ประธานหยิ่งยโสของฉัน – ตอนที่ 966

ตอนที่ 966

ตอนที่ 966 ชายหญิงมิควรอยู่ใกล้ชิดกัน

จางหย่งอยากจะด่าเธอมากจริงๆ แต่ตอนที่เขาเรียนอนุบาลคุณครูเคยสอนว่าจะต้องเป็นคนมีมารยาท เขาจึงทำได้แต่เพียงกลืนน้ำลายพร้อมกับคำสบถเหล่านั้นลงไป

“คุณอิสซาครับ ในเมื่อคุณรู้ว่านี่คือห้องของผมแล้วทำไมยังมานอนอยู่บนโซฟาผมอีก?”

จางหย่งชื่นชมในการปลูกฝังมารยาทของตนเองจริงๆ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับผู้หญิงหน้าด้านแบบนี้เขายังสามารถพูดกับเธออย่างมีเหตุผลได้

สมองของเขาต้องถูกกินไปแล้วแน่ๆ

อิสซายังคงเอนศีรษะของเธอลงบนโซฟา ยกสะโพกขึ้นสูง โพสต์ท่าทางเชิญชวนให้จางหย่งเชยชม “ที่ประเทศจีนชอบพูดไม่ใช่เหรอว่า การได้พบกันที่เมืองอื่นเป็นความสุขยิ่ง ดูสิพวกเราอยู่ห่างกันตั้งครึ่งซีกโลกแต่ยังมาพบกันได้ นี่เป็นโชคชะตาไม่ใช่เหรอ ?คุณควรจะให้การต้อนรับฉันหน่อยไม่ใช่หรือไง?”

จางหย่งยืนพิงสะโพกไปที่ประตู ประตูห้องนั้นยังเปิดอยู่สื่อความหมายว่าให้อิสซาออกไปซะ “ผมไม่ได้สนิทกับคุณ อีกอย่างที่ประเทศจีนบอกว่า ชายหญิงหากไม่ได้แต่งงานกันไม่ให้ใกล้ชิดกัน งั้นคุณกลับไปห้องตัวเองเถอะ”

อิสซากัดฟันและด่าเขาอยู่ในใจว่า แม่งเอ้ย ลีลาจริงๆ!

ถ้าฉันมีที่ไปฉันก็คงไม่มาอยู่ที่นี่หรอก

“คุณไม่ต้องเห็นฉันเป็นผู้หญิงก็ได้ ยังไงซะฉันก็ไม่ได้เห็นคุณเป็นผู้ชาย สรุปแล้ววันนี้ฉันจะนอนที่นี่”

อิสซาประกาศตนออกมาราวกับเป็นเจ้าของห้อง จากนั้นเธอก็ถอดเสื้อคลุมกับรองเท้าบูตออกอย่างเป็นธรรมชาติและวางไว้ข้างๆ

เท้าของเธอที่ถูกปิดไว้ทั้งวัน ในที่สุดก็ได้เผยออกมาถึงผิวขาวราวหิมะ ขาวเหมือนกับหยดน้ำ หากว่าไม่สนใจกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ละก็

“คุณมันไม่มีเหตุผลเอาซะเลย ในฐานะผู้หญิงคุณหน้าด้านเกินไปแล้วนะ!”

จางหย่งวิ่งไปโยนรองเท้าบูตและถุงเท้าของเธอทิ้งไป แต่เมื่อเขาก้มตัวลงก็ต้องเอามือขึ้นปิดจมูก

“พระเจ้า! คุณเป็นผู้หญิงหรือเปล่า คุณใส่รองเท้าแบบนี้ได้ยังไง?”

อิสซาขยับเท้าของเธอที่วางอยู่บนพื้นด้วยความสบายตัว “ฉันบอกคุณไปตั้งนานแล้วไงว่าไม่ต้องเห็นฉันเป็นผู้หญิง เห็นว่าฉันเป็นเพื่อนคุณก็พอ”

คิดว่าเธอไม่อยากจะบ้าตายหรือไง???

โรงแรมที่เธอพักอยู่นั้นถูกบอดี้การ์ดของคุณพ่อพบเข้า กระเป๋าเงิน เอกสาร ของใช้ทุกอย่างอยู่ด้านในหมด

ตอนที่เธอวิ่งออกมานั้นรีบร้อนมากแม้แต่โทรศัพท์ก็ไม่ได้หยิบมา

ถ้าเธอพอมีทางออกอื่นอยู่ละก็ เธอก็คงไม่มาอยู่ร่วมชายคาเดียวกับคนที่ไม่เข้าใจในรสของลูกอมหรอก

ให้ตายสิ เจ็บใจจริงๆ!

อิสซาเอามือนวดไหล่ของเธอแล้วมองไปทางห้องอาบน้ำชี้ไปพูดว่า “ขออาบน้ำก่อนนะ อ้อจริงสิ คุณมีเสื้อผ้าที่ยังไม่เคยใส่ไหม ขอยืมสักชุดได้ไหม ที่จริงฉันไม่ยืมก็ได้ ชุดที่ฉันใส่อยู่ก็ยังใส่ต่อได้ถ้าคุณไม่รังเกียจว่าฉันจะตัวเหม็น……”

จางหย่งโมโหเสียจนหน้ามืด “ไม่มี!”

อิสซาแอบด่าอยู่ในใจว่า shit! จากนั้นเธอก็ยิ้มกว้างออกมาพูดว่า “ไม่มีเสื้อผ้าที่ยังไม่ได้ใส่ แบบที่ใส่แล้วก็น่าจะมีสินะ พวกเราก็เป็นผู้ชายเหมือนกัน ฉันไม่รังเกียจหรอก”

ที่จริงในใจเธอรังเกียจเสียจนอยากจะอาเจียน

เสื้อผ้าที่ผู้ชายเคยใส่แล้วไม่รู้ว่าซักสะอาดหรือเปล่า ไม่รู้ว่าเขามีโรคทางผิวหนังไหม!

แต่ว่า……

ก็คงจะดีกว่าเสื้อผ้าที่เธอใส่อยู่ไม่ใช่เหรอ? เธอวิ่งหนีพวกนั้นมาตั้งครึ่งวัน เสื้อผ้าของเธอเต็มไปด้วยเหงื่อ เมื่อตอนถอดมันออกไม่รู้ว่าจะเหม็นขนาดไหน

จางหย่งบิดจมูกแล้วพูดว่า “อ้อ……มี”

อิสซาถอดเสื้อโค้ตด้านนอกออก ด้านในเป็นเสื้อsweaterทำจากผ้าขนสัตว์แบบรัดรูป เสื้อsweaterตัวสั้นห่อหุ้มร่างกายเธอไว้ครึ่งตัว เผยให้เห็นเรือนร่างส่วนโค้งเว้าของเธอ ส่วนที่ควรจะนูนก็นูน ส่วนที่ควรจะเว้าก็เว้า

ดวงตาของจางหย่งอดไม่ได้ที่จะมองไปบริเวณส่วนนูน จากนั้นก็ละสายตาแล้วพูดว่า “คุณ…… ไปอาบน้ำก่อนเถอะ เดี๋ยวผมจะหาชุดเอาไว้ให้ แต่คุณอย่าพูดมาก ผมให้ใส่อะไรก็ใส่!”

อิสซาอยากจะพูดจริงๆว่า “คุณกล้าเหรอ!”

แต่สถานการณ์ตอนนี้เธอไม่มีทางเลือก “โอเค ขอบใจ”

อิสซาผลักประตูห้องน้ำเข้าไป จากนั้นค่อยๆถอดเสื้อผ้าออกทีละชิ้น ไม่นานต่อมาก็ได้ยินเสียงของน้ำไหล

จางหย่งเปิดกระเป๋าเดินทางออก แล้วเทเสื้อผ้าในกระเป๋าออกมาทั้งหมด มีถุงเท้า เสื้อเชิ้ต เสื้อสเวตเตอร์ บ๊อกเซอร์ กางเกงขาสั้น กางเกง เสื้อคลุม เสื้อกันลม……

จะให้เธอใส่อะไรดี?

ให้เธอใส่เสื้อคลุมไว้ก็พอมั้ง

สุดท้ายแล้วจางหย่งก็หอบเสื้อผ้ากองหนึ่งเดินออกมาจากห้องนอน เมื่อหูของเขาได้ยินเสียงน้ำไหล เหมือนกับว่าโลกของทั้งสองคนถูกกั้นไปด้วยประตู ทำให้เขาตกตะลึงไปชั่วขณะ

กระจกที่เต็มไปด้วยฝ้า มองเห็นเป็นเงารางๆ ส่วนสีดำนั้นคือศีรษะของเธอ จากเงาที่มองเห็นสามารถจินตนาการถึงภาพเธอที่กำลังอาบน้ำอยู่ได้ไม่ยาก

จางหย่งรีบส่ายหัว จากนั้นขจัดสิ่งที่จินตนาการออกไป

“นี่คุณ ผมเอาเสื้อผ้าวางไว้ข้างนอกแล้วคุณหยิบเอาเองละกัน”

จางหย่งคว้าเก้าอี้มาแล้ววางเสื้อผ้าลงไปข้างบน เขาก็ไม่รู้ว่าจะให้เธอใส่อะไรดี ให้เธอเลือกเองแล้วกัน

“OK” อิสซากำลังหลับตาสระผม

จางหย่งเอามือลูบจมูกอย่างอึดอัด “ที่คุณไม่ยอมไปจากที่นี่เพราะไม่มีที่ไปแล้วหรือเปล่า บอดี้การ์ดของพ่อติดตามคุณ เขาคงจะรู้ว่าคุณพักอยู่ที่ไหน คุณกลัวว่ากลับไปแล้วเจอพวกเขาจับได้ล่ะสิ?”

อิสซาปิดสายฝักบัวแล้วขยี้ฟองบนผมของเธอ “ฉันคงจะประเมินไอคิวคุณต่ำเกินไป ในเมื่อคุณรู้แล้วฉันก็บอกคุณตามตรงแล้วกันว่า ฉันถูกพวกเขาหมายตาอยู่”

จางหย่งพูดออกมาว่า “ผมว่าแล้วเชียว”

อิสซานำมือนวดศีรษะแล้วเปิดก๊อกน้ำชำระ “นี่คุณ ช่วงต่อจากนี้สักพัก คุณจะต้องรับผิดชอบเรื่องเสื้อผ้าอาหารการกินและที่อยู่อาศัยของฉัน รอให้ฉันได้เงินคืนก่อนฉันจะคืนให้คุณเป็น 2 เท่า”

จางหย่งดวงตาพองโต “ไม่ได้ ผมอยู่คนเดียวมาจนชินแล้ว มีผู้หญิงแปลกหน้ามาอยู่ด้วยคงไม่ชิน!”

“ไม่ชินก็ต้องชิน”

เรื่องอื่นยังพอได้แต่เรื่องนี้ไม่ได้

อิสซาอาบน้ำเสร็จเธอใช้ผ้าขนหนูห่อผม และใช้ผ้าขนหนูอีกผืนหนึ่งพันรอบตัวเธอจากด้านหลังเอื้อมมาด้านหน้าแล้ว มาบรรจบตรงร่องหน้าอกของเธอเพื่อยึดให้แน่น

ฉึบ! อิสซาเปิดประตูห้องน้ำออกมา ทำให้ไออุ่นในห้องน้ำลอยออกมาเป็นควัน ใบหน้าของเธอที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องน้ำนั้นแดงเรื่อ อิสซาไม่อายที่จะให้จางหย่งเห็นสภาพของเธอเมื่อเพิ่งออกจากห้องน้ำ ราวกับว่านี่ไม่ใช่เป็นครั้งแรกที่เธอปรากฏตัวแบบนี้

“ไม่ได้ก็ต้องได้ ฉันไม่มีเอกสาร เปิดโรงแรมเองไม่ได้ อีกอย่างบัตรธนาคารของฉันทุกใบก็ถูกพ่อระงับแล้ว มือถือก็ถูกพวกเขายึดไปแล้ว คุณอยากเห็นฉันถูกพวกเขาพาตัวไป หรืออยากเห็นฉันไปนอนอยู่ข้างถนนล่ะ?”

ท่าทางที่อิสซาขอร้องให้เขาช่วยอยู่นั้นช่างหยิ่งผยอง เหมือนเจ้าหญิงตกอับตรงไหนกัน?

จางหย่งราบกับสูญเสียการได้ยินไปชั่วขณะ เนื่องจากภาพที่ปรากฏอยู่ตรงหน้านี้อันตรายกับเขามาก

“คุณจะเป็นยังไงไม่เกี่ยวกับผม”

จางหย่งเบือนหน้าหนี เสียงของเขาไม่เป็นธรรมชาตินัก

แขนอันขาวนุ่มและเต็มไปด้วยหยดน้ำของอิสซาคล้องเข้าไปที่คอของจางหย่ง กลิ่นหอมสดชื่นอบอวลไปทั่ว “คุณจางคะ ฉันจะไม่กินฟรีอยู่ฟรีแน่นอน ฉันจะต้องตอบแทนคุณแน่”

ขาของจางหย่งสูญเสียการควบคุม ตัวของเขาเอนไปด้านหลัง “คุณ…… คุณจะทำอะไร”

นิ้วมือเรียวงามของอิสซายกคางของเขาขึ้น คิ้วและดวงตาอันมีเสน่ห์ของเธอยิ้มแล้วพูดว่า “ตอบแทนบุญคุณไงคะ”

ประธานหยิ่งยโสของฉัน

ประธานหยิ่งยโสของฉัน

Status: Ongoing

คุณหลง อย่าหยิ่งยโสเกินไป / ประธานหยิ่งยโสของฉัน หมออายุรศาสตร์มือหนึ่งฉู่ ลั่วหาน แต่งงานมาสามปีแล้ว กลับ ไม่มีใครสักคนรู้ว่าสามีเธอเป็นคุณชายใหญ่ของตระกูลหลง ตระกูลร่ำรวยอันดับแรกของเมืองเจียงตู ซึ่งเป็นคุณชาย เซียวที่ใครๆได้ยินชื่อก็ต้องหวาดกลัว ตลอดสามปีมาทั้งสอง ไม่เคยมีอะไรกัน เธอต้องทนดูรูปภาพหวานๆของเขากับเมีย น้อยโชว์บนหน้าจอ เธอหัวเราะ “หลงเซียว เราหย่ากันเถอะ” ” เห้อ หย่าเหรอ คุณผู้หญิง คุณคิดว่าผมเป็นอะไร? ” เธอเซ็น ใบหย่าอย่างไม่ลังเล ทิ้งแหวนแต่งงาน ดีมาก! เธอกล้ามาก คอยดูแล้วกันว่าผมจะจับคุณกลับมายังไง!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท