ประธานหยิ่งยโสของฉัน – ตอนที่ 791

ตอนที่ 791

ตอนที่ 791 หม่าม้าไม่โกรธนะคะ ป่าป๊าเป็นคนไม่ดี

หา!!!

จางหย่งถูกลั่วหานบีบบังคับเสียจนสมองของเขาโตขึ้นเป็นสองเท่า เขาค้นหาคำมาพูดว่า “บอสครับ ผมไม่ได้ปกปิดข้อมูลอะไรคุณ ผมพูดเรื่องจริงว่าผมไม่รู้จริงๆครับ”

ให้ตายสิอย่าถามต่อได้ไหม!

ลั่วหานทำสีหน้าเคร่งเครียด น้ำเสียงของเธอเย็นชาและเอ่ยด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า “ฉันและเจ้านายของคุณใครเป็นใหญ่ในบ้าน?”

สมองของจางหย่งทำงานอย่างรวดเร็ว “คือ……”

มองจากภายนอกแล้วเจ้านายของเขาเป็นผู้นำอย่างเผด็จการ แต่คนวงในรู้ดีว่าเจ้านายของเขานั้น เชื่อฟังคำสั่งของภรรยาและ ชื่อเสียงเรื่องการรักภรรยาของเขานั้นดังมากทีเดียว ดังนั้นเพียงแค่คุณนายแกล้งทำเป็นอ่อนแอเจ้านายของพวกเขาก็ใจอ่อนทุกครั้ง

ในตอนท้ายพระเอกก็ต้องยอมแพ้ให้กับความงามของนางเอกอยู่ดี!

“คุณนายเป็น ผู้ตัดสินใจใหญ่สุดครับ”

“ถ้ารู้ก็ดีแล้ว ทำไมถึงยังไม่ยอมบอกความจริงกับฉันอีก อยากให้ฉันไปฟ้องเจ้านายคุณเหรอ คุณจะทนได้หรือเปล่า?” ลั่วหานพยายามบีบบังคับจางหย่งให้ไร้หนทางไป

จางหย่ง “……”

ทำไมเขาต้องเจอเจ้านายอย่างนี้ด้วย คนหนึ่งบอกให้เก็บเป็นความลับอีกคนหนึ่งก็ต้องการจะรู้

อยากจะตายจริงๆ!!!

สุดท้ายแล้วจางหย่งก็ตัดสินใจที่จะพูดออกมา เดิมทีเขาต้องการจะพูดเพียงครึ่งหนึ่ง แต่ก็ไม่สามารถทนต่อการหลอกล่อของลั่วหานได้ เขาจึงพูดออกไปทั้งหมด

เมื่อฟังจบ สีหน้าของลั่วหานก็ซีดเผือด

เมื่อจางหย่งวางสายจากลั่วหาน เขาก็รีบโทรหาหลงเซียวเพื่อรายงานอย่างร้อนรน

จางหย่งกุมหัวใจที่แตกสลายไว้ด้วยน้ำตานองหน้า……

เมื่อหลงเซียวตรวจเช็กอีเมลที่ส่งมาทั้งหมดแล้ว เขาก็เปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อจะไปยังบริษัท ในขณะที่เขากำลังผูกเนกไทอยู่โทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น

“มีเรื่องอะไร?”

จางหย่งได้ยินเสียงของเจ้านายดังนั้นก็รีบคร่ำครวญร้องขอความเมตตาว่า “เจ้านายครับผมขอโทษ!ผมขอโทษจริงๆ!”

หลงเซียวพันนิ้วของเขารอบเนกไทและผูกเป็นปม “มีเรื่องอะไรเหรอ?”

