ตอนที่ 832 ลูกสาวโตแล้วก็ต้องแต่งงาน ไม่ควรอยู่บ้าน
เจิ้งซิ่วหยานั่งลงแล้วจิบน้ำไปหนึ่งคำ ดวงตาที่กลมๆ จ้องมองไปที่จวงหยู่ “คุณกลัวความตายหรือเปล่า?”
จวงหยู่อยากจะกลืนน้ำลายลง แต่คอของเขาแห้งจนแทบจะมีควันไฟออกมา “มี……มีอะไรเหรอ? คุณอยากให้ผมไป? ”
“ฉันกำลังคิดว่าจะลองดีกับเหลียงหยู้คุนสักหน่อย ฉันอยากจะรู้จริงๆ ว่าเขาเป็นตัวอะไรกันแน่! ”
จวงหยู่เอามือสองข้างกุมหัวไว้ แล้วถูไปที่รากผมอย่างแรง “ขอฉันคิดหน่อย … ขอฉันคิดหน่อย”
“คิดบ้าไรกัน! เป็นลูกผู้ชายหรือเปล่า? เป็นตำรวจหรือเปล่า? ” เจิ้งซิ่วหยาเคาะโต๊ะดัง “ตู้มตู้มตู้ม”
จวงหยู่กลอกตาด้วยท่าทีขมขื่นและน่าสงสาร “คุณนายของผมครับ ผมมีคนแก่และมีลูกต้องดูแล คุณต้องให้ผมพิจารณาดูก่อนสิครับ ”
“ใจเสาะ! คำเดียวเลย ทำหรือไม่ทำ! ”
จวงหยู่ยืดอกยกไหล่ “ทำครับ!”
วันรุ่งขึ้น แสงแดดยามเช้าส่องแสงจ้า
ลั่วหานถูกปลุกด้วยเสียงโทรศัพท์ เธอเลื่อนโทรศัพท์และรับโทรศัพท์ขึ้นมาอย่างมึนๆ ลั่วหานง่วงจนไม่สามารถลืมตาได้ เธอรับโทรศัพท์อย่างอู้อี้ “ใครคะ? ”
“พี่สะใภ้ครับผมเอง! พี่ชายของผมอยู่ไหนครับ? โทรศัพท์ของพี่ชายโทรไม่ติดครับ คุณเอาโทรศัพท์ให้พี่ชายผมหน่อย! ”
อีกฝั่งหนึ่งของสายเป็นหลงจื๋อที่กำลังเร่งรีบอย่างร้อนรน
ลั่วหานลืมตาขึ้นมา หลงเซียวไม่ได้อยู่ข้างๆ ตัวเธอแล้ว”มีเรื่องอะไรเหรอ? นายพูดมาก่อน”
“ผู้ช่วยของคุณพ่อของผมถูกตำรวจจับตัวไปแล้วครับ ผมเพิ่งทราบข่าวว่าเขาถูกจับที่บ้านเลยครับ พวกเฉินเจาลงมือที่บ้านของเขาเลย”
ลั่วหานขมวดคิ้ว “อ๋อ เหตุผลอะไรล่ะ? ”
“คุณนายหลัวก็ถูกจับกุมเช่นกัน โดยให้เหตุผลว่ามีเงินจำนวนหนึ่งในบัญชีของเธอที่เหลียงจ้งซุนเป็นคนให้ครับ” หลงจื๋อกำลังรีบเดินลงไปชั้นล่าง เสียวเดินบนบันไดดัง “ตักๆๆ”
ลั่วหานยิ้มมุมปาก “คุณสงสัยว่ามันจะเกี่ยวข้องกับพ่อของคุณใช่ไหม ถึงยังไงก็ตามเหลียงจ้งซุนเป็นผู้ช่วยของพ่อของคุณ”
ไม่รู้ว่าหลงเจ๋อไปเตะโดนอะไร มีเสียง “ตู้มต้าม” ดังขึ้น “ผมไม่กลัวว่ามันจะเกี่ยวข้องกับคุณพ่อครับ ผมกลัวว่าพ่อจะเสียสละเหลียงจ้งซุนไปเพื่อปกป้องสิ่งสำคัญกว่า ลุงเหลียงจงรักภักดีต่อคุณพ่ออย่างมาก เขาเป็นคนดีผมไม่อยากให้เขาตายครับ”
“ไม่ถึงกับตายหรอกมั้ง? นายอย่าเพิ่งใจร้อน ฉันจะไปหาพี่ชายของนาย”
ลั่วหานเปิดผ้าห่มออกและลุกจากเตียงไป เธอใส่รองเท้าแตะแล้วเดินไปที่ห้องอ่านหนังสือเลย เป็นไปตามที่คาดไว้เลย เธอเห็นหลงเซียวกำลังนั่งทำงานอยู่ในห้องอ่านหนังสืออย่างเงียบๆ
“สามีคะ เหลียงจ้งซุนถูกจับไปแล้ว คุณรู้เรื่องนี้หรือยัง?”
หลงเซียวเปิดดูเอกสารอย่างใจเย็น “ผมรู้ครับ”
ลั่วหานถึงกับผงะ “คุณ ……. ”
หลงเซียวพยักหน้า “ผมเป็นคนขอให้พวกเขาทำแบบนั้นเอง เหลียงจ้งซุนเป็นมือขวามือซ้ายของหลงถิง เราไม่สามารถตัดศีรษะของหลงถิงออกได้ แต่อย่างน้อยเราตัดแขนทั้งสองข้างของเขาออกได้”
ณ สถานีตำรวจแห่งเมืองหลวง
เฉินเจา โจวจั่น เหลียงจ้งซุน ทั้งสามคนอยู่ในห้องสอบสวน
“คุณเหลียงครับ มีเงินหนึ่งล้านในบัตรใบนี้ ถูกโอนไปยังบัญชีคุณนายหลัวในนามของคุณ คุณมีอะไรจะพูดไหมครับ? ” เฉินเจาทิ้งบัตรธนาคารลงบนโต๊ะ
สีหน้าของเหลียงจ้งซุนไม่เปลี่ยนใจก็ไม่เต้นแรง “เงินนี้ฉันเป็นคนให้ ไม่เห็นจำเป็นต้องปิดบังเลยครับ”
โจวจั่นพูดออกมาทันทีว่า “ทำไมล่ะ? ”
ดูเหมือนเหลียงจ้งซุนจะรู้มาก่อน เขาดูใจเย็นมาก “ไม่มีเหตุผลพิเศษอะไร เงินก้อนนี้ประธานเป็นคนสั่งให้ผมให้เธอ ที่จริงแล้วพวกเราแค่อยากจะสนับสนุนเธออย่างลับๆ เท่านั้นเอง แต่ไม่คาดคิดว่าพวกคุณจะทราบเรื่องนี้ เหตุผลนั้นง่ายมาก สามีของคุณนายหลัวเสียชีวิตในโรงพยาบาลหวาเซี่ย ครอบครัวของพวกเธอลำบาก ประธานอยากจะสนับสนุนพวกเธอ ”
เฉินเจาขมวดคิ้วขึ้นมา
เหลียงจ้งซุนยิ้มและกล่าวต่อไปว่า “พวกเราแค่อยากปิดทองหลังพระ แต่ไม่คาดคิดว่ามันจะดึงดูดความสนใจจากพวกคุณ”
เฉินเจารู้สึกเหมือนถูกตบหน้า “สนับสนุนเหรอ? ผมเกร็งว่ามันจะไม่ง่ายขนาดนั้นสิ? ”
เขาหยิบเอาบันทึกเสียงคำสารภาพของคุณนายหลัวมา “คุณนายหลัวสารภาพมาด้วยตนเองว่า คุณบอกกับเธอให้ต่อสู้คดีให้ถึงที่สุด และสัญญาว่าถ้าเธอชนะคดีนี้ จะให้เงินก้อนนี้เพื่อเป็นความสบายใจของเธอ คุณเหลียงครับ ทำไมคุณต้องทำให้เธอสบายใจด้วยล่ะครับ? ”
เหลียงจ้งซุนยังคงทำท่าทีสบายใจไม่ร้อนรน “ผู้หญิงที่เสียสามีของเธอไป เธอหมดหนทางทุกอย่างแล้ว ทั้งหมดนี้เป็นโศกนาฏกรรมที่เกิดจากโรงพยาบาลหวาเซี่ย ท่านประธานไม่อยากให้คนไข้ต้องรู้สึกขมขื่น และยิ่งไม่อยากเข้าข้างคุณหมอของทางพยาบาล เพราะฉะนั้นจึงทำได้แค่พูดทุกอย่างให้มันชัดเจนบนศาล”
โจวจั่นโกรธมาก “พูดจาไร้สาระ เห็นได้ชัดว่าพวกคุณต้องการใส่ร้ายคุณหมอฉู่ แล้วใช้เงินซื้อคุณนายหลัวมาเป็นเครื่องมือของพวกนาย!”
เฉินเจาเหร่มองไปที่เขา
เหลียงจ้งซุนไม่แยแสใดๆ “สหายครับ คำกล่าวหานี้มันไม่มากเกินไปหน่อยเหรอ? ผมแก่ขนาดนี้แล้วผมไม่สามารถแบกรับความรับผิดชอบนี้ไว้ได้จริงๆ”
การพิจารณาคดีสิ้นสุดลง แต่พวกเขาไม่สามารถได้ข้อมูลที่มีประโยชน์อะไรจากปากของเหลียงจ้งซุนได้เลย
เรียกว่าได้ว่าเจ้าเล่ห์รุ่นใหญ่ของจริง!
เฉินเจาสูบบุหรี่ และสูบอย่างแรงไปสองสามครั้ง “ซิ่วหยาจะกลับมาเมื่อไหร่? คนเจ้าเล่ห์แบบนี้ ไม่แน่เธออาจจะจัดการกับเขาได้”
โจวจั่นรินน้ำให้เขาหนึ่งแก้วและส่งไปให้เขา “เจ้านายเรามีเรื่องอีกมากมายที่สหรัฐอเมริกา พวกเขามุ่งเป้าไปที่เหลียงจ้งซุน มันไปเกี่ยวข้องกับหลายๆ คน”
เฉินเจาพยักหน้าอย่างแรง “ดูเหมือนว่า คงจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะเกิดการต่อสู้กันครั้งใหญ่”
โจจั่นมองไปรอบ ๆ แล้วลดเสียงลง “หัวหน้าครับ เหลียงหยู้คุนที่อยู่ในวงการมาเฟีย หลงถิงที่อยู่ในวงการการค้าที่โจ่งแจ้ง หัวหน้าไม่รู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติหรือ?”
เฉินเจาดีดเขม่าบุหรี่ให้ร่วง “ความสัมพันธ์ทางสังคมของนักธุรกิจซับซ้อนที่สุดแล้ว ต่อหน้าพวกเขาก็เข้ากับทางรัฐบาลได้ หลับหลังพวกเขาก็เข้ากับเหล่ามาเฟียได้ นี่เป็นความลับที่เปิดเผยต่อกัน”
หลังจากสูบบุหรี่มวนนี้หมด เขาก็กดก้นบุหรี่จนดับไป
โจจั่นครุ่นคิด “เจ้านายครับ หยวนชูเฟินยังมีข้อหาฆาตกรรมอยู่ในตัวนะครับ ครอบครัวนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ เลย”
“ไม่ธรรมดา……”
ณ MBK ห้องทำงานท่านประธาน
หลงจื๋อนั่งตรงข้ามโต๊ะทำงานของหลงถิง บรรยากาศระหว่างทั้งสองค่อนข้างตึงเครียด
“นายไม่จำเป็นต้องมองพ่อด้วยสายตาแบบนี้ ผู้ช่วยเหลียงถูกพวกเขาจับตัวไป ไม่ใช่เรื่องที่ผิดกฎหมาย” จู่ๆ หลงถิงก็อธิบายให้หลงจื๋อฟังอย่างอารมณ์ดี
“คุณว่ายังไงก็อย่างนั้น” หลงจื๋อตอบอย่างไม่แยแส
หลงถิงถอนหายใจเล็กน้อยอย่างไม่รู้ควรทำยังไงดี “เสี่ยวจื๋อ พ่อรู้ว่านายมีความคิดเห็นเกี่ยวกับพ่อ แต่นายต้องเชื่อพ่อ นายเป็นลูกชายของพ่อ และไม่ว่าพ่อจะทำอะไรพ่อไม่มีทางทำร้ายนายแน่นอน MBK เป็นของนาย ต่อไปทุกอย่างของตระกูลนี้เป็นของนายทั้งหมด ที่พ่อทำงานหนักขนาดนี้ก็เพื่อนายทั้งนั้นไม่ใช่เหรอ?”
หลงถิงกำลังจะยื่นมือไปปลอบหลงจื๋อ แต่เขาหลบกลับไป
“พ่อใช้ชีวิตของคุณแม่แท้ๆ ของผมมาขู่ผม ตอนนี้มาบอกผมว่าสิ่งที่ทำไปทั้งหมดนั้นทำเพื่อผม คุณพ่อจะให้ผมเชื่อได้ไง?” หลงจื๋อหัวเราะทั้งน้ำตา
“นายอยากพบเธอไหม?” หลงถิงส่งยิ้มให้ลูกชายอย่างเมตตาแบบกะทันหันขึ้นมา ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความอ่อนโยนซึ่งยากที่จะแยกแยะออกว่ามันเป็นความจริงหรือหลอก
ลูกกระเดือกของหลงจื๋อขยับไปมา ลมหายใจติดขัดอยู่ในลำคอ “คุณ …..”
“อย่างไรก็ตามเธอเป็นแม่ของนาย เธออยู่กับพ่อมานานขนาดนี้ เธอลำบากมามาก พ่อก็อยากจะชดเชยเธอ ที่ผ่านมาพ่อทำเรื่องไม่ดีไว้กับนายสองแม่ลูกไว้เยอะ นั่นเป็นเพราะพ่อมีเหตุผลของพ่อ ตอนนี้แม่ของนายเป็นแบบนี้……พ่อถึงกล้า … ”
ท่าทางขมขื่นของเขาดูเหมือนว่าเหตุผลทั้งหมดนี้เกี่ยวข้องกับหยวนชูเฟิน
หลงจื๋อหัวเราะเยาะเย้ยขึ้นมา “พ่อหมายความว่า แม่ของผมความจำเสื่อมแล้ว พ่อถึงกล้ารับแม่ของผมกลับมางั้นเหรอ? ”
“เสี่ยวจื๋อนายอย่าโทษพ่อเลย” หลงถิงจับมือของเขาไว้ และจับนิ้วของเขาไว้ด้วยฝ่ามือหยาบๆ ของเขา
“คุณ …… จะรับแม่ของผมกลับมาจริงๆ หรือ? ” ดวงตาของหลงจื๋อแดงไปหมด ริมฝีปากของเขาสั่นเล็กน้อยและแผ่นหลังของเขาแน่นขึ้นมา
หลงถิงหลับตาลง “อืม พ่อสั่งให้คนไปรับเธอแล้ว พรุ่งนี้ก็จะกลับประเทศได้”
……
หลังจากหลงจื๋อกลับไป โทรศัพท์ของหลงถิงก็ดังขึ้น
“พี่ใหญ่ครับ มีคนกำลังสืบหาตัวผม สืบมาที่ตัวผมโดยตรงเลยครับ” เหลียงหยู้คุนเป็นคนโทรมา
หลงถิงตอบว่า อืม อย่างพึมพำ”จะตรวจสอบนายก็ต้องมีเหตุผล พวกเขาไม่กล้าทำอะไรนายง่ายๆ หรอก”
เหลียงหยู้คุนดับซิการ์ในมือไปอย่างหงุดหงิด “พี่ชายใหญ่ครับ ช่วงนี้ตาของผมกระตุกอยู่ตลอดเวลาเลยครับ ผมรู้สึกว่ามันมีอะไรอยู่ตลอดเวลา ถ้าพวกเขาอยากหาเรื่องผมจริงๆ มันก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีทาง”
“นายต้องการอะไร? ” หลงถิงเปิดเอกสารงานมา เริ่มอ่านไปเรื่อยๆ
เหลียงหยู้คุนหัวเราะแห้งๆ “ที่ผมอยู่ในวงการนี้มาหลายปีก็ไม่ได้อยู่ไปวันๆ ตำรวจผมก็เจอมาเยอะ ถ้าทำให้ผมทนไม่ไหวจริงๆ เจอคนหนึ่งผมฆ่าคนหนึ่ง”
หลงถิงหยิบปากกาไว้ แล้วเซ็นชื่อตัวเองลงอย่างขะมักเขม้น มีเสียงขีดเขียนดังขึ้นจากกระดาษ “นายอยากฆ่าใคร?”
“เจิ้งซิ่วหยา! ไอ้ผู้หญิงเฮงซวยนั้นควรตายนานแล้ว ตอนนี้กล้าดีมายุ่งกับผม ฆ่าแม่งคนแรกเลย! ” เหลียงหยู้คุนกัดคำพูดไว้ อารมณ์ตอนนั้นราวกับว่าจะฆ่าเธอให้ตายจริงๆ
หลงถิงปิดเอกสารราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น “โอเค”
หลงถิงวางโทรศัพท์ลง แล้วโทรไปหาหลินเหว่ยเย่
หลังจากนั้นไม่กี่วินาทีสายก็โทรติด
หลินเหว่ยเย่กำลังดูข่าวในห้องอ่านหนังสือ มีหน้าเว็บหลายเว็บเป็นข่าวเกี่ยวฉู่ลั่วหาน ชื่อของเธอกลับมาติดอันดับยอมนิยมอีกครั้ง เรื่องนี้ดังมาก
“พี่ใหญ่ครับ มีเรื่องอะไรเหรอครับ?”
หลงถิงจิบชาไปหนึ่งคำ น้ำเสียงของเขาเยือกเย็นไม่อบอุ่น “เก็บเหลียงหยู้คุนไว้ไม่ได้แล้ว”
หลินเหว่ยเย่ครุ่นคิด “พี่ใหญ่กำลังจะตัดสินใจทิ้งเขาไป?”
หลงถิงเขย่าแก้วชาและเป่าใบชาที่ลอยอยู่ออกไปทีละใบ “เขาไม่มีประโยชน์อะไรกับฉันแล้ว กำจัดถังจงรุ่ยคือบทบาทสุดท้ายของเขา ถ้ายังเก็บเขาไว้มีแต่จะทำให้ฉันเดือดร้อน”
หลินเหว่ยเย่เอนหลังพิงเก้าอี้ ทันใดนั้นใบหน้าที่สงบอยู่นั้นก็มีอารมณ์บางอย่างปรากฏขึ้น “หึ ……ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเหลียงหยู้คุนได้รับประโยชน์จากคุณไปไม่น้อยเลย เขายังอยากได้มากกว่าเดิมเรื่อยๆ อีก ได้เวลากำจัดมันทิ้งแล้วจริงๆ”
หลงถิงพูดเบา ๆ “ทันทีที่ถังจงรุ่ยตาย แล้วกำจัดเหลียงหยู้คุนทิ้งด้วย หลังจากนั้นก็จะสงบสุขแล้ว”
“ยินดีด้วยครับพี่ชายใหญ่! ”
หลงถิงวางแก้วชาลง เขาพูดอย่างช้าๆ “อีกเรื่องหนึ่ง พรุ่งนี้ฉันจะให้คนไปรับแม่ของเสี่ยวจื๋อกลับมา”
หลินเหว่ยเย่ลุกขึ้นนั่งหลังตรงอีกครั้ง “เกิดอะไรขึ้น?”
หลงถิงจิ้มๆ ไปที่โต๊ะ เสียงหัวเราะของเขาเยือกเย็นราวกับน้ำค้างในฤดูหนาว “เสี่ยวจื๋อเริ่มไม่เชื่อฟังฉันแล้ว ถ้าไม่ให้ความหวังเขาหน่อย อีกหน่อยเขาคงจะเป็นปัญหาสำหรับฉันเช่นกัน ตอนนี้กะจิตกะใจของเขาอยู่ที่หลงเซียวหมดเลย เขาไม่ไว้วางใจฉันอีกต่อไปแล้ว”
“แล้ว ….. คุณจะจัดการกับเธอยังไง?”
ทันใดนั้น ประตูห้องทำงานของหลินเหว่ยเย่ดังขึ้น เสียงที่อยู่ข้างนอกนั้นเป็นเสียงของหลินซีเหวิน
“แด๊ดดี้อยู่ข้างในรึเปล่าคะ?”
หลงถิงกล่าวว่า “รับเธอกลับมาก่อน จัดที่อยู่ให้เธอ ให้เธอสอนเสี่ยวจื๋อหน่อย อีกอย่างเรื่องของเสี่ยวจื๋อกับซีเหวินเราสองคนก็ควรหาเวลาจัดการหน่อยจริงไหม? ”
หลินเหว่ยเย่ยิ้มออกมาและมองไปที่ประตู “ได้เวลาจัดการแล้วแหละ เจ้าเด็กคนนี้มาสืบฟังความในจากการพูดของผมทุกวันเลย ฮ่าๆ ลูกสาวโตแล้วอยากแต่งงานแล้ว ไม่อยากอยู่บ้านแล้ว”
ในขณะที่พูด หลินซีเหวินก็ผลักประตูออก ยื่นหัวออกมาอย่างยิ้มแย้มมีความสุข “แหะแหะ แด๊ดดี้กำลังคุยโทรศัพท์อยู่เหรอคะ? อยากกินผลไม้ไหมคะ? หนูปลอกเองกับมือเลยนะ”
หลินซีเหวินถือแอปเปิลที่หั่นเสร็จแล้วไว้หนึ่งจาน
หลินเหว่ยเย่วางสายโทรศัพท์ลง แล้วเบะปากเล็กน้อย “ผลไม้ที่ลูกสาวหั่นเองกับมือ แด๊ดดี้กินอยู่แล้วครับ! มานี่เร็ว”
หลินซีเหวินเดินไปอย่างมีความสุข เธอวางผลไม้ลงอย่าประจบ แล้วคล้องคอพ่อจากด้านหลังไว้ “แด๊ดดี้ ฮิฮิฮิฮิ… ”
“อยากจะพูดอะไรอีก? ” หลินเหว่ยเย่กินแอปเปิลไปหนึ่งคำ กำลังเคี้ยว
หลินซีเหวินช่วยนวดไหล่ของเขาอย่างขยันขันแข็ง “โอ้ย แด๊ดดี้รู้อยู่แล้วนิคะ ยังจะถามหนูอีก”
“โอ๊ยๆๆ รีบแล้วเหรอ? ”
“คุณพ่อบอกแม่ให้หน่อยสิ ให้ฉันแต่งงานกับหลงจื๋อเร็วๆก็ดีไม่ใช่เหรอ? หนูก็จะไม่อยู่รบกวนแด๊ดี๊ที่บ้านแล้วไง” หลินซีเหวินกะพริบตาและอ้อนแบบเหมือนเด็ก
“ด้านแม่ของหนู แด๊ดดี้ก็พูดยากนะ…….. ” หลินเหว่ยเย่กล่าวอย่างหนักใจ
หลินซีเหวินคร่ำครวญ “ไม่ไม่ไม่ แด๊ดดี้ก็ไปพูดเกลี้ยกล่อมคุณแม่สิ! ถ้าแด๊ดดี้ไม่ไป หนูก็จะร้องไห้! ฮือฮือฮือ หนูจะไม่กินข้าวเพื่อเป็นการประท้วง! ”
หลินเหว่ยเย่เอาเธอไม่อยู่ “ได้ครับ ใครให้หนูเป็นลูกสาวของแด๊ดดี้ล่ะ ทั้งชีวิตของแด๊ดดี้เนี่ยไม่เคยกลัวอะไรเลย กลัวลูกอย่างเดียว หนูเนี่ยเป็นจุดอ่อนของแด๊ดดี้”
“จุ๊บๆ ค่ะ หนูรู้ว่าแด๊ดดี้ดีที่สุดแล้วค่ะ!