ตอนที่ 926 เบบี๋ไม่แฮปปี้ เบบี๋งอแง
วันรุ่งขึ้น แสงพระอาทิตย์สีทองสอดส่องมาที่ระเบียง ฮีตเตอร์ที่อุ่นกำลังดีแตะไปที่ผิวพรรณของเธอ เหมือนว่าทุกส่วนของร่างกายสามารถหายใจได้ เธอนอนขดตัวอยู่ในอ้อมแขนของคนรัก ทุกลมหายใจเต็มไปด้วยกลิ่นของเขา มันช่างอบอุ่น สบายใจ อิ่มเอมใจและเกียจคร้าน เธอกลายเป็นแมวน้อยไร้กระดูกที่นอนขดอยู่บนที่นอนต้องให้เจ้าของของมันคอยอุ้มไว้
ตอนนี้ลั่วหานก็คือแมวตัวนั้น ผมสีดำเงาของเธอพาดอยู่ตรงหน้าอกของหลงเซียวแล้วปกคลุมไปด้วยแสงอ่อนๆ
“คุณสามีคะ…..”
เธอเรียกหลงเซียวด้วยเสียงที่อ่อนแรง เขายิ้มแล้วจุ๊บที่หน้าผากของเธอ “เหนื่อยแล้วเหรอ?”
ลั่วหานหันมามองหน้าเขา แล้วมุดตัวเข้าไปหาเขาและผ้าห่มขนสัตว์ที่นิ่มๆ “ค่ะ”
หลังจากพูดจบไปเธอรู้สึกว่าเหมือนมีอะไรผิดพลาดไป เหมือนว่าคนที่จะต้องเหนื่อยต้องเป็นเขามากกว่านะ?
หลงเซียวก้มหน้าหลงอย่างเอ็นดูเธอแล้วตามด้วยเสียงงึมงำ เขาล้มทับลงไปที่ตัวเธอ “มาผมนวดให้สบายๆ แล้วคุณค่อยลุกจากเตียง”
ลั่วหานคิดในใจว่าไม่ดีกว่า ถ้าให้เขานวดให้จริงๆ วันนี้คงไม่ต้องลุกจากเตียง “ไม่เป็นไรค่ะไม่เป็นไร ไม่เหนื่อยแล้ว ฉันจะไปโรงพยาบาลแล้ว”
หลงเซียวเอามือข้างหนึ่งท้าวไว้ที่หัว มืออีกข้างก็ลูบผมเธอเบาๆ “ถ้าคุณไม่เหนื่อย ผมเองก็….”
“หยุดเลยนะ! ฉันจะต้องไปทำงาน คุณ……คุณพอแค่นี้เลย” ลั่วหานเพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองหลงกลเขาเข้าแล้วเธอก็เลยรีบเปลี่ยนคำพูด
“…..คุณ……” หลงเซียวทั้งโกรธทั้งอยากหัวเราะ เขาก็เลยพยักหน้า “อืม ผมไปส่งคุณ”
ลั่วหานครุ่นคิดแล้วเธอก็ปฏิเสธเขาไป เขางานยุ่งขนาดนี้ “ฉันขับรถไปเองได้ คุณไปที่บริษัทดีกว่า ฉันลืมบอกคุณว่าตอนนี้ไป๋เวยเป็นคนมีครรภ์ คุณลดงานให้เธอหน่อยส่วนทางบริษัทฉู่ซื่อตอนนี้ก็เข้าที่เข้าทางแล้ว หรือไม่คุณลองหาพนักงานใหม่ไหมคะ? แล้วให้ไป๋เวยสอนงานให้กับเขา พอขาเรียนรู้งานได้เข้าที่เข้าทางไป๋เวยก็ลาคลอดได้พอดี”
วิธีที่ดีที่สุดคือการเปลี่ยนเรื่องคุย แล้วต้องเปลี่ยนไปเป็นเรื่องที่ดูเหมือนว่าวิชาชีพมากๆ
หลงเซียวครุ่นคิดอย่างจริงจังอยู่นาน เป็นไปอย่างที่คิดจริงๆ “อืม ผมจะลองคิดทบทวนดู”
บริษัทฉู่ซื่อได้เวลาต้องเลือกคนที่เหมาะสมมาควบคุมดูแลแล้วจริงๆ เขานั่งในตำแหน่งประธานของMBK ก็ต้องวางมือด้านบริษัทฉู่ซื่อลงบ้าง แต่ว่าจะเลือกใครมาเป็นประธาน เรื่องนี้ต้องปรึกษากันอย่างจริงจังอีกที
“คุณชายกู้ดีไหม?”
“ไม่ได้ ไป๋เวยลาคลอด เขาเองก็คงลาด้วยเช่นกัน ไม่แน่ทั้งสองคนอาจจะไปที่อเมริกา” หลงเซียวคิดด้านนี้ไว้รอบคอบแล้ว
ลั่วหานครุ่นคิดแต่ก็คิดไม่ออก
หลงเซียวจับไปที่แก้มที่แดงก่ำกว่าเดิมหลังจากที่ได้ทำเรื่องเมื่อคืนแล้วก็พูดอย่างไม่อยากจากกันว่า “คุณยังไม่ลุกอีกเหรอ? อยากจะท้าทายความอืดความทนของผมใช่ไหม? หรืออยากจะท้าทายความเป็นสุภาพบุรุษของผม?”
“ลุกแล้วค่ะ ลุกเดี๋ยวนี้เลย”
ลั่วหานรีบลุกขึ้นแล้วใส่ชุดนอนหนีออกจากที่อันตรายนั้นไปอาบน้ำ
หลงเซียวนอนพิงอยู่ตรงหัวเตียงแล้วเหม่อลอยไปทางที่เธอวิ่งหนีไป หลังจากได้ยินเสียวน้ำไหลเขาถึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นแล้วออกจากโหมดเครื่องบิน
เพิ่งเปิดเครื่องมาก็มีข้อความเด้งออกมาสิบกว่าข้อความ
จี้ตงหมิง “บอสครับ งานสัมภาษณ์ของบริษัทเทียนเซี่ยเริ่มวันนี้เวลา10นาฬิกา สถานที่คือห้องทำงานของท่านครับ”
หลงเซียวขมวดคิ้ว มีงานสัมภาษณ์จริงๆ ด้วย
กู้เยนเซิน “เป็นเพราะนายนั่นแหละ พ่อของฉันบังคับให้ฉันหยุดพักร้อนก่อนถึงเวลากำหนด แล้วยังให้ฉันเลือกวันดีๆ บินกลับอเมริกาไปช่วยพ่อดูแลเรื่องกิจการ ความคิดของท่านปู่นี่ก็ใช้ได้เลยนะ ไม่คาดคิดว่าเขาจะคิดว่าการที่นายได้กลับไปดำรงตำแหน่งประธานของMBKเป็นเพราะความช่วยเหลือจากฉัน แล้วจะให้ฉันไปร้องทุกข์กับใคร? คุณชายหลงท่านปู่บ้านฉันเขาเชื่อฟังคำพูดของนาย นายไปบอกเขาหน่อยว่าให้ฉันอยู่พักร้อนอีกสักพักเถอะ ฉันไม่อยากกลับอเมริกาจริงๆ นะ”
หลังจากฟังข้อความเสียงของกู้เยนเซินจบ หลงเซียวขมวดคิ้วหนักกว่าเดิม
สงสัยทางบริษัทฉู่ซื่อต้องรีบหาคนมารับมือต่อแล้วจริงๆ
ไป๋เวย : “ท่านประธานคะ ดิฉันส่งรายงานไปที่อีเมลส่วนตัวของท่านแล้วนะคะ”
หลงจื๋อ : “พี่ครับ พี่ครับ พี่ครับ! ทำไมผมถึงโทรหาพี่ไม่ติดเลย? พี่ไปทำงานนอกพื้นที่เหรอ? หรืออยู่บนเครื่องบิน? เมื่อวานคุณแม่มาหาผมที่บ้าน บอกว่าจะจัดงานแต่งให้กับผมและหลินซีเหวินครับ อันที่จริงแล้วเราจัดกันแค่ง่ายๆ ก็พอนะ จริงๆ นะครับ แต่ว่าคุณแม่เห็นว่ามันเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ผมซึ้งใจมากๆ เลยครับพี่! ถ้าพี่เห็นข้อความตอบกลับด้วยนะครับ”
………เป็นอย่างนี้นี่เอง แสดงว่าเมื่อวานคุณแม่ทำธุระที่บ้านหลังเก่าไปเยอะเลย
หลงเซียวตอบกลับไปว่า “ดีครับ”
จากนั้นก็ตอบเพิ่มอีกหนึ่งข้อความว่า “ก็ดีนะ”
ไม่รู้ว่าหลังจากที่หลงจื๋อเห็นข้อความจะรู้สึกอย่างไร
หลังจากนั้นข้อความทั้งหมดเป็นข้อความด้านการงานเกี่ยวกับMBKและบริษัทฉู่ซื่อทั้งหมด หลงเซียวเปิดดูคร่าวๆ ไปจนหมด
ข้อความสุดท้ายเป็นข้อความที่เกาจิ่งอานส่งมา เป็นสติกเกอร์วีแชทที่เขียนว่า “เบบี๋โกรธแล้วนะ เบบี๋งอแง”
หลงเซียวขมวดคิ้วครุ่นคิดเล็กน้อย “?”
เขาเพิ่มตอบข้อความกลับไป เกาจิ่งอานก็ตอบกลับมาทันที
“พี่ใหญ่ครับ พี่ไม่รู้ตัวเหรอว่าผมบล็อกพี่ไปสองอาทิตย์กว่าแล้ว? พี่ไม่รู้ตัวเลยเหรอว่าพี่เสียผมไป15วันแล้ว? 15วันนะ!”
หลงเซียว : “…….บล็อก?”
“แปลว่าพี่จะไม่เห็นหน้าฟีดของผม!” เกาจิ่งอานตอบข้อความกลับแบบวินาทีต่อวินาที
หลงเซียว : “ฉันไม่เคยดูหน้าฟีดข่าวเลย”
เกาจิ่งอาน : “……….”
โอ๊ยๆๆ งอนแล้วนะโกรธแล้วนะรู้สึกหงุดหงิดใจและโกรธมากขึ้นกว่าเดิมอีก
ครั้งที่แล้วพี่ใหญ่ผิดนัดเขา เขาดื่มหนักขนาดนั้นเขารู้สึกเสียใจจนจะเป็นบ้าไป หลังจากนั้นก็เลยบล็อคหน้าฟีดตัวเองไม่ให้หลงเซียวเห็น แต่ปรากฏว่าเขางอนไปครึ่งเดือน ตัวเขาเองนั้นเกลียดพี่ชายจะตาย แต่เขากลับไม่เคยดูหน้าฟีดเลย ไม่! เคย! ดูเลย!
เขากำหมัดแล้วต่อยออกไปอย่างแรง ปรากฏว่าไปต่อยเอาอากาศแล้วตัวเขาเองก็สะดุด แถมสะบัดโดนเอวของตัวเองอีกด้วย แต่อีกฝ่ายกลับไม่รับรู้อะไรเลย
ความรู้สึกมันเป็นยังไงเหรอ?
ก็เป็นความรู้สึกแบบเกาจิ่งอานไงล่ะ
“พี่ใหญ่ครับ…….พี่ไม่ได้ยินเสียงหัวใจของผมที่มันแตกสลายเหรอครับ? ทำหน้า ขมขื่นใจ” เกาจิ่งอานนั่งอยู่บนที่นอนแล้วเอามือเท้าคางไว้ ขมวดคิ้วแล้วเบะปาก
หลงเซียว : “ไม่นะ สงสัยเราอยู่ห่างกันเกินไป”
เกาจิ่งอาน: “………”
ส่วนหลงเซียวนั้นอมยิ้มเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าเกาจิ่งอานทำให้เขายิ้มออกมา
ขณะเดียวกัน ตอนที่ลั่วหานเดินออกจากห้องมา เธอเห็นภาพที่เขายิ้ม มันหล่ออย่างเป็นธรรมชาติมากจนทำให้เธอรู้สึกหวั่นไหว ความรู้สึกแบบนี้มันใช่เลย
เขาทั้งสองหวานกันอยู่นานกว่าจะลงไปชั้นล่าง ตอนนั้นหยวนชูเฟินกลับจากบ้านหลังเก่ามาแล้ว สีหน้าของเธอดูมีชีวิตชีวา
“เสี่ยวจื๋อกับซีเหวินเขาสองคนจดทะเบียนสมรสกันแล้ว แต่ว่าซีเหวินปิดบังที่บ้านไว้ หลงจื๋อเองก็ไม่ได้บอกพ่อของเขาเช่นกัน เหตุผลที่เขาสองคนทำเช่นนี้คือต้องการคบหาอยู่ด้วยกันอย่างเงียบๆ ไม่จัดงานแต่ง แต่ฉันคิดว่าถึงยังไงพวกเขาก็เป็นคนของตระกูลหลง ถ้าไม่จัดงานแต่งมันจะไม่ค่อยดีต่อซีเหวิน และก็ไม่เหมาะกับฐานะของหลงจื๋อด้วย”
หยวนชูเฟินนั่งอยู่ที่โซฟาตรงกลาง แล้วประกาศเรื่องนี้ในฐานะผู้เป็นแม่ของครอบครัว
ลั่วหานเห็นด้วยกับเธอ “งานแต่งต้องจัดอยู่แล้ว ด้านตระกูลหลินเรายังไม่ต้องบอกเขาก็ได้ ไว้วันหลังถ้าเขาสองคนอยากจะเปิดเผยแล้วเราค่อยจัดงานแต่งที่เป็นทางการมาชดเชย”
ทำไมฟังดูคุ้นเคยจัง?
การแต่งงานแบบเป็นความลับของเธอและหลงเซียวก็เริ่มมาจากแบบนี้ไม่ใช่เหรอ?
หยวนชูเฟินเข้าใจความหมายของเธอ เธอมองไปที่ลูกชายของตน “นายว่ายังไง?”
หลงเซียว : “ลั่วลั่วพูดถูกครับ”
เจมส์นั่งดูอยู่ข้างๆ แล้วทำหน้าไม่พอใจ ชิ “เธอพูดอะไรก็ถูกหมดแหละ”
หยวนชูเฟินไม่ได้เมินเจมส์ เธอเชิญให้เขาเข้าร่วมการสนทนาอย่างเป็นกันเองมาก “เจ้าชายเจมส์มีข้อเสมอแนะอะไรไหมคะ? เกี่ยวกับเรื่องแต่งงาน คุณมีไอเดียอะไรที่ดีกว่านี้ไหมคะ?”
ตอนนี้เจมส์กำลังงอนอยู่นะ “มีสิ เจ้าบ่าวเจ้าสาวจะต้องใส่กระโปรงแล้วเต้นระบำฮูลาของอินเดีย หรือไม่ก็มัดเจ้าสาวไว้แล้วโยนลงทะเลไป ให้เจ้าบ่าวว่ายน้ำไปช่วยเธอ ถ้าเจ้าบ่าวไหว้น้ำไม่เป็น เจ้าสาวก็…..”
“เจ้าชาย!” ลั่วลั่วฟังที่เขาพูดแล้วเธอก็หยุดคำพูดมั่วๆ ของเขาด้วยเสียงเบาๆ พูดจาไร้สาระ
หยวนชูเฟินกลับไม่รู้โกรธเลย แต่กลับยิ้มอย่างอ่อนโยนแล้วพูดว่า “งานแต่งที่ประเทศคุณดูน่าสนุกจัง”
หลงเซียวมองไปที่เจมส์อย่างไม่น่าเชื่อ
เจมส์เริ่มรู้สึกเขินเล็กน้อย “ที่จริงแล้ว….มีกิจกรรมอื่นอีกนะครับ”
“ได้เลย ให้พวกเขาไปทำงานกัน แล้วเราสองคนมาปรึกษาหารือกันต่อ” หยวนชูเฟินยิ้มแล้วตอบกลับเจมส์เช่นนี้
ลั่วหานและหลงเซียวรู้สึกตกตะลึงขึ้นมาทันที คุณแม่ดีกับเจมส์มากเกินไปรึเปล่า?
เจมส์อ้อนคุณอย่างน่ารัก “ได้ครับได้ครับคุณน้า”
ลั่วหานกัดฟันไว้ ไอ้คนเนรคุณ! ฉันจะโยนนายไปเป็นอาหารฟู้กุ้ย!
ตือตือตือ เสียงโทรศัพท์ของหลงเซียวดังขึ้น
หลงเซียวเดินออกไปนอกบ้านแล้วรับโทรศัพท์ “ว่ามา”
“บอสครับ คนของบริษัทเทียนเซี่ยจะมาตอนเวลา10โมงเช้านะครับ บอสเตรียมตัวจะมาที่บริษัทรึยังครับ?”
ลั่วหานอยู่ใกล้ๆ หลงเซียวแล้วเธอก็ได้ยินคำว่าบริษัทเทียนเซี่ย
“ตอนนี้กำลังไปที่บริษัท ประชุมกันไปก่อน ให้พวกรอถึง11โมง”
“ครับ!”
หลังจากที่หลงเซียววางโทรศัพท์ลง แล้วเขาก็สบตาลั่วหานที่กำลังส่งยิ้มให้เขา
“มีอะไรรึเปล่า? ทำไมถึงมองผมแบบนี้?”
ลั่วหานเอามือไขว้หลังทำเสียงหึหึหึแล้วเดินรอบเขาไปหนึ่งรอบ “วันนี้คุณมีสัมภาษณ์เหรอ? บริษัทเทียนเซี่ย?”
“ใช่”
“คุณ……..ทำไมคุณ…..ถึงไม่บอกฉันก่อน? ให้ฉันได้เตรียมเสื้อผ้าที่ดูแลเข้ากล้องให้คุณใส่? ถึงแม้ว่าไม่ว่าใส่อะไรคุณก็ดูดีไปหมด แต่ว่า….”
ไม่มีคำว่าหล่อที่สุด มีแต่คำว่าหล่อยิ่งขึ้นอีก!!
ลั่วหานไม่ได้ตะโกนออกมา เพราะหลงเซียวเอามือปิดปากเธอไว้ แล้วเอนตัวลงมายิ้มแบบร้ายๆ “คุณอยากจะแต่งตัวหล่อๆ ให้สามีตัวเอง แล้วดึงดูดเหล่าผู้หญิงมาแย่งสามีกับคุณหรือ? หื้ม?”
แต่งตัวหล่อๆ?
“…….”
ลั่วหานกะพริบตารัวๆ แล้วพยักหน้าอย่างแรง ใช่ใช่ใช่ คุณสามีคุณพูดถูก!