ประธานหยิ่งยโสของฉัน – ตอนที่ 787

ตอนที่ 787

ตอนที่ 787 แผนการขั้นเด็ด

มู่?

ทำไมถึงแซ่มู่?

บรรดาแขกเหรื่อต่างตกใจกับคำประกาศของหลงเซียวอย่างมาก หลงถิงก็นั่งอยู่ด้านล่างแท้ๆ ทำไมเขาถึงบอกว่าลูกสาวของตัวเองแซ่มู่? นี่มัน……

เมื่อมองไปที่หลงถิงพบว่าใบหน้าของเขาคร่ำเครียด

ส่วนตู้หลิงเซวียนยังคงสงบนิ่งตามเดิม เขากำลังซับเลือดที่ไหลออกมาจากผิวหนังอันเนื่องจากเศษแก้วบาดเข้า

ป้าหลันเดินขึ้นไปบนเวทีและอุ้มชูชูเอาไว้ บรรดานักข่าวและแขกที่มาร่วมงานจึงได้หยิบอุปกรณ์ถ่ายภาพของตัวเองขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง

มือของลั่วหานว่างแล้ว เธอจึงเอื้อมไปกุมมือหลงเซียวเอาไว้แล้วบีบเบาๆ เธอพูดกับเขาว่า “ฉันลงไปข้างล่างก่อนนะคะ”

หลงเซียวให้สัญญาณทางสายตา จี้ตงหมิงกดไปที่โปรเจคเตอร์ด้านหลังของเวทีขนาดใหญ่ ถ่ายภาพแสดงออกมาเป็นรูปภาพของคนคนหนึ่ง ที่มีหน้าตาคล้ายกับหลงเซียว

เห็นได้ชัดว่ารูปภาพนี้ถูกถ่ายเอาไว้นานมากแล้ว คนในรูปเขาดูท่าทางใจดีและหล่อเหลา

นี่มัน……ถ้าหากถอดแว่นออก ผู้ชายคนนี้ก็เหมือนกับหลงเซียวมากทีเดียว

สายตาของทุกคนต่างจับจ้องไปที่ชายในภาพถ่ายคนนั้น โดยลืมทุกสิ่งทุกอย่างรอบข้าง

หยวนชูเฟินหันหลังกลับมา เซียวเอ๋อ……เซียวเอ๋อน้อยของเธอ เขานำใครบางคนที่เธอฝังลึกไว้ในความทรงจำมาแสดงให้ทุกคนเห็น ช่างดีเหลือเกิน เธอรอคอยวันนี้มานานเหลือเกินแล้ว ให้พี่สุดเธอก็รอจนมันมาถึง

หลงเซียวไม่สนใจต่อสายตาที่สามารถฆ่าคนได้นั้นของหลงถิง เขากลับย้อนมองมาที่ภาพถ่ายด้วยความเคารพและเอ่ยปากพูดคุยกับคนในภาพว่า

“เขาผู้นี้คือ พ่อที่ให้กำเนิดผม”

มีลายน้ำปรากฏขึ้นอย่างช้าๆบนหน้าจอ ตัวอักษรภาษาจีนและอังกฤษเขียนขึ้นมาว่า “มู่เส้าเอิน (19xx ถึง 19xx) กำเนิดที่เมืองหลวง เคยศึกษาที่มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ได้รับรางวัลเยาวชนดีเด่นในปีxx และได้รับวอลล์สตรีทเวนเจอร์สตาร์ในปีxx” โปรเจคเตอร์ได้ฉายประวัติเกี่ยวกับชีวิตของมู่เส้าเอินโดยละเอียด

แม้จะเป็นเพียงไม่กี่ร้อยตัวอักษร แต่ก็แสดงให้ทุกคนเห็นถึงชีวิตอันสั้นและเป็นตำนานของยอดนักธุรกิจ ในตอนนั้นมีเพียงชาวจีนไม่กี่คนที่เริ่มต้นทำธุรกิจในอเมริกา อีกทั้งผู้ที่ทำธุรกิจในอเมริกาอย่างโดดเด่นแทบหาไม่ได้เลยด้วยซ้ำ

แต่มู่เส้าเอินก็สามารถก่อตั้งบริษัทเป็นของตัวเองได้ นี่มันคือ……นี่คือหลงเซียว ณ ปัจจุบัน!

ใบหน้านี้ควบคู่กับความสำเร็จ ความจริงที่ว่ามู่เส้าเอินเป็นผู้ให้กำเนิดหลงเซียวนั้นเป็นความจริงที่เชื่อถือได้ และไม่มีใครกล้าคัดค้าน

ไม่แปลกใจเลยที่หลงเซียวมีความสามารถโดดเด่นเช่นนี้ เนื่องจากเขามีพันธุกรรมที่แข็งแกร่งเหมือนกับมู่เส้าเอินนั่นเอง

ไม่แปลกใจเลย……เมื่อมองมาที่หลงถิง ลูกชายของเขาหลงจื๋อ อีกทั้งหลงยี่และหลงเซิ่งที่ถูกขับไล่ออกไปจากบริษัท เนื่องจากพันธุกรรมของตระกูลหลงนั้นยากที่จะเอ่ยปากบอกใครได้

บรรดานักข่าวที่อยู่ในสถานที่นั้นล้วนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู แล้วค้นหาข้อมูลของมู่เส้าเอิน สามารถค้นหาประวัติและการก่อตั้งบริษัทของเขาได้ แต่ที่ประหลาดใจก็คือผลการค้นหานั้นไม่มีข่าวขึ้นมาแม้แต่เรื่องเดียว

เป็นไปไม่ได้ที่นักธุรกิจชาวจีนชื่อดังจะไม่มีคนทำข่าว เนื่องจากตำนานที่เหลือเชื่อแบบนี้จะต้องถูกส่งต่อไปให้คนรุ่นหลัง ใช้เป็นตำราในการร่ำเรียนแบบรุ่นต่อรุ่น

บรรดานักข่าวไม่พบผลลัพธ์ที่ตนต้องการก็กระซิบกระซาบกันด้วยความประหลาดใจและไม่เข้าใจ

คิ้วสีดำหนาของหลงถิงขมวดขึ้น เขาเหลือบไปมองหลงเซียวด้วยความโกรธแค้น จากนั้นก็จับมือของหยวนชูเฟิน

ปฏิกิริยาในตอนนั้นของเธอกำลังจ้องมองไปที่หน้าจอด้วยความงง ไม่ได้ตื่นเต้นซะจนเกินไป

หลงถิงตกตะลึง “ชูเฟินครับ?”

หยวนชูเฟินหันมาแล้วถามว่า “อะไรคะ?”

จี้ตงหมิงคลิกยังหน้าถัดไป ภาพถ่ายของคฤหาสน์ตระกูลมู่ในอเมริกาก่อนและหลังถูกทำลายล้าง รูปภาพด้านหน้าในสวนเต็มไปด้วยดอกไม้เบ่งบานชวนน่าหลงใหล

ส่วนรูปที่สองนั้น คฤหาสน์ถูกปกคลุมไปด้วยเขม่าควันไฟสีดำจนน่าใจหาย

เสียงของหลงเซียวดังขึ้นขัดจังหวะการสนทนาของทั้งสองคน และขัดจังหวะทุกคนที่กำลังพูดคุยกัน “เมื่อสามสิบปีก่อน พ่อของผมเริ่มต้นธุรกิจในเมืองนิวยอร์ก เขาเป็นนักธุรกิจชาวจีนที่มีชื่อเสียง แต่เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน พ่อของผมและครอบครัวถูกสังหารหมู่ในชั่วข้ามคืน”

เมื่อได้ยินความจริง แขกที่อยู่ในงานก็แทบหายใจไม่ออก ถูกสังหารทั้งครอบครัวอย่างนั้นหรือ?ทั้งครอบครัว?!?

นี่มัน……เป็นการล้างแค้นของตระกูลศัตรู หรือไปยั่วยุคนกลุ่มใต้ดินเข้า? ฝ่ายตรงข้ามก็ช่างโหดร้ายเกินไป!

เฉียวหย่วนฟานถอนหายใจออกมาแล้วหันไปพูดกับลั่วหานที่นั่งอยู่ข้างๆว่า “เมื่อสามสิบปีก่อน ผมก็เคยได้ยินคนที่ชื่อว่ามู่เส้าเอินด้วย น่าเสียดายที่ผมไม่มีโอกาสรู้จักกับเขาก่อนหน้านี้ คิดไม่ถึงว่าเขาจะพบเจอกับเรื่องพวกนี้ น่าเสียดายจริงๆ……”

ได้มิ้นก็พูดอย่างขมขื่นว่า “โรงเรียนของเรามีคนจีนมากทีเดียวที่เชิดชูให้มู่เส้าเอินเป็นเจ้าชายขี่ม้าขาวพวกเขา บอกว่ามู่เส้าเอินคือความภาคภูมิใจของชาวจีน ใครจะคิดกันว่าเขาต้องจบชีวิตลงแบบนี้ คนที่ฆ่าเขาสมควรที่จะได้รับการลงโทษอย่างหนัก!”

ลั่วหานมองไปยังหลงถิงที่หน้าตาบูดบึ้งแต่ไม่ได้แสดงออกท่าทางใดๆ

“แดดดี้ มามี้คะ ความลับไม่มีในโลก สักวันความจริงแต่ต้องถูกเปิดเผยค่ะ”

“ลูกจะต้องไปตรวจสอบให้ดี ตอนนี้ลูกและหลงเซียวก็ล้วนเป็นคนมีความสามารถทั้งคู่ จะมาทนอยู่กับความคับข้องใจแบบนี้ไม่ได้”

“ค่ะแม่ พวกเราจะทำแน่”

มือของหลงถิงที่วางอยู่บนเข่า กำหมัดเอาไว้แน่น

หยวนชูเฟินพูดด้วยความงุนงงว่า “มู่เส้าเอิน……ชื่อนี้คุ้นหูจังเลยนะคะ แต่……พวกเรามีลั่วหานได้ยังไง?”

หลงถิงตัวแข็งทื่อราวกับถูกไฟช็อต ริมฝีปากของเขาเผยอขึ้นแล้วถามว่า “คุณ คุณจำเขาไม่ได้เหรอ?”

หยวนชูเฟินพยายามนึก แต่ในที่สุดเธอก็ส่ายหัวแล้วพูดว่า “ฉันเหมือนจำได้นิดหน่อยแต่นึกไม่ออกจริงๆค่ะ ฉันกับคนคนนี้มีความสัมพันธ์กันอย่างไร?”

หลงถิงรู้สึกปลาบปลื้มใจ ยาของเขาออกฤทธิ์ได้เป็นอย่างดี เธอจำไม่ได้แล้ว

“ตอนนั้นพวกคุณเป็นคู่รักกัน แต่ต่อมามู่เส้าเอินเปลี่ยนใจ พวกคุณจึงได้เลิกกัน” หลงถิงแต่งเรื่องขึ้นว่ามู่เส้าเอินหักหลังภรรยาและลูกชายของตน

หยวนชูเฟินแกล้งทำเป็นเชื่อแล้วพูดว่า “อ๋อ เป็นอย่างนี้นี่เอง……”

“ใช่แล้วครับ เป็นอย่างนี้แหละ ชูเฟิน คุณจำไม่ได้ก็ดี คนคนนี้ทำให้คุณต้องเสียใจ อย่าไปนึกถึงเขาเลย”

ลืมเขาไปเสียตลอดชีวิต อย่าได้นึกขึ้นมาอีก

รูปต่อมาคือมู่เส้าเอิน หลงถิง ถังจงรุ่ย หลินเหว่ยเย่และส้งชิงเซวี๋ยนทั้งหมด 5 คนถ่ายรูปรวมกัน

เมื่อลั่วหานมองไปที่รูปถ่ายนั้นแล้ว เธอจึงได้รู้ว่าส้งชิงเซวี๋ยนไม่ได้เดินทางมาด้วย เดี๋ยวก่อนนะ ถังจิ้นเหยียนและเจิ้งซิ่วหยาก็ไม่ได้มา!

ตายแล้ว ทำไมเธอถึงลืมถังจิ้นเหยียนไปได้ล่ะ!

“ห้าคนในรูปนี้ ในสมัยนั้นพวกเขาเป็นเพื่อนรักกัน คาดว่ามีสองคนในรูปที่ทุกคนรู้จักดี”

ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของประเทศจีนหลงถิง และปรมาจารย์ทางการแพทย์ส้งชิงเซวี๋ยน

นี่มัน……เมื่อเห็นรูปภาพนี้ แล้วนำมาเชื่อมต่อกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นของตระกูลมู่ ตัวตนของหลงเซียว หยวนชูเฟิน……

เหมือนจะมีเรื่องราวซ่อนอยู่เบื้องหลัง

สมองของพวกนักข่าวเป็นประกายขึ้นมาทันใด พวกเขาอยากจะรู้ความจริงทุกวินาที

“พ่อของผมถูกฆ่า บริษัทที่เขาก่อตั้งขึ้นล้มละลาย คดีของตระกูลมู่ถูกเก็บไว้กว่าสามสิบปี ผมเองก็เพิ่งจะรู้ความจริงเมื่อไม่นานมานี้”

หลงเซียวพูดด้วยน้ำเสียงต่ำ ดวงตาของเขาเศร้า คิ้วของเขาคล้ายถูกปกคลุมไปด้วยสายฝน

หลงจื๋อสูดจมูกแล้วดื่มไวน์เข้าไปจนหมดแก้ว รสชาตินั้นร้อนแรงทำให้เขาจุก

ตู้หลิงเซวียนเคาะนิ้วของเขาไปที่ขอบโต๊ะ หนึ่งครั้ง สองครั้ง……

เมื่อสิ้นเสียงลง หลงเซียวก็ประกาศต่อไปว่า “นับแต่วันนี้เป็นต้นไป ลูกสาวของผมเป็นทายาทของตระกูลมู่!”

ไมโครโฟนและเลนส์กล้องของนักข่าวที่กำลังติดตามการเคลื่อนไหวของเขาอยู่อย่างใกล้ชิดชะงักลง ไม่กล้าแม้แต่จะเอ่ยคำถามใด

นั่นหมายความว่าหลงเซียวจะเปลี่ยนชื่อเป็นมู่เซียวหรือ?

แต่ไม่ว่าอย่างไร หลงถิงก็เลี้ยงดูเขาในฐานะลูกชายมาถึงสามสิบปี……การที่เขาจะเปลี่ยนไปใช้นามสกุลมู่แบบนี้ เหมาะสมแล้วหรือ?

“แต่ว่าที่คุณหลงถิงเลี้ยงดูผมมาถึงสามสิบปี พระคุณครั้งนี้ผมจะไม่มีวันลืม ดังนั้นผมหลงเซียวขอประกาศ ณ ที่นี้ว่า ในชีวิตนี้ผมจะไม่เปลี่ยนนามสกุล!”

ไม่เปลี่ยนอย่างนั้นหรือ?

หลงจื๋อและหลงถิงต่างจับจ้องมาที่หลงเซียว เขาตกใจกับการตัดสินใจนี้

เขาไม่คิดจะเปลี่ยนนามสกุลเป็นการตอบแทนแสดงความกตัญญูกตเวที?

ภาพพจน์ของเขาส่องสว่างราวแสงอาทิตย์ภายในพริบตา

หลงจื๋อดีใจจนน้ำตานองหน้า พี่ชาย! พี่คนโตของผมที่แสนดี!

แต่หลงถิงกลับคล้ายกับโดนตบหน้า

เขาพยายามอย่างยิ่งที่จะฆ่าหลงเซียวหลายต่อหลายครั้ง แต่หลงเซียวก็อดทนมาเสมอ อีกทั้งถอนตัวจากการแย่งชิงมรดก MBK ด้วยตนเอง ในวันนี้ได้เชิญเขามาร่วมงานเลี้ยงครบหนึ่งเดือนของลูกสาวด้วย

แม้เขาจะรู้ว่านี่เป็นการชกหน้าเขา แต่นักข่าวพวกนั้นจะไปรู้ได้อย่างไร?

หลงเซียวต้องการให้เขาช้ำใจจนพูดไม่ออก!

หลงเซียวพูดต่อว่า “บุญคุณต้องทดแทน แค้นต้องชำระ! ผมเป็นคนแยกแยะออก น้ำเพียงหยดเดียวต้องตอบสนองคืนเป็นร้อยเท่า ผมก็จะไม่ละเว้นความแค้นเช่นเดียวกัน เรื่องราวที่ตระกูลมู่พบเจอ ผมจะต้องสืบค้นให้ถึงที่สุด!”

เขาปูทางในอนาคตไว้อย่างกว้างขวาง ซึ่งมันหมายความว่าต่อจากนี้หากเขาตามล้างแค้นหลงถิงถึงเลือดถึงเนื้อ บุคคลภายนอกก็ไม่สามารถพูดอะไรได้ มันเป็นการตบหน้าหลงถิงเข้าอย่างจัง!

เมื่อหลงเซียวพูดจบ น้ำเสียงของเขาก็ผ่อนคลายลงแล้วพูดต่อไปว่า “นอกจากนี้ผมยังต้องขอขอบคุณหลงถิงมาก เขาไม่เพียงแต่ร่วมลงทุนกับบริษัทฉู่ซื่อ แต่ยังสนับสนุนโครงการของบริษัทฉู่ซื่อในเมืองเจียงเฉิงอย่างจริงจัง และได้มอบหมายเป็นพิเศษให้กับคุณตู้หลิงเซวียนจากอเมริกา ทำให้โครงการดำเนินไปอย่างราบรื่น”

ตู้หลิงเซวียน “……”

นี่มันเรื่องไร้สาระ!

หลงถิง “……”

ไอ้สาระเลว สมควรตาย!

หลงเซียวไม่ได้เปลี่ยนสีหน้า เขาพูดต่อว่า “ตอนนี้บริษัทฉู่ซื่อถือว่าเป็นดาวรุ่ง MBKเป็นองค์กรขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียง การได้รับการดูแลจากMBKเป็นสิ่งที่ผมรู้สึกซาบซึ้งใจมาก”

เป็นคำพูดที่ตั้งใจสร้างเกราะกำบังขึ้นมา ก่อนหน้านี้บรรดาคนที่คิดจะกำบริษัทฉู่ซื่อไว้ในมือก็พากันตกตะลึง

หรือการโจมตีก่อนหน้านี้ไม่ใช่เรื่องจริง พวกเขาเพียงเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งเท่านั้น?

“แน่นอนว่า การพัฒนาด้านการตลาดไม่ใช่มีเพียงความร่วมมือ แต่รวมไปถึงการแข่งขันด้วย การที่บริษัทฉู่ซื่อมีพันธมิตรที่ดีอย่างMBK และเป็นคู่ต่อสู้ที่เท่าเทียมกัน หวังเป็นอย่างยิ่งว่าทั้งสองฝ่ายจะมีผลงานที่น่าชื่นชม”

กล้องจับภาพไปที่หลงถิงและตู้หลิงเซวียน ทั้งสองคนไม่มีทางเลือกนอกจากยิ้มออกมาอย่างกลบเกลื่อน เป็นความหมายว่าในวันนี้เป็นเพียงงานของเด็กน้อยตัวเล็กๆที่เพิ่งเกิด ไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจใด

แต่ใครก็มองไม่ออกว่าหลงเซียวได้กดขยี้พวกเขาจนแทบจะล้มลง

เมื่อหลงเซียวพูดจบลั่วหานค่อยๆลุกขึ้น “นอกเหนือจากนั้น ในวันนี้พวกเราต้องขอขอบพระคุณตู้หลิงเซวียนที่เอ็นดูเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆคนนี้ และมอบของขวัญชิ้นโตให้กับเธอ โดยมอบโครงการวิลล่าที่ชานเมืองหลวงให้กับชูเฉินส่วนหนึ่ง”

เพล้ง!!!

ไม่รู้ว่าใครทำแก้วแตก

หลงถิงหันหน้ามา ดวงตาของเขาเบิกกว้างราวกับวัวกระทิง

ตู้หลิงเซวียนเองก็ตกตะลึงเช่นกัน

เรื่องแบบนี้เธอพูดต่อหน้าสาธารณะได้อย่างไร?ในตอนนั้นเขาเพียงแค่สร้างเรื่องขึ้นมาหลอกเธอเท่านั้น

ลั่วหานหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วพูดว่า “คุณตู้คะ ฉันขอบคุณแทนชูชูด้วย”

หมายความว่า ฉันได้อัดเสียงเอาไว้แล้วคุณลองปฏิเสธดูสิ!

เลนส์กล้องจับจ้องไปที่ตู้หลิงเซวียนแล้วกดชัตเตอร์ลงหลายที “คุณตู้ครับ เป็นเรื่องจริงหรือเปล่า?คุณดีกับคุณหนูมู่มากจริงๆ!”

“คุณตู้คะ ได้ยินมาว่าก่อนหน้านี้คุณเคยจีบคุณหมอฉู่มาก่อน ยังลืมความรู้สึกเก่าไม่ได้หรือเปล่า?”

“คุณตู้ครับ โครงการที่ชานเมืองหลวงนี้ได้ยินมาว่าคุณลงทุนเพื่อพัฒนาราคาสูงลิบลิ่ว หมายความว่าคุณกำลังเข้าสู่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในประเทศอย่างเป็นทางการแล้วหรือยัง?”

……

การสัมภาษณ์เหล่านี้แทบทำให้ตู้หลิงเซวียนระเบิด เมื่อเผชิญหน้ากับปัญหาที่ยากจะตอบเหล่านี้ สีหน้าอันสง่างามของเขาก็ยิ้มออกมาอย่างอึดอัด

สามหมื่นล้านหยวน! เขาจดทะเบียนกับแผนกอุตสาหกรรมและการค้าจำนวนสามหมื่นล้านหยวน ซึ่งหมายความว่าเขาจะถูกลั่วหานกลืนกินสามหมื่นล้านหยวนของเขาไป เป้าหมายเธอช่างใหญ่จริงๆ!

“ถูกต้องครับ สำหรับชูเฉินแล้ว ผมเห็นเธอเป็นลูกของผมเอง พ่อผู้ให้กำเนิดเธอมอบห้างสรรพสินค้าให้ ดังนั้นผมต้องไม่แพ้เช่นกัน…..

ประธานหยิ่งยโสของฉัน

ประธานหยิ่งยโสของฉัน

Status: Ongoing

คุณหลง อย่าหยิ่งยโสเกินไป / ประธานหยิ่งยโสของฉัน หมออายุรศาสตร์มือหนึ่งฉู่ ลั่วหาน แต่งงานมาสามปีแล้ว กลับ ไม่มีใครสักคนรู้ว่าสามีเธอเป็นคุณชายใหญ่ของตระกูลหลง ตระกูลร่ำรวยอันดับแรกของเมืองเจียงตู ซึ่งเป็นคุณชาย เซียวที่ใครๆได้ยินชื่อก็ต้องหวาดกลัว ตลอดสามปีมาทั้งสอง ไม่เคยมีอะไรกัน เธอต้องทนดูรูปภาพหวานๆของเขากับเมีย น้อยโชว์บนหน้าจอ เธอหัวเราะ “หลงเซียว เราหย่ากันเถอะ” ” เห้อ หย่าเหรอ คุณผู้หญิง คุณคิดว่าผมเป็นอะไร? ” เธอเซ็น ใบหย่าอย่างไม่ลังเล ทิ้งแหวนแต่งงาน ดีมาก! เธอกล้ามาก คอยดูแล้วกันว่าผมจะจับคุณกลับมายังไง!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท