ตอนที่ 947 ทักษะไม่เลวเลย
บริษัท MBK ณ ห้องทำงานของประธานคณะกรรมการ
ไป๋เวยที่ไม่ค่อยได้แวะเวียนมาที่ตึก MBK บ่อยมากนัก ถูกหลงเซียวโทรเรียกให้มาที่นี่ คำสั่งแรกของไป๋เวยคือ ประธานคณะกรรมการจะให้ฉันหยุดพัก? แต่กู้เยนเซินยังหาคนที่เหมาะสมที่จะมาแทนที่เธอยังไม่ได้?
“ท่านประธาน มีเรื่องด่วนหรือเปล่าคะ?”
หลงเซียวหยิบแฟ้มประวัติโดยย่อขึ้นมาจากโต๊ะทำงานหนึ่งฉบับ โดยมีรูปประจำตัวของฉีซือหนานแปะไว้ที่มุมขวาบน “ดูนี่สิ”
“ค่ะ”
ไป๋เวยเปิดดูประวัติของฉีซือหนาน ดวงตาของเธอกระจ่างชัดขึ้นเรื่อย ๆ ในที่สุดก็หัวเราะออกมา ” ฮ่า ๆ ท่านประธาน คนนี้…ท่านประธานก็รู้จักหรือ?”
เขาไม่ใช่ชู้รักของฉู่ซีหรานหรอกหรือ? เขายังเป็นพ่อโดยกำเนิดของลูกฉู่ซีหราน เธอเคยพบเขามาก่อน กู้เยนเซินก็รู้ดี
ดวงตาที่ลึกล้ำของหลงเซียวเผยรอยแตกร้าว” ฉันรู้”
“ท่านประธานมีแผนอะไรหรือเปล่าคะ? ตอนนี้เขาทำสัญญาเป็นศิลปินภายในสังกัดของบริษัทบันเทิงซิงกวางเมืองเจียงเฉิง หน้าตาจัดว่าดีในระดับหนึ่ง แต่ไม่ค่อยโด่งดังเท่าที่ควร ถ่ายทำละครต้นทุนต่ำอยู่หลายเรื่อง แต่ก็ได้รับบทเป็นตัวประกอบมาโดยตลอด คงดันไม่ขึ้นแล้ว”
ไป๋เวยไม่เข้าใจว่าทำไมท่านประธานถึงให้ความสนใจกับคนประเภทนี้
“เขาไม่ได้เป็นเพียงพ่อโดยกำเนิดของลูกฉู่ซีหราน แต่ยังเป็นชู้ลับของจ้าวฟางฟาง ฉู่ซีหรานก็ได้แอบมีความสัมพันธ์ที่ไม่เหมาะสมกับฉีซือหนานก่อนหน้าจ้าวฟางฟาง คุณสามารถถามรายละเอียดกับเขาได้” นิ้วของหลงเซียวเคาะลงไปบนโต๊ะอย่างเป็นจังหวะ พร้อมกับยกยิ้มขึ้นด้วยท่าทีดูแคลน
เมื่อไป๋เวยพังจบ ตรรกะเหตุผลของเธอก็พังทลายลง!
“แบบนี้ก็ได้หรือ?! ผู้หญิงสองคนมีสัมพันธ์กับผู้ชายคนเดียวกัน!!!”
นี่มันเรื่องอะไรกัน! เจียงเฉิงไม่มีผู้ชายแล้วหรือ? หรือรสนิยมของฉู่ซีหรานและจ้าวฟางฟางคล้ายกันมาก!
บ้าไปแล้ว!
“ค่ะ”
“อีกอย่าง ฝากคุณติดต่อกับผู้จัดการทั่วไปของบริษัทบันเทิงซิงกวางหน่อย บอกให้เขาหาบทที่เหมาะสมให้กับฉีซือหนาน ให้เขาเล่นบทพระเอก” หลงเซียวพูดอย่างไม่แยแส
ธุรกิจในเครือของบริษัท MBK ไม่มีธุรกิจเชิงภาพยนตร์และโทรทัศน์อยู่ในเครือ ประธานของบริษัทบันเทิงซิงกวางค่อนข้างสนิทกับหลงเซียว เนื่องจากเมื่อครั้งที่หลงเซียวหนุนหลังโม่หรูเฟยให้เป็นที่นิยม หลังจากความโด่งดังของโม่หรูเฟย ได้นำรายได้เข้ากับบริษัทเป็นจำนวนมหาศาล ดังนั้นซิงกวางจึงรู้สึกติดหนี้บุญคุณของท่านเซียว และจะต้องผลักดันฉีซือหนานตามคำสั่งของเขาอย่างแน่นอน
ไป๋เวยเข้าใจความหมายของเขา “ท่านประธานต้องการที่จะสนับสนุนเขา?”
ช่วยโดยไม่มีเหตุผลอะไรเลย ไม่จริงหรอกมั้ง?
“ใช่ ทำให้เขากลายเป็นดาราดัง ฉันยังใช้ประโยชน์จากคนนี้ได้อีก แต่ก่อนอื่น เขาต้องทำตัวเป็นพ่อที่ดีให้กับลูกของฉู่ซีหราน” หลงเซียวเอ่ยเสียงเบา
ไป๋เวยจัดเรียงความคิดของเธอ และแล้วเธอก็เข้าใจเหตุและผลของเรื่องนี้ ฉีซือหนานเป็นพ่อโดยกำเนิดของห้าวห้าว ฉู่ซีหรานติดคุก เด็กคนนั้นจำเป็นต้องได้รับการเลี้ยงดูจากพ่อ และผลประโยชน์ที่ฉีซือหนานจะได้รับจากเจ้านายของเธอก็คือการทำให้เขาเป็นที่นิยม หลังจากนั้น…บอสจะต้องมีแผนอื่นอย่างแน่นอน!
“ได้ครับ ผมจะติดต่อกับบริษัทบันเทิงซิงกวาง ฉีซือหนานจะต้องเปลี่ยนผู้จัดการใหม่ ผู้จัดการของเขาตอนนี้ดูแลศิลปินพร้อมกันถึงสามคน และเขาก็เป็นศิลปินที่มีชื่อเสียงน้อยที่สุดในสามคนนั้น ” ไป๋เวยพยายามทำความเข้าใจฉีซือหนานอย่างคร่าว ๆ สิ่งที่เธอรู้ทั้งหมดตอนนี้ก็มีเพียงเท่านี้
“ค่ะ ”
“เบื้องหลังของฉีซือหนานเป็นอย่างไร? ก่อนที่เขาจะโด่งดัง เราจะต้องเคลียร์ข่าวเชิงลบทั้งหมดก่อน และยังคำขู่ที่อาจจะเกิดขึ้น เช่น กรณีระหว่างเขากับหญิงไฮโซบางคน… ”
“คุณไปจัดการให้เรียบร้อย”
ไป๋เวยออกมาจากตึก MBK เธอตระหนักได้ถึงความไม่สมเหตุสมผลของเรื่องนี้ นี่ฉีซือหนานจะโชคดีเกินไปแล้ว? !
หนึ่งชั่วโมงต่อมา ณ ร้านกาแฟ
ไป๋เวยและฉีซือหนานนั่งอยู่ด้านตรงข้ามของโต๊ะกลม นี่เป็นครั้งแรกที่ไป๋เวยได้เจอฉีซือหนานในระยะใกล้
ตัวเขาดูอายุน้อยกว่าในรูปถ่าย มีผิวหน้าที่ดีมาก เมื่อเห็นแวบแรกก็รู้ว่าเขามาส์กหน้าและทาครีมบำรุงผิวเป็นประจำ ผิวบริเวณลำคอของเขาก็แลดูกระจ่างใสเช่นกัน หน้าตาเข้ากับกระแสนิยมของหนุ่มวัยรุ่นสมัยนี้
ดูไปแล้วเหมือนเป็นคนที่อ่อนปวกเปียก ถูกรังแกได้ง่าย แม้แต่ผมที่ไม่เป็นทรงนั้นยังไม่ทำให้เขาดูน่าเกรงขามขึ้นเลย
แต่คนนี้…ไม่ง่ายอย่างที่คิด
ประหม่าคือความรู้สึกแรกที่ฉีซือหนานพบกับไป๋เวย ชุดอาชีพสีขาวดำของไป๋เวยแสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้หญิงที่น่าเกรงขาม เย็นชา เฉยเมย และไม่ปรานี แรงกดดันที่มองไม่เห็นทำให้เขารู้สึกหายใจไม่ออก
ไป๋เวยจิบน้ำอุ่น และมองไปยังฉีซือหนานที่กำลังดื่มกาแฟอย่างระมัดระวัง “คุณฉีดูมีเรื่องที่ค่อนข้างส่วนตัว บอกหน่อยได้ไหมคะ ว่าทำไมเรื่องส่วนตัวของคุณถึงไปเกี่ยวข้องกับฉู่ซีหรานและจ้าวฟางฟางได้ในเวลาเดียวกัน? อธิบายให้ละเอียดหน่อยนะคะ พยายามนึกให้ออกว่าได้ทำอะไรเอาไว้”
ฉีซือหนานกลืนน้ำลายอย่างกระอักกระอ่วน “ประธานไป๋ อย่ามาล้อเล่นกับผมเลยครับ ผมแค่เป็นคนโชคดี”
ไป๋เวยยิ้มเยาะ “บอกฉันหน่อยสิว่า โชคดีได้อย่างไร?”
ฉีซือหนานไม่กล้าที่จะเบี่ยงประเด็น เพราะไป๋เวยกำลังกุมชะตาของเขาไว้ในมือของเธอ!
“ที่จริง … ผมรู้จักกับฉู่ซีหรานมานานแล้วครับ หลังจากที่เธอแต่งงานกับเสิ่นเหลียวได้ไม่นาน เราก็พบกันที่งานปาร์ตี้ เธอเริ่มเข้าหาผมก่อน บอกว่า … ” ฉีซือหนานก้มลง รู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก “เธอบอกว่าเธอยินดีที่จะช่วยผม”
ความช่วยเหลือที่ว่านี้ คือการให้เงิน ใช้เส้นสาย เพื่อให้เขาเป็นที่นิยม
“โอ้? หลังจากนั้นคุณก็ติดตามเธอ?” ไป๋เวยพูดอย่างตรงไปตรงมา ไม่คิดที่จะไว้หน้าเขาเลยแม้แต่น้อย
“ครับ…ฉู่ซีหรานบอกว่าชีวิตแต่งงานของเธอไม่มีความสุข เธอต้องการชายหนุ่มช่วยเธอคลายเหงา” ฉีซือหนานพึมพำ
“แล้วไงต่อ? เรื่องของคุณกับจ้าวฟางฟางเกิดขึ้นได้อย่างไร?” ไป๋เวยฟังเขาอย่างตั้งใจ คิดไม่ถึงว่าเรื่องซุบซิบนินทาแบบนี้ จะเรียกความสนใจของเธอได้เป็นอย่างดี
โลกอันกว้างใหญ่นี้ มีสิ่งมหัศจรรย์เกิดขึ้นไม่จบไม่สิ้น!
“ผมรู้เกี่ยวกับจ้าวฟางฟางผ่านทางฉู่ซีหราน เธอแต่งงานกับชายชราเสิ่นคั่ว ไม่น่าจะมีความสุข เกรงว่าแม้แต่ความสัมพันธ์ฉันสามีภรรยาคงไม่มี แต่ทว่านั้นจ้าวฟางฟางเป็นคุณนายของตระกูลเซิ่น ผมคิดว่าอำนาจและเส้นสายของเธอจะต้องมากกว่าฉู่ซีหรานอย่างแน่นอน”
ไป๋เวยยิ้มเยาะ น่ามันบ้าไปแล้ว! ไม่เข้าใจเลยว่าสภาพแวดล้อมของตระกูลเซิ่นต้องเป็นแบบไหน!
ฐานะของสตรีในตระกูลเสิ่น อาจจะไม่ดีเท่าสุนัขที่เลี้ยงในสนามบ้าน
“จ้าวฟางฟางปฏิเสธในตอนแรก เธอกลัวถูกเลิ่นคั่วจับได้ แต่หลังจากที่เราอยู่ด้วยกันหนึ่งคืน … เธอก็ … ตอบตกลง” ในที่สุดฉีซือหนานก็ยืดหลังตรง
“ฮ่า ๆ “ทักษะ” ของคุณฉีไม่เลวเลย ชนะใจผู้หญิงได้ถึงสองคน!”
ฉีซือหนานรู้ว่านี่เป็นการประชด แต่เขาไม่สนใจ “ในธุรกิจของเรา ดาราหญิงทุกคนล้วนต้องถ่ายทำภาพยนตร์กับผู้กำกับที่เป็นผู้ชาย พวกเรา…ก็แค่… ไต่เต้านิด ๆ หน่อย ๆ เพื่อให้ได้รับบทที่ดี แต่ผมไม่โชคดีอย่างนั้น……หลังจากนั้นทั้งฉู่ซีหรานและจ้าวฟางฟางก็พยายามช่วยผมอย่างสุดความสามารถ แต่แท้จริงแล้วพวกเขาทั้งสองไม่ได้มีอำนาจอะไรเลย”
ฉีซือหนานรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย ที่เขาไต่เต้าผิดคน!
ผิดทั้งคู่!
“คุณเลิกรากับจ้าวฟางฟางแล้วหรือยัง?” ไป๋เวยเลิกคิ้วขึ้น
“เลิกแล้ว เลิกกันนานแล้วครับ ก่อนหน้านี้ เธอพบกับอดีตสามีของเธอครั้งหนึ่ง ต่อมาเธอก็ไม่ติดต่อกับผมอีก เธอไม่เคยลืมอดีตสามีของเธอได้เลย ผมดูออก” ฉีซือหนานยกกาแฟขึ้นจิบ และถอนหายใจ
ไป๋เวยเหลือบมองเขา” จ้าวฟางฟางฆ่าตัวตาย คุณไม่ได้ไปดูเธอหรือ?”
ฉีซือหนานอ้าปากค้าง” คือว่า…ไม่ได้ไปครับ พวกเราอยู่ด้วยกันเพื่อผลประโยชน์ ไม่เคยคิดว่าจะมีผลตามมา คุณรู้กฎของวงการนี้ดี ห้ามแทรกแซงเรื่องของอีกฝ่าย และห้ามเปิดเผยตัวตน
ไป๋เวยพูดอย่างเย็นชา” แวดวงบันเทิง ฉันเข้าใจ ถ้าอย่างนั้นคุณฉี ลูกชายของฉู่ซีหราน คุณรู้ไหมว่าต้องทำอะไร?
ฉีซือหนานอยากจบหัวข้อนี้ เขาไม่อยากลากบุคคลที่สามเข้ามาเกี่ยวข้อง เขาพยักหน้าอย่างแรง “ รู้! ผมรู้! ผมต้องเลี้ยงดูห้าวห้าวเป็นอย่างดี หาพี่เลี้ยงมืออาชีพให้กับเขา และให้เวลากับเขาให้มากที่สุด ผมสัญญาว่าจะไม่ปล่อยให้เขาขาดความรักจากพ่อ ผมสัญญา! ”
“คุณรู้ก็ดีแล้ว ถ้าหากห้าวห้าวถูกทำร้าย หรือคุณไม่สามารถทำหน้าที่ของพ่อได้ คุณจะถูกพักงานอย่างไม่มีกำหนด”
ไป๋เวยวางแก้วลง ความเย็นยะเยือกฉายผ่านดวงตาของเธอ
ฉีซือหนานพยักหน้าอย่างหวาด ๆ “ผมสาบาน ผมจะดูแลเขาด้วยความจริงใจ!”
“ดีมาก อย่าลืมว่าใครคือเจ้านายที่อยู่เบื้องหลังคุณตอนนี้ ท่านเซียวสนับสนุนคุณได้ ท่านก็สามารถเหยียบคุณให้จมดินได้เช่นกัน และไม่ต้องใช้ความพยายามมากนัก” น้ำเสียงของไป๋เวยผ่อนคลายและเป็นธรรมชาติ เธอปัดมือของเธอ ราวกับว่ามีเศษฝุ่นลอยอยู่บนอากาศ
“ครับ! ผมทราบดีครับ! ท่านเซียวเคยบอกกับผมแล้ว ผมไม่ลืม และไม่มีทางลืม”
“ดีมาก”
“ถ้าอย่างนั้น…เรื่องต่อไปผมจะได้เป็นพระเอกจริง ๆ ใช่ไหมครับ?” ฉีซือหนานกระวนกระวายจนเส้นประสาทหดเกร็ง
“ใช่”
“ขอบคุณครับ! ขอบคุณประธานไป๋! ขอรบกวนประธานไป๋ บอกท่านเซียวแทนผมว่า จากนี้ไปผมฉีซือหนานคือคนของท่านเซียว ท่านเซียวสั่งอะไร ผมจะปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด!” ฉีซือหนานยืนตรง และโค้งคำนับไป๋เวย
ไป๋เวยรังเกียจฉีซือหนานจากส่วนลึกในใจของเธอ และซ้ำยังดูถูกวงการบันเทิงขึ้นไปอีก!
กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ เพราะความสัมพันธ์ระหว่างฉีซือหนานและตระกูลเสิ่น ทำให้เธอรังเกียจเขาเป็นเท่าตัว จนเธอรู้สึกขยะแขยง!
“จดทุกสิ่งที่คุณคิดได้และมอบให้กับผู้จัดการใหม่ของคุณ เพื่อหลีกเลี่ยงการตกเป็นข่าวอื้อฉาวในอนาคต เราต้องรีบลงมือก่อน” ไป๋เวยบอกเขาตามหน้าที่
ฉีซือหนานเห็นเส้นทางแห่งการเป็นซูเปอร์สตาร์ของเขาอยู่รำไร ไม่อยากปล่อยโอกาสนี้หลุดลอยไป “ได้ครับ โปรดวางใจ!”
หลังจากเสร็จสิ้นเรื่องของฉีซือหนาน ไป๋เวยได้รายงานให้กับหลงเซียวโดยละเอียด
“ท่านประธาน ฉีซือหนานนั้นหัวอ่อน ควบคุมได้ง่าย”
“อืม”
ไป๋เวยยกมุมปาก “ท่านประธาน ผู้จัดการคนใหม่ที่บริษัทบันเทิงซิงกวางได้หาให้ฉีซือหนาน คืออดีตผู้จัดการของโม่หรูเฟย”
หลงเซียวพึมพำ “ อา… “
หลังจากวางสายโทรศัพท์ ไป๋เวยก็ขับรถกลับไปยังบริษัทฉู่ซื่อ ระหว่างทางเธออดคิดไม่ได้ว่า ฉู่ซีหรานนั้นใจกว้างพอสมควร ถึงแม้จะรู้ว่าฉีซือหนานและจ้าวฟางฟางมีความสัมพันธ์กัน แต่ก็ยังกลับไปหาเขา ช่างมีรสนิยมที่แปลกจริงแท้!
แล้ว… “ทักษะ” ของฉีซือหนานนั้นดีขนาดนั้นเลยหรือ? ถึงกับทำให้นางฟ้าหลงใหลได้ถึงสองคน?
เดี๋ยวนะ!
นี่เธอกำลังคิดอะไรอยู่!
เมื่อพูดถึงเทคนิค ไป๋เวยกลับนึกถึงกู้เยนเซิน
หลังจากที่เธอตั้งครรภ์ กู้เยนเซินก็กอดเธอนอนทุกคืน โดยไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่าม
เขาทำตัวดีแบบนี้ ทำให้ไป๋เวยเกิดความกังวลเล็กน้อย!
กู้เยนเซินเคยชินกับการออกไปเที่ยวเตร่ด้านนอก อาหารจืดชืดที่บ้าน จะสู้อาหารรสจัดนอกบ้านได้อย่างไร?
เมื่อนึกถึงกู้เยนเซิน เขาก็โทรมาพอดี
“ไป๋เวย คุณไปบริษัท MBK มาเหรอ? กลับมาหรือยัง? “
“ฉันเพิ่งได้พบกับชายหนุ่มวัยกระเตาะ เขามีความฝันอันยิ่งใหญ่ที่จะเป็นดาวดวงน้อย” ไป๋เวยพูดเกินจริง เธอจงใจยั่วโมโหเขา
กู้เยนเซินเดือดปุด “นี่คุณ! ท้องใหญ่ขนาดนั้นยังจะทำอะไรได้อีก?
“กินก็ไม่ได้ แล้วยังจะไม่ให้มองเลยหรือ? ดูหนุ่มรูปงามช่างเจริญหูเจริญชาเสียจริง และยังช่วยผ่อนคลายจิตใจของผู้หญิงมีครรภ์อีกด้วย”
กู้เยนเซินดูโปรไฟล์ของเขา ไฟโกรธก็ปะทุขึ้นอย่างรุนแรง หารู้ไม่ว่าเขาถูกอีกฝ่ายยั่วยุ “ไม่ได้! คุณดูได้แค่ผมคนเดียว! ผมก็เป็นผู้ชายหน้าตาดีที่มีแค่ผมคนเดียวในโลกนี้นะ! ของปลอมเปลือกแบบนั้นสามารถเทียบได้กับผมหรือ? กลับมาเดี๋ยวนี้! ”
ไป๋เวยยิ้มอย่างมีความสุข “ไม่กลับ หิวแล้ว อยากกินข้าว”
เอี้ยด!
ไป๋เวยยังไม่ทันได้จอดรถ ทันใดนั้น ตรงหน้ารถของเธอก็มีคนเดินข้ามถนนตัดหน้า ไป๋เวยตกใจ เธอเหยียบเบรกกะทันหัน ทำให้รถของเธอพุ่งไถลออกไประยะหนึ่ง!
“ไป๋เวย! คุณเป็นอะไรไปไป๋เวย?”
ไป๋เวยตัวสั่นเทา เธอจ้องมองไปยังใบหน้าที่อยู่ด้านนอกกระจกรถ ซึ่งมีสีหน้าประหลาดใจไม่แพ้กัน