ตอนที่ 775 ระวังระยะการพูดคุย
“เขาตายไปแล้ว จะน่ากลัวได้อย่างไร? เขาตายแล้ว พวกเราก็จะปราศจากภัยคุกคาม! สามารถแสดงออกถึงความร้ายกาจได้! ตอนนี้ฉันอยากจะให้เขารีบๆตายไปซะ!”
เล็บมืออันแวววาวของโม่หรูเฟย จิกลงไปบนฝ่ามืออย่างรุนแรง ทิ้งร่องรอยสีขาวของรอยเล็บเอาไว้ แรงที่ปล่อยออกมานั้น ราวกับต้องการกดลงไปบนหัวของหลงเซียว
ซุนปิงเหวินกระตุกปากขึ้นพร้อมกับยิ้มด้วยท่าทางที่เย้ยหยัน “แค่หลงเซียวคนนึงก็สามารถปิดกั้นเมืองหลวงไปครึ่งนึงได้ เขาช่างสมกับเป็นเส้นทางหลักของวงการธุรกิจเมืองหลวงจริงๆ ถ้าเขาตายแล้ว คนที่ไม่กล้าออกมาเพ่นพ่านในเมืองเมืองหลวงเหล่านั้น ก็ต้องออกมาแน่”
โม่หรูเฟยยืดไหล่อันงดงามขึ้น “งั้นก็แสดงว่า เทพรักษาประตูอย่างหลงเซียว ต้องติดไว้บนประตูของเมืองหลวง ทำให้เหมือนความเชื่อโบราณ?”
ซุนปิงเหวินหัวเราะฮ่าฮ่าฮ่าออกมาด้วยความสุข เขาปัดกระโปรงของโม่หรูเฟยไปมา “ใช่ หลงเซียวก็เป็นแค่เทพรักษาประตู! พลังของเขามีมาก ก่อนที่พวกเราจะกำจัดคู่แข่งของเขาสำเร็จ เขาต้องยังไม่ตาย แต่หลังจากนั้น…..ก็ไม่แน่”
——
รีสอร์ทหยีจิ่ง
เหลียงจ้งซุนขับรถมาถึงยังด้านหน้าของรีสอร์ท เขาเปิดประตูรถออก ทำใจให้สงบอยู่พักหนึ่งมองดูประตูบานใหญ่ที่ถูกปิดไว้ ก็รับรู้ได้ถึงแรงกดดันที่กดทับอยู่บนศีรษะ
หยุดยืนอยู่ครู่หนึ่ง เหลียงจ้งซุนก็เดินขึ้นไปกดกริ่งตรงประตู
ห้องนอนบนชั้นสอง ลั่วหานเดินไปดูเหลียงจ้งซุนที่เพิ่งมาถึง เธอยักไหล่เล็กน้อย “คุณทายดูสิว่าใครมาแล้ว?”
หลงเซียวยิ้มพร้อมพูดขึ้น “คนที่มาเยี่ยมผมในเวลานี้ ต้องเป็นคนที่หวังให้ผมตาย คนของบริษัทMBKสินะ?”
ลั่วหานมีบางคำที่พูดไม่ออกจริงๆ เธอมองออกไปยังเหลียงจ้งซุนที่อยู่ด้านนอกประตู “ทำไมคุณถึงฉลาดแบบนี้นะหลงเซียว? คาดถึงเรื่องในอนาคตได้ เก่ง!!”
หลงเซียวไม่ปฏิเสธพร้อมกับวางคอมพิวเตอร์ลง แล้วหันไปมองด้านนอกหน้าต่าง “เขามา น่าจะอยากมาเพื่อดูว่าผมยังมีชีวิตหรือเปล่า หลงถิงเห็นข่าวที่บริษัทประกาศออกไปคงจะนั่งไม่ติดแล้ว”
“แล้วยังไงคะ? จะพบไหม?” ลั่วหานยักคิ้วขึ้นสงสัยว่าเขาจะรับมืออย่างไร
หลงเซียวส่ายหน้า “เขา? เขาคิดว่าตัวเองเป็นใคร? อยากพบก็ต้องให้เขาพบ?”
“หืม? ไล่ไปเลย? แม้กระทั่งประตูก็อย่าให้เข้ามา?” ลั่วหานตอนนี้มีสีหน้าที่รู้สึกดีเมื่อเห็นผู้อื่นมีความทุกข์ ถึงอย่างไรการปิดประตูไม่รับแขกใส่คนสำคัญของหลงถิงนั้น ไม่ใช่เรื่องที่คนธรรมดาจะกล้าทำ!
“ถูกต้อง”
ขณะที่พูดอยู่ ประตูของห้องนอนก็ถูกเคาะขึ้นโดยคนรับใช้ “คุณหญิงคะ ด้านนอกมีคน….”
ลั่วหานพยักหน้าครู่หนึ่ง “ฉันเห็นแล้ว ให้เขากลับไป บอกว่าคุณชายกำลังพักผ่อนไม่พบแขก”
จนตอนนี้คนรับใช้ถึงตกใจขึ้นพร้อมกับพบว่า บอสของพวกเขานั้นฟื้นแล้ว! ฟื้นแล้วจริงๆ! เมื่อพยายามข่มความตกใจนี้ลงไปได้ ก็พยายามพยักหน้า “ค่ะ! คุณหญิง! ฉันจะไปบอกเขาตอนนี้”
ดีที่สุด! ดีที่สุด! คุณชายฟื้นแล้ว! ในที่สุดก็ฟื้นแล้ว! คนรับใช้วิ่งไปตลอดทาง พูดกับเหลียงจ้งซุนอยู่หลังประตูอยู่สองสามประโยค มองจากชั้นสองก็สามารถมองเห็นสีหน้าของเหลียงจ้งซุนได้ สีหน้าของเขาไม่ค่อยดีเท่าไหร่
ลั่วหานเคาะนิ้วลงไปบนกระจกหน้าต่าง พูดขึ้นอย่างอารมณ์ดี “สีหน้าของผู้ช่วยเหลียงไม่ค่อยดีเท่าไหร่เลยนะ คาดว่าตั้งแต่เขาทำงานให้กับหลงถิง ยังไม่เคยพบใครที่กล้าปิดประตูใส่เขาสินะ คุณว่าเขากลับไปแล้ว จะรายงานหลงถิงว่าอย่างไร?”
หลงเซียวยกคอมพิวเตอร์ขึ้นมาวางบนผ้าห่มอีกครั้ง แล้วเปิดหน้าเอกสาร “ก็แล้วแต่เขาว่าจะพูดอย่างไร หลงถิงไม่มีวันหยุดโจมตีบริษัทฉู่ซื่อ ผมยังต้องทำเรื่องผิดกฎหมายต่อไป”
เมื่อเขาพูดถึงประโยคหลังมุมปากก็ยกขึ้น สีหน้าก็ยิ่งมีความสุขมากขึ้น
ลั่วหานจึงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ “เป็นครั้งแรกที่เห็นคนทำผิดแล้วยังจะรู้สึกสบายใจอย่างนี้! คุณทำงานไปเถอะ ฉันไม่อยู่ที่นี่รบกวนคุณแล้ว ถ้าหากต้องการอะไรคุณก็บอกฉัน”
ใครจะไปว่า เท้าของเธอยังไม่ได้ก้าวออกไปก็ถูกหลงเซียวใช้มือขวางไว้เขาดึงข้อมือของเธออย่างเบามือ “ผมต้องการให้คุณอยู่ต่อ นั่งอยู่ข้างๆ หรือว่าจะนอนข้างผมก็ได้”
ข้อมือของลั่วหานร้อนผ่าว คลื่นความร้อนนั้นราวกับส่งผ่านมาจากเส้นเลือดเข้าสู่หัวใจ หรือว่าคนที่ป่วยมักจะขี้อ้อนแบบนี้? ทำไมลูกอ้อนของหลงเซียวนับวันยิ่งลึกซึ้งนะ? นี่คือไฟจากเตาไฟชัดๆ!
“ฉันอยู่ที่นี่เป็นเพื่อนคุณ แล้วลูกจะทำอย่างไร? หืม?” ลั่วหานแกะนิ้วของเขาออกทีละนิ้วทีละนิ้ว จงใจที่จะเเกะออกอย่างช้าๆ เธอแกะนิ้วที่สองออก นิ้วแรกของหลงเซียวก็กลับไปดึงเธอใหม่ “ตอนนี้จะทำอย่างไรดีล่ะ? ผมเริ่มจะหึงคุณจากลูกแล้ว” ลั่วหานก็ไม่ขัดแย้งอะไรอีก นั่งลงลูบหัวเขาราวกับกำลังปลอบเด็กน้อยอยู่ “ฉันว่านะคุณหลง ความเย็นชาบ้าอำนาจล่ะ สภาพแมวขี้เกียจของคุณตอนนี้ มันผิดปกติมาก” หลงเซียวใช้วงแขนอันใหญ่ของเขาโอบเอวเธอไว้ พร้อมกับดึงเธอเข้ามากอดอย่างบ้าอำนาจ “คุณไม่รู้จริงๆหรือ ถึงแม้ว่าการโจมตีของสัตว์ป่านั้นจะแข็งแกร่งแค่ไหน ตอนที่กำลังจะตะครุบเหยื่อนั้น มันก็จะแสดงท่าทีที่อ่อนแรง เพื่อให้อีกฝ่ายลดการป้องกันตัว ใช้วิธีที่เสียหายน้อยที่สุดเพื่อให้ได้ครอบครองผลประโยชน์ที่ใหญ่ที่สุด”
ลั่วหานอยู่ในอ้อมแขนของเขา นึกอยากจะตีเขา แต่ก็กลัวเขาจะบาดเจ็บ คงทำได้เพียงแค่ถุยออกมาเท่านั้น “พอได้เเล้ว! ล้วนเป็นเหตุผลของคุณทั้งนั้น!”
หลงเซียวลูบปอยผมที่ยาวของเธอ พร้อมกับพูดด้วยเสียงที่แหบพร่าและจริงจัง “ในเมื่อพูดถึงสัตว์ป่าแล้ว งั้นเรามาพูดถึงกรงเหล็กที่อยู่ตรงมุมของสวนดอกไม้นั่นหมายความว่าอะไร? หมอฉู่ของพวกเราชอบเลี้ยงสัตว์ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?”
สัตว์?
สิงโตตัวนั้น?!
GOD! ช่วงนี้ยุ่งมาก เธอลืมสัตว์เลี้ยงของAngelไปเสียสนิท!
“คือ…..เป็นของที่คนอื่นให้ เอาไว้ให้ลูกน่ะ” การแก้ตัวช่างเสียแรงเหลือเกิน
หลงเซียวกอดเธอไว้อย่างไม่รีบร้อนใจอะไร พร้อมกับเล่นเส้นผมของเธอ “หืม? ของขวัญให้ลูก? ชิ้นใหญ่ขนาดนี้ ใครเป็นคนให้?”
ลั่วหานหลับตาลง “หลงเซียวฉันมีเรื่องที่จะบอกคุณ”
“อืม”
เอาล่ะ พูดให้ชัดเจนไปเลยจะดีกว่า ลั่วหานพูด “ ตอนที่ฉันยังเป็นแอนน่าอยู่ ฉันจะรักษาเฉพาะบุคคลที่เป็นคนชนชั้นสูงเท่านั้น คุณก็รู้”
หลงเซียวพยักหน้า
“มีผู้ป่วยรายหนึ่ง เป็นเจ้าชายของประเทศM เขาชื่อว่าเจมส์หลังจากที่ฉันรักษาเขาหายแล้ว อืม……” ลั่วหานเกิดความลังเล ถ้าพูดต่อไปจะทำให้เกิดสงครามหรือเปล่านะ?
หลงเซียวยังคงไม่รีบร้อน “แล้วอะไรต่อ?”
ลั่วหานกัดฟัน “ต่อมา เขาบอกให้ฉันอยู่ที่ประเทศM” พูดออกไปเพียงครึ่งหนึ่ง ไม่นับว่าหลอกคนหรอกใช่ไหม?
“หืม? อยู่ต่อ? แค่เพื่อที่ดูอาการ? ไม่ใช่แค่นี้มั้ง?” ใครบางคนก็สามารถที่จะดูได้จากสีหน้าของลั่วหานก็คาดเดาได้แล้ว
“เขาอยากให้ฉันเป็นพระชายาของเขา แต่ว่าฉันได้ปฏิเสธไปแล้วนะตอนนั้นฉันกับเควินยังหมั้นหมายกัน หลังจากที่ลาออกแล้วฉันก็ไปจากประเทศM แต่ว่าอาการของเขาต้องรับการตรวจปีละครั้ง ตอนนี้ก็ถึงเวลาแล้ว” อธิบายแบบนี้ทั้งละเอียดทั้งตรงตามความจริงมากพอแล้วสินะ?
หลงเซียวจับที่คิ้ว พูดอย่างดุๆว่า “เกือบได้เป็นพระชายา….มีหลายคนคอยแย่งคุณขนาดนี้ ดูเหมือนว่าผมต้องรีบแต่งงานอีกครั้งแล้ว ลั่วลั่วพวกเราจะไปจดทะเบียนสมรสอีกครั้งเมื่อไหร่?”
หัวข้อเปิดได้อ้อมโลกมาก
“จดทะเบียนสมรสอีกครั้งก็ต้องไปอำเภอ สภาพคุณตอนนี้แม้แต่ไปห้องน้ำยังไม่สะดวก นอนอยู่เฉยๆนี่แหละ ดีแล้วค่อยว่ากันอีกที” ตอนที่ทั้งสองกำลังพูดคุยกันโทรศัพท์มือถือของหลงเซียวก็ดังขึ้น เหมือนที่คาดไว้เป็นหลงถิงโทร.มา ลั่วหานยิ้มก่อนพูด “ปฏิกิริยาเร็วใช้ได้ อยากรู้อาการของคุณขนาดนี้”
ที่แท้ คนที่เป็นห่วงคุณมากที่สุดก็คือคู่แข่ง!
หลงเซียวยื่นโทรศัพท์ให้ลั่วหาน “ลำบากเมียแล้ว ช่วยผมรับหน่อยสิ พูดกับเขาอย่างนี้………”
ลั่วหานกดเปิดลำโพง กระแอมก่อนจะพูดขึ้น “สวัสดีค่ะคุณลุง มีธุระอะไรหรือเปล่าคะ?” หลงถิงที่อยู่ฝ่ายนั้นเห็นชัดเจนว่าได้หยุดอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงพูดต่อ “ทำไมถึงเป็นเธอ? หลงเซียวล่ะ? ให้เขารับโทรศัพท์” ลั่วหานหัวเราะอย่างสุภาพ ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังกลัวหลงถิงอีกด้านก็เหมือนกำลังลองเชิง “เขาไม่สะดวกที่จะรับสาย มีธุระอะไรคุณพูดกับฉันก็เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องในบ้านหรือบริษัท ฉันก็สามารถเป็นคนจัดการได้” หลงถิงพิจารณาคำพูดของเธอว่ามีความนัยว่าอย่างไร ในบ้าน? บริษัท? เธอล้วนจัดการได้? แล้วหลงเซียวล่ะ? พูดแบบนี้ก็หมายความว่า หลงเซียวไม่ได้ฟื้นขึ้นตั้งแต่แรก? ข่าวที่แพร่ออกมาก็เพื่อระงับข่าวปลอมที่ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ปล่อยออกไป
“เฮอ เฮอ ไม่มีอะไรแล้ว เธอเป็นแม่พึ่งคลอดต้องระวังการพักผ่อน ด้านงานปล่อยวางหน่อยก็ดี” หลงถิงพูดประโยคที่เหนือกว่าออกไป
“ขอบคุณค่ะ ฉันทำแน่”
เมื่อวางสายลง ลั่วหานก็พูดขึ้น “ครั้งนี้หลงถิงคงปล่อยหมัดเด็ดออกมาแน่ ในใจเขาคิดว่าคุณอายุไม่ยืนแน่”
หลงเซียวพยักหน้า “ที่รออยู่ก็กำลังรอหมัดเด็ดของเขา”
——
บริษัทฉู่ซื่อ
กู้เยนเซินอุทานขึ้นอย่างผู้ชนะ “ให้ตายสิ! ให้ตายสิ! ช่างขาดจังหวะจริงๆ! ไม่มีจังหวะ! เพิ่งจะรู้ว่าอาการของหลงเซียวดีขึ้น ความคิดเห็นของมวลชนต่างหมุนกลับ180องศา นัยน์ตาของคนพวกนี้ถูกทาด้วยน้ำมันหล่อลื่นสินะ เปลี่ยนได้ไวจริงๆ!”
ฝ่ายจี้ตงหมิงนั้น โทรศัพท์ของเขาถูกโทร.เข้ามาโดยนักข่าว สมาชิกคณะกรรมการ ผู้นำท้องถิ่น จนแทบจะระเบิด ราวกับว่าทุกคนต่างเป็นห่วงเป็นใยหลงเซียว แต่ความจริงกลับทำให้คนถอนหายใจ
กู้เยนเซินเผยรอยยิ้มอันเยือกเย็นทางมุมปาก “ข่าวเพิ่งจะถูกปล่อยออกไป คนที่ปล่อยหุ้นสักคนเดียวก็ไม่มีแล้ว ได้ผลกว่าการเบรกรถกะทันหันเสียอีก ฉันยอมแพ้แล้ว!” จี้ตงหมิงที่ถูกโทรศัพท์โทร.เข้ามาจนปวดหัวนั้น “เห้อ! สังคมอันไร้ซึ่งน้ำใจต่อกัน!”
กู้เยนเซินเม้มริมฝีปาก พร้อมกับจิบกาแฟ “ยอดเยี่ยมนัก! มองดูลิงเล่นกัน ช่างรื่นรมย์นัก!” แต่ว่าเขามีความสุขได้ไม่นาน บนหน้าเว็บไซต์ก็มีข่าวหนึ่งเด้งออกมา
“ตามความเป็นจริง หลงเซียวไม่ได้อาการดีขึ้นแต่อย่างไร กลับอาการหนักแล้ว! เพื่อที่จะปกป้องผลประโยชน์ของตัวเอง บริษัทฉู่ซื่อกลับปล่อยข่าวปลอมออกมา!”
“หลงเซียว กรุณาออกมาแถลงข่าวด้วย!”
“หลงเซียวไม่อาจออกมาเผยตัวตน อาการบาดเจ็บยังไม่ทราบแน่ชัดว่าจริงหรือเท็จ!”
กู้เยนเซินเบิกตาโตจ้องมอง “นี่มันเกิดอะไรขึ้น? ใครปล่อยข่าวออกมา? ผู้ช่วยจี้ นายเป็นคนปล่อยเหรอ?” ฝ่ายจี้ตงหมิงก็เพิ่งจะเห็นข่าว “ไม่ใช่ ฉันโทร.หาบอสว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น?” เขายังไม่ทันจะโทร. หลงเซียวก็โทร.มาแล้ว
“ฉันเห็นข่าวแล้ว เป็นฝีมือของคนบริษัทMBK บริษัทฉู่ซื่อไม่ต้องออกหน้าไปอธิบายอะไรทั้งนั้น ปล่อยให้ข่าวแพร่ออกไปต่อ” หลงเซียวออกคำสั่งอย่างง่ายๆเป็นอันเสร็จสิ้น จี้ตงหมิงเปิดเว็บไซต์ต่อไป ในเวลาระยะสั้น ด้านล่างก็ระเบิดอีกครั้ง!
“บอส ถ้าปล่อยให้ข่าวแพร่ออกไปต่อ เกรงว่าหุ้นของบริษัทฉู่ซื่อวันนี้คงจะล้มละลายแน่”
หลงเซียวอืมไปก่อนจะพูดต่อ “รีบตัดส่วนปัญหาออกไป ไม่รอแล้ว”
“ครับ ผมเข้าใจแล้ว” จี้ตงหมิงรับคำ หันกลับมาพูดกับกู้เยนเซิน “คุณชายกู้ เริ่มกันเถอะ อีกเดี๋ยวคุณต้องตาลายไปหมดแน่” กู้เยนเซินดื่มกาแฟหมดภายในอีกเดียว คุณชายหลงช่างทำให้คนใจเต้นเก่งนัก! ไม่ถึงสามชั่วโมงก็ทำเอาคนในเว็บไซต์เป็นจุดสูงสุดแล้ว”
ไป๋เวยเงยหน้าขึ้น “คำพูดเปรียบเทียบนี้……ยอมแล้ว”
กู้เยนเซินกระแอม พร้อมกับกวาดมองสายตาอย่างเหวี่ยงๆ “ประธานไป๋ การปฏิบัติจะทำให้เกิดความจริงนะ” จี้ตงหมิงเคาะแป้นพิมพ์ “สองท่าน ฉันอยู่ตรงนี้นะ ช่วยควบคุมการพูดคุยหน่อย” หน้าเว็บไซต์เปิดออก ตลาดการลงทุนเกิดการขยับจริงๆ บรรยากาศที่จะคลี่คลายไปเมื่อครู่กลับตึงเครียดขึ้นมาอีกครั้ง ผู้ถือหุ้นที่ไม่ออกความคิดเห็นกลับเพิ่มสูงขึ้นอีก
อีกอย่างการกลับมาครั้งนี้ยิ่งรุนแรง!
ไป๋เวยเปิดเอกสารออกดู “ทุกคนล้วนแต่เป็นผู้ใหญ่แล้ว ยังจะแกล้งเป็นเด็กอนุบาลกันอีก ประธานกู้รายงานของฝ่ายบัญชีเมื่อตอนบ่ายเอามาให้ฉัน” กู้เยนเซินจึงขยับเก้าอี้แล้วนำเอกสารวางไว้บนนั้นแล้วจึงเลื่อนไปทางเธอ “รับนะ”
จี้ตงหมิง “…..โธ่ ยังมีการส่งด้วยมือด้วย?”
ไป๋เวยมองบน “บ้านนายทั้งหลังเป็นของอัตโนมัติหมดเลย?”
กู้เยนเซินจึงลูบหน้าอย่างเงียบๆ “ระวังการพูดคุย ฉันยังอยู่ตรงนี้นะ!