ตอนที่ 781 นัดไหม น้องสาว
เช้าวันใหม่ บริษัทฉู่ซื่อ
กู้เยนเซินจ้องมองตลาดหุ้นไม่วางตา ทันทีที่เปิดการซื้อขาย เขาค้นหาฉู่ซื่ออย่างรวดเร็ว ดูเส้นโค้งสีแดงที่โผล่ขึ้นมาจากกราฟ ในที่สุดกู้เยนเซินก็วางใจได้!
“แม่งเอ๊ย! หายใจหายคอไม่ออกอยู่ตั้งหลายวัน ในที่สุดก็โล่งแล้ว ถึงราคาสูงสุดที่ตั้งไว้! หลังจากตกลงไปต่ำสุดไปสูงสุด ห่างจากหลงเซียวเท่านั้น จึ๊ ๆ ๆ ศีลธรรมตกต่ำลงทุกที นี่ยังคงเป็นโลกที่ตัดสินด้วยหน้าตา แค่คุณชายหลงลงมือ หุ้นก็หน้าแดง”
ไป๋เวยเงยหน้าขึ้นมองเขาจากด้านหลังกองเอกสาร “หุ้นก็แดง แต่สีหน้าคุณยังดูไม่เห็นเปลี่ยนเลย หนังหน้าคุณหนากว่าหุ้นอย่างเห็นได้ชัด”
กู้เยนเซินทิ้งคอมพิวเตอร์และเดินไปข้างไป๋เวย แขนสองข้างโอบรอบเอวของไป๋เวย กดคางของตัวเองเข้ากับไหล่ของเธอ “คุณภรรยา หุ้นฉู่ซื่อแตะเพดานสูงสุดแล้ว ตอนนี้พ้นวิกฤตอยู่ชั่วคราว ถ้าอย่างนั้นพวกเราลาพักร้อนกับคุณชายหลง ผมพาคุณออกไปเที่ยวเล่นสักพักดีไหม!”
ไป๋เวยลูบคางให้เขาดูเอกสารเต็มโต๊ะ “เที่ยว? เที่ยวอะไร? แล้วพวกนี้จะให้ใครทำ?”
กู้เยนเซินปัดเอกสารทิ้งไปไว้มุมหนึ่ง จับเอวและยกตัวเธอขึ้นมานั่งบนโต๊ะโน้มตัวลงริมฝีปากบางของเขาแทบจะสัมผัสเธอ “ผมทำงานได้แน่ คุณออกไปเที่ยวกับผม คิดว่าไง?”
นิ้วของไป๋เวยจับคอเสื้อสูทกู้เยนเซิน “ไปเที่ยวไหน? เที่ยวอะไร?”
ริมฝีปากบางของกู้เยนเซินเอียงอย่างชั่วร้ายและดวงตาของเขาก็เป็นประกาย “ฮาวาย แกรนด์แคนยอนที่โคโลราโด ลาสเวกัส แคลิฟอร์เนียน้องสาวอยากไปไหน พี่พาไปได้หมด เดทกันไหมล่ะน้องสาว?”
นิ้วมือที่มีเล็บสีแดงกุหลาบของไป๋เวยเกี่ยวคอเสื้อของเขา และดึงลงดึงคอเสื้อของเขาลง เผยให้เห็นบรรยากาศแบบผู้ชายเป็นพิเศษและกระดูกไหปลาร้าที่เซ็กซี่สะดุดตาเป็นพิเศษ “พูดอยู่ตั้งนาน คุณอยากไปอเมริกางั้นเหรอ?”
กู้เยนเซินปล่อยลมหายใจที่ร้อนระอุซึ่งทำให้ความร้อนระหว่างทั้งสองรู้สึกได้ “คุณภรรยาทำไมฉลาดแบบนี้ ทำผมเขินไปหมด ถ้าอย่างนั้น…ไปหรือไม่ไป?”
ไป๋เวยวางขาขวาไว้บนขาซ้ายของเธอและทิ้งตัวไปทางกู้เยนเซิน “ไปอเมริกา…กลัวว่าจะไม่ได้ไปเที่ยวอย่างเดียว? คุณชายกู้ คุณวางแผนอะไรไว้? คุณคิดว่าฉันจะไม่รู้เหรอ? คิดจะให้ฉันไปเจอพ่อแม่คุณใช่รึเปล่า?”
กู้เยนเซินยิ้มด้วยความรู้สึกผิด “ที่รัก ผมบอกว่าคุณเป็นผู้หญิงฉลาด คุณก็ฉลาดจริง ๆ ฉลาดกว่าที่ผมคิดไว้อีก! ผมรักคุณมากเลยที่รัก! แล้ว จะไปรึเปล่า?”
ไป๋เวยครุ่นคิดและคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ “คือว่า…ฉันรู้สึกกดดัน ให้ฉันคิดสักสองสามวันนะ”
“คิดกับผีน่ะสิ ลูกสะใภ้ขี้เหร่ยังกล้าเจอพ่อแม่สามี ที่รักของผมสวยขนาดนี้! มันเป็นการตัดสินใจที่มีความสุขมาก ขึ้นเครื่องพรุ่งนี้สิบโมงครึ่ง
ผมลางานกับคุณชายหลงไว้หนึ่งอาทิตย์”
นิ้วบอบบางของไป๋เวยบิดหูของกู้เยนเซินเป็นครึ่งวงกลม “คุณวางแผนไว้ก่อนแล้วเหรอ? ขุดหลุมพรางรอฉันกระโดดลงไป? ทำไมฉันถึงไม่เคยรู้เลยว่าคุณร้ายกาจขนาดนี้!”
“โธ่เอ๊ย ผมถูกกล่าวหา เรื่องพวกนี้ผมเรียนรู้มาจากคุณชายหลงโอเคไหม! ผมน่ะไร้เดียงสาจะตายไป ไม่เพียงแต่โดนคุณชายหลงหลอกเงินไปตั้งเยอะ อีกทั้งยังออกหน้าแทนอีกนิดผมคงขายตัวแล้ว ที่รักคุณยอมได้เหรอ?”
สายตาของไป๋เวยมองเห็นตู้เอกสารหลังเก้าอี้ทำงานโดยไม่ได้ตั้งใจกระจกก็สะท้อนร่างยาวที่ยืนอยู่ที่ประตู ท่านเซียวมาเมื่อไหร่?
ไป๋เวยรีบสไลด์ตัวลงแต่มือของกู้เยนเซินจับขาเธอไว้ทำให้เธอขยับไม่ได้ “ประธานกู้ ท่านประธานมาแล้ว”
กู้เยนเซินแสดงอำนาจของเขาด้วยรอยยิ้มหึ ๆ “ขู่ใครน่ะ! ต่อให้เขามาผมก็ไม่กลัว ไม่ว่ายังไงผมก็ยังเป็นคุณชายบริษัทกู้ซื่อ เมื่อก่อนทรัพย์สมบัติไม่เท่าคุณชายหลง แต่ตอนนี้หากเทียบเรากับคุณชายหลง ก็ห่างกันชั้นหนึ่งโอเคไหม? ช่างเถอะ อย่ากลัว”
ไป๋เวยอยากกัดเขาให้ตาย “ท่านประธานอยู่ที่หน้าประตู!”
กู้เยนเซินพูดหัวเราะจีบสาว “เถอะน่า เมื่อวานเขาเจ็บขนาดนั้นอย่างน้อยต้องอยู่บ้านสามวันแน่ อย่าเปลี่ยนเรื่อง พรุ่งนี้พวกเราไป
นิวยอร์กด้วยกัน นะ!”
กัดเขาตายตอนนี้ยังทันไหม!
ไป๋เวยผลักมือกู้เยนเซินออกไปอย่างแรง รองเท้าส้นเข็มกดลงกับพื้นและหันศีรษะด้วยความเคารพ “ท่านประธาน”
“ประธานอะ…” กู้เยนเซินพึมพำและหันหน้าไปโดยไม่พูดอะไรยาว ๆ ร่างสูงก็ตัวแข็งในทันทีและเขาก็กระซิบและยิ้ม “หึ ๆ คุณชายหลง คุณมาเมื่อไหร่ครับเนี่ย? ทำไมไม่ให้สุ้มให้เสียงสักคำ?”
หลงเซียวใช้มือหนึ่งล้วงกระเป๋ากางเกงเพราะหลังของเขายังไม่หาย เขายืนพิงประตูและมองดูเขา “บอกให้รู้ จะได้ดูฉากเด็ดแบบนี้เหรอ?”
กู้เยนเซินปล่อยไป๋เวยและโบกมือเพื่อปกปิดความรู้สึกผิดของเขา “เรื่องคือ หึ ๆ!” ในขณะที่พูดเขาเดินไปข้าง ๆ หลงเซียว แขนยาวเหยียดออกไปกอดไหล่แล้วกระซิบ “พี่ชาย ไว้หน้าผมหน่อย ปกป้องผู้หญิงของผม อย่าโกรธผมเลย”
คิ้วของหลงเซียวทำมุมยกขึ้น “ก็แล้วแต่ว่านายจะทำตัวยังไง ถ้าหากฉันฟังไม่ผิดล่ะก็ เมื่อกี้มีคนบ่นว่าฉันหลอกเงินเขาไปตั้งเยอะ แถมยังสอนให้เขาเป็นคนเจ้าเล่ห์ไม่น้อย…”
“มั่วแล้ว! เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด คุณชายหลง คุณฟังผิดแล้ว! ผู้ชายที่มีออร่าไอดอลแบบคุณ ทุกคนอดไม่ได้ที่จะเสียเงินให้คุณนะ หึ ๆ เอาเงินอีกไหม? รูดเอาเลย”
หลงเซียวหัวเราะหึ ๆ “ใจกว้างขนาดนี้? บัตรล่ะ?”
“เฮ้ย!” กู้เยนเซินกระโดดตัวโยน “คุณเอาจริง? เหลือเงินไว้ให้ผมไว้ใช้ส่วนตัวเถอะ เอาไว้ซื้อของขวัญให้ภรรยา”
ไป๋เวยกุมหน้าผากเธออย่างเงียบ ๆ กู้เยนเซิน นายมันโง่ เห็นชัด ๆ ว่าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของท่านเซียว ยังชอบคิดจะลองวัดระดับตัวเองอยู่เรื่อย นายไม่ตายแล้วใครตาย?
หลงเซียวพูด “วันหยุดหนึ่งสัปดาห์สามารถอนุมัติได้ แต่ระหว่างนี้ ยังมีเรื่องหนึ่งต้องทำให้สำเร็จ”
กู้เยนเซินทำท่าตะเบ๊ะ “ไม่มีปัญหา คุณชายหลง คุณว่ามาเลย เพื่อพี่ชายผมไม่กลัวตาย!”
หลงเซียวยิ้มและพูดอย่างไร้กังวลที่จะปรึกษา “ไม่ได้เว่อร์ขนาดนั้น เรื่องง่ายนิดเดียว รบกวนคุณชายกู้ไปที่ MBK สักรอบเพื่อส่งบัตรเชิญให้บางคนเพื่อไปร่วมงานเลี้ยงพิธีฉลองครบเดือนของชูเอ๋อ”
กู้เยนเซินถอยกรูดไปด้านหลังหลายก้าว “เอ่อ! ไป MBK? ไม่ไป! ฉู่ซื่อเพิ่งจะถล่มหลงถิง ตอนนี้นายจะให้ฉันไปส่งบัตรเชิญ นายให้ฉันไปส่งบัตรเชิญที่ไหนกัน นายส่งให้ฉันไปตายมากกว่า ไม่ไป! ยังไงก็ไม่ไป! หัวเด็ดตีนขาดก็ไม่!”
