ตอนที่ 933 คงจะเป็นโฮล์มส์ที่มาแฝงร่าง
ลั่วหานมุดหัวออกมาจากผ้าห่ม และสังเกตชายที่วางแผนแก้เข็ดผู้ชายเลวๆ อีกฝั่งอยู่ “สามี คุณอยากให้พวกเขาทั้งสองร่วมมือกันซื้อผลงานแม่ของเราจากหลินเหว่ยเย่เหรอ?
หกร้อยกว่าล้านเชียวนะ คุณคิดว่าตู้หลิงเซวียนกับเจิ้งซินจะยอมเชื่อฟังโดยดีเหรอ?”
ลั่วหานที่เพิ่งนอนตื่นยังบิดขี้เกียจอยู่ น้ำเสียงปนงัวเงีย
หลงเซียวปิดโน้ตบุ๊กลง ไม่รู้ว่าเมื่อครู่ลั่วหานเห็นหรือได้ยินอะไรหรือเปล่า “ตู้หลิงเซวียนไม่ได้โง่ขนาดนั้น เขาไม่เอาเงินไปซื้อหรอก”
ลั่วหานกะพริบตาปริบๆ “ความหมายของคุณก็คือ ท้ายที่สุดแล้วเจิ้งซินจะเป็นคนออกเงินก้อนนี้ทั้งหมด?”
หลงเซียวก้าวขาขึ้นไปบนเตียง ก่อนใช้มือเชิดคางลั่วหานขึ้นมา “เจิ้งซินก็ไม่โง่เหมือนกัน เธอจะเอาเงินหลายร้อยล้านออกมาให้หลินเหว่ยเย่ในทีเดียวได้อย่างไร? คิดดีๆ สิ นอกจากจะใช้เงินซื้อแล้ว ยังมีวิธีไหนอีก?
หลงเซียวผู้ชั่วร้าย!
พักนี้มักจะชอบเอาข้อยากมาประเมินหลักการคิดวิเคราะห์ของเธออยู่เสมอ ไม่เคยคิดถึงอาชีพของเธอเลย เธอเป็นหมอ ไม่ใช่นักสืบซะหน่อย
“เอ่อ……หรือว่าตู้หลิงเซวียนจะข่มขู่หลินเหว่ยเย่? บังคับให้เขาส่งมอบมันออกมา?” ลั่วหานทำมือเป็นรูปปืนขึ้นมา ก่อนจะทำเป็นยิงเข้าที่หัวของตนเอง
หลงเซียวหัวเราะอ่อนๆ ขึ้น “สถานการณ์ในตอนนี้ของตู้หลิงเซวียนก็คงจะทำให้เขาระวังตัวบ้าง คงไม่ข่มขู่หลินเหว่ยเย่โดยตรง อีกทั้งหลินเหว่ยเย่ก็ไม่ใช่คนที่จะรับมือด้วยง่ายๆ”
“ก็จริง……นอกเหนือจากนี้ เขาจะทำอะไรได้อีก? หรือว่าจะไปขอร้องตรงๆ?”
เมื่อจินตนาการว่าตู้หลิงเซวียนและเจิ้งซินใช้เสียงต่ำออดอ้อนหลินเหว่ยเย่แล้ว ก็แอบสะใจเหมือนกัน
หลงเซียวใช้มือเกี่ยวเส้นผมของเธอไปมา ทำให้เส้นผมที่ลื่นสลวยของเธอยุ่งเหยิงพันกันไปหมด “หมอฉู่ไม่เหมาะที่จะทำเรื่องไม่ดี หลังจากนี้ก็ช่วยผู้บาดเจ็บเยอะๆ ล่ะ”
เส้นผมของลั่วหานลงมาปิดหน้าปิดตาหมด ก่อนเธอจะทำเป็นพ่นลมออกมา “หมายความว่าอะไร? คุณนึกถึงอะไรเหรอ?”
“คุณพ่อของเจิ้งซินเป็นถึงหัวหน้าใหญ่ของเมืองเจียงเฉิง คนที่เป็นข้าราชการก็มักจะปกป้องข้าราชการคุณรู้หรือเปล่า? เจิ้งเฉิงหลินสนิทกับคนเมืองหลวงหลายคนมาก ใช้พลังข้าราชการมาต่อกรกับธุรกิจของหลินเหว่ยเย่ หลินเหว่ยเย่ไม่ยอมจะได้เหรอ? “นัยน์ตาของหลงเซียวมีแววรอยยิ้มขึ้น ในนั้นมีเพียงความอ่อนโยนที่มอบให้ลั่วหานคนเดียวเท่านั้น
“จริงสิ! ไอ้หยาฉันลืมไปเลย! ต่อให้หลินเหว่ยเย่จะเก่งกาจขนาดไหน เขาก็ไม่กล้ามีปัญหากับหน่วยงานราชการ แค่ให้ความกดดันเขานิดหน่อย อย่าว่าแต่รูปวาดเลย ถ้าจะเอาครึ่งหนึ่งของบริษัทหลินซื่อยังได้!”
ในที่สุดความคิดของลั่วหานก็ตามทันไหวพริบของหลงเซียวสักที ดีใจจนเปิดผ้าห่มออกมาและกอดคอหลงเซียวแน่น
หลงเซียวชอบที่เธอกอดเขา ก่อนเอ่ยต่อ “ตัวตนของเจิ้งซินนั้นไม่ธรรมดา ถ้าต้องการจะให้หลินเหว่ยเย่ง้างปากคายของออกมา ก็ยังต้องพึ่งให้เจิ้งซินช่วยออกมือ ผลลัพธ์ของเรื่องนี้เป็นสิ่งที่แน่นอนอยู่แล้ว”
ลั่วหานสงสัยขึ้น ก่อนจะปล่อยมือออกจากไหล่เขา “คุณหมายความว่า ต่อให้เจิ้งซินไม่ได้แอบถ่ายฉัน คุณก็จะวางแผนกับดักให้เธอกระโดดลงไป?”
หลงเซียวยอมรับออกมาโดยตรง “ใช่สิ แต่ว่าแผนเดิมของผมไม่ได้มีตู้หลิงเซวียนอยู่ด้วย”
ไหวพริบของลั่วหานเริ่มทำงานขึ้น “คุณ คุณ คุณ คุณคงจะไม่วางแผนให้เจิ้งซินกับ……กับเจมส์ใช่ไหม?!! เจมส์เป็นหนุ่มน้อยนะ คุณจะแข็งใจลงมือไหวเหรอ?”
เอ่อ……
“เจมส์เป็นถึงเจ้าชายประเทศMเชียวนะ ผมไม่กล้าลงมือหรอก ผมวางแผนจะให้ผู้ชายคนไหนก็ได้ไปแทนน่ะ แต่ในเมื่อตู้หลิงเซวียนมักจะชอบสอดอยู่เสมอ ผมก็สนองให้เขาหน่อย”
คุณชายหลงปิดบังแผนการซะแนบเนียน แต่ลั่วหานกลับเกิดคำถามขึ้นมากมาย “คุณรู้แต่แรกแล้วว่าของอยู่ในมือของหลินเหว่ยเย่?!!!”
พระเจ้า!
หลงเซียวพยักหน้าอย่างใจเย็น “ไม่ได้รู้เร็วนักหรอก ประมาณไม่กี่เดือนก่อน ผมให้คุณชายกู้ไปหาของที่ตู้นิรภัยหลงถิงที่อยู่ที่สวิตเซอร์แลนด์ แต่ด้านในนั้นกลับว่างเปล่า ผมคิดว่าหลงถิงอาจจะคาดเดาได้ว่าผมจะหาเลยย้ายของไปที่อื่น แต่เรื่องถัดมาพิสูจน์แล้วว่าเขาไม่ได้ครอบครองมันอยู่ในมือ”
ลั่วหานฟังคำอธิบายของเขาอย่างตั้งใจ ท่าทางตั้งใจฟังอยากรับความรู้เหมือนกับเด็กประถมที่กำลังฟังโฮล์มส์อยู่ก็ไม่ปาน
“ผมเคยลองใจหลงถิงอยู่ เขาก็อยากหาชิ้นงานของคุณแม่เหมือนกัน แต่ไม่มีเบาะแสเลย”
หลงเซียวเห็นว่าเธอจ้องเขม็งแล้ว ก็อดเอานิ้วไปสะกิดจมูกเธอไม่ได้ “ระหว่างนั้นก็เกิดเรื่องต่างๆ มากมายขึ้น ไม่เล่าให้คุณฟังแล้ว สุดท้ายคุณบอกว่าจะแยกกันไปหา ผมว่าทำมันเป็นกับดักล่าปลาก็ไม่เลวเลย ไม่นึกว่าหลินเหว่ยเย่จะกินเบ็ดเร็วขนาดนี้”
ลั่วหานมีความตื่นเต้นขึ้น เส้นผมสะบัดพลิ้วไปมา “พระเจ้า คุณ……คุณเก่งเกินไปแล้ว! ยังมีอีกไหมยังมีอีกไหม?”
“การคลังในบริษัทของหลินเหว่ยเย่ค่อนข้างขัดสน เขาอยากจะเอาของมาแลกเปลี่ยนกับเงิน แต่คนที่สนใจของชิ้นนั้นมีแค่ผมและหลงถิง หลงถิงยังไม่ได้สติ เขาก็ไม่มีความอดทนพอที่จะรอให้เขาฟื้นขึ้นมา ดังนั้นผมและคุณก็เป็นเป้าหมายสุดท้าย น่าเสียดายที่เวลาที่เขาคำนวณไว้พลาดไปนิด เขาลืมไปแล้วว่าผมไม่ใช่ผู้รับเคราะห์”
ลั่วหานรู้สึกแผ่นหลังเย็นเฉียบขึ้นมา นึกถึงสิงโตที่จ้องจะเขมือบคนอื่นอย่างหลินเหว่ยเย่แล้ว “นี่มันสุนัขจิ้งจอก!”
“แต่น่าเสียดายแล้ว……”หลงเซียวครุ่นคิดไปพักหนึ่ง
“น่าเสียดาย? เสียดายอะไร?” ลั่วหานถามออกมาด้วยความสรรเสริญ
หมดกันหมดกัน ทำไมพักนี้เริ่มรู้สึกว่าไอคิวของตัวเองลดน้อยลงแล้ว!
หรือว่าหลงเซียวแอบซ่อนพลังการรบที่แท้จริงของตัวเองไว้?
หลงเซียวตบหน้าของเธอเบาๆ ก่อนจะยิ้มออกมา “น่าเสียดาย แบบนี้เจิ้งซินกับตู้หลิงเซวียนก็จะร่วมมือกลายเป็นพวกเดียวกัน และมาต่อกรกับผม จุดมุ่งหมายของตู้หลิงเซวียนคือคุณ จุดหมายของเจิ้งซินคือผม ทั้งสองร่วมกันช่วยกัน”
“ถ้าอย่างนั้นจะทำอย่างไร? เดี๋ยวนะ ไอคิวของฉันไม่พอใช้แล้ว คุณพูดชัดเจนหน่อย จะวางแผนอย่างไร?” ลั่วหานตื่นเต้นขึ้นมา ใช้มือดึงปกคอเสื้อหลงเซียวต่ำลงมา ใบหน้าเขาใกล้เขาไปอีก
หลงเซียวรีบประกบริมฝีปากลงไป ขยับเขยื้อนริมฝีปากบางไปมา ปลายลิ้นหยอกล้อไปกับฟันของเธอ……
หลังจากจบลงจากการจูบ หลงเซียวก็เอ่ยอย่างพอใจ “ผมเอาไอคิวของตัวเองแบ่งไปให้คุณแล้ว ตอนนี้พอหรือยัง?”
ลั่วหาน“……”
“ให้เจิ้งซินกับหลินเหว่ยเย่สู้กันไปก่อน ส่วนการรับมือกับตู้หลิงเซวียนและเจิ้งซินนั้น ต้องการคนอื่นมาช่วย อย่างไรก็ตาม ผมรับมือได้”
ลั่วหาน“……หลงเซียว แต่ก่อนคุณทำอะไรเหรอ? นอกจากจะทำการเงินแล้ว ยังเรียนวิธีนักสืบสายลับด้วยเหรอ? คุณมีความสัมพันธ์อะไรกับโฮล์มส์? เป็นลูกศิษย์เหรอ?”
“ฮ่าๆ !”
หลงเซียวเงยหน้ามองไฟบนผนัง ก่อนจะลากเสียงยาว “ถ้าหากผมบอกว่า แต่ก่อนผมเป็นนักเขียนนิยาย คุณจะเชื่อไหม?”
“ไม่เชื่อ!”
โอเค……ไม่เชื่อจริงด้วย
เขียนบทความการลงทุนและนิยายล้วนจัดอยู่ในผลงานการอักษร? บอกใบ้ให้ขนาดนี้แล้วยังไม่ชัดเจนอีกเหรอ?
——
ตู้หลิงเซวียนและเจิ้งซินแต่งตัวอย่างเรียบร้อย ทั้งสองทำหน้าตาบูดเบี้ยวนั่งอยู่ตรงข้ามกัน พระอาทิตย์ขึ้นสูง ทำให้ห้องรับแขกส่องสว่างไสว โดยเฉพาะขวดเหล้าและแก้วเหล้า สว่างกะพริบไปหมด
“หลินเหว่ยเย่มีเล่ห์กลเยอะมาก อยากจะเอาสิ่งของมาจากมือของเขา ก็เหมือนจะเอาของออกมาจากถ้ำเสือ ถ้าไม่เอาเงินแลกคงจะเป็นไปไม่ได้ ฉันคิดว่า……”ตู้หลิงเซวียนดูดบุหรี่หนึ่งที ก่อนจะพ่นควันสีเทาออกมา “หลินเหว่ยเย่คงจะเสนอราคาที่สูงเกินไปให้แก่หลงเซียว ดังนั้นเขาเลยใช้วิธีอื่นให้พวกเราติดกับ”
ตู้หลิงเซวียนบดบุหรี่ทิ้ง ก่อนจะใช้มือเล่นไฟแช็ก ดวงตาเย็นชาดุจน้ำแข็ง เต็มไปด้วยความอาฆาต
เจิ้งซินรู้สึกร้อนรนใจก่อนจะหยิบบุหรี่ออกมาจากกล่องบุหรี่เขา ก่อนจะหยิบไฟแช็กจากมือเขาไป และใช้ไฟสีแดงสดจุดประกายให้กับบุหรี่ของตน
ตู้หลิงเซวียนไม่ได้รู้สึกไม่สบายแต่อย่างใด ก่อนจะรับกลับมาสูบต่อหนึ่งที “มีวิธีหนึ่ง ที่จะทำให้หลินเหว่ยเย่ยอมทำตามอย่างง่ายดาย คงต้องพึ่งเธอแล้ว”
เจิ้งซินพ่นบุหรี่ออกมา “วิธีอะไร?”
“ใช้ตัวตนของพ่อเธอไปกดดันหลินเหว่ยเย่ เรื่องทำธุรกิจ ไม่มีใครที่สะอาดร้อยเปอร์เซ็น ขอแค่พ่อของคุณลงมือกับบริษัทหลินซื่อ หลินเหว่ยเย่ก็ไม่มีวิธีต่อต้านแล้ว” ตู้หลิงเซวียนพูดจบอย่างเรียบๆ ก่อนจะสูบบุหรี่ต่อ
โยนภาระไปให้เจิ้งซินแล้ว
เจิ้งซินกัดปากแน่น “อันนี้……ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ได้ แต่จะลงมืออย่างไร? พูดคำกล่าวหามั่วซั่วออกมา เกรงว่าจะถูกเบื้องบนสอบสวนเอาได้ พ่อของฉันอาจจะมีปัญหา”
ตู้หลิงเซวียนหัวเราะขึ้น “ต้องมีเหตุผลด้วยเหรอ? ถ้าเช่นนั้นงานเลี้ยงประมูลที่หลินซื่อกำลังจะจัดขึ้นเป็นอย่างไรล่ะ?”
เจิ้งซินใช้นิ้วมือบีบบุหรี่ให้มอดลง “ไม่มีปัญหา! หลินเหว่ยเย่ให้ฉันจัดการเอง แต่ว่าประธานตู้อย่าลืมไปบ่ะ คุณและฉันลงเรือลำเดียวกันแล้ว”
“แน่นอน” ตู้หลิงเซวียนยิ้มเบาๆ ภายใต้หลังแว่น
เจิ้งซินบดบุหรี่ทิ้ง ก่อนจะก้มหัวลงอย่างทรมาน “เรื่องเมื่อคืน……”
“ผมจะทำเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น” ตู้หลิงเซวียนตอบกลับไป
จู่ๆ เจิ้งซิ่วหยารู้สึกก็รู้สึกเคว้งไป พูดไม่ถูกว่าผิดหวังหรือแค้นเคือง แผนการที่ถูกเตรียมไว้อย่างดีเมื่อคืน กลับกลายเป็นเรื่องตลกเรื่องหนึ่ง เธอไม่ได้มีอะไรกันกับหลงเซียว และยังถูกตู้หลิงเซวียนเอาเปรียบอีก และยังไม่สามารถจะปลดปล่อยออกมาได้!
“หลงเซียว! เขา……ควรจะไปตายซะ! ฉันเกลียดเขา! ฉันเกลียดเขาที่สุด!”