ประธานหยิ่งยโสของฉัน – ตอนที่ 839

ตอนที่ 839

ตอนที่ 839 เปลี่ยนจากลิงที่บ้าคลั่งกลายมาเป็นน้องชายแสนน่ารัก

ณ โรงพยาบาลหวาเซี่ย

ลั่วหานกลับไปที่ห้องทำงานก่อน เธอใส่เสื้อกาวน์ ช่วงเช้าเธอมีงานผ่าตัดเล็กๆ เธอเสนอแผนการดำเนินการผ่าตัดไป หวาเทียนและหลินซีเหวินเป็นคนปฏิบัติ การผ่าตัดเริ่ม9โมงครึ่ง พวกเขาจัดการประชุมก่อนการผ่าตัด

เมื่อประชุมเสร็จ หลินซีเหวินถือเอกสารไว้ด้วยสีหน้ากำลังมีความรักแล้วกอดแขนของลั่วหานไว้ “พี่ลั่ว ฉันจะบอกข่าวดีให้ฟัง”

ลั่วหานสอดปากกาที่ไว้เซ็นชื่อลงในกระเป๋าบนของเสื้อกาวน์ และปิดเอกสารลง”ยิ้มได้มีความสุขขนาดนี้ ไปเจอเรื่องดีๆ อะไรมา?”

หลินซีเหวินเม้มปาก “คือว่า …… คืนนี้พ่อกับแม่ของฉันจะทานข้าวกับพ่อแม่ของหลงจื๋อ แม่ผู้ให้กำเนิดของหลงจื๋อ”

ลั่วหานไม่รู้สึกแปลกใจ “เป็นข่าวดีนะ ดูเหมือนว่าพ่อแม่ทั้งสองฝ่ายกำลังจะพูดคุยหารือเรื่องงานหมั้นของพวกเธออย่างเป็นทางการ เตรียมใจไว้ให้ดีนะ”

หลินซีเหวินหัวเราะ”ฉันตื่นเต้นเล็กน้อย แต่ … ตื่นเต้นก็ส่วนตื่นเต้น ที่จริงสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ … คือว่า พูดตามตรงฉันไม่ค่อยชอบแม่ของหลงจื๋อเท่าไหร่”

หลินซีเหวินใช้ฝ่ามือปิดปาก และพูดมันออกมาด้วยความรู้สึกผิดและลดเสียงเบาๆ

ลั่วหานเลิกคิ้วและยิ้มทันที “ดูเหมือนว่าคุณสองคนจะเข้ากันได้ไม่ค่อยดีนักตอนอยู่ที่อเมริกา”

“ใช่ แม่ของเขาแบ่งแยกคนจนคนรวยมากเกินไป ฉันบอกเธอว่าฉันเป็นเด็กที่มาจากครอบครัวธรรมดา พ่อและแม่ของฉันก็เป็นพนักงานธรรมดา ๆ แล้วคุณรู้ไหมสายตาของเธอที่มองฉันในตอนนั้นรังเกียจฉันมากราวกับว่ากำลังมองขอทาน ตอนนี้เธอรู้ฐานะที่แท้จริงของฉันแล้ว เธอก็ดีกับฉันเองเลย ”

ทั้งสองเดินออกจากห้องประชุมและเดินกลับไปที่ห้องทำงาน ลั่วหานพอรู้ว่าโฉหวั่นชิงเป็นยังไงเมื่อฟังจากการเล่าของเธอ แต่ตอนนี้ไม่ค่อยดีที่จะบอกเรื่องแย่ๆ ที่อยู่เบื้องหลังของตระกูลหลงให้เธอฟัง จึงทำได้แค่ลูบหัวเธอเบาๆ ในฐานะพี่สาวคนหนึ่ง

“ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ อีกอย่างสถานะของเธอไม่ค่อยดี ถ้าเธอจะมีข้อเสียด้านนิสัยมันก็พอเข้าใจกันได้ คุณเป็นผู้หญิงยุคใหม่ต้องเข้าใจเธอมากๆ อีกอย่าง หลังจากที่คุณแต่งงานกับเสี่ยวจื๋อแล้วคุณไม่ต้องใช้ชีวิตอยู่กับเธอ มันก็จะไม่มีปัญหาเรื่องแม่ผัวกับลูกสะใภ้”

“ฮ่าฮ่า! พี่ลั่วคะ ทำไมฉันรู้สึกแปลกจังเมื่อฉันได้ยินคุณพูดเรื่องปัญหาแม่ผัวกับลูกสะใภ้กับฉัน ทำไมมันแปลกขนาดนี้!”

เธอหัวเราะเวอร์เกินไป แพทย์และพยาบาลที่เดินผ่านมาต่างก็มองมาที่นี่

“แปลกอะไรกัน? ฉันเองก็เป็นคนที่แต่งงานแล้ว เรื่องที่เธอจะต้องเจอในอนาคตฉันเจอมาหมดแล้ว”

หลินซีเหวินก็สร้างภาพมันขึ้นมาเองในหัว แล้วส่ายหัวด้วยความตกใจ “ไม่ไม่ไม่ มันน่ากลัวเกินไป ฉันคงจะรับมือไม่ไหว หรือว่าฉันไม่ต้องแต่งงานจะดีกว่า!”

ด้านหน้า ไม่รู้ว่าหวังเค่ยมายืนอยู่หน้าห้องทำงานของลั่วหานตั้งแต่เมื่อไหร่ เขากำลังมองมาที่เธออย่างจริงจังและมีความอดทน

ลั่วหานยักคิ้ว หลีกจากแขนที่กวาดไปมาของหลินซีเหวินไป แล้วพยักหน้าให้ “คุณมาตั้งแต่เมื่อไหร่?”

“เพิ่งมาถึง ผมได้ยินพยาบาลบอกว่าคุณกำลังประชุมอยู่”

ลั่วหานให้หลินซีเหวินไปยุ่งก่อน ส่วนเธอก็เข้าไปต้อนรับหวังเค่ยในห้องทำงาน

นางพยาบาลรินน้ำอุ่นๆ ให้หวังเค่ยหนึ่งแก้ว เขาถือมันไว้ในมือแล้วจิบ “ศาสตราจารย์ส้งบอกผมมาหมดแล้ว ผมช่วยดูแลเด็กคนนี้ชั่วคราวได้ ผมเห็นด้วย”

“คุณอธิบายให้เถียนเถียนฟังยัง? เธอรับได้ไหมที่จะมีน้องชายเพิ่มเข้ามาหนึ่งคน? เด็กที่เท่านี้อย่างเถียนเถียนพวกเธออ่อนไหวมากนะ” ลั่วหานรู้สึกกังวลเล็กน้อยเกี่ยวกับเรื่องนี้

“เถียนเถียนเชื่อฟังมาก ผมจะบอกกับเธอให้ชัดเจน เธอรับได้อยู่แล้ว เถียนเถียนชอบเด็กมาก เธออยากจะมีน้องชายมาตั้งนานแล้ว ผมคิดว่า….มันคงไม่มีปัญหาอะไร”

นิ้วของหวังเค่ยจับแก้วไว้แน่น เขามาพบลั่วหานโดยการส่วนตัวเหมือนมาพบฮ่องเต้ที่วังเลย ตื่นเต้นยิ่งกว่าไปพบหลงเซียวอีก

“คุณดูกลัวฉันมากเลยนะ? คุณกลัวอะไร? “ลั่วหานยิ้มอย่างผ่อนคลาย พยายามทำให้บรรยากาศในห้องทำงานมันสบายขึ้น

หวังเค่ยดันแว่นที่ดั้งจมูกขึ้นไป “ไม่….ไม่นะ ผมไม่ได้เกร็งเลย”

ลั่วหานหัวเราะออกมา “โอเค คุณไปเยี่ยมอานอานที่ห้องคนไข้สิ เขาเชื่อฟังมาก รู้ได้เลยว่าจ้าวฟางฟางดูแลเขามาเป็นอย่างดี”

“โอเค ผมจะไปเดี๋ยวนี้เลย”

หวังเค่ยออกจากห้องทำงานของลั่วหานอย่างรวดเร็วราวกับว่ากำลังหลบหนี หลังจากออกจากประตูไปเขาก็หายใจเข้าลึก ๆ เขารู้สึกเหมือนกลับมามีชีวิตอีกครั้ง

ทันทีที่หวังเค่ยออกจากห้องไป ลิฟต์ตรงทางเดินก็เปิดออก เกาจิ่งอานพยุงเกาหยิ่งจือไว้แล้วค่อยๆ เดินออกจากลิฟต์มาด้วยความระมัดระวัง ทั้งสองพูดคุยกันด้วยเสียงเบา ๆ เกาจิ่งอานเล่าเรื่องตลกให้เธอฟังไปหลายอัน จนทำให้เกาหยิ่งจือหัวเราะคิกคักออกมา

“พี่สะใภ้อยู่ในห้องทำงานเหรอเนี่ย มาเช้าสู้มาได้ทันเวลาไม่ได้เลย! พี่ครับ พี่รอยผมตอนนี้สักพักนะครับ ผมไปทักทายเธอหน่อย” เกาจิ่งอานกลายเป็นเด็กที่ยังไม่โตขึ้นมาในทันที เขากระโดดสองก้าวไปที่ประตู

เกาหยิ่งจือเอามือกอดอกแล้วพิงที่ประตู “นายทำตัวตลกแบบนี้เดี๋ยวก็โดนเธอว่าหรอก ทำตัวเหมือนผู้ใหญ่หน่อยได้ไหม? ”

เกาจิ่งอานกระแอมในลำคอและจัดเนกไทของเขาให้ดีอย่างจริงจัง “พี่สะใภ้ของผมชอบที่ผมเป็นแบบนี้แหละครับ ผมเป็นน้องชายก็ต้องมีท่าทีที่มันเหมือนน้องชาย”

เกาหยิ่งจือมองบนอย่างแรงโดยไม่ได้พูดอะไร “ได้เรื่องจริงๆ!”

ลั่วหานกำลังดูทักษะทางการแพทย์และจดบันทึกไปด้วยในขณะที่ดู เกาจิ่งอานเดินแนบกำแพงแล้วเข้าห้องไป “เซอร์ไพรส์! ”

“อุ๊ย!”

ลั่วหานตกใจ ปากกาในมือของเธอขีดเส้นยาวๆ สีดำไว้บนหนังสือ เมื่อเห็นเกาจิ่งอานโผล่มาอย่างกะทันหัน เธอก็ชะโงกหน้าออกนอกห้องไป “ทำไมนายมาคนเดียวล่ะ? พี่สาวนายไปไหน?”

เกาจิ่งอานลากเก้าอี้ออกมาแล้วนั่งลง “พี่สะใภ้ครับ นานๆ ผมจะกลับมาที พี่ไม่เป็นห่วงผมก่อนทำไมถึงถามถึงพี่สาวของผมก่อนล่ะ พี่ดูสิช่วงนี้ผมดูผอมลงไหม?”

เกาจิ่งอานจับคางของเขาไว้แล้วทำตัวน่ารักแบบเวอร์ๆ และยังจงใจกะพริบตารัวๆ เพื่อแสดงออกว่าเขาน่าสงสารมากขาดความรักและต้องการความเป็นห่วงอย่างมาก

ลั่วหานมองดูหน้าเขาอย่างจริงจัง “ผมลงเหรอ? ฉันว่ากำลังดีนะ หล่อเสมอไม่เคยมีใครหล่อกว่านี้เลย พอใจหรือยัง?”

เกาจิ่งอานเบะปาก “พี่สะใภ้พี่พูดแบบไม่ใส่ใจเลยอะ!”

ลั่วหานวางสมุดและปากกาลงแล้วชี้ไปที่แก้วน้ำเพื่อส่งสัญญาณบอกเขาว่า ถ้าอยากดื่มน้ำก็ไปเทน้ำเอง “นานๆ จะกลับมาที ไม่ไปหาแฟนมาทำอะไรที่โรงพยาบาล? อยากโดนฉีดยาหรืออยากกินยากัน?”

“ดูพี่พูดสิ ผมก็แค่คิดถึงพี่สะใภ้ก็เท่านั้นเอง ไม่ได้เหรอครับ?” เกาจิ่งอานทำหน้าทำตาดูเจ้าเล่ห์มาก

“ประตูอยู่ข้างหลังนาย นายจะออกไปเองหรือให้ฉันตามรปภ.มาไล่นาย?” ลั่วหานทำหน้าตึงๆ

“อย่าอย่าอย่า ผมแค่ล้อเล่นกับพี่เท่านั้นเอง อย่าใจร้ายกับผมสิ! ”

ทักษะการอ้อนของเกาจิ่งอานนั้นสุดยอดจริงๆ ลั่วหานทำได้แค่ส่ายหน้าแล้วอมยิ้ม แสดงออกไปว่านายชนะแล้ว

“ลั่วหาน ฉันยกน้องคนนี้ให้เธอไหม อยู่ต่อหน้าฉันเขาทำเป็นแค่เรื่องเดียว ก็คือทำให้คนอื่นโกรธจนเกือบตายแล้วยังไม่รับผิดชอบอีก แค่พอเจอเธอเมื่อไหร่ ก็เปลี่ยนจากลิงที่บ้าคลั่งกลายมาเป็นน้องชายแสนน่ารักซะงั้น”

เกาหยิ่งจือทนฟังต่อไปไม่ได้ ถ้าน้องชายเธอยังพูดต่อไปอีกเธอต้องขายหน้าแน่ๆ เธอต้องออกมาห้ามเขาไว้

เมื่อเห็นเกาหยิ่งจือมา ลั่วหานก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้ ความเยือกเย็นของดวงตาของเธอก็ละลายลงแล้วเต็มไปด้วยความอบอุ่นที่รู้สึกเซอร์ไพรส์ “คุณหายดีแล้วหรือ?”

เกาหยิ่งจือเหยียดแขนออกมาทั้งสองข้าแล้วหมุนอยู่กับที่ “อ่าหะ”

ลั่วหานก้าวเข้าไปแล้วจับมือของเกาหยิ่งจือมา แล้วจับดูชีพจรของเธอตามสัญชาตญาณ เธอจับไปที่ชีพจรของเธออย่างละเอียดแล้วตรวจเช็คอัตราการเต้นของหัวใจของเธอด้วยมือ “ดีขึ้นแล้วจริงๆ ด้วย แสดงว่าการบำบัดฟื้นฟูนั้นประสบความสำเร็จอย่างมาก ยินดีด้วยนะ! ”

เกาหยิ่งจือรู้สึกหนักใจเล็กน้อย อยู่ดีๆ เธอก็เป็นห่วงอย่าสนิทสนมมันต่างจากที่เธอสองคนเคยมีปัญหาต่อกันอย่างมาก เธอแทบจะรับ

“ขอบคุณนะ อย่างน้อยตอนนี้ฉันคงไม่ตายแล้ว” เกาหยิ่งจือพูดเยาะเย้ยตัวเอง

เกาจิ่งอานไอเรียกร้องความสนใจ “พี่สาวทั้งสองครับ พี่สองคนอย่าละเลยผมสิ?”

ลั่วหานเหล่มองเขา “ผู้ใหญ่เขาคุยกันเด็กอย่ามายุ่ง หุบปาก”

เกาหยิ่งจือเองก็แสยะยิ้มว่า “ได้ยินยัง พี่สะใภ้ที่นายพูดถึงตลอดเวลาเธอรำคาญนายแล้วนะ เพราะฉะนั้นคนที่ดีที่สุดก็คือพี่สาวแท้ๆ ของนาย นายควรรู้สึกพอใจนะ”

เกาจิ่งอานไม่ได้รู้สึกโกรธแต่กลับหัวเราะขึ้นมา โน้มตัวลงก้มหัวราวกับคนรับใช้ตัวน้อย “ครับครับครับ เทพธิดาทั้งสองโปรดนั่งลงครับ ข้าน้อยจะนำน้ำชามาให้ท่านครับ โปรดรอสักครู่”

ทั้งสองอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา มองดูเกาจิ่งอานเดินจากไปแล้วทั้งคู่ก็นั่งลงมองหน้าอีกฝ่ายแล้วหัวเราะออกมา

ลั่วหานจับแต่งผมที่อยู่ข้างๆ หู”ช่วงไม่กี่เดือนที่คุณจากไป อาการของคุณฟื้นตัวได้ดีมาก บุคลิกก็ดูเปลี่ยนไปเยอะเลย”

มีรอยตีนกาเล็กน้อยปรากฏที่มุมตาของเกาหยิ่งจือ พวกยาและเลเซอร์ช่วงหลายวันนี้ทำลายร่างกายของเธออย่างหนัก รอยต่างๆ บนใบหน้าของเธอล้วนบ่งบอกถึงความยากลำบากที่เกินขึ้นในก่อนหน้านี้

ออร่าความเก๋ไก๋ดูกระปรี้กระเปร่ามากขึ้นหลังจากที่เธอได้เจอกับเหตุการณ์ใหญ่ๆ ในชีวิต

“ถึงยังไงฉันก็เป็นคนที่เคยผ่านความตายมา หลายๆ เรื่องเองฉันเองก็ปล่อยวางแล้วจิ่งอานบอกกับฉันตลอดว่า ชีวิตของคนเรานอกจากความตายแล้วเรื่องอื่นๆ ล้วนเป็นแค่เรื่องเล็กๆ คนที่ไม่เคยสัมผัสเขาไม่รู้ แต่โชคดีที่ฉันเข้าใจมันแล้ว”

“คุณแข็งแกร่งมาก คุณสามารถผ่านช่วงการรักษาหลายเดือนนี้ผ่านมาได้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าสุขภาพจิตของคุณดีมากเช่นกัน อย่างไรก็ตามฉันชื่นชมคุณมาก” ลั่วหานยิ้มออกมาอย่างจริงใจและยังทำมือกำหมัดแล้วภูมิใจในตัวเธออย่างเวอร์วัง

ใบหน้าที่ซีดเซียวของเกาหยิ่งจือที่เพิ่งหายจากอาการป่วยหนักก็มีรอยยิ้มปรากฏขึ้นมา

“มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะได้รับการชื่นชมจากคุณนะ ช่วงนี้ฉันเองก็ได้ยินเรื่องเกี่ยวกับตัวคุณมามากมาย พูดตรงๆ นะฉันเอวก็ชื่นชมคุณมากเช่นกัน”

“ฮ่าฮ่านี่เราสองคนกำลังทำอะไรอยู่ ชื่นชมกันไปมา”

“ฮ่า ๆ ใช่ เราสองคนกำลังทำอะไรอยู่เนี่ย”

เกาจิ่งอานถือแก้วน้ำไว้สองใบแล้วยืนพิงประตูและฟังการพูดคุยของพวกเธอ นาทีนี้เขารู้สึกว่าชีวิตช่างน่าอัศจรรย์และเหลือเชื่อมาก

อดีตพี่สาวของเขาและลั่วหานเป็นคู่แข่งกัน เมื่อพวกเธอสองคนเจอกันจำต้องทำร้ายกัน

แต่ไม่มีใครคาดคิดว่าวันหนึ่งพวกเธอจะนั่งคุยกันอย่างเปิดเผยและจริงใจต่อกัน

“เห้ย! ทำอะไรกันอยู่? ”

ส้งชิงเซวี๋ยนเดินเข้ามาจากข้างนอก เขาเห็นเกาจิ่งอานแอบฟังอยู่นอกประตูเขาก็ตบไปที่ไหล่ของเกาจิ่งอาน

“ชู! พี่สาวและพี่สะใภ้ของผมกำลังคุยกันอยู่ข้างใน ฮิฮิฮิมันน่าสนใจมาก คุณลองมาฟังดู” เกาจิ่งอานขยับที่ให้ส้งชิงเซวี๋ยน ให้เขาเข้าร่วมทีมคนแอบฟัง

ส้งชิงเซวี๋ยนชะโงกหน้าดูแล้วเห็นเกาหยิ่งจือกำลังพูดคุยกับลั่วหานอย่าสนุกสนาน เขาก็ลูบไปที่เคราของตัวเองอย่างอิ่มเอมใจ”แสดงว่า …หายดีแล้ว”

ความเจ็บป่วยของร่างกายหายแล้ว อาการป่วยในหัวใจก็หายแล้วด้วย

ลั่วหานขยับคางชี้ไปทางประตู “คนที่แอบฟังอยู่มุมประตู ยังไม่เข้ามาอีกเหรอ?”

ส้งชิงเซวี๋ยนกับเกาจิ่งอานต่างก็มองหน้ากัน “ใครกันนะ? ไร้ศีลธรรมที่สุดมาแอบฟังเขาคุยกันได้ยังไง! ”

เกาหยิ่งจือลุกขึ้นยืนก่อนและก้มหัวให้กับส้งชิงเซวี๋ยนอย่างเคารพ “ศาสตราจารย์ส้ง ไม่เจอกันนานเลยนะคะ”

ส้งชิงเซวี๋ยนกลับรู้สึกเขินอาย “นานแล้วที่ไม่ได้เจอ คุณหมอเกาหายดีแล้วหรือ?”

“ฟื้นตัวได้ดีมากแล้วค่ะ ตอนนี้ยังคงฟื้นฟูร่างกายอยู่ค่ะ”

“ดีดี รักษาตัวดีๆ นะครับ”

เกาหยิ่งจือพยักหน้า “ค่ ขอบคุณค่ะศาสตราจารย์ส้ง”

ส้งชิงเซวี๋ยนหยิบแก้วน้ำในมือของเกาจิ่งอานมาแล้วจิบไปหนึ่งคำ “ลั่วลั่ว หวังเค่ยกำลังเยี่ยมอานอานที่ห้องผู้ป่วยเด็ก เสี่ยวเถียนเถียนมาแล้ว เจ้าเด็กผู้หญิงนั้นดูเหมือนจะยังไม่ค่อยคุ้นชิน เธอกำลังงอแงอยู่ คุณเป็นไอดอลของเธอคุณจะลองไปดูเธอหน่อยไหม?

ประธานหยิ่งยโสของฉัน

ประธานหยิ่งยโสของฉัน

Status: Ongoing

คุณหลง อย่าหยิ่งยโสเกินไป / ประธานหยิ่งยโสของฉัน หมออายุรศาสตร์มือหนึ่งฉู่ ลั่วหาน แต่งงานมาสามปีแล้ว กลับ ไม่มีใครสักคนรู้ว่าสามีเธอเป็นคุณชายใหญ่ของตระกูลหลง ตระกูลร่ำรวยอันดับแรกของเมืองเจียงตู ซึ่งเป็นคุณชาย เซียวที่ใครๆได้ยินชื่อก็ต้องหวาดกลัว ตลอดสามปีมาทั้งสอง ไม่เคยมีอะไรกัน เธอต้องทนดูรูปภาพหวานๆของเขากับเมีย น้อยโชว์บนหน้าจอ เธอหัวเราะ “หลงเซียว เราหย่ากันเถอะ” ” เห้อ หย่าเหรอ คุณผู้หญิง คุณคิดว่าผมเป็นอะไร? ” เธอเซ็น ใบหย่าอย่างไม่ลังเล ทิ้งแหวนแต่งงาน ดีมาก! เธอกล้ามาก คอยดูแล้วกันว่าผมจะจับคุณกลับมายังไง!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท