ประธานหยิ่งยโสของฉัน – ตอนที่ 859

ตอนที่ 859

ตอนที่ 859 อย่าสารภาพกับฉัน

“ไม่ต้องไปฟังมัน!ยิง!”

เจิ้งซิ่วหยายืนตัวตรง ตอนนี้ในมือของเธอไม่มีอาวุธ แต่ในฐานะที่เป็นตำรวจ เธอไม่อนุญาตให้ตัวเองกลายเป็นภาระของทีมได้!

ไม่ได้อย่างเด็ดขาด!

“ลูกพี่!”

โจวจั่นที่อยู่ในการต่อสู้ที่ดุเดือดหยุดการเคลื่อนไหวลงอย่างกะทันหัน หมุนตัวมองเห็นเจิ้งซิ่วหยาที่ถูกคนถือปืนจ่อหัว ในใจบีบรัดแน่น

เจิ้งซิ่วหยากลับหัวเราะขึ้นมาอย่างชิลล์ๆ “ยิงสิ ขัดขวางการทำงานของตำรวจ สังหารเจ้าหน้าที่ตำรวจ โทษฐานความผิดนี้พอให้แกได้นั่งคุกไปตลอดชีวิต”

มือปืนบิดคอไปมาสองที เสียงกระดูกคอส่งเสียงดังกรอบแกรบ “เจิ้งซิ่วหยา ไปๆมาๆก็คือแกนังสารเลวที่ทำลายแผนการของพวกเรา!วันนี้กูจะให้มึงตาย!”

เจิ้งซิ่วหยาลูบจมูกเล็กน้อย “กล้าก็ยิงมาสิวะ หน่วยซุ่มยิงสิบกว่าคนที่อยู่ด้านนอกไม่ใช่ธรรมดา ฆ่าฉัน พวกแกใครแม่งก็อย่าได้คิดที่จะออกไป มา!ยิง ยิงมาที่นี่!”

เจิ้งซิ่วหยาตวาดเสียงดัง นิ้วมือจิ้มไปที่หัวของตัวเอง สีหน้าเยือกเย็นและเคร่งขรึมไม่มีความหวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย เพราะว่าคำเย้ยหยันเห็นได้ชัดว่าสูงส่งจนปีนไปไม่ถึงแทนเสียด้วยซ้ำ

ปังๆๆ!

ด้านหลังมีกระสุนยิงมาอีก แยกไม่ออกว่าพวกตนเองหรือศัตรู มีคนถูกลูกกระสุนล้มลงไปกองกับพื้น มีคนได้รับบาดเจ็บโอดครวญ

สายตาที่เหลือของเจิ้งซิ่วหยาคาดคะเนระยะห่าง มุม ระหว่างตนเองกับมือปืน ให้เธอตายแบบนี้ ไม่มีทาง!

ชีวิตของตำรวจอาชญากรรมเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้น ตายไปช่างน่าเสียดายจริงๆ

“ให้แกได้สมหวัง!”

มือปืนเหนี่ยวไก นิ้วมือเลื่อนลงไปด้านล่าง…

“เพล้ง!!”

ในวินาทีที่นิ้วมือเลื่อนลงไป เจิ้งซิ่วหยาคว้าแจกันดอกไม้ใบหนึ่งขึ้นมา ใช้ร่างกายเป็นที่ค้ำ พุ่งกระโจนใส่ชายหนุ่มอย่างรุนแรง ร่างกายที่ผอมบางถูกแจกันดอกไม้ที่ใหญ่โตนำการเคลื่อนไหว พลังรุนแรงจนน่าตกใจ ได้ยินเพียงแค่เสียงแตกกระจายของแผ่นเซรามิก เลือดนองกระจายไปบนพื้นสีขาว

เจิ้งซิ่วหยานอนทับอยู่บนร่างกายของชายหนุ่ม มองดูเขาสมองแตกตายกับตา และกระสุนนัดนั้น เขาไม่สามารถยิงออกมาได้อีก

“ยังจะฆ่ากูให้ตาย? มึงแม่งไปนอนฝันเถอะ!”

เจิ้งซิ่วหยาไต่ขึ้นมา เลือดสาดกระเด็นที่บนร่างกาย ใบหน้าที่ขาวใสก็ถูกย้อมเป็นสีแดงหลายจุดเช่นเดียวกัน

โจวจั่นตาค้าง “ลูกพี่ เธอไม่เป็นไรใช่หรือเปล่า?”

“ฉันจะเป็นอะไรได้?”

ในขณะที่พูด เธอประชิดเหลียงหยู้คุนเข้าไปทีละก้าวๆ “ไม่ใช่อยากจะเล่นหรอ? ความสามารถแบบนี้?”

เหลียงหยู้คุนนิ่งเงียบไม่พูดอะไร เพราะว่าทีมใหญ่ของเขาได้มาถึงแล้ว คืนนี้ไม่ทุ่มสุดชีวิตออกไปเป็นถนนสายโลหิต ก็ตาย เขารู้ทางของตัวเองดี

“ลูกพี่!ด้านหลัง!”

หางเสียงของคำเตือนยังไม่หายไป เจิ้งซิ่วหยาหมุนตัว “แม่งเอ๊ย!”

ด้านนอกประตู มือปืนกลุ่มใหญ่สีดำทะมึนแต่ละคนถือปืนกลเอาไว้ นี่แม่ง…ผู้ก่อการร้ายในจินตนาการ พวกมันเอาอาวุธมาจากที่ไหนกัน?

พ่อค้าอาวุธ?

ตึกๆๆๆ…

ความรวดเร็วในการกวาดยิงของปืนกลและพลังในการฆ่าล้างต่างก็ห่างไกลจากปืนไรเฟิลและปืนพกมาก ทั้งหลายคนไม่ช้าก็ถูกตามมาถึงชั้นสอง แต่ละคนยืมบานประตู ลิฟต์ ตู้ โต๊ะสิ่งของต่างๆมาเป็นเกราะป้องกัน

เจิ้งซิ่วหยากัดฟันแน่นด้วยความโมโห เหลียงหยู้คุนเป็นตัวละครที่ไม่ง่ายอย่างที่คิดเอาไว้จริงๆ ประเมินศัตรูต่ำเกินไปไม่ได้ ประเมินศัตรูต่ำเกินไปไม่ได้

เจิ้งซิ่วหยาใช้เท้าข้างเดียวตวัดปืนไรเฟิลกระบอกหนึ่งขึ้นมา ประคองตั้งตรง ยิง กระสุนกับกระสุนบรรจบกันอยู่กลางอากาศ ทั้งยังยิงผิดตำแหน่งไปบนวัตถุต่างๆ

กำลังกองสนับสนุนของตำรวจมาถึงอย่างรวดเร็ว ตำรวจติดอาวุธที่สวมเครื่องแบบของแผ่นดินใหญ่และมาเก๊าเข้ามาติดต่อกันตามลำดับ “วางอาวุธลง!”

เจิ้งซิ่วหยาทางนี้ต่อสู้จนไม่สามารถปลีกตัวออกมาได้ “ไม่ต้องตะโกนแล้ว ไม่มีประโยชน์!เปิดฉาก!”

กำลังสองฝ่ายยากที่จะแยกออก เจิ้งซิ่วหยาและหัวหน้าตำรวจติดอาวุธออกคำสั่งต่อสู้ร่วมกัน แต่หลังจากนั้นไม่กี่นาทีกองกำลังก็ถูกตีแตก

สนามรบเคลื่อนย้ายจากห้องบอลรูมใหญ่ไปยังชั้นต่างๆ เจิ้งซิ่วหยาเพื่อที่จะฆ่ามือปืนคนหนึ่งขึ้นมาถึงชั้นสิบ

ทางเดินของชั้นที่ว่างเปล่า ว่างเปล่าจนค่อนข้างที่จะน่ากลัว เจิ้งซิ่วหยาถือปืน หาที่ป้องกันเดินไปข้างหน้าด้วยความระมัดระวังตลอดทาง

เธอไม่อาจจะแน่ใจได้เลยว่าฝ่ายตรงข้ามจะเปิดการโจมตีอย่างกะทันหันมาจากที่ไหน ทั้งสองคนต่างก็กำลังเล่นซ่อนหากันอยู่

ปึ้ง!

กระสุนนัดหนึ่งยิงออกมาอย่างกะทันหัน แต่ตกกลางอากาศ

เจิ้งซิ่วหยาเล็งแม่นทิศทางโจมตีอย่างหนัก กระสุนหลายนัดปังๆๆๆยิงจนประตูแตกกระจาย แต่ฝ่ายตรงข้ามกลับไม่อยู่

เจิ้งซิ่วหยาก้าวเท้ายาวๆตามไปอย่างเร่งรีบ ไม่ช้าตามมาถึงสุดปลายทางของชั้น ด้านหน้าคือหน้าต่างบานหนึ่ง ด้านนอกหน้าต่างคือถนน

ที่นี่คือชั้นที่สิบ เจิ้งซิ่วหยาใจคอไม่ดี เธอถูกคนหลอกล่อเข้าแล้ว

ทว่า ในวินาทีที่เธอหมุนตัวกลับไปนั้น ปืนกระบอกนึงได้ยื่นลำกล้องออกมาอย่างไม่ทันให้ได้ตั้งตัวอยู่ทางด้านหลัง

เจิ้งซิ่วหยาชูปืนคิดจะยิงก่อน ที่เศร้าก็คือกระสุนหมดอีกแล้ว

เจิ้งซิ่วหยาใช้ตัวปืนเป็นอาวุธ เล็งไปที่หัวของคนๆนั้นโยนไป กลับถูกชายหนุ่มเตะกระเด็น

“ไปตายซะ!ไอ้สารเลว!”

“ลูกพี่!”

เงาร่างของโจวจั่นราวกับปลาหลี่ฮื้อว่ายข้ามประตูมังกรบินเฉียงเข้ามา ในวินาทีที่กระสุนพุ่งออกมาพอดี…

พรวด…

กระสุนยิงถูกหน้าอกของโจวจั่น แขนที่เขากางออกราวกับอินทรีที่แข็งแกร่งปกป้องลูกนกบดบังเจิ้งซิ่วหยาเอาไว้อย่างแน่นหนา

“โจวจั่น!โจวจั่น!”

ขาทั้งสองข้างของโจวจั่นอ่อนยวบ ปึ้งคุกเข่าลงไปบนพื้นที่แข็งกระด้างในทันที “ฆ่า…มัน!”

“ได้!” เจิ้งซิ่วหยาดวงตาแดงระเรื่อ ปล่อยเขาลงอย่างช้าๆ

เจิ้งซิ่วหยาหยิบปืนของโจวจั่นไป หลอดเลือดดำบนด้านหลังฝ่ามือนูนขึ้น ใช้พลังที่มีทั้งหมดทั่วทั้งร่างกายเหนี่ยวไกลง ยิงใส่มือปืนปังๆๆติดต่อกันสามที ชายหนุ่มถูกกระสุนยิงจนหน้าอกเลือดเนื้อกระจาย แข็งทื่ออยู่ครู่หนึ่งถึงได้ล้มลงกับพื้น

และโจวจั่น ได้ตัวงออยู่ที่ข้างกำแพงหายใจยากลำบาก มือที่ชุ่มไปด้วยเลือดกุมหน้าอกเอาไว้ เลือดทะลักเอ่อล้นออกมาจากหน้าอก ไหลเต็มทั่วทั้งแขนตามด้านหลังฝ่ามือของเขา

“โจวจั่น อดทนเอาไว้ ฉันเรียกรถพยาบาล!”

หลังจากที่เจิ้งซิ่วหยาได้ผ่านการต่อสู้ที่ดุเดือดเมื่อสักครู่นี้ทั้งสมองต่างก็สับสนไปหมด มองดูโจวจั่นที่ทั่วทั้งตัวเต็มไปด้วยเลือด สมองของเธอวุ่นวายจนกลายเป็นเถ้าถ่าน ไม่รู้ว่าควรจะทำอะไรโดยสมบูรณ์แบบ

สติปัญญาล่ะ!สมองล่ะ!ใครจะบอกเธอได้ว่าควรจะทำอย่างไรดี!

โจวจั่นยิ้มให้เห็นฟันที่แนบไปด้วยเลือดอย่างอ่อนแรง “ลูกพี่ เธอฟังฉันพูด…”

“พูดบ้าอะไร!ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น!เก็บแรงเอาไว้” มือที่ผอมบางของเจิ้งซิ่วหยากดลงบนที่ด้านหลังฝ่ามือของเขา ช่วงเขากุมบาดแผลเอาไว้แน่น ทว่าหยุดเลือดเอาไว้ไม่ได้ ไม่ช้าก็เปียกชุ่มฝ่ามือของเธอ

โจวจั่นพิงอยู่ในอ้อมแขนของเธอ ไม่เคย…ไม่เคยเข้าใกล้เธอขนาดนี้มาก่อน “ดีจริงๆ…”

เขาหัวเราะขึ้นอย่างโง่ๆ ราวกับเก็บของมีค่าได้ยังไงอย่างงั้น

เจิ้งซิ่วหยาถูกเขาทำให้งงโดยสมบูรณ์แบบ “พูดบ้าอะไร ดีบ้านเธอสิ เธอถูกกระสุนแล้วคนโง่ เมื่อครู่นี้ทำไมถึงพุ่งเข้ามา เธอไม่เอาชีวิตแล้วหรอ!”

โจวจั่นกลับไปลนลานเลยแม้แต่น้อย “หากฉันไม่ ไม่พุ่งเข้ามา เธอ เธอก็ล้มลงแล้ว”

“ฉันไม่ได้ตายง่ายขนาดนั้น เมื่อครู่นี้อยู่ที่ด้านล่างฉันก็ไม่ได้ตาย ฉันคนนี้ดวงแข็ง ตายไม่ลง!” สมองของเจิ้งซิ่วหยาสับสน ทว่าดวงตาเริ่มน้ำตาไหลโดยสัญชาตญาณ

โจวจั่นมองเห็นน้ำตาของเธอ ยิ้มจนฉีกปากด้วยความพึงพอใจ “ลูกพี่ เธอกำลังร้องไห้ให้กับฉันหรอ?”

เจิ้งซิ่วหยาโมโหมาก “เวลาไหนแล้วพูดจาแบบนี้!”

ขาทั้งสองข้างของโจวจั่นทาบไปกับพื้น เขาค่อนข้างที่จะอ่อนล้า หนังตาขยับขึ้นลงอย่างหนักอึ้ง “ลูกพี่ ฉันตายลงแบบนี้…ที่จริงก็ไม่เลว”

“โจวจั่น…คุณตายไม่ได้ คุณตายไม่ได้!”

“ไม่เช่นนั้นฉันจะชดใช้หมดได้ยังไง!ฉันไม่ชอบติดหนี้มากที่สุด!”

โจวจั่นกระพริบตาอย่างกินแรง “ติดหนี้ฉัน…จะจำฉันไปตลอดได้หรือเปล่า?”

เจิ้งซิ่วหยาปิดตาลง ชั่วพริบตาน้ำตาไหลทะลักออกมาเต็มหน้า “ไม่ได้!เธอกล้าตาย ฉันก็จะลืมเธอ!”

โจวจั่นไอขึ้นอย่างอ่อนแรง เลือดพ่นออกมาจากการไอของเขา “เจิ้งซิ่วหยา ฉันจะไม่ไหวแล้ว ฉัน…หนาว…”

“ฉันกอดเธอเอาไว้ ฉันกอดเธอเอาไว้!ไม่หนาว ไม่หนาว!” เข่าทั้งสองข้างของเจิ้งซิ่วหยาคุกเข่าลงกับพื้น แขนทั้งสองข้างโอบล้อมเขา กอดเขาเอาไว้แน่น “ไม่หนาวแล้ว ไม่หนาวแล้ว!”

โจวจั่นเอนศีรษะลงบนหน้าอกของเธอ “ตอนที่…เจอกับเธอครั้งแรก ฉัน ฉันก็รู้สึกว่า เธอ…พิเศษมาก”

เจิ้งซิ่วหยาร้องไห้จนไม่มีเสียงออกมา “ไม่ต้องพูดแล้ว!ฉันรู้ทั้งหมด!”

โจวจั่นเหวอ “รู้อะไร?”

“เธอแม่ง!เธอแอบรักฉันแอบรักจนทั่วทั้งโรงพักต่างก็รู้ ฉันก็ไม่ได้ตาบอด ฉันต้องรู้อยู่แล้ว!

ดังนั้นตอนนี้เธออย่ายืมใช้โอกาสที่กำลังจะตายมาสารภาพกับฉัน ฉันไม่อยากจะมาเป็นแบบหนังวิญญาณ ความรัก ความรู้สึก

ฉันแม่งกลัวผีที่สุดเลย หากเธอกลายเป็นผี อย่าคิดมาหาฉันอีกไปตลอดกาล!ฉันจะติดยันต์สาดเลือดสุนัขแม้แต่ประตูใหญ่บ้านฉันเธอก็เข้าไปไม่ได้!”

เจิ้งซิ่วหยาพูดจบประโยคยาวราวกับปืนกลยังไงอย่างงั้น พูดจนโจวจั่นไม่มีคำพูดแล้ว เขาเป็นเพราะว่ากินแรงในการหายใจหน้าอกกระเพื่อมอย่างรุนแรง อดกลั้นอยู่นานถึงพูดขึ้นว่า “เธอ…รู้ทั้งหมด งั้น งั้นเธอชอบ…ฉันไหม?”

คำถามนี้จะตอบยังไงดี?

เจิ้งซิ่วหยาไม่เคยมีความคิดใดๆที่นอกเหนือจากความเป็นเพื่อนสนิทกับเขาจากใจจริง ไม่มีเลยจริงๆ!

แต่ว่าเขาต่างก็เป็นแบบนี้แล้ว…เธอทำยังไงได้? พูดว่าไม่มีได้หรอ?

“เธออยากจะรู้คำตอบ? ได้ พรุ่งนี้ฉันจะบอกเธอ เธอแข็งใจก็ต้องแข็งใจจนถึงพรุ่งนี้!” เจิ้งซิ่วหยาร้องไห้จนเสียงแหบพร่า น้ำหูน้ำตาเปื้อนไปเต็มครึ่งหน้าอย่างสุดจะอดกลั้น

“เธออย่าร้องไห้…ร้องเดี๋ยวเดียวก็พอ…” ร้องเยอะแล้ว เขาปวดใจ

เจิ้งซิ่วหยาเช็ดน้ำตาที่อยู่บนใบหน้าบนบ่าของเขา “คนโง่ อย่าสร้างปัญหาให้กับฉัน เธออย่าล้มลง คนโง่!”

โจวจั่นฉีกปาก อยากจะหัวเราะ แต่ว่าหัวเราะไม่ออก เขายกมือขึ้นอย่างไร้เรี่ยวแรง อยากจะจับมือข้างหนึ่งของเธอ “คำตอบนี้…ฉันเกรงว่าจะไม่ได้ยินแล้ว…ซิ่วหยา ฉัน ฉันก็เรียกแค่ครั้งนี้ครั้งเดียว…

เธอ…อย่าลืมฉัน อย่า…ลืมว่า มีคนโง่…แค่กๆ คนโง่…ที่ชื่อโจวจั่น เคย เคยชอบเธอ”

“ไม่เอา!!โจวจั่น!!ไม่…”

มือที่ชุ่มไปด้วยเลือดข้างนั้นวางลงบนด้านหลังฝ่ามือของเธออย่างช้าๆ เพิ่งจะสัมผัสได้ถึงอุณหภูมิร่างกายของเธอ ก็ลื่นไหลลงอย่างหมดเรี่ยวแรง ตกลงไปบนพื้นอย่างหนักหน่วง.

ประธานหยิ่งยโสของฉัน

ประธานหยิ่งยโสของฉัน

Status: Ongoing

คุณหลง อย่าหยิ่งยโสเกินไป / ประธานหยิ่งยโสของฉัน หมออายุรศาสตร์มือหนึ่งฉู่ ลั่วหาน แต่งงานมาสามปีแล้ว กลับ ไม่มีใครสักคนรู้ว่าสามีเธอเป็นคุณชายใหญ่ของตระกูลหลง ตระกูลร่ำรวยอันดับแรกของเมืองเจียงตู ซึ่งเป็นคุณชาย เซียวที่ใครๆได้ยินชื่อก็ต้องหวาดกลัว ตลอดสามปีมาทั้งสอง ไม่เคยมีอะไรกัน เธอต้องทนดูรูปภาพหวานๆของเขากับเมีย น้อยโชว์บนหน้าจอ เธอหัวเราะ “หลงเซียว เราหย่ากันเถอะ” ” เห้อ หย่าเหรอ คุณผู้หญิง คุณคิดว่าผมเป็นอะไร? ” เธอเซ็น ใบหย่าอย่างไม่ลังเล ทิ้งแหวนแต่งงาน ดีมาก! เธอกล้ามาก คอยดูแล้วกันว่าผมจะจับคุณกลับมายังไง!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท