ประธานหยิ่งยโสของฉัน – ตอนที่ 964

ตอนที่ 964

ตอนที่ 964 เธอด่าคุณอยู่นะ

ต่อจากนั้น 5 นาที……

จางหย่งแกะช็อกโกแลตที่ห่ออยู่ในกระดาษฟอยล์ออก จากนั้นใส่เข้าไปในปากของเขา

ความหวานเข้มข้นของช็อกโกแลตและกลิ่นของถั่วเฮเซลนัทไม่ได้ทำให้ปากของเขารับรู้ความอร่อยขึ้นมามากเลย ลูกอมที่กินมาถึงสิบปี ทำไมในวันนี้รสชาติถึงดูแปลกไป

มันไม่หวานอร่อยตามเดิม แต่กลับติดฟันแล้วรู้สึกว่าไส้ช็อกโกแลตด้านในดูเหมือนจะหมดอายุแล้ว อีกทั้งถั่วก็รู้สึกแปลกไป

ครั้งล่าสุดที่เขาได้ลิ้มรสมันนั้น จำได้ว่าเป็นตอนที่ฉู่ลั่วหานหายตัวไป

ในตอนนั้นเขาถูกเจ้านายกำชับให้ไปตามหาฉู่ลั่วหาน เขาตกลงด้วยความมั่นใจว่าจะต้องหาเธอให้พบและส่งกลับบ้านให้ได้

แต่เขาตามหาเธออยู่3วัน3คืนโดยไม่ได้พักผ่อน และใช้ทุกวิถีทาง ระดมกำลังค้นหาเท่าที่จะทำได้ แต่สุดท้ายก็ยังส่งกระดาษเปล่า

เขาไม่มีวันลืมสายตาของเจ้านายในวันนั้นได้ ราวกับว่าด้านในถูกควักล้วงออกไปจนสิ้น เหลือเพียงแค่โครงร่างด้านนอกเท่านั้น

ในวันนั้น เขาทั้งสองคนนั่งอยู่ในห้องที่ไม่ได้เปิดไฟ ด้านนอกหน้าต่างมีลมพายุพัดมา ทำให้หน้าต่างที่ไม่ได้ปิดสนิทนั้นส่งเสียงลมโชยโหยหวน เขาก้มหน้าลงและบังเอิญเจอเข้ากับลูกอมนี้

ลูกอมเม็ดนั้นก็เป็นลูกอมช็อกโกแลตสอดไส้เหมือนกัน แต่รสชาติของมันแตกต่างจากวันนี้มากนัก

และในวันเดียวกัน เจ้านายของเขาที่ท่าทางหดหู่สีหน้าอันสงบนิ่งและมืดมน พูดกับเขาด้วยน้ำเสียงแหบแห้งว่า “ขอบุหรี่ตัวหนึ่ง”

ในชีวิตนี้จางหย่งจะไม่มีวันลืมเลยว่าไฟสีแดงที่เขาจุดโดยนิ้วโป้งนี้ ค่อยๆดับลงคล้ายกับว่าชีวิตของเขากำลังจะถูกเผาไหม้เป็นผุยผง

เจ้านายไม่เคยสูบบุหรี่ นอกเสียจากงานเลี้ยงที่ไม่อาจเลี่ยงได้ เขาไม่นิยมการกินเหล้าสูบบุหรี่เท่าไหร่นัก

จางหย่งรู้ดีว่าสิ่งที่เจ้านายสูบเข้าไปนั้นไม่ใช่บุหรี่ แต่เป็นเพราะใจที่เจ็บปวดแสนสาหัสและไม่อาจบรรยายออกมาได้ ทำได้เพียงพึ่งพานิโคตินเพื่อให้เกิดความเย็นชา

จางหย่งเคี้ยวลูกอมที่อยู่ในปากของเขา แต่ก็ไม่ได้รู้สึกถึงความหวานแม้แต่น้อย

เขาหยิบเสื้อแจ็คเก็ตหนังขึ้นมาสวม และมองออกไปด้านนอกเป็นเวลาค่ำคืนเช่นเดียวกัน ในใจของจางหย่งตอนนี้ไม่ต้องบอกว่าเขาปวดร้าวและอึดอัดเพียงใด

ไม่ได้การละ เขาจะต้องออกไปปลดปล่อยสักหน่อย ไม่อย่างนั้นมัวแต่เก็บเอาไว้จะต้องเป็นเรื่องแน่

ค่ำคืนในสถานบันเทิงยุโรปค่อนข้างจะซ้ำซากจำเจ เป็นไปไม่ได้เลยที่เขาอยากจะดื่มเบียร์สดและกับแกล้มต่างๆ เนื่องจากในสถานบริการมีเพียงเบียร์ไม่กี่อย่างเท่านั้น โชคดีที่ตอนนี้จางหย่งเพียงต้องการดื่มเบียร์

เขาเดินออกจากโรงแรมที่พักอยู่ ตรงไปแล้วเลี้ยวขวา จะพบกับบาร์ขนาดใหญ่ที่สุดในโรมที่ถูกประดับประดาด้วยแสงไฟนีออน ที่หน้าประตูนั้นหนุ่มสาวที่ดื่มสุราจนเมามายหัวเราะกอดคอเดินออกมา เสียงหัวเราะของพวกเขานั้นโดดเด่นมากในถนนที่เงียบสงบเช่นนี้

เมื่อจางหย่งเปิดประตูเข้าไปก็ถูกแสงไฟด้านในที่ประดับประดาส่องมายังเขาราวกับเป็นโลกอีกใบหนึ่ง เสียงเพลงแจ๊สที่ดังขึ้นเข้ากับบรรยากาศในการเกี้ยวพาราสี

จางหย่งเบ้ปาก อิตาลีหนออิตาลี…….ประเทศนี้ช่างสับสนเหลือเกิน

มุมหนึ่งเป็นที่อยู่ของแก๊งอาชญากรรมมืด ในมุมกลับกันมีบรรยากาศของความรักอย่างล้นพ้น

แม้แต่ในบาร์ก็สามารถสัมผัสได้ถึงบรรยากาศนั้น มีคนกลุ่มหนึ่งดื่มสุราเข้าไปจนเมามายจากนั้นเริ่มเอ่ยหาเรื่อง และคนบางกลุ่มก็นั่งเขย่าแก้วเบียร์ของพวกเขาแล้วฟังเพลง

จางหย่งเดินเข้าไปนั่งตรงเก้าอี้สูงบริเวณบาร์และพูดภาษาอังกฤษอย่างไม่เป็นทางการว่า “give me a glass of whiskey” ขอวิสกี้ให้ผมหนึ่งแก้ว

บาร์เทนเดอร์เป็นสาวยุโรปที่มีชีวิตชีวา ผมสีบลอนด์ตาสีฟ้าสวมเสื้อรัดรูปแบบบีบหน้าอก เธอมองไปทางจางหย่ง ริมฝีปากสีแดงสดนั้นยิ้มขึ้น และใช้ภาษาจีนพูดอย่างตะกุกตะกักว่า “สุดหล่อคะ มาคนเดียวเหรอ?”

จางหย่งยิ้มด้วยความตกตะลึง “ครับ มาคนเดียว”

หญิงสาวคนนั้นยักคิ้วหลิ่วตาให้ “ใส่น้ำแข็งไหม?”

“ไม่ใส่ครับ”

จะบ้าเหรอ ตอนนี้ภายในใจก็เยือกเย็นพอแล้ว ถ้าใส่น้ำแข็งอีกก็แข็งตายพอดีกัน

เธอเลิกคิ้วขึ้นอย่างเป็นกันเอง พูดว่า “OK”

จางหย่งดื่มมันหมดในครั้งเดียว “one more”

บาร์เทนเดอร์สาวถูกท่าทางการดื่มอันหล่อเหลาของเขาดึงดูดใจ เธอยืนพิงเคาน์เตอร์บาร์แล้วมองมาทางเขา “สุดหล่อ คุณเดินทางมาโรมเพื่อท่องเที่ยวอย่างนั้นเหรอ?”

เที่ยวบ้าอะไรกัน!

“ไม่ต้องพูดมาก รินเหล้า” จางหย่งเริ่มโมโห เขาจ้องไปยังแก้วเปล่าที่อยู่บนโต๊ะ

หญิงสาวเมื่อพบว่าจีบเขาไม่สำเร็จเธอก็ยักไหล่ แล้วหันไปรินเหล้าให้กับเจมส์

จางหย่งแหงนหน้ามองเพดานด้วยความรู้สึกเบื่อหน่าย

เมื่อเขากำลังตั้งใจจะดื่มแก้วที่สามเข้าไป ก็ได้ยินเสียงวิ่งดังมาจากข้างหลัง เสียงนั้นบ่งบอกถึงความรวดเร็วและรีบร้อน แต่ก็เป็นจังหวะ การที่สามารถควบคุมจังหวะการเดินได้แบบนี้ไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน

จางหย่งจึงหันหลังไปมอง พบร่างสูงในชุดสีดำเป็นหญิงสาวที่อายุน่าจะไม่เกิน 30 ปี อีกทั้งมีทักษะที่ดี

พระเจ้า! เขาไม่ได้บังเอิญเจอกับพวกมาเฟียใช่ไหม?

จางหย่งคว่ำแก้วลง เขาวางแขนไว้บนแท่นบาร์แล้วพูดว่า “รินเหล้า”

แก้วที่สาม จางหย่งเพิ่งจะนำแก้วแตะริมฝีปาก ยังไม่ทันได้ลิ้มรสเข้าไป ก็ไม่รู้ว่าใครมาชนเข้ากับมือเขา แม้ว่าเขาจะเกร็งแขนเอาไว้แต่แรงที่ชนเข้ามามันกะทันหันเกินไป จึงทำให้เหล้าของเขาหก!

“แม่งเอ้ย ฉันอารมณ์ไม่ดีอยู่แกเดินดีๆไม่ได้หรือไง!”

ไฟโกรธที่จางหย่งเก็บไว้ในใจ ในที่สุดก็ระเบิดออกมาและระบายไปยังคนที่เดินไม่ดูตาม้าตาเรือ

และอิสซาที่เป็นคนเดินชนเขาโดยไม่ระวังเมื่อสักครู่ก็โมโหเช่นกัน “ให้ตายสิ ฉันก็อารมณ์ไม่ดีเหมือนกัน”

ฉันถูกพ่อส่งคนมาไล่ตามอยู่นะ คิดว่าเธออารมณ์ดีมากหรือไง!

เมื่อสายตาของทั้งคู่ประสานกันทั้งสองก็ตกตะลึง

จางหย่งเหงื่อตกแล้วชี้ไปที่อิสซาว่า “คุณ เป็นคุณได้ยังไง!”

อิสซาเองก็ตกตะลึง “คุณอยู่ที่นี่เอง!”

หลังจากที่เธอเดินทางมาถึงอิตาลี ก็ได้ออกตามหาแทบทุกเมือง เธอเองใกล้จะยอมแพ้อยู่แล้ว ใครจะไปรู้กันล่ะว่าจางหย่งจะอยู่ที่โรม และยังปรากฏตัวขึ้นในผับที่เธอมาประจำ

จางหย่งเอามือขึ้นกุมหน้าด้วยความหมดหวัง “ทำไมผมถึงซวยขนาดนี้นะ ไปที่ไหนก็เจอแต่คุณ”

เมื่อสักครู่อิสซาเธอวิ่งค่อนข้างเร็ว ตอนนี้ยังร่างกายยังปรับสมดุลไม่ได้ เสียงหายใจของเธอจึงค่อนข้างดัง

“หุบปากนะ ช่วยฉันหน่อย กำจัดคนพวกนี้ออกไปจากฉันก่อน”

“พวกไหน?” จางหย่งแกล้งทำเป็นมองไม่เห็น แต่ที่จริงเขานั้นได้เหลือบไปมองคนที่ได้ตามอิสซามาเป็นชายชุดดำพวกนั้น

พวกมันมีทั้งหมด 5 คน แต่ละคนล้วนเป็นพวกมีฝีมือ แม้แต่ใส่ชุดไปรเวทก็ไม่อาจบดบังความสามารถของพวกเขาได้

ถ้าสู้กันด้วยมือเปล่า อิสซาและพวกเขาทั้ง5คนรุมกันเข้ามาทีเดียว ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของจางหย่ง

“ห้าคน อยู่ในผับ”

จางหย่งทำเป็นมองหา “อยู่ไหน?”

เพี๊ยะ!

อิสซาเอามือตบหัวเขาแล้วพูดว่า “จะไปมองพวกมันทำไมเล่า สมองคุณไปแล้วหรือไง?”

“คุณให้ผมช่วยยังเรื่องมากขนาดนี้ ช่วยทำท่าทีต้องการความช่วยเหลือหน่อยไม่ได้หรือไง?” จางหย่งลูบไปตรงที่ถูกเธอตบอย่างไม่พอใจ และบอกกับตัวเองอีกครั้งว่า เธอเป็นเหมือนกับไดโนเสาร์ ทางที่ดีอย่าเข้าใกล้ดีกว่า!

อิสซาพูดเสียงเบา เธอก้มหน้าและเอื้อมมือไปดึงเสื้อของจางหย่ง “พวกเขามาแล้ว ปกป้องฉันหน่อย”

จางหย่งยังไม่ทันคิดดีว่าจะปกป้องเธอยังไง แต่อิสซาได้เข้ามาอยู่ในอ้อมกอดของเขาอย่างใกล้ชิด มือของเธอเข้ามาจับมือของจางหย่งและพยายามโอบเอวของตน

จางหย่งกลืนเหล้าผสมกับน้ำลายของตัวเองลงไป…… “คุณเป็นฝ่ายรุกเองนะผมไม่ได้อยากจะเอาเปรียบคุณ”

ตอนนี้อิสซาแทบอยากจะหักคอเขาจริงๆ “ฉันรู้น่า คุณดื่มเหล้าของคุณไปให้เป็นธรรมชาติหน่อยสิ”

จางหย่งเหล่ตามองศีรษะของเธอที่อยู่ในอ้อมแขนของตัวเอง และสัมผัสได้ถึงหน้าอกที่กระเพื่อมอยู่ตลอดเวลา

เป็นธรรมชาติอย่างนั้นหรือ?

คิดว่าเขาเป็นปรมาจารย์หรือไง?

จางหย่งพยายามทำตัวเป็นสุภาพบุรุษ “ขออีกแก้วครับ”

บาร์เทนเดอร์สาวมองดูพวกเขาตั้งแต่ต้น แต่ก็ยังไม่เข้าใจว่าทั้งสองสนทนาอะไรกัน จากความแนบชิดสนิทสนมบอกได้ถึงทุกสิ่งทุกอย่าง

ผู้ชายคนนี้เป็นพวกหลอกลวง!

บาร์เทนเดอร์สาวรินเหล้าลงไป และเขย่าอย่างสุดแรง “scum!”

จางหย่งตกตะลึง “หืม?”

อิสซาเอามือกุมปากแล้วหัวเราะออกมา “scum……ฮ่าๆๆ!”

จางหย่งยิ่งไม่เข้าใจ “หมายความว่าอะไร?”

“เขาชมว่าคุณหล่อน่ะ”

เจ้าหน้าโง่ คำง่ายๆแค่นี้ยังไม่รู้เลย เธอด่าว่าคุณมันเลว!

ประธานหยิ่งยโสของฉัน

ประธานหยิ่งยโสของฉัน

Status: Ongoing

คุณหลง อย่าหยิ่งยโสเกินไป / ประธานหยิ่งยโสของฉัน หมออายุรศาสตร์มือหนึ่งฉู่ ลั่วหาน แต่งงานมาสามปีแล้ว กลับ ไม่มีใครสักคนรู้ว่าสามีเธอเป็นคุณชายใหญ่ของตระกูลหลง ตระกูลร่ำรวยอันดับแรกของเมืองเจียงตู ซึ่งเป็นคุณชาย เซียวที่ใครๆได้ยินชื่อก็ต้องหวาดกลัว ตลอดสามปีมาทั้งสอง ไม่เคยมีอะไรกัน เธอต้องทนดูรูปภาพหวานๆของเขากับเมีย น้อยโชว์บนหน้าจอ เธอหัวเราะ “หลงเซียว เราหย่ากันเถอะ” ” เห้อ หย่าเหรอ คุณผู้หญิง คุณคิดว่าผมเป็นอะไร? ” เธอเซ็น ใบหย่าอย่างไม่ลังเล ทิ้งแหวนแต่งงาน ดีมาก! เธอกล้ามาก คอยดูแล้วกันว่าผมจะจับคุณกลับมายังไง!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท