ตอนที่ 875 เราจับกุมผู้กระทำความผิดตามกฎหมาย
“โตขนาดนี้แล้ว ไม่สุขุมเลยแม้แต่น้อย วิ่งอะไรกัน?”
หลงถิงตำหนิเบาๆใส่หลงจื๋อที่เพิ่งจะเข้าประตูมา เพียงแต่การตำหนิแบบนี้ คือคำตักเตือนที่ห่วงใยของพ่อที่มีต่อลูกชายเสียมากกว่า
หลงเซียวเหลือบสายตาขึ้นเล็กน้อย มองดูหลงจื๋อแวบหนึ่ง
“พี่ใหญ่กับพี่สะใภ้ใหญ่ไม่ได้กลับมานานมากแล้ว ผมอยากแสดงออกถึงความต้อนรับของผม” หลงจื๋อทิ้งกุญแจลง เตะรองเท้าแตะทิ้ง การกระทำทุกอย่างเสร็จภายในห้าวินาที
เพราะว่า เขามองเห็นชูชูน้อยที่ถูกหยวนชูเฟินอุ้มเอาไว้
เด็กน้อยสุดที่รักคิดไม่ถึงว่าก็อยู่ด้วยเช่นเดียวกัน!
ในโทรศัพท์เขารู้เพียงแค่พี่ใหญ่และพี่สะใภ้ใหญ่กลับมาแล้ว คิดไม่ถึงว่ายังมีเซอร์ไพรส์ที่อยู่นอกเหนือความคาดหมายอีก!
“คุณแม่!พี่สะใภ้ใหญ่!อยู่กันที่นี่หรอครับ? ชูชูน้อยที่น่ารักของเราก็อยู่ มา ให้ลุงรองอุ้มหน่อย” เสี่ยวจื๋อเดินยิ้มด้วยความสนิทสนมไปด้วย มือเช็ดลงบนชุดสูทไปด้วย
หยวนชูเฟินพยักพเยิดหน้า “เสี่ยวจื๋อ ทำไมถึงไม่รู้เรื่องรู้ราวขนาดนี้? แม่ของเธอก็อยู่นะ ไม่รู้จักทักทายหน่อย?”
หลงจื๋อไม่ใช่ไม่เห็นโฉหวั่นชิง แต่สถานะของทั้งสองคนในตอนนี้ทำตัวไม่ถูกมาก หากเขาเป็นฝ่ายทักทายเธอก่อนมากจนเกินไป จะเป็นการแสดงว่าตัวเองพยายามอย่างหนักที่จะดึงแม่แท้ๆของตัวเองลากเข้ามาในตำแหน่งศูนย์กลางของตระกูล
ฟังคำเตือนของหยวนชูเฟินแล้ว หลงจื๋อถึงเรียกแม่ออกมาคำหนึ่ง
นัยน์ตาที่ปลื้มปิติของโฉหวั่นชิงต่างก็เต็มไปด้วยน้ำตา “อืม กลับมาก็ดีแล้ว”
ลั่วหานได้สังเกตเห็นสีหน้าและท่าทางของโฉหวั่นชิง ในใจอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา จะโทษก็โทษได้แต่หลงถิงเท่านั้น ทำจนนี่คือเรื่องอะไรกัน!ทำสถานการณ์จนกลายเป็นสภาพแบบนี้ ครอบครัวอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาอึดอัดจนไม่เป็นตัวของตัวเอง
ชูชูน้อยมีความรู้สึกที่เป็นพิเศษกับหลงจื๋อ วันที่เกิดนั้นก็แสดงออกถึงความรู้สึกดีที่มีต่อหลงจื๋อ คราวนี้เห็นหลงจื๋อ คิดไม่ถึงว่าจะเป็นฝ่ายหัวเราะขึ้นก่อนอีก
“พี่สะใภ้ใหญ่!พี่สะใภ้ใหญ่!เมื่อกี้ชูชูหัวเราะให้ผมใช่หรือเปล่า? พระเจ้า หัวใจของผม!ใช่ไหมครับๆ!” หลงจื๋อตื่นเต้นจนหมุนวนไปรอบๆอยู่กับที่ ร่างสูงร้อยแปดสิบกว่ากระโดดโลดเต้นราวกับเด็กยังไงอย่างงั้น
ลั่วหานแสดงออกถึงความไม่เชื่อ ปกติแล้วชูชูน้อย…จริงๆด้วย!
“กำลังหัวเราะอยู่จริงๆ ปากน้อยๆหัวเราะร่าเลย” ลั่วหานแสดงออกถึงความสงสัยเป็นอย่างมากเกี่ยวกับรสนิยมความงามของลูกสาว หรือว่าจะชอบแบบหลงจื๋อนี่?
หยวนชูเฟินก็ถูกชูชูทำให้ยิ้มจนหน้าบาน “เด็กเล็กมีสายตาหยั่งรู้ ฝ่ายตรงข้ามเป็นคนที่จิตใจดีก็จะสนิทสนมเป็นพิเศษ เสี่ยวจื๋อจิตใจดี ชูชูก็ต้องอยากเข้าใกล้อย่างแน่นอน”
หลงจื๋อหัวเราะคิกคักอย่างโง่ๆ ทึ้งผมของตัวเอง ดีใจจนไม่รู้จะทำอย่างไร “นั่น…คุณแม่ก็ชมผมดีเกินไปแล้วครับ ผมยอดเยี่ยมขนาดนั้นที่ไหน”
ในใจของโฉหวั่นชิงสงบนิ่งขึ้นมาก หยวนชูเฟินหลังจากที่สูญเสียความทรงจำคิดไม่ถึงว่าจะเปลี่ยนไปเป็นคนละคน ท่าทีที่มีต่อหลงจื๋อดีมาก ถ้างั้นเธอก็วางใจแล้ว
หลงจื๋ออุ้มชูชูไปอย่างระมัดระวัง ชูชูน้อยนอนคว่ำลงในอ้อมแขนของเขา บนใบหน้าเล็กๆคิดไม่ถึงว่าจะแนบไปด้วยรอยยิ้มอยู่ตลอด เด็กน้อยใช้การเคลื่อนไหวจริงๆแสดงออกถึงความรู้สึกชื่นชอบอย่างไร้คู่ต่อกรที่ตัวเองมีต่อลุงรอง
“พระเจ้า!พี่สะใภ้ใหญ่ พี่ให้ชูชูน้อยพักอาศัยอยู่ที่นี่เถอะ!เธอดูเหมือนจะชอบผมมากๆ!พระเจ้า พระเจ้า หัวใจที่หวานแหววของผม!” หลงจื๋อพอตื่นเต้นก็ปากไม่มีหูรูด อยู่ต่อหน้าของหลงถิงก็ไม่ได้ควบคุม
ลั่วหานรับปากอย่างสดชื่น “ได้สิ เธอดูแล ป้อนนม เปลี่ยนผ้าอ้อม วันหนึ่งป้อนนมหกครั้ง กลางดึกร้องไห้เธอโอ๋”
“หา…ยุ่งยากขนาดนี้เลย? ผมทำไม่ไหว”
หลงจื๋อเม้มริมฝีปาก เอ่ยขึ้นที่ข้างหูของลั่วหานเบาๆ “พี่สะใภ้ใหญ่ พ่อผมเคยอุ้มชูชูหรือเปล่า?”
หยวนชูเฟิน “…”
ลั่วหาน “…”
ข้อเสนอของหลงจื๋อใจกล้ามากจริงๆ ให้หลงถิงอุ้มเด็ก?
อย่าว่าแต่ด้วยนิสัยที่เย่อหยิ่งนั่นของหลงถิงไม่มีทางยอมอย่างแน่นอน ต่อให้เขายอม ลั่วหานก็ทำใจไม่ได้ หากหลงถิงทำร้ายลูก เธอจะไปหาใคร?
หยวนชูเฟินกลับเอ่ยขึ้นอย่างรู้สึกน่าสนใจเป็นพิเศษ “ให้พ่อของเธออุ้ม ถึงอย่างไรเขาก็ถือว่าเป็นคุณปู่ของชูชู”
ลั่วหานส่งเสียงออกมาด้วยความตกใจ “แม่…”
หยวนชูเฟินส่งสายตาให้กับเธอ “ไม่เป็นไร อุ้มสักหน่อยไม่ใช่เรื่องใหญ่”
ห้องรับแขกยังคงกำลังพูดคุยกันเรื่องโปรเจกต์และตลาดหุ้น ได้พูดกันจากหุ้นรายตัวไปจนถึงแนวโน้มโดยรวมของตลาดหุ้นจีน พื้นที่หัวข้อสนทนาข้ามไปถึงอสังหาริมทรัพย์ การเงิน อีคอมเมิร์ซ ตอนนี้ที่กำลังพูดคุยกันคือการเสนอขายหุ้นให้กับบุคคลในวงจำกัดที่กำลังนิยมกันในตอนนี้
หลงถิงไม่พูด ในใจกลับไม่ยอมรับไม่ได้ หลงเซียวคือคู่เจรจาที่ดีมากคนหนึ่ง มุมมอง ความรู้ สติปัญญาและความสามารถในการตัดสินพิจารณาฉลาดล้ำกว่านักธุรกิจทั่วไปเป็นอย่างมาก!
“อสังหาริมทรัพย์กำลังเดินลงเหวจริงๆ บริษัทMBKก็ต้องแก้ไขกลยุทธ์ในการพัฒนา” หลงถิงฝืนหัวเราะขึ้นอย่างประชดประชัน
หลงเซียวกลับไม่แยแส “เรือใหญ่ทนต่อลมพายุ เรือเล็กหมุนไปทางอื่นได้ง่ายมาก”
“พ่อ พี่ใหญ่ พวกเราอยู่ที่บ้านไม่ต้องคุยกันเรื่องงานแล้วมั้งครับ? ดูเอกสารรายงานมาทั้งวัน ไม่ปวดหัว? มาครับ ให้หนูน้อยของเราทำให้สดชื่นหน่อยจะเป็นไง?”
หลงจื๋ออุ้มชูชูน้อยตรงไปนั่งลงทางด้านของหลงถิง เท้าของชูชูหันไปทางหลงถิง
“พูดคุยเรื่อยเปื่อย” หลงเซียวตอบรับไปแบบลวกๆ
หลงถิงก็ไม่ยินยอมเอ่ยถึงบทสนทนาตาต่อตาฟันต่อฟันเมื่อสักครู่นี้เช่นเดียวกัน หันหน้ามองลูกชาย แวบแรกเห็นชูชูตัวน้อย ก็หลบสายตาขึ้นมา
หลงจื๋อส่งชูชูไปทางหลงถิงอย่างระวังแล้วระวังอีก “พ่อ พ่ออุ้มดูหน่อย”
เด็กตัวน้อยๆ ทั่วทั้งร่างกายอ่อนนิ่มไร้กระดูก โดยเฉพาะอย่างยิ่งผิวที่อ่อนนุ่ม ตอนนี้นิ้วมือเล็กๆยังคงเป็นกึ่งใสยังไงอย่างงั้น ไม่กล้าที่จะใช้แรงสัมผัส กลัวไม่ระวังทำเธอได้รับบาดเจ็บ
วินาทีนี้ สายตาของหลงถิงค้างอยู่บนร่างกายของเด็กน้อยอย่างแน่นหนา ตัวเขาเองยังไม่อาจจะเข้าใจ ทำไมถึงละสายตาไปไม่ได้
เขาไม่ชอบเด็กคนนี้อย่างชัดเจน!ยิ่งไม่ชอบพ่อแม่ของเด็กคนนี้!
นี่คือลูกหลานของตระกูลมู่!คือคนที่เขาอยากจะรีบฆ่าตายให้หมด แต่ว่า…
แต่ว่าความรู้สึกที่ทะลักออกมาภายในจิตใจกลับเคลื่อนไหวอย่างหนักหน่วง บีบบังคับให้เขายื่นแขนออกไป “ฉัน…ลองอุ้มดู”
คิ้วทรงดาบของหลงเซียวยกสูงขึ้นอย่างกะทันหัน ส่วนลึกภายในดวงตาคือการต่อต้านที่เรียบง่ายเด่นชัด
“พ่อ ระวังหน่อย มือ…ทางนี้ยกสูงขึ้นอีกนิดนึง โอเคแล้ว…แขนลู่ลงแบบนี้ พ่อลู่ลงหน่อย…” หลงจื๋อกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญ สอนหลงถิงอุ้มเด็กยังไง
สุดท้ายถูกสายตาของหลงถิงมองจนไม่กล้าพูดอะไรออกมา “ฉันมีประสบการณ์หรือว่าแกมี? แกกับพี่ชายของแกฉันไม่เคยอุ้มที่ไหน?”
คำพูดที่ค่อนข้างโมโหประโยคนึงอย่างนี้ เขาพูดได้อย่างเป็นธรรมชาติมาก แต่ว่าหนึ่งประโยคที่ค่อนข้างเป็นธรรมชาติขนาดนี้ ตกลงบนหัวใจ ทำให้เกิดคลื่นที่นับไม่ถ้วน
หลงจื๋อมองไปทางหลงเซียวโดยจิตใต้สำนึกในทันที ผู้ที่ถูกมองดูเหมือนไม่ได้ยินคำพูดเมื่อสักครู่นี้
“อืม…ว่านอนสอนง่ายมากจริงๆ”
ตอนที่ชูชูน้อยไม่โวยวายเพราะความง่วงนอนว่านอนสอนง่ายมากมาโดยตลอด ร้องไห้งอแงอย่างไร้เหตุผลน้อยมาก จากอ้อมแขนของหลงจื๋อมาถึงอ้อมแขนของหลงถิง แม้ว่าจะไม่ได้ร้องไห้ แต่รอยยิ้มบนใบหน้าเล็กๆกลับหายไปแล้ว
ต่างก็บอกว่าเด็กมีพลังในการหยั่งรู้ สามารถมองเห็นสิ่งที่ผู้ใหญ่มองไม่เห็น ดูจากปฏิกิริยาตอบสนองของชูชู คงจะเป็นเช่นนั้นจริงๆ
ที่โชคดีก็คือ ชูชูน้อยไม่ได้ร้องไห้โวยวายตรงนั้น ถ้าเป็นเช่นนั้นก็คงจะเก้กังมาก
หลงถิงประคองเด็กน้อยเอาไว้ แขนไม่กล้าขยับมั่ว คุ้มครองเธออย่างระมัดระวัง ก้มศีรษะลงเห็นเข้ากับดวงตาที่สวยสะอาดราวกับลูกองุ่นสีม่วงของเธอได้พอดี “ดวงตาเหมือนแม่ของเธอ”
ลั่วหานกับหยวนชูเฟินก็เดินมาที่ห้องรับแขกด้วยเช่นเดียวกัน ทั้งครอบครัวล้อมรอบหลงถิงและเด็กน้อยเอาไว้ ครึ่งหนึ่งคือให้ความสนใจกับทั้งสองคน ครึ่งหนึ่งคือเป็นห่วงการกระทำของหลงถิง
หยวนชูเฟินเห็นด้วย “ค่ะ ดวงตาและปากต่างก็เหมือนลั่วลั่ว จมูกเหมือนเซียวเอ๋อ สันจมูกโด่งมาก”
ในใจของหลงถิงถูกหนามแท่งหนึ่งทิ่มแทงทะลุ เพราะว่าเขาจำได้ สันจมูกของมู่เส้าเอินก็โด่งมากเช่นเดียวกัน เรียกได้ว่าหลงเซียวได้รับการถ่ายทอดจุดเด่นบนใบหน้าของมู่เส้าเอินมาจนหมด
คิดมาถึงตรงนี้ เด็กที่อยู่ในอ้อมแขนก็ทิ่มแทงตาเช่นเดียวกัน
“แง้…” ชูชูร้องไห้อย่างหนักขึ้นมาอย่างกะทันหัน มือเล็กๆทั้งสองข้างโบกขยับไปทั่ว ราวกับได้รับการทารุณกรรมยังไงอย่างงั้น อ้าปากกว้างร้องไห้จนไม่เห็นดวงตา
การเคลื่อนไหวของหลงถิงแข็งทื่อ “ดีๆอยู่ทำไมถึงร้องไห้ออกมา?”
“ให้หนูเถอะค่ะ หนูอุ้ม”
ลั่วหานถือโอกาสรับลูกไป ตัวเองอุ้มเอาไว้ปลอบโยนเบาๆ หลงถิงรักษาท่าทางเมื่อสักครู่นี้เอาไว้ ใบหน้าโมโหจนแดงก่ำ
หลงจื๋อสูดหายใจเต็มปอด ต่อหัวข้อสนทนาเบี่ยงเบนความสนใจ “ชูชูน้อยหิวแล้วล่ะมั้ง? ผมก็หิวแล้วเหมือนกัน พวกเราเมื่อไรทานข้าว เริ่มทานข้าวได้แล้วล่ะมั้ง?”
จุดประสงค์ที่หลงเซียวพาลูกมาเจอคุณแม่ได้ถึงแล้ว ไม่ได้อยากอยู่ทานข้าวต่อ พอดีกับที่ชูชูร้องไห้โวยวาย เป็นเหตุผลให้เขาออกไปจากที่นี่พอดี
“ลูกอยู่ ไม่สะดวก พวกเราขอตัวกลับก่อน” หลงเซียวปฏิเสธอาหารเย็นด้วยความมีมารยาทอย่างเป็นธรรมชาติ ร่างกายที่สูงโปร่งยืนขึ้นมาจากโซฟา โซฟาด้านนั้นว่างเปล่าภายในชั่ววินาที
หยวนชูเฟินจะทำใจให้พวกเขาไปได้ที่ไหนกัน ดึงแขนเสื้อของหลงเซียวเอาไว้ “โอ๋แป๊บเดียวก็หายแล้ว อีกสักครู่อาหารก็เสิร์ฟขึ้นโต๊ะ ทานสักเล็กน้อยค่อยกลับเถอะ ทางไกลขนาดนั้น ลูกไม่หิว ลั่วหานก็ต้องหิว”
หลงเซียวไม่ได้มีความสนใจ “แม่ วันหลังเถอะครับ ผมรับแม่ไปทานที่บ้าน”
หยวนชูเฟินชักสีหน้า บ่นหลงถิงอย่างไม่สบอารมณ์ “โทษคุณคนเดียว แม้แต่เด็กก็ยังอุ้มไม่ดี!”
หลงถิงเมื่อครู่นี้ทั้งเก้กังทั้งหงุดหงิด แต่หยวนชูเฟินอ้อนขนาดนี้ ความโมโหในใจของเขาชั่วพริบตาก็หายไป โอ๋อย่างมีความอดทน “ใช่ ความผิดของผม ต่อไปไม่อุ้มมั่วซั่วแล้ว”
โฉหวั่นชิงอยู่ด้านข้างมองดูอย่างชัดเจน ท่าทีที่หลงถิงมีต่อหยวนชูเฟิน…เรียกได้ว่าเชื่อฟังคำสั่ง พะเน้าพะนอตามใจจริงๆ!
เธอกับหยวนชูเฟิน ผลตอบแทนที่ได้รับคือความแตกต่างระหว่างเมฆกับโคลนจริงๆ!
ช่างเถอะ…
“คุณท่าน คุณผู้หญิง ด้านนอกมีรถตำรวจหลายคันมาถึง!คือแขกภายในบ้านหรือเปล่าครับ?” คนรับใช้สิ่งมารายงานสถานการณ์อย่างเร่งรีบ เรื่องเกิดเร่งด่วน เขาก็ไม่มีเวลาพอที่จะสนใจขอรับคำสั่งก่อนแล้ว
ดวงตาของหลงถิงหรี่ลงอย่างรุนแรง “รถตำรวจ? คือใคร?”
“ผมยังไม่ได้เห็นคน รถขับเข้ามาผมก็รีบมาบอกกับท่านแล้ว ผมไปดูสักหน่อย!” คนรับใช้วิ่งออกไปอีกครั้ง
ลั่วหานและหลงเซียวสบตากัน ทั้งสองคนต่างก็กำลังคาดเดา ในเวลานี้ตำรวจมาทำไมกัน?
ปากของโฉหวั่นชิงเม้มเข้าหากันจนกลายเป็นเส้น ก้าวถอยไปหนึ่งก้าวโดยสัญชาตญาณ แต่ไม่บังเอิญ ด้านหลังของเธอคือแจกันดอกไม้ตั้งพื้นขนาดใหญ่ เธอไม่มีที่จะถอย
หลงจื๋อต่อว่า “กินอิ่มจนแน่นแล้วล่ะมั้ง!เวลาอาหารเย็นรบกวนความสงบ ผมไปดูหน่อย!”
คิดไม่ถึงว่าจะทำลายงานเลี้ยงรวมตัวครอบครัวของพวกเขา รนหาที่ตาย!
“คุณชายรองไม่ต้องดูแล้ว คือผม”
ในวินาทีที่หลงจื๋อจะพุ่งออกไป เงาร่างสีเขียวร่างหนึ่งก็ขวางทางของเขาเอาไว้ คนที่เข้าประตูมาคือเฉินเจา
หลงจื๋อขมวดคิ้วเข้าหากันแน่น “หัวหน้าเฉิน มาทานอาหารฟรีที่บ้านเราทำอะไรเอิกเกริกขนาดนี้ ไม่ถึงขนาดนั้นมั้งครับ?”
หลงเซียวและลั่วหานยืนอยู่ที่ด้านหลัง หลงเซียวไม่ได้รับข่าวจากเจิ้งซิ่วหยา ดังนั้นตอนนี้ไม่รู้สถานการณ์เช่นเดียวกัน
ตำรวจตามมาถึงบ้านตระกูลหลงโดยตรง เห็นได้ว่าไม่ใช่เรื่องเล็กๆ
เฉินเจาโชว์หนังสือรับรองออกมา “คุณชายรองหลง ผมมาวันนี้ ไม่ใช่ทานอาหารฟรี แต่เป็นดำเนินงานราชการ”
หลงถิงเป็นเจ้าบ้าน เดินมาที่ด้านหน้าสุดด้วยใบหน้าที่เยือกเย็น บังลูกชายเอาไว้ที่ด้านหลัง “หัวหน้าเฉิน ไม่ทราบว่าที่คุณดำเนินการคืองานราชการอะไร? ตอนนี้คุณบุกเข้าบ้านประชาชนโดยพลการ ไม่มีหลักฐานเพียงพอ ผมฟ้องคุณได้!”
ด้านหลังของเฉินเจาตามมาด้วยตำรวจผู้ช่วยในเครื่องแบบสองคน ด้านนอกห้าคนถือปืนเอาไว้ รถตำรวจสามคันต่างก็มีไฟบนหลังคากระพริบอยู่ คนมากมายอึกทึกครึกโครมไม่ใช่การล้อเล่น
เฉินเจาเก็บหนังสือรับรองลง เอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าที่นิ่งเฉย “ท่านประธานหลง ในบ้านมีผู้ต้องสงสัยจ้างวานฆ่า หลักฐานแน่ชัด พวกเราจับกุมผู้ต้องหาตามกฎหมาย ยังไงก็ขอความกรุณาให้ความร่วมมือด้วย