เฮ้ย ลำพังแค่คิดถึงอากัปกิริยาตอนหลงถิงเดินออกจากฉู่ซื่อไป กู้เยนเซินก็ฝันร้ายไปสามวันแล้ว อย่าพูดถึงให้เจอเขาเลย!
หลงเซียวเดินเข้าไปหลายก้าวและแล้วยัดการ์ดเชิญสองใบลงในคอเสื้อของกู้เยนเซินและตบ ๆ “หลังเรื่องจบ ให้นายลาสิบวันพร้อมเงินเดือน สุดหล้าฟ้าเขียวจะไปไหนก็แล้วแต่เลย”
สิบวัน? วันหยุดยาวนี่! สวัสดิการที่คาดไม่ถึง!
กู้เยนเซินส่ายหัวหงึก ๆ “ไม่ไป!”
พักร้อนสิบวันเทียบกับชีวิตอันน้อยนิด เขาเลือกอย่างหลัง
หลงเซียวยิ้มและพูดอย่างอารมณ์ดีเป็นพิเศษ “สิบห้าวัน”
ไป๋เวยตาลุกวาว สิบห้าวัน! ในช่วงเวลาที่ฉู่ซื่อกำลังยุ่งแบบนี้ อย่าพูดถึงสิบห้าวันเลย ก่อนหน้านี้แม้แต่ปีใหม่เธอยังไม่กล้าหยุดไปพักเลย
กู้เยนเซินบ่นและกลืนน้ำลาย “หลงเซียว นายไม่ได้บ้านะ?”
หลงเซียวตอบอย่างจริงจัง “ฉันไม่ได้บ้า แต่ฉันมีแผล”
เฮ้! อย่ามาตั้งใจเอาฮาแบบนี้ได้ไหม?
เขาไม่อยากจะขำกับมุกของเขา เพราะมันไร้ความปรานีมาก!
กู้เยนเซินตั้งท่าลำบากใจและพูดอย่างหยิ่งยโส “เห็นแก่ความจริงใจของนาย ฉันคงจะต้องฝืนใจตอบรับในสิ่งที่ยากเกินไปนี้ รอรับข่าวจากฉันล่ะ”
หลงเซียวพยักหน้าและยิ้ม “ข้อแม้คือ หลงถิงต้องรับปากมางานเลี้ยงพิธีฉลองครบเดือนของชูเอ๋อ”
ทันใดนั้นกู้เยนเซินก็เกิดรู้สึกเสียใจภายหลัง แต่วันลาพักร้อนสิบห้าวันทำให้ไม่อาจยอมแพ้ได้ “ได้ รับ แต่ว่า คุณชายหลง ชูเอ๋อ ของนาย… กำลังพูดถึง Angel ตัวน้อยใช่ไหม? ชูเอ๋อ…ทำไมชื่อหวานขนาดนี้?”
นิ้วของหลงเซียวกดไหล่ของเขา “มีความคิดเห็นเหรอ?”
“ไม่ ๆ ๆ ไม่มีความคิดเห็น ดีมาก! ชูเอ๋อ? หรือฉู่เอ๋อ? ลูกสาวนายคงไม่ได้ชื่อฉู่ฉู่ หรอกนะ?”
“ไม่ใช่ แต่ว่า…จะเข้าใจแบบนั้นก็ได้” หลงเซียวพูดจบก็ใช้มือล้วงกระเป๋ากางเกงและพูดเสริม “เตือนเอาไว้ก่อน งานเลี้ยงครบเดือนของชูเอ๋อ จะจัดขึ้นวันเดียวกันนี้ในอาทิตย์หน้า ถ้าหากนายอยากจะมาด้วย…”
“โธ่เอ๊ย ๆ งานเลี้ยงครบเดือนของหลานสาว ฉันจะไม่ไปได้ยังไง แต่ว่า นะ…นาย ๆ ๆ เกินไปแล้วนะ รับปากวันหยุดสิบห้าวัน แต่กลับมาหักกันกลางลำ? ฉันยังจะต้องรีบเปิดตูดแน่บกลับมา?”
หลงเซียวพูดขึ้นนิ่ง ๆ “คืออย่างนี้ นายจะไม่กลับมาก็ได้”
ไม่กลับมา? จะเป็นไปได้ยังไง!
กู้เยนเซินพบว่าตัวเองถูกต้มแล้ว ถูกหลงเซียวหลอกเสียราบคาบ เหนือฟ้ายังมีฟ้า เขาไม่ใช่คู่ต่อสู้จริง ๆ
กู้เยนเซินหยิบบัตรเชิญและไปที่ MBK เหมือนมุ่งสู่ความตาย
เหมือนกับที่คิดไว้ ตึก MBK สูงเฉียดฟ้าสูงตระหง่านทำให้อ้าปากค้างได้แต่ไกล ไม่มีหลงเซียวอยู่ข้าง ๆ เป็นเพื่อน กู้เยนเซินรู้สึกได้ถึงความกดดันที่หนักหน่วงจนไม่สามารถหายใจได้
กู้เยนเซินเดินเข้าไปในล็อบบี้และหญิงสาวที่แผนกต้อนรับก็ยิ้มให้ “เฮ้ สาวสวย แจ้งให้ทราบว่าผมต้องการพบท่านประธานบริษัทของพวกคุณ”
สาวสวยไม่รู้จักกู้เยนเซิน ถึงแม้ว่าเขาจะหน้าตาดี แต่พนักงานต้อนรับที่ได้สวยตามมาตรฐานความงามของเหล่าลูกคนรวยที่ตามเปย์ทุกวี่วันก็ไม่ได้หลงกล แล้วนับประสาอะไรกับคนที่มีคนรวยที่ดูเท่กว่าหล่อกว่านี้อีก จึงยิ้มออกไปอย่างเป็นทางการ “มีนัดล่วงหน้าไหมคะ?”
“ไม่มีครับ แต่คุณบอกชื่อผม เขาจะยอมเจอผมแน่” กู้เยนเซินเอนตัวลงบนโต๊ะด้านหน้าอย่างมั่นหน้ามั่นโหนกและพูดชื่อที่ตัวเองคิดว่ามันเจ๋งสุด ๆ ออกมา
เมื่อแผนกต้อนรับได้ยินแล้วแสดงออกว่าไม่คุ้นเคย
ธุรกิจของครอบครัวของกู้เยนเซินส่วนใหญ่อยู่ที่อเมริกา ถึงแม้ว่าจะมีจำนวนไม่น้อย แต่จนถึงวันนี้ยังเป็นพ่อของเขาที่มีอำนาจในทุกอย่าง ยิ่งกว่านั้น ต่างประเทศล้วนใช้ชื่อภาษาอังกฤษ ใครจะรู้ว่ากู้เยนเซินคือคนไหน
สุดท้าย หลังจากแผนกต้อนรับแจ้งชื่อไปก็ส่ายหน้าแล้วพูดขึ้น “คุณกู้คะ ท่านประธานไม่พบค่ะ”
ตาแก่นี่ ไม่พบ!
กู้เยนเซินเปลี่ยนท่าทีและโพสต์อย่างมีสไตล์ “คนสวย ผมกับท่านประธานเป็นเพื่อนเก่าแก่ เมื่อครู่คุณคงไม่ได้แจ้งให้ชัดเจน ลองดูอีกที”
แผนกต้อนรับส่วนหน้าของMBK ต้อนรับผู้ประกอบการที่มีชื่อเสียงมากมายจากทั่วเมืองหลวงและทั้งประเทศทุกวัน มีพวกร้านค้ามากมายที่คิดจะกอดแข้งกอดขาอยู่เสมอ จึงไม่มีความคิดจะสนใจ
“คุณคะ ท่านประธานบอกว่าไม่รู้จักคุณ เชิญกลับค่ะ”
ไม่รู้จัก? นึกไม่ถึงจะบอกว่าไม่รู้จัก! ตอนที่หลงเซียวเล่นงานตอนนั้น เขาก็ยืนอยู่ข้าง ๆ นึกไม่ถึงเขาจะพูดว่าไม่รู้จัก! แม่ง ตาแก่เอ๊ย!
กู้เยนเซินยกคางขึ้นอย่างมีเสน่ห์ “คนสวย ผมคือผู้จัดการทั่วไปของบริษัทฉู่ซื่อ คุณรู้จักไหม?”
ไม่ได้ยินคำว่าฉู่ซื่อยังจะดีเสียกว่า พอได้ยินคำว่าฉู่ซื่อ สีหน้าของพนักงานแผนกต้อนรับดูแย่มากในทันใดและพูดกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่นอกประตูทันที “มานี่ที! เอาผู้ชายโหวกเหวกคนนี้ออกไปที!”
แม่งเอ๊ย! ! !
กู้เยนเซินถูกนำตัวออกไปในตอนนี้เอง เรียกว่าตายตั้งแต่ยังไม่ทันออกตัว ขายหน้าประชาชีไปจนถึงโคตรเหง้า
เขานั่งอยู่บนรถด้วยความหงุดหงิด ในมือซ้ายของกู้เยนเซินมีบัตรเชิญ ในมือขวามีวันหยุดยาวที่ใกล้จะมาถึง เขากัดฟัน สู้โว้ย!
กู้เยนเซินดึงอุปกรณ์ประกอบฉากที่เตรียมไว้ล่วงหน้าออกจากท้ายรถและสวมมันอย่างง่ายดายและรวดเร็ว จากชายสวมสูทรูปงามกลายเป็นคุณลุงช่างไฟสีเหลืองสดใส
ในมือถือกล่องเครื่องมือพร้อมทั้งสวมหมวกเบสบอล และบุกเข้าไปในตึก MBK อีกครั้ง
ดีมาก ในที่สุดก็เข้ามาได้
กู้เยนเซินขึ้นลิฟต์และกดขึ้นไปชั้นบนสุด ในใจก่นด่าบรรพบุรุษของหลงถิงยันไม่ถึงสามรุ่นก่อนหลงเซียว เขาเป็นทายาทที่สง่างามของบริษัทกู้ซื่อ มูลค่าทรัพย์สินเกินพันล้าน! นึกไม่ถึงเลยว่าจะตกอยู่ในสภาพนี้!
ในที่สุดลิฟต์ก็หยุด
ทันทีที่กู้เยนเซินออกมาจากลิฟต์ ร่างสูงและผอมก็เดินตรงมาหาเขา ท่าทางที่กำลังถอดเสื้อผ้าของเขาจึงหยุดลง เขาถอยหลังและปล่อยให้หลงเจ๋อรีบเดินไป
ใครจะรู้ว่าหลงจื๋อเดินไปแล้วหลายก้าวจะย้อนกลับมา “ช่างไฟใช่ไหมครับ?”
กู้เยนเซินจุกจนแทบกระอักเลือด พยักหน้าและไม่พูดอะไร
หลงจื๋อขมวดคิ้ว “ช่วยซ่อมไฟเพดานได้รึเปล่า?”
กู้เยนเซิน: “…” ทุบได้ จะเอาไหม?
หลงจื๋อพูดขึ้น “คุณลงไปกับผมหน่อย เปลี่ยนไฟในห้องทำงานผมให้ที”
กู้เยนเซิน: “…” ออกจากบ้านไม่ดูปฏิทินหรือไง? แม่งโคตรซวย
จะไปหรือไม่ไป?
หลงจื๋อเห็นเขาไม่ขยับจึงพูดต่อ “ซ่อมไม่เป็นเหรอ?”
ทนไม่ไหวแล้ว!
กู้เยนเซินเปิดหมวกออกมา “ฉันเอง!”
หลงจื๋อตกใจกับพฤติกรรมที่ไม่คาดคิดของเขา “ประธานกู้? ทำไมถึงเป็นคุณ? แล้วคุณทำไมถึงแต่งตัวแบบนี้?”
กู้เยนเซินอุทานถุย “นายคิดว่าฉันอยากเหรอ? ฉันถูกบังคับ ไม่พูดแล้ว พ่อนายอยู่ไหน?”
หลงจื๋อชี้ไปที่ห้องทำงานหนึ่งเดียวที่ชั้นบนสุดที่แขวนป้ายสีทองอร่าม “ห้องทำงานประธานบริษัท” “คุณมีธุระอะไรกับเขาเหรอ?”
“เรื่องใหญ่เลย!”
กู้เยนเซินยัดหมวกใส่มือหลงจื๋อและรีบเดินไป
หลงจื๋อ: “…”
กู้เยนเซินไม่แม้แต่จะเคาะประตูและบุกเข้าไป “คุณลุงหลง ยุ่งจังนะครับ”
หลงถิงเงยหน้าในมือยังจับปากกาและขมวดคิ้วเมื่อเห็นการแต่งตัวของเขา ยิ้มและพูดอย่างอ่อนโยน “เสี่ยวกู้ นี่เอง มาได้ยังไงล่ะ?”
เจ้ามารยา!
กู้เยนเซินนั่งลงอย่างมีสติ “ผมมาเยี่ยมครับ จากกันเมื่อวาน คิดถึงมาก ดังนั้นจึงมาเยี่ยม”
หลงถิงยิ้มอย่างเสแสร้ง “หี ๆ ขอบใจที่มีใจนะ”
กู้เยนเซินตรงเข้าประเด็นวางบัตรเชิญลงบนโต๊ะและยื่นให้เขา “คุณลุงหลง นี่คือบัตรเชิญร่วมงานเลี้ยงพิธีฉลองครบเดือนของลูกสาวของหลงเซียว ถึงตอนนั้น เรียนเชิญด้วยครับ”
หลงถิงเหล่ดู “ลูกสาวของหลงเซียว? เหมือนว่าฉันไปคงไม่เหมาะ” เขาดันบัตรเชิญกลับ
กู้เยนเซินยิ้มหวานและพูดขึ้น “คุณลุงหลง คุณเป็นพ่อของหลงเซียวมาสามสิบปี อย่างน้อยก็เป็นคุณปู่ของเด็กน้อยอยู่ครึ่งหนึ่ง ยิ่งกว่านั้น งานเลี้ยงพิธีฉลองครบเดือนของเด็กน้อย คุณป้าจะต้องไปแน่ คุณไม่ไป ไม่รู้ว่าคนอื่นจะพูดถึงคุณว่าอย่างไรนะ”
หลงถิงสีหน้าไม่พอใจ “ฉันเป็นคนนอก”
กู้เยนเซินดันบัตรเชิญออกไป “คุณลุงหลง คุณไป เท่ากับคนอื่นที่พูดไม่ดีเกี่ยวกับคุณต้องตบปากตัวเอง อีกทั้งคุณยังสร้างภาพลักษณ์จากการดูแลเด็ก ๆ โดยไม่สนใจเรื่องที่ผ่านมาด้วย ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว!”
หลงถิงหัวเราะหึ ๆ “เสี่ยวกู้ ถ้าคุณจะมาพูดให้เขาล่ะก็ คงไม่จำเป็น ฉันยังมีธุระ คุณกลับไปเถอะ”
กลับไป? พูดง่ายทำยาก!
กู้เยนเซินเดินไปนั่งขัดสมาธิบนโซฟา “คุณลุงหลง คุณไม่ไปจริงเหรอ? งั้นก็ดี คุณไม่ไปผมก็ไม่กลับ คุณทำงาน ผมอยู่เป็นเพื่อน พวกเราร่วมมือกันอย่างมีความสุข”