จางหย่งรวบรวมความกล้าแล้วพูดว่า “เมื่อสักครู่นายหญิงโทรศัพท์มาหาผม สติสัมปชัญญะของผมถูกนายหญิงหลอกล่อ ผมไม่ได้ตั้งใจจริงๆนะครับผมสาบานได้……”

หลงเซียวมองไปยังกระจกและผูกเนกไทของเขา “พูดผลสรุปออกมาเลย”

“สรุปก็คือ เรื่องที่เจ้านายรู้นายหญิงก็รู้เช่นกัน……นายครับ ผมผิดไปแล้วผมสมควรตาย!” จางหย่งพูดคล้ายกับว่าเขากำลังจะ เอามีดแทงตัวเองตายเสียอย่างไรอย่างนั้น

หลงเซียวเอามือกุมหน้าผากแล้วพูดว่า “ผมรู้แล้ว”

“เจ้านายไม่โกรธเหรอครับ? ตอนนี้ร่างกายคุณยังอ่อนแออย่าโมโหนะครับ”

เสียงของเขาใกล้จะร้องไห้แล้ว

หลงเซียวขยับเนกไทให้กระชับขึ้น “ฉันควรจะพูดอะไรดี??”

จางหย่งอธิษฐานในใจว่าเจ้านายครับ ได้โปรดอย่าพูดอะไรเลย ผมจะไปนั่งสำนึกผิดด้วยตนเอง

ในขณะที่กำลังโทรศัพท์อยู่นั้น สายของลั่วหานก็แทรกเข้ามา หลงเซียวพูดเพียงว่า “แค่นี้ก่อนนะ” จากนั้นก็สลับไปรับสายของหลงเซียว “ลั่วลั่ว……”

“หลงเซียวคุณนี่……ถ้าฉันไม่พยายามบีบบังคับจางหย่ง คุณตั้งใจจะปกปิดความจริงนี้ไปนานแค่ไหน? คุณพ่อของถังจิ้นเหยียนจะมีชีวิตอยู่หรือจะไปก็ยังไม่รู้ คุณแม่ของเขาเองก็ล้มป่วย ในตอนนี้เขาต้องการความช่วยเหลือจากพวกเรา ทำไมคุณถึงไม่ให้ฉันรู้?”

หลงเซียวกำมือแน่น เนกไทของเขาถูกดึงเสียจนแทบหายใจไม่ออก จากนั้นเขาจึงได้คลายมันลง

“ผมไม่อยากให้คุณต้องกังวล ผมกลัวว่าคุณจะกังวลมากเกินไปหรืออาจจะรีบบินไปอเมริกาแต่สุดท้ายแล้วคุณก็ฉลาดกว่าที่ผมคิดไว้”

ลั่วหานไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี เธอได้แต่ถามหลงเซียวว่า “คุณติดต่อผู้เชี่ยวชาญไว้แล้วใช่ไหม?”

“ครับ ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ทุกคนที่อเมริกาที่ผมสามารถเชิญมาได้ผมก็เชิญมาอยู่ในโรงพยาบาลแล้ว พร้อมรักษาตลอด 24 ชั่วโมง แต่สภาพร่างกายคุณพ่อของถังจิ้นเหยียนค่อนข้างจะสาหัส สถานการณ์ไม่ดีเท่าไหร่นัก”

ลั่วหานเอนกายพิงขอบหน้าต่างด้วยใจสลาย เธอก้มศีรษะลงเลิกคิ้วแล้วพูดว่า “ทำไมมันถึงกะทันหันขนาดนี้?”

“อุบัติเหตุทางรถยนต์เป็นเรื่องที่เราคาดเดาไม่ได้ ชีวิตของเราเปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา และมีสิ่งที่ไม่คาดคิดเข้ามาเสมอ ลั่วลั่ว คุณอย่าร้องไห้อยู่คนเดียวที่โรงพยาบาลได้ไหม เพราะตอนนี้ผมไปกอดคุณไม่ได้”

เพียงแค่เขาได้ยินเสียงของลั่วหานผ่านโทรศัพท์ เขาก็รู้สึกเป็นทุกข์ใจมากแล้ว

ลั่วหานไม่ได้ร้องไห้ แต่เธอรู้สึกปวดร้าวหัวใจ “ฉันไม่อยากทำตัวเป็นเด็กๆค่ะ ตอนนี้ฉันไม่เป็นอะไร ที่นิวยอร์กมีเพื่อนสมัยเรียนของฉันอยู่บ้าง ฉันจะให้พวกเขาลองหาวิธีและช่วยให้พ่อของถังจิ้นเหยียนรอดชีวิต”

หลงเซียวหยิบกระเป๋าเอกสารของเขาและเดินลงบันไดไปชั้นล่าง เขาเห็นป้าหลันกำลังอุ้มชูชูไว้ ชูชูตื่นนอนแล้ว ดวงตาเป็นประกายคู่นั้นของเธอมองมายังพ่อ

“ครับ พวกเรามาร่วมหาทางกันเถอะ”

หลังวางสายลง หลงเซียวก็ก้มศีรษะลงจูบไปที่แก้มของชูชู ทารกน้อยยื่นมือมาหาเขาอย่างมีความสุข

หลงเซียวตื่นเต้นแล้วรีบหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายรูปชูชู

หลังจากนั้นไม่นานโทรศัพท์มือถือของลั่วหานก็ดังขึ้น มีคนส่งข้อความในWeChatมาให้เธอ เป็นข้อความของหลงเซียว

ด้านในเป็นรูปถ่ายแสนน่ารักของชูชู หลังการปรับแต่งรูปของAppได้เติมหูกระต่ายสุดน่ารักเข้าไป อีกทั้งจมูกและหนวดเส้นเล็กนั่น ช่างน่ารักจริงๆ

ที่ก้อนเมฆประดับด้านบนมีข้อความเขียนไว้ว่า “หม่าม้าไม่โกรธนะคะ ป่าป๊าเป็นคนไม่ดี ตีป่าป๊าเลย!”

“ฮ่าๆ!”

ลั่วหานหัวเราะออกมา นี่มัน……เป็นภาพที่หลงเซียวทำขึ้น

มัน…..สุดยอดจริงๆ

ลั่วหานยังไม่ทันได้ตอบกลับ หลงเซียวก็ส่งอีโมจิน่าสงสารกลับมาแล้วพูดว่า “ลูกสาวเราพูดถูกครับ”

ลั่วหานไม่อาจโกรธเขาได้อีกต่อไป หัวใจของเธอเต็มไปด้วยความสุขและความอบอุ่น “เห็นแก่ลูกสาว ฉันจะไว้ชีวิตคุณสักครั้ง ถ้ามีครั้งหน้าอีกละก็ลูกสาวก็ช่วยคุณไม่ได้”

หลงเซียวขึ้นรถหยังเซินสตาร์ทเครื่องยนต์ เมื่อหลงเซียวมองเห็นข้อความตอบกลับมาในประโยคสุดท้าย เขาก็หัวเราะและพิมพ์ตอบกลับไปว่า “ขอขอบคุณเทพธิดาตัวน้อยของผม”

หยังเซินมองเจ้านายของเขาผ่านกระจกมองหลัง เมื่อพบว่าเจ้านายอารมณ์ดีแบบนั้นก็เข้าใจทันทีว่าคงจะกำลังคุยกับนายหญิงอยู่ ถึงได้พูดออกมาอย่างกล้าหาญว่า “เจ้านายครับ ได้ยินมาว่ามีวงออร์เคสตราของอิตาลีมาแสดงที่เมืองหลวง ว่ากันว่าตั๋วนี้หาซื้อได้ยากมาก แต่ผมสามารถได้บัตรเข้าชมมา คุณจะไปไหม?”

“อืม?”

“บัตร 2 ใบ”

“OK!”

ณ เมืองนิวยอร์ก อเมริกา

ถังจิ้นเหยียนหลับตาลงอย่างกังวลใจเวลาผ่านไปอย่างช้าๆไม่มีการเคลื่อนไหวใด แต่เขาก็นั่งอย่างไม่สงบ

เจิ้งซิ่วหยาให้พยาบาลดูแลแม่ของถังจิ้นเหยียนและเข้าไปนั่งเป็นเพื่อนเขาที่ห้องไอซียู เธอมองเขาจากไกลๆตอนนี้ ผ่านไปแค่คืนเดียวแต่สีหน้าของเขาช่างซีดเซียว หัวใจของเธอแทบแตกสลาย

“จิ้นเหยียน ไม่ต้องกลัวนะคะ คุณลุงจะต้องหายแน่ คนดีพระเจ้าคุ้มครอง ลูกศิษย์ของคุณลุงก็บอกแล้วว่าเขาเป็นครูที่ดี ลูกศิษย์ของเขามากมาย เขาจะต้องเป็นที่โปรดปรานของพระเจ้าอย่างแน่นอน”

เจิ้งซิ่วหยากอดเขาและใช้ร่างกายของเธอรับน้ำหนักเขาไว้

ถังจิ้นเหยียนไม่ได้นอนทั้งคืน ดวงตาของเขามีเส้นเลือดสีแดงเต็มไปหมด เขาพิงมาทางเจิ้งซิ่วหยาอย่างไม่สามารถเก็บซ่อนความเสียใจเอาไว้ได้ “ผมยังไม่ได้ตอบแทนคุณเขาเลย”

เจิ้งซิ่วหยาพยายามฝืนยิ้มออกมา เธอตบเข้าที่บ่าของเขาแล้วพูดว่า “ใช่ค่ะ คุณยังไม่ได้แต่งงานมีหลานให้ท่านอุ้มเลย ดังนั้นคุณลุงต้องไม่ให้อภัยคุณแน่ เขายังต้องตื่นขึ้นมาและให้คุณรีบแต่งงาน ให้คุณรีบมีลูกสักสองคน ยังมีเรื่องราวต่างๆอีกมากมายถ้าตอนนี้เขาจะไปสวรรค์ คุณคงจะสบายเกินไปแล้วล่ะ”

วิธีการปลอบโยนของเจิ้งซิ่วหยาค่อนข้างจะพิเศษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับหัวใจของถังจิ้นเหยียนที่กำลังโศกเศร้านั้น ถูกปัดเป่าออกไปไม่น้อย “แม่สาวน้อย ปากของคุณนี่ช่างเก่งจริงๆ”

“ใช่ไหมล่ะคะ คุณลุงถัง คุณแต่งงานกับฉันเป็นเรื่องที่คิดถูกแล้ว!”

เจิ้งซิ่วหยาทำน้ำเสียงออดอ้อน พยายามปัดเป่าความกังวลใจทิ้งไป

หลังจากกอดกันอยู่สักพัก เจิ้งซิ่วหยาก็เห็นคนใส่ชุดสีขาวกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามา “พวกเขาเป็นใครกันคะ?”

“เป็นผู้เชี่ยวชาญที่หลงเซียวเชิญมาให้สแตนบายรอที่นี่”

“เขารู้ได้ยังไงคะ?เอ่อ นี่ไม่ใช่เรื่องสำคัญ ท่านเซียวช่วยเหลือพวกเราเหรอ?”

ถังจิ้นเหยียนเอามือจับหูของเธอแล้วถามว่า “ทำไมครับ ซาบซึ้งใจเหรอ?”

“พูดตามตรงนะคะว่าฉันก็รู้สึกตื้นตันใจมาก ทำไมผู้ชายของฉันถึงได้มีเสน่ห์ขนาดนี้ แม้แต่ท่านเซียวก็ยื่นมือเข้ามาช่วย โอ้โหฉันรักคุณมากขึ้นอีกแล้ว!” เจิ้งซิ่วหยาเขย่งปลายเท้าแล้วเอื้อมมือไปกอดคอของเขา จากนั้นกระโดดจูบเข้าที่ริมฝีปากของเขา

ถังจิ้นเหยียน “……”

เจ้าเด็กคนนี้จริงๆเลย!

แสงไฟในห้องไอซียูถูกเปิดขึ้น ทั้งสองคนมองไปตามแสงอย่างไม่ได้นัดหมาย เมื่อประตูถูกเปิดออกหัวหน้าแพทย์ผ่าตัดก็เดินออกมา คุณหมอผมสีทองนัยน์ตาสีฟ้าถอดหน้ากากออก

“มิสเตอร์ถัง คุณต้องทำใจไว้นะ”

เมื่อได้ยินคำนี้ก็ไม่ต้องพูดประโยคอื่นอีกต่อไป พวกเขาล้วนเป็นแพทย์เหมือนกัน เขารู้ดีว่าคำพูดของแพทย์แต่ละคำหมายความว่าอย่างไร

ถังจิ้นเหยียนเดินเซไปสองสามก้าว ดวงตาของเขาเศร้าโศก “ขอบคุณครับ!”

ถังจงรุ่ยถูกเข็นออกมาจากห้อง ICU เขาสวมหน้ากากออกซิเจนอยู่ บนร่างกายของเขามีเข็มมากมาย สัญญาณชีพจรของเขาอ่อนแอมาก

เมื่อมองเห็นผู้เป็นพ่อเช่นนี้ ถังจิ้นเหยียนก็พูดออกมาด้วยความเศร้าใจว่า “พ่อครับ……”

คำว่าพ่อที่เขาพูดออกมานั้นเสียงแหบแห้งและดูสิ้นหวัง

เจิ้งซิ่วหยาเองก็รู้สึกเจ็บปวด “พ่อคะ……”เธอเรียกพ่อตามถังจิ้นเหยียน

ถังจิ้นเหยียนไม่ได้ใส่ใจอะไรมากเขาเดินไปที่ห้องพร้อมกัน

——

ณ โรงพยาบาลหวาเซี่ย

หลินซีเหวินบิดขี้เกียจแล้วพูดว่า “ฉันชื่นชมตัวเองจริงๆ การผ่าตัดในวันนี้ประสบความสำเร็จอย่างมาก ฮ่าๆๆ!!!”

เธอหัวเราะและเดินไปอวดลั่วหาน แต่กลับพบว่าสายตาของลั่วหานนั้นกำลังจ้องไปที่หน้าคอมพิวเตอร์อย่างเคร่งขรึมและไม่ได้รู้ตัวว่ามีใครเดินเข้ามาด้วยซ้ำ เธอเดินไปด้วยความหงุดหงิดและมองไปที่หน้าจอด้านหลัง

ถังจงรุ่ย ศาสตราจารย์ชาวอเมริกันเชื้อสายจีนประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่นอกโรงเรียน ตอนนี้อาการโคม่า

ถังจงรุ่ย?

พ่อของคุณหมอถัง?

หลินซีเหวินมองตามลูกศรที่ลั่วหานเลื่อนลงไป เธอเองก็ตกตะลึงอ้าปากค้าง สมองได้รับความกระทบกระเทือนเลือดคลั่งในสมอง ช่องทางเดินหายใจแตก……

ศัพท์ทางการแพทย์เหล่านี้ช่างสะดุดตาและบอกให้เธอรู้ว่านี่ ไม่ใช่สถานการณ์ที่ดีนัก

ภายใต้คอมเม้นมีนักเรียนของถังจงรุ่ยจำนวนมาก รู้สึกคับแค้นจากการที่ศาสตราจารย์ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ พวกเขาต้องการสืบหาความจริง เนื่องจากคิดว่าศาสตราจารย์ถูกทำร้ายโดยเจตนา

บางคนก็บอกว่าพวกเขาคิดมากเกินไป คนขับรถบรรทุกไม่ได้หลบหนี แต่เนื่องจากมิอาจชดใช้เงินให้ได้จึงเข้าคุกไปแล้ว

ด้านล่างมีคนนำประวัติด้านการสอนและผลงานทางวิชาการของถังจงรุ่ยในช่วงหลายปีที่ผ่านมาแชร์ไว้ เขาได้รับเลือกให้เป็นศาสตราจารย์ดีเด่นเป็นเวลาหลายปีติดต่อกัน เขาเป็นคนถ่อมตัวและมีผลงานทางวิชาการมากมาย เรียกได้ว่าเขาเป็นอาจารย์ต้นแบบ

ว่ากันว่า หากไม่มีเรื่องร้ายแรงเกิดขึ้นก็คงไม่มีชื่อเสียง ถังจงรุ่ยได้อุทิศตนเพื่อสิ่งต่างๆมากมาย

“พระเจ้า! คนดีแบบนี้ทำไมถึงเกิดอุบัติเหตุขึ้นกันได้นะ?”

หลินซีเหวินตื่นตระหนก เธอจึงตะโกนออกมา

ลั่วหานตกใจเสียจนสะดุ้ง “เจ้าเด็กนี่ทำอะไรกันเนี่ย?”

“มันน่าโมโหจริงๆนี่ ทำไมคนดีมักโชคร้าย หมอถังเป็นคนดีขนาดนี้ พ่อของเขาก็ต้องเป็นคนดีมากแน่นอน!ฉันยังไม่เคยได้รู้จักกับเขาเลย”

ลั่วหานปล่อยมือออกจากเมาส์แล้วพูดว่า “อยากรู้จักเขาไหม? บินไปอเมริกาตอนนี้สิ ฉันจะให้เบิกค่าเครื่องบินไปกลับรวมทั้งค่าที่พักและวันหยุด 1 สัปดาห์จะไปไหม?”

หลินซีเหวินคิดไม่ถึงว่าเธอจะมีท่าทางตอบสนองแบบนี้ “เอ่อ คือว่า……อย่าตื่นเต้นไปสิคะ ใจเย็นๆฉันเพียงแค่ใจร้อนไปเท่านั้น คนไข้เยอะแยะมากมายที่ต้องดูแล จะให้ฉันไปยังไงล่ะ?ตอนนี้คุณหมอถังก็ไม่อยู่ คุณเองก็เพิ่งจะคลอดลูก ฉันอยู่ที่นี่ต่อดีกว่า”

ลั่วหานถอนหายใจออกมาแล้วพูดว่า “ถังจิ้นเหยียนจะต้องทุกข์ใจมากแน่ๆ”

ใช่แล้ว ทุกข์ใจมาก

หลินซีเหวินเลื่อนเมาส์ลงไปด้านล่าง “นี่! ทำไมพวกนักเรียนของเขาถึงวิพากษ์วิจารณ์กันว่าคนขับรถไม่ใช่ฆาตกรตัวจริงล่ะ? ไม่หรอกมั้ง คนขับรถเขาก็ออกมายอมรับแล้ว”

ที่จริงลั่วหานเองก็ไม่อาจแน่ใจได้ แม้จะเชื่อมโยงเรื่องราวที่ผ่านมาเข้าด้วยกัน ลั่วหานก็ไม่รู้ว่าถังจงรุ่ยเป็นคนอย่างไร

“บางทีนักเรียนของเขาอาจจะไม่อยากเสียเขาไป จึงยอมรับไม่ได้ เลยใช้หัวข้อนี้เพื่อเป็นประเด็นถกเถียง”

หลินซีเหวินยังอยู่ในอารมณ์โกรธ หลังจากที่เธอดูคอมเม้นต่างๆแล้วก็ยากที่จะสงบสติอารมณ์ลง “ให้ตายสิ! อาจเป็นไปได้ว่าคู่แข่งของเขาจงใจจะทำร้ายเขา ดูตรงนี้สิที่มหาวิทยาลัยกำลังจะเปลี่ยนคณบดี ตายๆๆ! ถ้ามีใครจงใจทำร้ายถังจงรุ่ยจริงๆละก็ ฉันจะหักคอมันให้ดู!”

ประธานหยิ่งยโสของฉัน

ประธานหยิ่งยโสของฉัน

Status: Ongoing

คุณหลง อย่าหยิ่งยโสเกินไป / ประธานหยิ่งยโสของฉัน หมออายุรศาสตร์มือหนึ่งฉู่ ลั่วหาน แต่งงานมาสามปีแล้ว กลับ ไม่มีใครสักคนรู้ว่าสามีเธอเป็นคุณชายใหญ่ของตระกูลหลง ตระกูลร่ำรวยอันดับแรกของเมืองเจียงตู ซึ่งเป็นคุณชาย เซียวที่ใครๆได้ยินชื่อก็ต้องหวาดกลัว ตลอดสามปีมาทั้งสอง ไม่เคยมีอะไรกัน เธอต้องทนดูรูปภาพหวานๆของเขากับเมีย น้อยโชว์บนหน้าจอ เธอหัวเราะ “หลงเซียว เราหย่ากันเถอะ” ” เห้อ หย่าเหรอ คุณผู้หญิง คุณคิดว่าผมเป็นอะไร? ” เธอเซ็น ใบหย่าอย่างไม่ลังเล ทิ้งแหวนแต่งงาน ดีมาก! เธอกล้ามาก คอยดูแล้วกันว่าผมจะจับคุณกลับมายังไง!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท