ตอนที่ 735 คุณลุง น่ารักเกินไปแล้ว
“ไม่ได้”หลงเซียวแทบจะไม่คิดพิจารณาแม้แต่นิดเดียว ปฏิเสธข้อเสนอแนะของจี้ตงหมิงไปตรงๆเลยทันที
“ทำไมถึงไม่ได้ล่ะครับ? พวกเขาสองพี่น้องไม่ลงรอยกัน นี่มันเป็นโอกาสที่เหมาะที่สุดที่พวกเราจะสอดมือเข้าไปจัดการนะครับ ตอนนี้ชื่อเสียงของหลงถิงก็เสื่อมเสียลงไปมากแล้ว พวกเราแค่ดึงข่าวฉาวของเขาออกมา ก็จะสามารถทำให้จักรวรรดิของเขาล่มสลายลงได้เลยนะ”
หลงเซียวพูดปฏิเสธอย่างเด็ดเดี่ยวแน่วแน่“แผนการนี้ใช้กับเสิ่นเหลียวได้ แต่ไม่สามารถใช้กับหลงถิงได้”
จี้ตงหมิงไม่เข้าใจ“ขอเพียงแค่บรรลุเป้าหมาย ทำไมจะไม่ได้? เขาทำเรื่องไม่ดีมาตั้งมากมาย ทำไมพวกเราไม่สามารถจัดการเขาด้วยวิธีการเดียวกันกับที่เขาใช้ได้ล่ะครับ?”
หลงเซียวเงยหน้าขึ้นมา มองเขาด้วยสายตาเย็นชา“ฉันบอกว่าไม่ได้ก็คือไม่ได้”
จี้ตงหมิงไม่กล้าเถียงต่อ“ครับ”
หลงเซียวเห็นสีหน้าท่าทางของเขาหดหู่ไม่น้อย จึงพูดอธิบายอย่างไม่ตั้งใจอะไรมากมายอีกรอบ“หลงถิงเป็นพ่อบุญธรรมของฉัน เป็นสามีของแม่ฉัน”
จี้ตงหมิงอยากจะดึงปากตัวเองจริงๆ ให้ตายสิ!สมองมีปัญหาแล้วสินะ เขามองข้ามเรื่องที่สำคัญขนาดนี้ไปได้ยังไงกันเนี่ย!
“ถ้าอย่างนั้น……ผมขอตัวก่อนนะครับ”จี้ตงหมิงรีบหนีเอาชีวิตรอดอย่างรวดเร็ว จากนี้ไปไม่กล้าพูดแผนการอะไรมั่วซั่วต่อหน้าบอสอีกแล้ว!
พอเขาออกมา ก็เงยหน้าขึ้นมาเห็นแอนดี้ เขากำลังจะเปิดปากพูด แต่แอนดี้กลับพูดขึ้นมาก่อน“จะบอกกับคุณเรื่องที่คุณไม่อยากจะเชื่อเรื่องหนึ่ง เมื่อตะกี้ผู้ช่วยของหลงยี่โทรศัพท์มาหาฉัน บอกว่าจะนัดฉันไปออกทานข้าว แหะๆ!”
จี้ตงหมิงหน้าหมดกำลังใจ“จะจีบคุณเหรอ?”
แอนดี้ทำเสียงจุ๊ๆ“ความคิดคับแคบจริงๆ!หลงยี่คิดที่จะซื้อฉัน เพื่อที่จะสานความสัมพันธ์กับประธาน ตอนนี้เขาอยากจะทำงานร่วมกับบริษัทฉู่ซื่อ แต่ไม่กล้าเข้ามาหาตรงๆ จากที่ฉันดู เขาน่าจะใช้ชีวิตอยู่ในMBKอย่างไม่ค่อยราบรื่นเท่าไร”
จี้ตงหมิงคิดพิจารณาอยู่สักพัก“แสดงว่า หลงถิงลงมือจัดการกับพี่น้องและหลานชายของตัวเองแล้ว?”
แอนดี้พยักหน้า“อื้อ พอใช้ประโยชน์เสร็จแล้วก็ถีบหัวส่ง มันเป็นรูปแบบวิธีการที่คุ้นเคยของหลงถิงยังไงล่ะ ไอ้เศษเดนมนุษย์!”
“แล้ว คุณกะจะทำยังไง?”จี้ตงหมิงจูงแอนดี้มา ทั้งสองเดินมาตรงระเบียง เพื่อหลีกเลี่ยงคนที่เดินไปเดินมา
แอนดี้พูดขึ้น“บอสไม่มีทางทำงานร่วมกับหลงยี่แน่นอน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงหลงยี่เป็นคนอ่อนหัดอ่อนแอ ลำพังแค่เขาคนเดียวก็รู้สึกอึดอัดไม่น้อย”
ตอนนี้จี้ตงหมิงเข้าใจประโยคนี้เป็นอย่างดี ในห้องทำงานเมื่อตะกี้เกือบจะไปจุดชนวนระเบิดแล้วด้วย ใจสั่นด้วยความรู้สึกกลัว
“แล้วคุณล่ะ?”
ริมฝีปากแดงๆของแอนดี้“ฉันตอบตกลงไปแล้ว ว่าฉันจะไปตามนัด บอสไม่อยากที่จะแยแสหลงยี่ แต่ฉันทำได้ ถึงแม้ว่าหลงยี่จะเป็นคนอ่อนหัดอ่อนแอ แต่ก็ยังมีส่วนที่ให้ใช้สอยประโยชน์อยู่เหมือนกัน มีเพื่อนเพิ่มขึ้นมาก็จะลดศัตรูไปได้อีกหนึ่งคน ไม่แน่บางทีอาจได้ใช้ประโยชน์ในช่วงเวลาสำคัญก็ได้นะ”
จี้ตงหมิงตกใจกับสายตาที่เฉียบคมของเธอ“แอนดี้ ความคิดของคุณมืดมนขนาดนี้เลยเหรอ? ผมชักจะกลัวแล้วสิ คุณอย่ามาใช้กับผมนะ”
“ก็ต้องดูว่าคุณมาประจบประแจงทำดีกับฉันยังไงแล้วล่ะ”แอนดี้กอดอก
จี้ตงหมิงกอดเอวของเธอ“ตอนเที่ยงไปทานข้าวด้วยกันนะ จะพาคุณไปที่ที่หนึ่ง”
โจวโร่หลินแอบผลุบๆโผล่ๆเข้ามา หัวเราะอิอิ“เห้อ ฉันมาไม่ถูกเวลาเลยจริงๆ ต้องหลบไปหรือเปล่าเนี่ย?”
แอนดี้ผลักจี้ตงหมิงออก“โร่หลิน มีธุระเหรอ?”
โจวโร่หลินขยิบตา“ตอนแรกไม่มีธุระอะไรหรอก แต่ตอนนี้มีแล้ว ฉันจะรายงานกับประธาน ว่ามีคนแอบมาพลอดรักกันระหว่างทำงาน แอบจู๋จี๋กัน!”
“ยัยคนนี้!”แอนดี้ตบๆลงที่หัวของเธอ แกล้งทำเป็นโมโห
จี้ตงหมิงแสร้งทำเป็นล้วงมือถือออกมา“เสี่ยวโจวเหรอ วันนี้ฉันมีนัดเจรจากับเกาจิ่งอานพอดีเลย นายก็มาด้วยใช่ไหม?”
“ไม่ๆๆ ไม่ต้องแล้ว ตะกี้ฉันไม่ได้เห็นอะไรทั้งนั้น แอนดี้ ผู้ช่วยจี้ฉันมาส่งเอกสารให้กับประธานแค่นั้น เอ้อ……ฉันจะไปศึกษาดูงานที่เมือง Aน่ะ เดี๋ยวฉันจะซื้อผลิตภัณฑ์พื้นเมืองของที่นั่นมาให้พวกคุณนะ แหะๆๆ แหะๆๆ แล้วเจอกัน พวกคุณเชิญต่อกันเลย!”
พูดจบ โจวโร่หลินเข้าไปเคาะประตูห้องทำงานของหลงเซียวอย่างหนีเอาชีวิตรอดทันที
แอนดี้รู้สึกประหลาดใจ“เธอเป็นอะไร? สนิทสนมกับเกาจิ่งอานไม่ใช่หรือไง?”
จี้ตงหมิงยกๆไหล่“สนิท สนม คุณลองคิดๆดู มันเป็นเรื่องที่ดีไหม?”
——
ณ โรงพยาบาลหวาเซี่ย
ในช่วงเช้าลั่วหานมีผู้ป่วยนอกแค่สามคน แถมเป็นผู้ป่วยจากครั้งที่แล้วที่มาตรวจทั้งสิ้น พอจัดการธุระในมือเสร็จ หวังเค่ยก็บังเอิญพาเถียนเถียนมาตรวจพอดี
ตอนที่ลั่วหานไปห้องทำงานของส้งชิงเซวี๋ยนไม่มีคน นางพยาบาลบอกว่าพวกเขาไปห้องCTแล้ว ลั่วหานกำลังคิดที่จะตามไป มือถือก็ดังขึ้นมาก่อน
“หมอฉู่ คนไข้ที่คุณกับหมอถังทำการผ่าตัดร่วมกันจู่ๆหัวใจก็เต้นไม่สม่ำเสมอ พวกเราให้ยาไปแล้ว แต่หัวใจของคนไข้ได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง ตอนนี้ยังมีไข้สูงอีกด้วย ทำยังไงดี?”
“อุณหภูมิร่างกายเท่าไร? ชีพจรความดันโลหิตเท่าไร? ฉันจะไปเดี๋ยวแหละ”
“สามสิบเก้าองศา ความดันสูง135 ความดันต่ำ58 แถมยังลดลงเรื่อยๆอีกด้วย”
“ฉันทราบแล้ว ให้หมอหวากับหมอหลินไปก่อน ติดต่อหมอถัง ฉันเกรงว่าคนไข้จะมีปฏิกิริยาต่อต้านหลังจากการผ่าตัด ลดไข้กับตรวจเลือดให้เขาก่อนอย่างไม่ต้องรีบร้อน”
“ครับ!”
ลั่วหานขึ้นลิฟต์
……
ถังจิ้นเหยียนเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ เจิ้งซิ่วหยาก็แต่งตัวเก็บข้าวของเสร็จพอดี
“ไปกันเถอะ ผมไปส่งคุณที่สถานีตำรวจก่อน ไหนๆคุณก็ไม่อยากไปโรงพยาบาลแล้ว กลับไปสถานีตำรวจก็ต้องพักผ่อนเยอะๆ พอรายงานเสร็จก็กลับไปนอนพักผ่อนที่บ้าน”ถังจิ้นเหยียนหยิบกุญแจรถ ออกไปพร้อมกันกับเธอ
เจิ้งซิ่วหยาควงแขนของเขาไว้ไม่ห่างไปไหน“ความรู้สึกแบบนี้มันดีจริงๆเลย มีความสุขจัง!คุณหมอถัง ฉันไปโรงพยาบาลกับคุณดีกว่า ฉันจะไปเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้กับโรงพยาบาลหวาเซี่ยเอง จะปกป้องคุณโดนเฉพาะเลย”
ถังจิ้นเหยียนชะงักไปสักพักก่อนจะใช้มือไปตบๆที่หัวของเจิ้งซิ่วหยา รู้สึกว่าตบแรงไปไม่น้อย เลยลูบอย่างเบาๆอีกครั้ง
“อย่าสร้างปัญหาสิ คุณเป็นตำรวจ หน้าที่ของคุณก็คือขจัดความรุนแรง ปกป้องคนดี เหมือนกับเมื่อวาน……”เอ่อ หรือว่าไม่ต้องเหมือนเมื่อวานก็ได้
จู่ๆเจิ้งซิ่วหยาเหมือนกับถูกสกัดจุดนิ่งแข็งทื่อไม่ขยับ เธอเงยหน้าขึ้นมามองถังจิ้นเหยียน กลืนน้ำลาย“คุณลุง……เมื่อตะกี้คุณทำอะไร?”
มือของถังจิ้นเหยียนยังคนวางอยู่บนหัวของเธอ นิ้วมือลูบๆผมของเธอ“ผม? ก็……”
“อาๆๆๆ!คุณหมอถัง คิดไม่ถึงว่าคุณจะหยอดสาวเก่งเหมือนกันนะเนี่ย!โอ้ๆๆ ลูบหัวซะด้วยสิ คิดไม่ถึงว่าคุณจะรู้จักลูบหัวเป็นกับเขาด้วย!”
เจิ้งซิ่วหยากระโดดๆ เธอกระโดดเด้งขึ้นไปชนกับริมฝีปากของถังจิ้นเหยียนเข้าพอดี ปากนุ่มๆจุ๊บที่ริมฝีปากของเขา
ถังจิ้นเหยียน“……”นี่มันอะไรกัน? เขาแก่แล้วอย่างที่คิดไว้งั้นเหรอ? ไม่เข้าใจจิตใจของผู้หญิง
เจิ้งซิ่วหยาหัวเราะฮ่าๆ“การลูบหัวของคุณ ก็เหมาะแล้วกับการที่ฉันขโมยจูบคุณ!”
ในชีวิตที่เรียบง่ายของถังจิ้นเหยียนมีเพียงแค่ตำราทางการแพทย์ ลูบหงลูบหัวอะไรเนี่ยเขาไม่เข้าใจสักนิด“เอ่อ……”
เจิ้งซิ่วหยาหัวเราะออกมาอีกครั้ง“คุณลุง ท่าทางไร้เดียงสาของคุณน่ารักมากเลย!”
ถังจิ้นเหยียนถูกเธอเรียกคำก็ลุงสองคำก็ลุงจนจะนึกว่าตนเองเป็นคนแก่แล้วจริงๆ จริงๆแล้วเขาก็อายุเพียงแค่สามสิบสองปีเท่านั้น ถึงแม้จะแก่กว่าเธอ……ไม่ใช่น้อยๆก็ตาม
“ซิ่วหยา ผมเป็นวัวแก่กินหญ้าอ่อนใช่ไหม?”ถังจิ้นเหยียนรู้สึกลำบากใจไม่น้อย แถมเขาไม่เคยคิดจะกินหญ้าอ่อนเลยสักนิด เมื่อก่อนเขาชอบแต่ผู้หญิงสไตล์แบบลั่วหานหมดทั้งใจ ใครจะไปรู้คิดไม่ถึงว่าจะ……
“ไม่ใช่สิ!ต้องบอกว่าคุณลุงกับโลลิสิถึงจะเหมาะกว่า!หนุ่มสูงวัยกับหญิงสาว……ถุ้ยๆๆ!ยังไงก็ตามฉันชอบคุณฉันรักคุณ อย่างอื่นก็ไม่ใช่ปัญหาแล้วล่ะ!”
ถังจิ้นเหยียนหมดคำที่จะตอบกลับเธอแล้ว ดีที่มือถือของเขาดังขึ้นมาอย่างช่วยไว้ได้ทัน
ยังคงเป็นสายจากทางโรงพยาบาล
“หมอถัง เมื่อวาน……”นางพยาบาลบอกอาการของคนไข้กับเขาหนึ่งรอบ
“ผมจะรีบกลับไปเดี๋ยวนี้!”
พอวางสายลง ถังจิ้นเหยียนก็พูดเชิงขอโทษ“ซิ่วหยา คนไข้จู่ๆก็เกิดอาการต่อต้านหลังจากการผ่าตัด ผมต้องกลับไปดูสักหน่อย คุณไปสถานีตำรวจคนเดียวได้ไหม?”
เจิ้งซิ่วหยารู้สึกผิดหวังอย่างมาก แต่เธอก็เข้าใจงานของเขาดี
“ได้สิ คุณไปเถอะ แต่คุณต้องสัญญากับฉันว่าคืนนี้คุณต้องไปทานข้าวกับฉันนะ!”
“ได้!ผมสัญญา”
“คุณต้องเอาดอกกุหลาบสีแดงมาด้วย”เจิ้งซิ่วหยาพูดเสริมขึ้นมาอีกประโยค
ถังจิ้นเหยียน“……ครับ ผมสัญญา”
เจิ้งซิ่วหยาเสริมขึ้นอีก“คุณต้องแต่งตัวให้หล่อๆด้วย!”
ถังจิ้นเหยียน“……ครับ……ผมจะพยายามให้หล่อขึ้นอีก”
“ถ้าอย่างนั้นคุณไปเถอะ แต่คุณต้องอย่าลืมคิดถึงฉันด้วยนะ!”เจิ้งซิ่วหยาพูดเสนอความต้องการหลายอย่างในทีเดียว เป็นผู้หญิงตัวเล็กที่ทำให้คนรู้สึกคันยิกๆที่หัวใจ
ถังจิ้นเหยียนพูดยิ้มๆ“ได้ สัญญากับคุณทั้งหมดเลย”
“ผมก็จะคิดถึงคุณเหมือนกัน!”
หวานเลี่ยนกันอยู่สักพัก ถังจิ้นเหยียนก็รีบขึ้นรถขับแล่นออกไปทันที
รถแล่นอย่างรวดเร็ว ถังจิ้นเหยียนยิ้มอย่างหมดหนทาง ความรู้สึกที่บอกไม่ถูก มันหวานไม่น้อย รู้สึกไม่ค่อยคุ้น รู้สึกชา รู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย ราวกับตัวเองเป็นวัยรุ่นอีกครั้ง
ที่แท้ความรู้สึกแบบนี้ มันดีงามมาก ทำให้จิตใจรู้สึกมีความสุขเช่นนี้นี่เอง
เจิ้งซิ่วหยายกไหล่ๆ ขึ้นรถไปอย่างดีอกดีใจ ฮัมเพลงตลอดทั้งทางระหว่างทางกลับไปที่สถานีตำรวจ
เธอหาเวลาส่งข้อความไปให้ลั่วหาน
“หมอฉู่ ฉันได้รับชัยชนะจากการปฏิวัติแล้วล่ะ คุณต้องช่วยฉันดูผู้ชายของฉันให้ดีๆนะ”
……
“คนไข้อาการเป็นไงบ้าง?”
ถังจิ้นเหยียนวิ่งขึ้นไปข้างบน วิ่งเข้าไปยังห้องผู้ป่วย ลั่วหานกับหวาเทียนก็ล้วนอยู่ข้างในด้วย
หวาเทียนถอนหายใจออกมาหนึ่งเฮือก“ควบคุมได้ทันเวลาพอดี ยังดีที่มีหมอฉู่ ไม่อย่างนั้นคนไข้จะต้องกล้ามเนื้อหัวใจตายแล้วแน่ๆ”
ถังจิ้นเหยียนตรวจดูประวัติการรักษาของคนไข้แล้ว“เป็นแบบนี้ได้ยังไง? ตอนตรวจก่อนผ่าตัดไม่มีปัญหานี่นา”
ลั่วหานก็ไม่เข้าใจ“ฉันตรวจดูแล้ว เขาไม่มีประวัติการแพ้ยา ตรวจเลือดก็ปกติ”
หวาเทียนพูดยิ้มๆ“พวกคุณทั้งสองคนอย่าเคร่งเครียดเกินไปสิ นี่มันก็ไม่เป็นอะไรแล้วไม่ใช่หรือไง? ผ่าตัดผู้คนมากมายขนาดนี้ทุกวัน เพื่อเลี่ยงเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด ผ่อนคลายลงหน่อยสิ อย่าข่มขู่ตัวเอง”
แต่ลั่วหานก็ยังไม่วางใจ“ไม่เคยมีเคสแบบนี้มาก่อน แถมการผ่าตัดที่ฉันกับหมอถังทำด้วยกัน ตามหลักแล้วไม่น่าจะเป็นแบบนี้ไปได้”
ถังจิ้นเหยียนวิเคราะห์เคสผู้ป่วยอย่างละเอียด“แบบนี้แล้วกัน ผมรับผิดชอบในการตรวจดูสัญญาณทางกายภาพของเขา ถ้าพบปัญหาอะไรจะรีบแจ้งทันที”
“ก็ดีเหมือนกัน ฉันฉันไปที่ห้องCTก่อนแล้วกัน ที่นี่ฝากคุณด้วยนะ”ลั่วหานส่งเคสผู้ป่วยให้กับหวาเทียน
หวาเทียนสูดดมที่ร่างกายของถังจิ้นเหยียน ก่อนจะพูดชมขึ้น“หมอถัง กลิ่นน้ำหอมที่ตัวของคุณใช้ได้เลยนี่!เมื่อคืน……เหอๆๆ!คำคืนในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่แสนล้ำค่า เป็นยังไงบ้าง?”
ใบหน้าถังจิ้นเหยียนเริ่มร้อนผ่าวอีกแล้ว“อย่าพูดไร้สาระ ไม่มีอะไรสักหน่อย!”
หวาเทียนกอดที่คอของถังจิ้นเหยียนไว้“อย่าเขินสิหมอถัง เป็นผู้ชายกันทั้งนั้น อย่าอายเลย คุณ……คงไม่ใช่ครั้งแรกหรอกใช่ไหม? แชร์ความรู้สึกสักหน่อยสิ”
ถังจิ้นเหยียนสีหน้าบึ้ง“หมอหวา คุณว่างมากนักใช่ไหม? มีคนไข้อีกหลายคนกำลังรอตรวจอยู่ จะไปไหม?”
“ดูคุณสิๆ สีหน้ายิ้มแย้มยังมาทำเป็นสุภาพบุรุษ ผมล่ะขัดตากับคนแบบคุณที่สุดเลย!ทำแล้วก็คือทำก็แค่นั้นเอง!”
“ไม่ได้ทำ!”
“ไม่ได้……ทำ? คุณอ่อนหัดเกินไหมเนี่ย!”
“ผม……”