ตอนที่ 788 คุณแม่น้องชูชู กลับบ้านกันครับ
ตู้หลิงเซวียนไตร่ตรองแล้วพูดออกมาว่า “แต่แอนน่าอาจฟังอะไรผิดไป ผมบอกว่าจะให้1%แก่เธอ ที่โครงการชานเมืองหลวงผมได้ลงทุนไปสามหมื่นล้านหยวน ชูเฉินนับว่าเป็นผู้ถือหุ้นส่วนของผม เธอจะมีหุ้นทั้งสิ้นสามร้อยล้าน”
ตู้หลิงเซวียนกัดฟันและยอมถอยหลังให้ แต่เขาก็ไม่ยอมเสียเปรียบมากเกินไป
เงินตั้งสามหมื่นล้านหยวนมันมากเกินไป อีกอย่างลั่วหานก็ช่างเจ้าเล่ห์ เขาทำได้เพียงยอมสละเงินสามร้อยล้านอย่างเสียไม่ได้
สามร้อยล้านก็มากเกินพอแล้ว
ชูชูหม่ามี๊รักหนูจริงๆ มีเงินทองมากมายขนาดนี้ตั้งแต่อายุยังน้อย
มือข้างหนึ่งของหลงเซียวใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกง เขามองไปที่ลั่วหานแล้วแอบยิ้ม คิดไม่ถึงว่าเธอจะรวดเร็วกว่าเขาเสียอีก
แต่ว่าหลงเซียวก็ตกตะลึงเล็กน้อย ภรรยาของเขาใช้ลูกสาวเพื่อฉ้อโกงเงิน เธอช่างสุดยอดจริงๆ!
ลั่วหานขยิบตาซ้ายแล้วกระแอมออกมา
ผ่านไปกว่าสิบนาที งานเลี้ยงก็เริ่มขึ้น แต่ตู้หลิงเซวียนยังไม่ทันได้กินอะไรเขาก็มีทีท่าว่าเดินจะออกไป
หลงถิงก็เจอกับสถานการณ์เช่นเดียวกัน เขาจากไปตั้งนานแล้ว ก่อนที่จะออกไปเขาตะคอกออกมาว่า “หลงจื๋อ!ไปขับรถ”
หลงจื๋อลังเลเพราะเขายังไม่อยากจากไป เขายังไม่ได้ร่วมสนุกเลย แต่ก็จำเป็นจะต้องฟังคำพูดของพ่อ ก่อนเขาจะไปได้พูดกับลั่วหานว่า “พี่สะใภ้ครับ พรุ่งนี้ผมจะไปที่บ้านพี่นะ ผมอยากจะอุ้มชูชู! มู่ชูเฉินชื่อนี้เป็นชื่อที่ดีจริงๆ ผมชอบ! มู่น่าฟังกว่าหลงเยอะเลยจริงๆนะครับ”
ลั่วหานกระซิบบอกว่า “ยังไม่ไปอีกเหรอ เดี๋ยวกลับบ้านก็โดนคุณพ่อใช้เข็มขัดตีหรอก!”
“ไปครับ ไปแล้ว ค่อยพบกันใหม่นะพี่”
เรื่องราวในวันนี้ที่พี่ใหญ่ของเขาได้ทำ นับว่าจัดการกับเรื่องราวต่างๆหลายเรื่องได้เป็นอย่างดี ตัวเขาเองรู้สึกภาคภูมิใจกว่าคนที่กระทำอีกด้วยซ้ำ
องครักษ์ของเจมส์ ส่งข้อความกลับไปว่า “เจ้าชายครับ มิสแอนน่าเก่งมากจริงๆ ผมส่งคลิปวิดีโอไปให้แล้ว ขอเชิญดูได้”
เกาจิ่งอานยกแก้วไวน์ขึ้นจากนั้นโค้งเอวเป็นมุม90องศา พูดว่า “พี่ครับ พี่นี่สุดยอดจริงๆ เก่งมาก!เก่งมาก! พี่ยอมรับตระกูลมู่ และกดดันหลงถิง อีกทั้งยังหาที่พึ่งให้กับบริษัทฉู่ซื่อ แล้วยังจัดการกับตู้หลิงเซวียนอีกด้วย ให้ตายสิ! ผมอยากจะเรียนรู้เคล็ดลับแบบนี้จัง”
หลงเซียวไม่ได้ดื่มไวน์ แต่เขาก็ยื่นแก้วไปชนกับเกาจิ่งอานแล้วพูดว่า “เคล็ดลับแบบนี้แกอย่าเรียนดีกว่า”
“ทำไมครับ?”
“เพราะว่าฉันไม่อยากให้แกต้องเอามันไปใช้” หลงเซียวเผยอยิ้ม
เกาจิ่งอาน “……”
ตอนนี้เขามีความสุขมาก เมื่อไม่กี่นาทีก่อนพี่ชายคนโตของเขาจัดการกับหลงถิงอย่างดุเดือด แต่อีกไม่กี่วินาทีต่อมาก็กลับกลายเป็นพี่ชายที่แสนอบอุ่นของเขา ช่างน่าประทับใจและน่าชื่นชม
“ตื๊ด ตื๊ด” เสียงโทรศัพท์มือถือของลั่วหานดังขึ้น
ลั่วหานหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูพบว่าเป็นสายจากส้งชิงเซวี๋ยน เธอกำลังจะโทรหาเขาอยู่พอดี
“คุณลุงส้ง ทำไมไม่มาล่ะคะ?”
ส้งชิงเซวี๋ยนเพิ่งเดินออกมาจากห้องICU ที่หน้าผากของเขายังมีเม็ดเหงื่อซึม “ไม่ต้องพูดแล้ว แม่ของอานอานมาน่ะ ชื่อว่าจ้าวฟางฟาง เธอให้อานอานกินยานอนหลับ เกือบจะทำให้เด็กตายแล้ว ผมพยายามสุดชีวิตถึงได้ช่วยให้รอดมาได้ ไม่เข้าใจเลยจริงๆ เธอทำเป็นร้องไห้อยากให้ผมช่วยแต่ก็กลับทำร้ายลูกตัวเอง โรคจิต!”
ลั่วหานดึงชายเสื้อของหลงเซียวและส่งสัญญาณทางสายตาว่าอาจจะกำลังเกิดเรื่องขึ้น
หลงเซียวขมวดคิ้วแล้วฟังต่อไป
“จ้าวฟางฟางเธอฆ่าตัวตายหรือเปล่า?”
ส้งชิงเซวี๋ยนถุยน้ำลายแล้วพูดว่า “ผู้หญิงบ้านั่นอยากจะรอให้อานอานตายก่อนแล้วค่อยฆ่าตัวตายตาม ดีที่ผมเข้าไปพบก่อน นังผู้หญิงโรคจิตนั่นนั่งร้องไห้อยู่ในห้องผู้ป่วย เดี๋ยวจะเอาให้ฟังนะ”
จริงดังว่า เสียงจากในสายได้ยินจ้าวฟางฟางร้องไห้ออกมาพูดว่า “อานอาน แม่ขอโทษ! แม่ปกป้องลูกไม่ได้ อย่าโทษแม่ อย่าเกลียดแม่เลย!”
ปกป้องไม่ได้อย่างนั้นเหรอ?หรือว่าตระกูลเสิ่นจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น?
ส้งชิงเซวี๋ยนเอามือข้างหนึ่งปิดหูแล้วพูดว่า “เป็นแม่คนเหมือนกันแท้ๆ แต่ความแตกต่างมากมายจริงๆ เอาล่ะไม่พูดแล้ว งานเลี้ยงครบรอบ 1 เดือนของชูชูเป็นยังไงบ้างครึกครื้นไหม?”
ลั่วหานพูดอย่างภูมิใจว่า “คุณเดาดูสิคะ”
“เอาเถอะๆ อย่าให้ลุงต้องเดาเลย เดาไม่ถูกหรอก พูดออกมาเถอะ เมื่อสักครู่ถูกจ้าวฟางฟางทำให้ปวดร้าวไปทั้งร่างกายแล้ว”
ร้ายแรงขนาดนั้นเชียว?
“จะให้พูดในโทรศัพท์ก็คงอธิบายไม่หมดหรอกค่ะ รอดูข่าวก็แล้วกัน น่าจะมีคลิปวิดีโอด้วย เมื่อดูจบก็จะเข้าใจเอง อ้อ คุณรู้ไหมคะว่าถังจิ้นเหยียนไปไหน วันนี้เขาไม่ได้มา”
ส้งชิงเซวี๋ยนเดินไปยังSmoking area จากนั้นนั่งลงที่บันได เขาหยิบบุหรี่หนึ่งตัวขึ้นมาสูบ “ถังจิ้นเหยียนเหรอ ผมก็ไม่รู้เหมือนกันนะ เมื่อวานตอนเลิกงานเขาก็ออกไปเลย ท่าทางดูรีบมาก ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือเปล่า”
หลังจากลั่วหานวางสายลง เธอก็ต่อสายไปยังถังจิ้นเหยียน แต่ว่าปลายสายกลับปิดเครื่อง
ลั่วหานพูดอย่างเป็นกังวลว่า “คุณคะ ฉันติดต่อถังจิ้นเหยียนไม่ได้ ฉันรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติไป”
หลงเซียวก็รู้สึกเช่นนั้น “ลองโทรหาเจิ้งซิ่วหยาดูสิครับ”
ลั่วหานโทรศัพท์ไปหาเจิ้งซิ่วหยา แต่ว่าก็ไม่มีคนรับสาย
“โทรไม่ติดค่ะ เกิดเรื่องอะไรขึ้นจริงหรือเปล่า” ลั่วหานกัดฟันแล้วพูดออกมา เธอกำโทรศัพท์ไว้ในมือด้วยท่าทางกังวลใจ
เมื่อหลงเซียวเห็นว่าเธอกำลังร้อนรน จึงเอื้อมมือไปโอบที่บ่าของเธอเพื่อให้เธอสบายใจขึ้น “ไม่ต้องรีบร้อนไป พวกเขาโตๆกันแล้วดูแลตัวเองได้ อีกอย่างเจิ้งซิ่วหยาก็เป็นตำรวจ ตำรวจมักระมัดระวังตัวมากกว่าคนทั่วไปเสมอ”
แม้ว่าจะพูดอย่างนี้ แต่หัวใจของลั่วหานก็ยังเต้นรัว “ตามปกติแล้วถังจิ้นเหยียนจะไม่ปิดเครื่องนะคะ เนื่องจากมีผู้ป่วยมากมายมักจะโทรหาเขาตลอด อีกอย่างเจิ้งซิ่วหยาเป็นตำรวจ เธอยิ่งไม่น่าจะปิดเครื่อง”
หลงเซียวเอื้อมมือไปคลายคิ้วที่จรดกันตรงหน้าผากของเธอพูดว่า “คุณนายมู่ครับ ช่วยจัดการเรื่องในบ้านของตัวเองให้เรียบร้อยก่อนได้ไหมครับ?”
ลั่วหานถอนหายใจออกมาแล้วพูดว่า “ก็ได้ค่ะ เสร็จธุระแล้วฉันจะลองโทรใหม่”
หลงเซียวกอดลั่วหาน จากนั้นก็ส่งข้อความไปหาจางหย่งว่า “เช็คการเดินทางของถังจิ้นเหยียนและเจิ้งซิ่วหยา”
จางหย่งกำลังนั่งกินขนมและยกเท้าข้างหนึ่งมาพาดที่หน้าขา มองดูคลิปวิดีโอของเจ้านาย เมื่อเขาได้รับหน้าที่ใหม่ก็รีบลุกขึ้นแล้วพูดว่า “รับทราบ ผมจะไปสืบเดี๋ยวนี้ครับ!”
ลั่วหานนำมือลูบหน้าผากของเธอแล้วพูดว่า “เอ่อ เดี๋ยวฉันจะไปทักทายคนของเจมส์ก่อนนะคะ ให้พวกเขากลับไปเสียก่อน”
หลงเซียวไม่ไว้วางใจจึงบอกว่า “ผมไปด้วย”
“ก็ดีค่ะ”
เมื่อทั้งสองคนเดินเข้าไปทักทาย ชายชุดดำก็เอ่ยมาอย่างสุภาพบุรุษว่า “มิสแอนน่า มิสเตอร์หลง”
ลั่วหานเอ่ยทักทายตามมารยาทว่า พวกเขาพอใจกับอาหารเครื่องดื่มหรือไม่ พวกเขาพักที่ไหนจะให้คนขับรถไปส่งหรือเปล่า
ฝ่ายตรงข้ามตอบกลับมาอย่างสุภาพ
หลังจากทักทายกันเรียบร้อยแล้ว ชายผู้นั้นก็พูดขึ้นว่า “แอนน่าครับ ไม่ทราบว่าฟู้กุ้ยอาศัยอยู่ที่บ้านของคุณเป็นยังไงบ้าง?”
เอิ่ม……
ฟู้กุ้ยเหรอ……
“มันสบายดีค่ะ แล้วก็ปรับตัวได้ดีมาก กินจนอ้วนขึ้นไม่น้อยเลย” เมื่อเลี้ยงนานวันเข้าก็รู้สึกไม่น่ากลัวเหมือนสิงโตสักเท่าไหร่ แต่ยังน่ารักอีกด้วย”
และที่สำคัญชูชูชอบฟู้กุ้ยมาก เมื่อเห็นทีไรเธอก็จะหัวเราะออกมา”
“ถ้าอย่างนั้นก็ดีแล้วครับ พวกเราไม่มีธุระอะไรต่อแล้ว ขอแสดงความยินดีกับมิสแอนน่าด้วย พวกผมขอตัวก่อนนะครับ”
พวกเขาจะไปกันง่ายๆอย่างนี้เหรอ?
“ค่ะ”
“แล้วพบกันใหม่” ชายคนนั้นเอ่ยออกมาอย่างมีเลศนัย
แล้วพบกันใหม่เหรอ?อย่าเลย! ทางที่ดีอย่าได้เจอกันอีก!
ลู่ซวงซวงกระโดดโลดเต้นมาแล้วพูดว่า “ที่รักคะ วันนี้พวกคุณสองคนสุดยอดมากจริงๆ ได้รับกำไรไม่น้อยเลยนี่!”
สามร้อยล้านยังไม่รวมของขวัญ
ลั่วหานกล่าวอย่างโอ้อวดว่า “ก็พอได้ ที่จริงฉันต้องการมากกว่านี้”
30กับ3 ตัวเลขต่างกันมากจริงๆ ต่างกันถึง 10 เท่าเชียว!
“หึๆ ยังไม่มากอีกเหรอ?นี่สินะมหาเศรษฐี!”
โทรศัพท์ของหวาเทียนดังขึ้น “ครับ รับทราบ แล้วผมจะกลับไปเดี๋ยวนี้”
หลังวางสายลงหวาเทียนก็เอ่ยว่า “มีคนไข้ขั้นวิกฤติ ผมต้องกลับไปโรงพยาบาลก่อน”
“ฉันไปด้วยค่ะ” ลู่ซวงซวงเดินเข้ามาควงแขนหวาเทียนอย่างเหนียวแน่นราวกับจะเป็นเนื้อเดียวกันกับเขา
แล้วทั้งสองก็เดินทางจากไป
เกาจิ่งอานยื่นหน้าเข้ามาพูดว่า “พี่ครับ พี่สะใภ้ครับ พวกเขาไปกันหมดแล้ว ผมขออุ้มชูชูหน่อยได้ไหม?”
เมื่อพูดเรื่องเจ้าตัวเล็ก ป้าหลันก็โทรศัพท์เข้ามา ลั่วหานรีบรับสายแล้วถามว่า “มีอะไรหรือเปล่าคะ?”
ปรากฏเสียงทารกร้องดังมาจากในสาย “คุณหญิงคะตอนนี้ คุณหนูง่วงแล้วแต่ดิฉันกล่อมไม่หลับ คุณหญิงจะมาดูหน่อยไหม
คะ?”
หลงเซียวมองดูนาฬิกาข้อมือแล้วพูดว่า “อาจเป็นเพราะออกมาอยู่ข้างนอกนานเกินไป ในส่วนของงานเลี้ยงผมจะให้อาหมิงและแอนดี้จัดการต่อ ผมจะกลับไปกับคุณ”
เกาจิ่งอานที่อยู่ด้านหลังตะโกนออกมาว่า “ไม่เอานะ จะจบแล้วเหรอ ไม่เอานะ!”
เมื่อกลับเข้ามาด้านใน ลั่วหานก็รับเจ้าหญิงน้อยเข้ามากอด เมื่อเจ้าตัวเล็กรู้สึกถึงความอบอุ่นของแม่ เธอก็อ้าปากหาวและหยุดร้องทันที
ลั่วหานตบที่ก้นของเธอเบาๆเพื่อกล่อมเธอนอนแล้วถามว่า “ดื่มนมหรือยังคะ?”
ป้าหลันยื่นขวดนมไปให้เธอแล้วพูดว่า “ดื่มแล้วค่ะดื่มแล้ว ดื่มไปตั้ง 60 ml. คุณหนูชอบดื่มนมยี่ห้อนี้มาก”
หลงเซียวมองไปที่ยี่ห้อของนมผง อืม……ถ้าอย่างนั้นก็ทำสัญญาระยะยาวกับบริษัทนี้แล้วกัน
ในไม่ช้าเจ้าตัวน้อยก็นอนหลับ ลั่วหานก้มลงมองดูปากน้อยๆน่ารักของเธอที่พ่นฟองน้ำลายออกมา
หลงเซียวกลัวว่าเธอจะเมื่อย จึงเอื้อมมือไปทำท่ารับลูกแล้วพูดว่า “ให้ผมอุ้มเถอะ”
“อย่าเลยค่ะ คุณช่วยฉันถือกระเป๋าก็พอ ถ้าเปลี่ยนเป็นคนอื่นอุ้มเดี๋ยวกลัวว่าเธอจะตื่น”
หลงเซียวไม่พูดอะไรต่อ เขายื่นมือไปรับกระเป๋าจากลั่วหานแล้วโอบที่บ่าเธอ
เมื่อเดินไปถึงประตูข้าง หยังเซินก็เปิดประตูรถรอเอาไว้แล้ว
ลั่วหานพูดว่า “คุณจะไปที่บริษัทไหมคะ?วันนี้เป็นวันทำการที่บริษัทน่าจะยุ่งมาก”
หลงเซียวนำกระเป๋าของหลงเซียววางไว้ที่เบาะหลัง
ลั่วหานค่อยๆวางทารกน้อยลงไปบนเปล หลงเซียวประคองเปลที่ติดตั้งไว้ในรถ
จากนั้นพูดว่า “ไม่เป็นไรครับ ไป๋เวย……”
เดี๋ยวก่อนนะ!ไป๋เวย คุณชายกู้!
ทำไมพวกเขาถึงยังไม่กลับมา?
“เดี๋ยว!คุณชายหลง คุณชายหลงรอก่อนครับ รอก่อน!”
เมื่อพูดถึงกู้เยนเซิน ก็พบว่ามีสองคนกำลังวิ่งมาจากด้านหลัง กู้เยนเซินโบกมือแล้ววิ่งมาอย่างรวดเร็ว ภายในมือของเขาถือกล่องของขวัญมาด้วย
หลงเซียวขมวดคิ้ว “คุณชายกู้?”
“พระเจ้า!ให้ตายสิ เครื่องบินดีเลย์น่ะ ที่อเมริกาฝนตกหนักมากเครื่องบินจึงต้องลงจอดระหว่างทาง ผมไม่ได้ตั้งใจจริงๆนะ ผมรีบมาที่สุดแล้วแต่ก็ยังไม่ทัน”
ไป๋เวยรีบวิ่งตามมา เธอเหนื่อยหอบแล้วพูดว่า “ขอโทษค่ะท่านประธาน พวกเรามาสาย”
กู้เยนเซินผมเผ้ายุ่งเหยิง ชุดสูทของเขาไม่เป็นระเบียบ มองไปช่างน่าสงสาร อีกทั้งกล่องของขวัญก็ถูกบีบอัดจนไม่เป็นรูป
“นี่ของขวัญค่ะ มอบให้ชูชู”
ลั่วหานเอื้อมมือไปรับของขวัญมา “ขอบคุณมากนะคะคุณชายกู้ แค่คุณเดินทางมาก็พอแล้ว ตอนนี้งานเลี้ยงยังไม่จบ พวกคุณเข้าไปกินข้าวกินปลากันก่อนนะคะ”
กู้เยนเซินแทรกตัวเข้ามาในรถแล้วพูดว่า “เดี๋ยวก่อนสิครับ ผมขอดูเจ้าตัวน้อยก่อน”
หลงเซียวผลักหัวเขาออกไปแล้วพูดว่า “เธอหลับแล้ว อย่ามารบกวนนะ!”
“นี่ผมอุตส่าห์บินมาตั้งไกล ไม่ให้ผมดูสักหน่อยเหรอ? ก็ขอโทษไปแล้วไงฮือๆ” เขาช่างน่าสงสารจริงๆ
หลงเซียวตอบกลับว่า “คุณมาสาย ถูกยึดสิทธิพิเศษนั้น อีกอย่างในเมื่อรู้ตัวว่าทำผิดก็ควรจะถูกหักวันพักผ่อน กลับมาทำงานซะ”
คุณชายกู้ “……”
ไป๋เวย “……”
“ก็พวกคุณทั้งสองคนกลับมาได้จังหวะพอดี อีกหนึ่งชั่วโมงจะมีการประชุมฝ่ายพัฒนา ช่วยเป็นหัวหน้าการประชุมให้ผมที” หลงเซียวกำชับหน้าที่ให้กับกู้เยนเซินหน้าตาเฉย
ลั่วหานอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาแล้วพูดว่า “คุณชายกู้คะลำบากหน่อยนะ ในวันนี้ค่อนข้างพิเศษ วันหลังเราจะเชิญคุณมาร่วมรับประทานอาหารด้วย”
“ไม่เอาน่า ให้ผมไปจัดการประชุมแล้วคุณล่ะ?”
เขานั่งเครื่องบินมาสิบกว่าชั่วโมง ระยะทางไกลแสนไกลอีกทั้งยังถูกจอดพักระหว่างทาง สิ่งเหล่านี้ทำให้เขารู้สึกอึดอัดใจมากพอแล้ว อากาศไม่ดีเป็นความผิดของเขาเหรอ?
หลงเซียวเอื้อมมือไปตบเข้าที่บ่าของกู้เยนเซินแล้วพูดว่า “ผมจะพาลูกและภรรยากลับบ้าน”
ไป๋เวย “……”
เธอเดินทางมาไกลแสนไกลอย่างลำบาก ไม่ให้กินข้าวก็ยังพอไหว แต่กลับมาหวานชื่นกันต่อหน้าต่อตาแบบนี้!
กู้เยนเซินพูดว่า “คุณชายหลง พวกเราตัดเพื่อนกันไหม?”
หลงเซียวยิ้มแล้วพูดว่า “ตัดเพื่อนกันก็ได้แต่หนี้ทั้งหมดจะถูกหักล้าง”
“เออ……ไม่ๆๆ พวกเราเป็นเพื่อนกันแหละดีแล้ว เพื่อนกันตลอดไปนับหมื่นปี!”
หนี้อย่างนั้นเหรอ ทรัพย์สมบัติของเขาทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ในบริษัทฉู่ซื่อแล้ว
หลงเซียวปิดประตูรถแล้วกำชับกับหยังเซินว่า “กลับบ้าน” มือเขาประคองไปที่เปลของทารกและยิ้มอย่างผยอง
“คุณแม่น้องชูชู พวกเรากลับบ้านกันเถอะ”
หลงเซียวยิ้มแล้วพูดว่า “ค่ะ เรากลับบ้านกัน!”
ผม เธอและสมาชิกใหม่ตัวน้อย พวกเรากลับบ้านกัน!