ตอนที่ 753 พี่ชายเป็นครึ่งท้องฟ้า
วันต่อมา ณ คฤหาสน์ตระกูลหลง
หลงจื๋อดีใจจนแทบกระโดดโลดเต้น เปลี่ยนเสื้อผ้าไปอย่างน้อยห้าสิบชุดได้ หันซ้ายหันขวาก็ยังไม่พอใจ “เสื้อผ้าพวกนี้ปกติมันก็ดูพอใช้ได้ ทำไมเวลาสำคัญมันถึงทำให้ความหล่อผมลดลงนะ”
ในมือของสาวใช้มีเนกไทมากมาย บนพื้นก็ลอยมาอีกเส้น สาวใช้ทำเพียงก้มลงไปเก็บขึ้นมา “คุณชายรองคะ ชุดพวกนี้ดูดีทั้งนั้น และฉันก็คิดว่าคุณชายรองสวมชุดไหนก็ดูดีค่ะ จริงๆนะคะ คุณชายรองรูปร่างหน้าตาดี แม้จะใส่เสื้อผ้าราคาถูกก็ยังดูดีเลยค่ะ”
หลงจื๋อส่องกระจกยาว “ผมหล่อ มันแน่นอนอยู่แล้ว”
เปลี่ยนมาสวมกั๊กสูทสีน้ำตาลทั้งตัว ด้านนอกคลุมเสื้อสูทแบรนด์เดียวกัน ด้านล่างเป็นกางเกงยาว ทั้งตัวดูเป็นพิธีการแต่ก็ไม่ดูแก่จนเกินไป
“ไม่เลว ชุดนี้พอได้” หลงจื๋อส่องกระจกร้อยแปดสิบองศาด้วยความชื่นชม
ในที่สุดสาวใช้ก็ถอนหายใจออกมา “คุณชายรอง คุณควรออกไปรับคุณหลินได้แล้วนะคะ”
หลงจื๋อมองนาฬิกา “เฮ้ย สายขนาดนี้แล้ว ทำไมคุณไม่เตือนผม”
สาวใช้บอกอย่างเหนื่อยใจ “คุณชายรองคะ ดิฉันเตือนคุณไปหลายครั้งแล้วค่ะ…”
หลงจื๋อไม่ตอบอีก สาวเท้าก้าวลงตึกไป หลงถิงกำลังอ่านเอกสารอยู่ที่ห้องรับแขก เห็นลูกชายรีบร้อนวิ่งลงมาจึงตะโกนเรียกเอาไว้
“เสี่ยวจื๋อ มานี่หน่อย”
“พ่อครับ ผมรีบ มีอะไรค่อยคุยได้ไหมครับ” หลงจื๋อส่องกระจกจัดทรงผมอยู่ในห้องรับแขก ขณะเดียวกันก็สะบัดเท้าทอดรองเท้าแตะ เลือกรองเท้าหนังที่เหมาะสมสวมเข้าไปแทน
“แกมานี่ก่อน” หลงถิงบอกเสียงหนักอีกครั้ง น้ำเสียงไม่ได้เอ็นดูแล้ว
หลงจื๋อไม่กล้าปฏิเสธ ทำได้เพียงดื้อด้านตอบกลับไป “พ่อ ผมรีบจริงๆ พ่อรีบพูดได้ไหม”
หลงถิงวางเอกสารลง หันมามองเขา “วันนี้แกพาซีเหวินมาทานข้าวที่บ้าน จะต้องระวังคำพูดให้ดี คุยเรื่องของพวกแกสองคนเยอะๆ พูดถึงตระกูลหลินน้อยๆ รู้ไหม”
หลงจื๋อรีบตอบรับ “ครับครับครับ ผมฟังพ่อ”
เขารีบจริงๆ ไปรับแฟนจะสายได้ยังไงกัน
หลงถิงมองไปยังทางเดินขั้นหนึ่งประตูยังคงปิดสนิท จึงบอกอีก “ซีเหวินกับแม่แกไม่ได้มีอะไรข้องเกี่ยวกัน แต่ตัวซีเหวินชอบทำให้คนเอ็นดู แม่ของแกอาจจะรู้สึกคุ้นตา แกก็อย่าแปลกใจ”
หลงจื๋อบอกอย่างภาคภูมิใจ “ใช่ครับ ซีเหวินน่ารักขนาดนี้”
หลงถิงหรี่ตา “นอกจากนี้ ถ้าแม่ถามถึงเรื่องตระกูลหลิน ให้ซีเหวินตอบง่ายไม่กี่ประโยคก็พอแล้ว เด็กไม่เข้าใจอะไร เกิดพูดอะไรผิดขึ้นมาจะแย่เอา”
หลงจื๋อฟังแล้วรู้สึกแปลกใจ พ่อที่ไม่เคยสนใจเรื่องเล็กๆน้อยๆแบบนี้ วันนี้ถึงได้กลับกัน
“ผมรู้แล้วครับพ่อ ซีเหวินเองเธอก็ไม่ได้ชอบพูดถึงครอบครัว”
หลงถิงพยักหน้า “อืม ไปเถอะ”
“ครับ ผมไปแล้วนะ”
——
โรงพยาบาลหวาเซี่ย แผนกหัวใจ
ถังจิ้นเหยียนและทีมแพทย์เดินออกมาจากห้องไอซียูพร้อมๆกัน กำลังแนะนำวิธีการรักษาผู้ป่วยดังกล่าวกับแพทย์รุ่นใหม่
หลินซีเหวินมองนาฬิกาอยู่บ่อยครั้ง แสดงออกถึงความรีบร้อน
ถังจิ้นเหยียนมองเห็นท่าทางของเธอ สุดท้ายจึงบอก “พอแค่นี้ก่อน พวกเธอกลับไปก่อน เดี๋ยวฉันรวบรวมเป็นเอกสารให้ทุกคน”
เมื่อทุกคนไปแล้ว ถังจิ้นเหยียนจึงบอก “คุณหมอหลิน ดูเหมือนคุณจะมีเรื่องด่วน”
หลินซีเหวินกอดประวัติผู้ป่วยปิดปลายคางแล้วยิ้มเขิน “แหะแหะ มีธุระนิดหน่อยค่ะ แต่ว่า…ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร”
“ไม่ใช่เรื่องใหญ่จริงๆหรอ งั้น เดี๋ยวอีกสักพักจะมีการประชุมก่อนการผ่าตัด คุณก็เข้าร่วมด้วยกันเถอะ”
“ห๊า ไม่ค่ะ ไม่ค่ะ นั่นช่างมันเถอะค่ะ การผ่าตัดครั้งนี้ฉันไม่ได้เข้าร่วม เอ่อ…คือว่า วันนี้ฉันต้องไปพบแม่ของหลงจื๋อที่บ้านของเขา เอ่อ แม่ของคุณเซียวค่ะ ยังไงก็เป็นผู้ใหญ่ของฝ่ายชาย ฮ่าๆ แต่ก่อนฉันเคยได้ยินว่าคุณผู้หญิงของตระกูลหลงท่านนี้เก่งมาก ดังนั้นตอนนี้ฉันเลยตื่นเต้นมากค่ะ”
หลินซีเหวินกอดประวัติผู้ป่วยเอาไว้แน่น
ถังจิ้นเหยียนหัวเราะอ่อนโยน “นี่ไม่ง่ายเหรอ ซื้อของขวัญที่เธอชอบหน่อย พูดคำพูดที่ผู้ใหญ่ชอบ ถ้าไม่รู้จะซื้ออะไร เธอก็โทรไปถามคุณหมอฉู่สิ”
“อ้อ จริงด้วย ฉันจะถามไอดอลฉันสักหน่อย ตั้งแต่คุณหมอฉู่ลาคลอด ฉันก็ดูโง่ขึ้นมาเลย”
หลินซีเหวินหยิบโทรศัพท์ออกมาต่อสายหาลั่วหาน
อีกด้าน โทรศัพท์ของถังจิ้นเหยียนก็ดังขึ้น เป็นข้อความที่ถูกส่งมาจากเจิ้งซิ่วหยา
“คุณถังที่รัก วันนี้ฉันก็ต้องทำงานล่วงเวลาอีกแล้ว สั่งอาหารได้ไหมคะ แหะแหะฉันอยากทานเค้กข้าวผัดเผ็ด ปูอัดและซุปเผือกที่คุณทำ เอาพุดดิ้งโยเกิร์ตฟักทองด้วย อยู่หรือเปล่า”
ถังจิ้นเหยียนมองเมนูที่เธอสั่งมา กลอกตามองบน นี่เป็นครั้งที่สามสิบในรอบครึ่งเดือนมานี้
ที่แท้งานของตำรวจยุ่งยิ่งกว่าหมออีกสินะ มีงานชั่วคราวก็ต้องลงมือทันที
พวกเขาไม่ได้นั่นทานข้าวด้วยกันมานานมากแล้ว ครั้งก่อนทานข้าวด้วยกันที่บ้านเสร็จ ก็โดนเจิ้งซิ่วหยาบังคับช่วยเธอเขียนรายงาน…
นึกถึงคืนนั้นที่เจิ้งซิ่วหยาบังคับให้เขาเขียนรายงาน เขาก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ
“ฉันอยู่โรงพยาบาล เดี๋ยวอีกสักพักต้องเข้าประชุม เลิกงานแล้วค่อยทำกับข้าวให้คุณ ถ้ารอไม่ไหวก็ทานอย่างอื่นไปก่อน แต่อย่าทานเยอะนะ”
“ได้ค่ะ ฉันจะหิ้วท้องรอคุณเลย”
เธอส่งริมฝีปากสีแดงอันใหญ่มาให้ กินพื้นที่ไปครึ่งของหน้าจอ น่าอายจนถังจิ้นเหยียนรีบยัดโทรศัพท์ลงไปในกระเป๋า แม้ว่ารอบข้างไม่มีใครเห็น แต่เขากลับดูไม่เป็นธรรมชาติ ใบหน้าแดงก่ำรีบเดินขึ้นลิฟต์ไป
“ไอดอลคะ sos วันนี้ฉันต้องไปเจอแม่สามีของคุณ อยากขอความช่วยเหลือค่ะ”
ลั่วหานมองหลงเซียว “เสี่ยวจื๋อให้คุณไปหรือคะ”
“เขาจะกล้าที่ไหนล่ะคะ เป็นแม่สามีคุณต่างหากที่เอ่ยขึ้นมา บอกว่าตอนนี้เธอกลับบ้านแล้ว…”เป็นแบบนี้
“แบบนี้เองเหรอ อย่าตื่นเต้นไปเลย ผ่อนคลาย ของที่แม่ชอบไม่จำเป็นต้องแพง แต่ต้องมีความหมาย อะไรที่แพงไปไม่ต้องซื้อ ซื้อกี่เพ้าให้เธอสักชุดก็ดีนะ ตั้งอยู่เข้าโรงพยาบาลเธอก็ไม่ค่อยได้ซื้อเสื้อผ้า คุณไปซื้อชุดกี่เพ้าที่ร้านวายแอลสักชุด งดงามหน่อย ไซต์ของเธอเดี๋ยวฉันส่งให้คุณ”
“ว้าว ฉันรักคุณจังเลยค่ะหึหึหึ เดี๋ยวอีกสักพักฉันจะไปซื้อ ยังมีอีก ไอดอลคะ คุณไม่อยู่โรงพยาบาล พวกเราเบื่อกันมากเลย คุณคลอดแล้วรีบกลับมานะคะ”
วางสายแล้ว ลั่วหานจึงบอก “แม่ของเราดูจะชอบเสี่ยวจื๋อมากเลยนะคะ พึ่งจะกลับบ้านก็อยากเจอซีเหวิน ยังเชิญไปที่บ้านอีก”
หลงเซียวชะงักการพิมพ์ แม่เชิญหลินซีเหวินไปเป็นแขกที่บ้านหรอ
หลินซีเหวินและหลินเหว่ยเย่มีอะไรที่คล้ายคลึงกัน แม่ต้องสงสัยแน่ๆ หรือว่า เธอจะรู้ความจริงแล้ว
“อืม ตอนนี้เธอสนิทกับเสี่ยวจื๋อมาก”
หลงเซียววางคอมพิวเตอร์ลง “ผมไปเข้าห้องน้ำหน่อย”
ลั่วหานอ่านหนังสือของเธอต่อไป “ค่ะ”
หลงเซียวติดต่อหาหยวนชูเฟิน โทรศัพท์ดังอยู่ชั่วครู่ค่อยมีคนรับ
“แม่ครับ แม่ให้หลินซีเหวินไปบ้านตระกูลหลง แม่คิดจะทำอะไร”
“หยวนชูเฟินพึ่งตรวจร่างกายเสร็จ สาวใช้ช่วยเธอเอาแขนเสื้อลง เธอบอกให้สาวใช้ออกไปก่อน
“เซียวเอ๋อ ลูกกำลังตั้งคำถามกับแม่เหรอ”
“แม่ครับ แม่รู้อะไรตอนอยู่อังกฤษ” หลงเซียวไม่ถอยให้ ยังถามต่อไป
หยวนชูเฟินเปลี่ยนมาใช้มืออีกข้างถือโทรศัพท์ หยิบหวีขึ้นมาหวีผม ผมปลอมใส่มานานแล้ว คุ้นชินกับมันแล้ว แต่ยังไงมันก็ไม่ใช่ของตัวเอง
เธอเอาผมปลอมออก ผมของเธอเองมีเพียงชั้นสีดำสั้นๆ หวีในมือเธอวางนิ่งอยู่หน้ากระจก ไม่ขยับอีก
“เซียวเอ๋อ ลูกกำลังพูดกับแม่อยู่หรือว่าคุยกับนักโทษ”
“แม่รู้ความจริงเรื่องสถานะของหลินซีเหวินแล้วหรอ”
หยวนชูเฟินวางหวีลง หยิบผมปลอมขึ้นมาสวม “เธอไม่ใช่แฟนของเสี่ยวจื๋อหรอ หรือว่ายังมีสถานะอะไรอีก”
หลงเซียวขมวดคิ้ว “เธอเป็นลูกสาวของหลินเหว่ยเย่ แต่ก่อนหลินเหว่ยเย่ทำธุรกิจอยู่ที่อเมริกา ชื่อภาษาอังกฤษของเขาคือ….”
“เซียวเอ๋อ!” หยวนเซียวเฟินตะโกนเสียงดังขัดคำพูดของลูกชาย “ฉันไม่จำเป็นต้องให้แกมาสอนว่าต้องจัดการยังไง”
หยวนชูเฟินตัดสาย เลือกโหมดเครื่องบิน
สาวใช้เคาะประตูเบาๆสองครั้ง คุณผู้หญิงคะ ห้องครัวจัดเมนูอาหารมาให้แล้ว คุณลองดูว่าได้หรือเปล่าคะ”
“เอามาให้ฉันดู”
หลงเซียวขมวดคิ้วมุ่น ใบหน้าวุ่นวายสับสน แม่รู้ความจริงแล้ว ระหว่างที่อยู่อังกฤษต้องรู้ความจริงมากมายแน่ ตัวตนของหลินเหว่ยเย่เป็นเพียงหนึ่งในนั้นเท่านั้น
“ลั่วหาน คืนนี้ผมจะออกไปคุยธุระหน่อย คุณอยู่บ้านรีบพักผ่อน ไม่ต้องรอผมนะ” หลงเซียวปิดคอมพิวเตอร์ลง จูบลงที่หน้าผากลั่วหานเบาๆ
ลั่วหานพยักหน้า “ค่ะ แต่อย่าดื่มเหล้านะ รีบๆกลับมา”
“รับทราบครับ นายหญิงของผม” หลงเซียวขยี้ผมเธอเบาๆ ยื่นคอมพิวเตอร์ส่งให้สาวใช้เอาไปเก็บที่ห้องหนังสือ ตัวเองกลับไปเปลี่ยนชุดที่ห้องนอน
ลั่วหานมองตามหลังเขาไป พ่นลมหายใจเบาๆ เข้าใจเขามากไปแล้วจริงๆ เมื่อก่อนไม่เข้าใจเขาสักนิด แต่ว่าตอนนี้ แค่ท่าทางเล็กๆน้อยๆของเขาเธอก็สามารถเดาเรื่องราวคร่าวๆได้แล้ว
เขามีเรื่องปิดบังเธอ เกี่ยวกับเรื่องตระกูลหลง เกี่ยวกับหลงจื๋อและแม่ และยังเกี่ยวกับหลินซีเหวินด้วย
เขาไม่พูด เธอก็จะไม่ถาม
เหมือนที่เขาไม่ถามเรื่องบอดี้การ์ดที่อังกฤษ
เขาให้ช่องว่างกับเธอ เธอก็ไม่สามารถยุ่งเรื่องส่วนตัวของเขา เพียงแต่…ในใจของลั่วหานนั้นไม่สงบเลย
……
หลินซีเหวินลงจากรถ ถือกล่องของขวัญคล้องแขนหลงจื๋อ “เฮ้อ ฉันตื่นเต้นจัง”
“ผมก็ตื่นเต้น”
“พอเลย”
สองคนจูงมือกันเดินเข้ามา หยวนชูเฟินกับหลงถิงนั่งอยู่บนโซฟา ทั้งสองยิ้มใจดี ท่าทางเป็นมิตร
“คุณลุง คุณป้า…” หลินซีเหวินทักทายเอียงอาย มือนั่นชื้นไปด้วยเหงื่อ ว้าว ตื่นเต้นกว่าทำการผ่าตัดอีก
หลงจื๋อหัวเราะพลางบอก “แม่ครับ นี่เป็นของขวัญที่ซีเหวินเอามาฝาก หวังว่าแม่จะชอบนะครับ”
หยวนชูเฟินตบลงที่นั่งด้านข้างด้วยท่าทางเอ็นดู “ชอบ ชอบแน่นอน ซีเหวิน มานี่ มานั่งข้างๆป้าเร็ว”
หลินซีเหวินมองหลงจื๋อด้วยความตื่นเต้น เม้มปากเดินเข้าไป “ขอบคุณค่ะคุณป้า”
หยวนชูเฟินลูบผมเธอเบาๆ “อืม เป็นผู้หญิงที่มีเอกลักษณ์จริงๆ สายตาของเสี่ยวจื๋อดีขนาดนี้ จริงสิ เจอกันครั้งแรก ป้าก็ไม่ได้เตรียมของขวัญอะไรไว้ให้ รับอันนี้ไปสิ”
เธอยัดกล่องของขวัญสีแดงเล็กๆลงไปในมือของหลินซีเหวิน ตบหลังมือเธอเบาๆ
หลินซีเหวินอุทานอยู่ในใจ คนพวกนั้นตาบอดหรือเปล่า คุณนายหลงใจดีขนาดนี้ ใจดีกว่าแม่ของเธอหลายเท่า
“ขอบคุณค่ะคุณป้า”
“ไม่ใช่ของขวัญแพงอะไร กลับบ้านไปค่อยเปิดดูนะ พอดีที่พ่อเธอทำเกี่ยวกับโบราณ ให้พ่อเธอช่วยดู บางทีอาจจะช่วยเก็บรักษามันเป็นอย่างดีก็ได้”
“ค่ะ ได้เลยค่ะ”
ในที่สุดดวงตาของหลงถิงก็มีม่านน้ำค้างปกคลุมมาหนึ่งชั้น “ซีเหวิน ป้าของเธอพึ่งออกจากโรงพยาบาลมาก็อยากเจอเธอเลย เธอนี่ชั่งโชคดีจริงๆ”
“หนูก็คิดแบบนั้นเหมือนกันค่ะ ชื่นชมความสามารถของคุณป้ามาตลอด ในที่สุดก็ได้เจอแล้ว”
ทุกคนพูดคุยสนุกสนาน บรรยากาศดีมาก หลงจื๋อนั่งฟังอยู่ข้างๆคอยหัวเราะไม่หยุด
มื้ออาหารเย็นผ่านไปอย่างมีความสุข ท่าทางของหยวนชูเฟินก็ไม่เลว ทานอาหารไปไม่น้อย และเธอก็ไม่ได้เอ่ยคำพูดใดๆที่ทำให้หลงถิงกังวล ไม่เอ่ยออกมาแม้เพียงครึ่งคำ เพียงเอ่ยชื่นชมหลินซีเหวิน เอาใจจนเสี่ยวจื๋อหุบยิ้มไม่ลง
เมื่อทานอาหารเสร็จ หลงจื๋อก็ไปส่งหลินซีเหวินกลับบ้าน
หลินซีเหวินเขย่ากล่องของขวัญด้วยความแปลกใจ “แม่คุณก็เป็นคนน่ารักมากนะ ของขวัญที่เธอให้ต้องพิเศษมากแน่”
หลงจื๋อหน้าแดงระเรื่อ “ที่รัก ดูเหมือนว่าเรื่องของเราจะผ่านแล้วในสายตาของแม่”
หลินซีเหวินหัวเราะ “กล้าพูด ตอนเย็นนอกจากหัวเราะคุณก็หัวเราะ”
“นั่นก็เพราะดีใจไม่ใช่เหรอ วันนี้คุณทำได้ดีมาก เดี๋ยวจะให้จูบหวานๆจากผมเป็นรางวัล” หลงจื๋อจับพวงมาลัยรถมือเดียว เบี่ยงตัวจะจูบแก้มหลินซีเหวิน
ตอนนั้นเอง โทรศัพท์ของหลงจื๋อก็ดังขึ้น
หลินซีเหวินเบ้ปาก “เฮ้อ อยากกินเต้าหู้(หมายความว่าลวนลาม)ของพี่ สวรรค์ก็ยังทนดูไม่ได้”
หน้าจอแสดงชื่อว่าพี่ใหญ่ หลงจื๋อบอกยิ้มๆ “ไม่ใช่สวรรค์ พี่ผมเอง แต่ว่า เขาคืออีกครึ่งหนึ่งท้องฟ้า(เปรียบเทียบกับการมีความสำคัญกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งมากๆ)ของผมเอง”
พี่ใหญ่…” หลงจื๋อกำลังจะเล่าเรื่องราวทั้งหมดเมื่อตอนเย็นให้เขาฟัง
“อยู่ที่ไหน” หลงเซียวเข้าเรื่อง
“ขับรถอยู่ครับ อยู่ระหว่างทาง กำลังไปส่งซีเหวิน จริงสิ คืนนี้…”
“หยุดรถรออยู่ที่ถนนสี่แยก ฉันกำลังจะไป”