองเขาแบบนี้ไปตลอด จนถึงเวลาที่ดวงตาได้ปิดลง
แต่ มากเกินไป เธอขอไม่ได้ รับไม่ได้
ถังจิ้นเหยียนไม่อยากให้เธอคาดหวังมากเกินไป ไม่อยากให้ความหวังที่มืดบอดกับเธอ จึงพูด “ฉันได้เห็นแผนการรักษาของเธอแล้ว ไม่ใช่ว่าจะไม่มีทางหายได้ เพียงแค่เธอให้ความร่วมมือ”
“นายอยากให้ฉันมีชีวิตอยู่ต่อไหม?” จู่ๆ เธอก็ถามเขาอย่างจริงจัง ดวงตาที่ร้อนแรงล็อกสายตาของเขา คาดหวัง ตื่นเต้นกับคำตอบของเขา
“ฉันเป็นหมอ หมอทุกคนหวังว่าคนไข้จะไม่ล้มเลิกความหวังที่จะมีชีวิตรอด” ถังจิ้นเหยียนตอบอย่างเป็นกลาง
“นี่ไม่ใช่สิ่งที่ฉันอยากฟัง อีกอย่าง ตอนนี้นายเป็นหมอเหรอ? ฉันควรเรียกนายว่าศาสตราจารย์ถังหรือเปล่า?” มุมปากของเกาหยิ่งจือยกขึ้น รอยยิ้มกลายเป็นรัศมีสีแดงที่ปกคลุมใบหน้า
“ไม่ว่าเป็นหมอหรือเป็นเพื่อน ฉันก็หวังว่าเธอจะมีชีวิตอยู่ต่อ ชีวิต……” ถังจิ้นเหยียนเตรียมสอนเธอ แต่ว่าโดนเกาหยิ่งจือตัดบทก่อน
“ฉันก็เป็นหมอ คำพูดที่นายเตรียมให้ฉัน ฉันบอกคนไข้ของฉันหลายรอบแล้ว”
“ในเมื่อเธอก็รู้แล้ว ก็ยิ่งต้องพยายาม เธอยังสาว อนาคตยังมีโอกาสอีกมากมาย” ถังจิ้นเหยียนพูดเสียงนิ่ง
ในที่สุดเกาหยิ่งจือก็เอนกายลงบนหัวเตียงอย่างเหนื่อยล้า หัวเราะออกมา “ถังจิ้นเหยียน ถึงสุดท้ายแล้วฉันก็ยังเข้าไม่ถึงหัวใจนาย ถึงสุดท้ายแล้วก็ยังไม่มีความสามารถทำให้นายชอบฉันได้”
ลั่วหานและเกาจิ่งอานที่อยู่นอกประตูสบตากัน ทั้งสองนิ่งไม่พูด
ถังจิ้นเหยียนตาแดงเล็กน้อย พูดอย่างรู้สึกผิด “ขอโทษนะ เธอเป็นหมอที่ดี และเป็นผู้หญิงที่ดี”
เกาหยิ่งจือยิ้ม “ช่างเถอะ ฉันเป็นคนยังไงฉันรู้ดี โดนนายปฏิเสธอีกครั้ง……พูดตามตรง ฉันน่าจะร้องไห้อย่างเอาเป็นเอาตาย แต่ว่าไม่แล้ว คนอื่นบอกว่า บนโลกนี้นอกจากเกิดตายเป็นเรื่องเล็ก นานดูสิ ฉันเป็นแบบนี้แล้ว ต่อให้โดนนายปฏิเสธอีก ฉันก็ไม่เศร้าอีกต่อไป ก็อยู่ดีนะ”
เกาจิ่งอานฟังแล้วจมูกรู้สึกเจ็บ พูดเสียงต่ำกับลั่วหาน “พี่สะใภ้ ผมไปรับโทรศัพท์นะ”
ลั่วหานไม่ได้ห้ามเขา
“เธออย่าคิดว่าสถานการณ์เลวร้ายเกินไป”
“ฉันมีคำขออย่างหนึ่ง หวังว่านายจะสัญญากับฉัน” เกาหยิ่งจือไม่ถือตัวเองมาพูด แต่กลับเปลี่ยนน้ำเสียง
ถังจิ้นเหยียนโล่งใจ “เรื่องอะไร?”
“อย่าทิ้งเตียงผ่าตัด กลับมาที่โรงพยาบาล เป็นหมอต่อไป ไม่ว่าเหตุผลอะไร ฉันหวังให้นายกลับมา เทียบกับนายรักฉันแล้ว อันนี้ง่ายกว่าใช่ไหม?” เกาหยิ่งจือพูดอย่างจริงใจ เธอใช้สายตาจริงใจและเศร้าใจมองถังจิ้นเหยียน
ใจของถังจิ้นเหยียนสั่นเล็กน้อย “ฉันตัดสินใจออกจากโรงพยาบาลแล้ว หมอเกาอย่าพูดอีกเลย”
เกาหยิ่งจือดิ้นรนที่จะลุกขึ้น แต่พบว่าทำไม่ได้ ความเจ็บปวดจากภายในสู่ภายนอกทำให้ทุกการกระทำของเธอเหมือนเข็มกำลังทิ่มแทง
เธอผ่อนลมหายใจ “จริงๆแล้ว ฉันชอบตำแหน่งของฉันมาก ฉันเริ่มจากการเรียนที่มหาวิทยาลัยการแพทย์จนถึงสวมตราสัญลักษณ์ของแพทย์อย่างเป็นทางการ นับมาก็สิบสองปีแล้ว ฉันชอบแพทยศาสตร์จริงๆ อยากเป็นหมอที่ดี แต่ว่าฉันทำลายอาชีพของฉันด้วยตัวฉันเอง แต่ว่านายไม่เหมือนกัน คุณเป็นศัลยแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ผู้ป่วยจำนวนมากรอดชีวิตเพราะชื่อของนาย ในเมื่อนายยังมีโอกาส อย่าล้มเลิก ได้ไหม?”
นี่เป็นครั้งแรกที่ลั่วหานได้เห็นเกาหยิ่งจือพูดกับคนคนหนึ่งอย่างอ่อนโยน จริงใจ พวกเขาบอกว่าการรักใครสักคนจะทำให้ต่ำต้อยเหมือนฝุ่นละออง ตอนนี้เธอก็เป็นแบบนี้
แต่ลั่วหานก็รู้สึกว่า ขณะนี้ดูเหมือนเกาหยิ่งจือจะเปลี่ยน ไม่น่ารังเกียจขนาดนั้นแล้ว
ถังจิ้นเหยียนกำลังลังเล ดิ้นรน ทันใดนั้นเสียงประชาสัมพันธ์ของโรงพยาบาลก็ส่งเสียงด่วนดังขึ้นมา
“ฉู่ลั่วหาน รีบไปที่แผนกฉุกเฉินทันที! ฉู่ลั่วหาน รีบไปที่แผนกฉุกเฉินทันที!”
ลั่วหานได้ยินชื่อของตัวเอง ไม่ฟังที่ช่องประตู หมุนตัวก็เดิน เธอเพิ่งจะก้าวเท้า ประชาสัมพันธ์ดังขึ้นอีกครั้ง “หมอที่ยังไม่มีเคสทุกท่าน รีบมาที่แผนกฉุกเฉินช่วยเหลือ! ทุกท่าน……เกิดแรงระเบิดทำให้มีผู้บาดเจ็บเป็นจำนวนมาก……”
“แผนกศัลยกรรม! แผนกหัวใจ! ต้องการความช่วยเหลือ!”
ลั่วหานไม่กล้ารอ ไปที่ห้องฉุกเฉินด้วยความเร็วที่เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ หวาเทียนและหลินซีเหวินมาถึงแล้ว บนตัวของทั้งสองเต็มไปด้วยเลือด ถุงมือบนมือเต็มไปด้วยเลือด บนพื้นของห้องฉุกเฉินก็เต็มไปด้วยเลือด
“หมอฉู่! ชุมชนเกิดแก๊สระเบิด มีทั้งคนแก่และเด็ก และยังมีสตรีตั้งครรภ์ มีสามคนเป็นโรคหัวใจขั้นรุนแรง หนึ่งคนถูกเหล็กแทงเข้าไปในหัวใจ ทำการสแกนแล้ว สถานการณ์แย่มาก ต้องผ่าตัดทันที!”
ลั่วหานสวมถุงมือ ใส่เครื่องตรวจฟังเสียง มือทั้งสองข้างค่อยๆ ตรวจสอบของผู้ป่วย “รีบส่งเข้าห้องผ่าตัด หมอหวังล่ะ? ให้เขาเป็นผู้นำ”
ใบหน้าหลินซีเหวินหมดหวัง “หมอหวังเป็นผู้ช่วยให้คณบดี ทั้งสองอยู่ในห้องผ่าตัด”
“หมอซุนล่ะ?” ลั่วหานรีบฟังอัตราการเต้นของหัวใจของผู้ป่วย “ต้องผ่าตัด ให้แผนกวิสัญญีเตรียมตัว”
ใบหน้าของหวาเทียนก็หมดหวังเช่นกัน “หมอซุนเพิ่งไปห้องผ่าตัด หญิงตั้งครรภ์……”
“บ้าเอ๊ย!” ลั่วหานอดไม่ได้ที่จะพูดคำหยาบ “นายล่ะ?” เธอถามหวาเทียน
หวาเทียนยังไม่พูด หมอหลิวแผนกหัวใจนอกก็ดึงแขนเสื้อเขาแล้วเดินไป “หมอหวา อย่านิ่งแล้ว คนแก่อายุเจ็ดสิบห้ารอนายอยู่ ลิ่มเลือดอุดตันเส้นเลือดในสมอง อาจจะทำให้กล้ามเนื้อหัวใจตาย”
ลั่วหานพูด “ยังมีใครอีก?”
หลังผ้าปิดปากของหมอหลิวเต็มไปด้วยเหงื่อ พูดอย่างรีบร้อน “หมอฉู่ ผมยืมหมอหวาไปนะครับ ผู้สูงอายุรอไม่ไหวจริงๆ!”
ลั่วหานพยักหน้า “ทำได้แค่นี้แหละ”
หลินซีเหวินรีบจนดิ้นเท้า “โถ่เอ๊ย! ตอนนี้ทำยังไงดี? ผู้ป่วยคนนี้มีเหล็กเสียบไว้นะ ถึงบนหัวใจแล้ว เขารอไม่ถึงหมอคนไหนมีเวลาว่างนะ”
ลั่วหานกัดฟัน “ฉันทำเอง”
“ห๊ะ!!” หลินซีเหวินตกใจจนกอดเธอ “บรรพบุรุษของฉัน! เธออย่าหลอกคนแล้ว! ถ้าเธอยังผ่าตัดอีก ท่านเซียวจะทุบโรงพยาบาลแล้ว! หรือว่า……ฉัน……” เธออยากบอกว่าฉันไป แต่ว่าเป็นหมอฝึกหัด หลินซีเหวินไม่มีความสามารถในการทำงานคนเดียวขนาดนั้น และเธอไม่มีคุณสมบัติขนาดนั้น ไม่ต้องพูดถึงอาการของผู้ป่วยว่าเร่งด่วนเพียงใด
ช่วยไม่ได้……
“ฉันรู้แล้ว!”
ลั่วหานหยิบมือถือออกมา “นายรีบลงมา!”
เธอเพิ่งพูดจบ ถังจิ้นเหยียนก็มาถึงห้องโถงแล้ว เขาวางมือถือลง มองดูผู้ป่วยบนเตียง “เธออยากให้ฉันทำ?”
ลั่วหานพยักหน้า “เวลาสำคัญ ขอร้องนะ”
หลินซีเหวินเบิกตาโต เธอไม่อยากจะเชื่อว่าถังจิ้นเหยียนกลับมาแล้ว! ไอดอลด้านการแพทย์ของเธอ เจ้าชายผู้ทรงครบครันด้านมีดผ่าตัด!
ถังจิ้นเหยียนหยิบเครื่องฟังเสียงบนมือของลั่วหาน เข้าใกล้หัวใจของผู้ป่วย เลือดของผู้ป่วยติดบนเสื้อเชิ้ตสีขาวของเขา เขาพูดอย่างใจเย็น “ฉันนำเอง……”
“ฉันเป็นผู้ช่วยหนึ่ง” น้ำเสียงสงบของลั่วหานดังขึ้น
หลินซีเหวินตกใจอีกครั้ง “แต่ว่า……”
ถังจิ้นเหยียนพูด “เธอได้เหรอ?”
“นำไม่ได้ ผู้ช่วยก็ได้ ฉันเป็นผู้ช่วยหนึ่ง หมอหลินผู้ช่วยสอง”
ถังจิ้นเหยียนพยักหน้า “ได้ เตรียมห้องผ่าตัด!”
ผู้เข้ารับการผ่าตัดเปลี่ยนชุดผ่าตัด ล้างมือ เดินเข้าห้องผ่าตัด ทั้งสามคนสวมหน้ากากและหมวก เผยเฉพาะตา
น้ำเสียงอ่อนโยนของถังจิ้นเหยียนแต่มีพลัง “ลั่วหาน ฉัน……”
“นายไม่ต้องพูดอะไร ช่วยคนนี้ได้ เงื่อนไขอะไรนายขอมา” ลั่วหานยืนอยู่ตำแหน่งผู้ช่วยหนึ่ง งอตา
“ได้”
หลินซีเหวินมองทั้งสองอย่างอิจฉา “ดีจัง! มิตรภาพแห่งการปฏิวัติที่ยิ่งใหญ่!”
หมอวิสัญญีพูด “ชาทั้งหมดแล้ว ความดัน เจ็ดสิบ หนึ่งร้อย…… ผ่าตัดได้แล้ว”
ถังจิ้นเหยียนไม่คลุมเครืออีกต่อไป ใต้แสงไร้เงา เขามองเส้นเหล็กบนตัวของผู้ป่วย หายใจลึก ๆ “เลื่อยไฟฟ้า”
……
ถังจิ้นเหยียนเย็บแผลอย่างชำนาญ ช่วงเวลาที่ลำไส้ถูกตัดให้สั้นลง ลั่วหานสูดหายใจเบาๆ
การผ่าตัดดำเนินการสิ้นสุดลงเรียบร้อยแล้ว การร่วมมือกันของทั้งสองไม่ใช่เรื่องแปลก แม้แต่หลินซีเหวินที่เฝ้ามองจากด้านข้างก็ยังอุทาน ทีมทองคำแบบนี้ ฟ้าส่งมาคู่กันจริงๆ …….ถุ้ย!
การดำเนินการที่ยอดเยี่ยมของถังจิ้นเหยียนได้รับการชื่นชมอย่างเต็มที่ หากคณบดีเดินออกมาจากห้องผ่าตัด ต้องดีใจจนกระโดดโลดเต้นแน่ๆ ใช่ไหม?
หลินซีเหวินพาผู้ป่วยไปห้องผู้ป่วย ลั่วหานและถังจิ้นเหยียนดึงผ้าปิดปากออก ลั่วหานพูดยิ้มๆ “หมอเกาของพวกเราพูดโน้มน้าวนายยังไง?”
ถังจิ้นเหยียนยิ้ม “เธออยากรู้?”
ลั่วหานถอดชุดผ่าตัด เผยท้องกลมๆ
ถังจิ้นเหยียนนึกถึงประโยคสุดท้ายของเกาหยิ่งจือ–
“เป็นหมอเหมือนกัน แม้ว่าฉันจะไม่ชอบฉู่ลั่วหาน แต่เธอเป็นหมอที่ดีจริงๆ เธอตั้งครรภ์จนถึงตอนนี้ ยังอดทนทำหน้าที่ตัวเอง เธอไม่เหนื่อยเหรอ? เธอไม่อยากพักเหรอ? แต่มีปัญหาทางเทคนิคมากมายในโรงพยาบาลที่คนอื่นไม่สามารถทำได้ เธอทำได้เพียงรับมันไว้
ปากนายบอกว่าชอบเธอ ในแบบที่นายชอบเธอ ก็คือทิ้งภาระให้เธอคนเดียว? ตัวเองไปอเมริกา? ถังจิ้นเหยียน ไม่แปลกที่เธอไม่ชอบนาย เพราะนายไม่เหมาะ!”
ลั่วหานยิ้มตอบ “แน่นอนว่าอยากรู้ ฉันสงสัยมาก คนที่ฉันยังไม่สามารถชักชวนได้ เธอชักชวนยังไงกัน”
ถังจิ้นเหยียนยิ้มอย่างละอายใจเล็กน้อย “เมื่อกี้บอกว่าจะเลี้ยงข้าวฉัน ยังนับอยู่ไหม? ตอนนี้ฉันหิวแล้ว”
ลั่วหานฟังแล้วดีใจมาก “แน่นอน! นายอยากกินอะไร? ไม่รีบๆ นายค่อยๆ คิดตอนที่เปลี่ยนชุดก็ได้”
—
อาคารฉู่ซื่อ
บนโต๊ะทำงานของหลงเซียวมีวัสดุหลายอย่างวางอยู่ เขาหยิบขึ้นมาสองอย่างให้จี้ตงหมิง “อันนี้ส่งให้แผนกการตลาด ปรับแต่งตามความต้องการของฉัน”
จี้ตงหมิงรับเอกสาร พูดด้วยสายตาคลุมเครือ “เจ้านายครับ เมื่อสักครู่โรงพยาบาลหวาเซี่ยโทรศัพท์มา บอกว่าถังจิ้นเหยียนกลับมาแล้ว และวันแรกก็เข้าห้องผ่าตัดเลย สวยงามมาก”
แน่นอน จี้ตงหมิงจะไม่บอกเขาว่าภรรยาของเจ้านายก็ตามเข้าไป
หลงเซียวไขว่มือของเขา นิ้วกับนิ้วสัมผัสกัน “กลับมาได้ถูกเวลาจริงๆ”