เกาจิ่งอานไม่เคยได้รับของพวกระเบิด แต่ช่วงนี้คนที่เขาไปแหย่ก็ไม่ใช่สิ่งที่ดี ไม่แน่ว่าอาจเป็นการแก้แค้น
กล่องทรงลูกบาศก์ค่อนข้างใหญ่สูงถึงหัวเข่า ดูจากพื้นที่แล้วก็น่าจะใส่โซฟาเดี่ยวลงไปได้
และน้ำหนักก็ไม่เบา เมื่อกี้เขากับคนส่งของช่วยกันขนเข้ามา
นี่…ถ้าเป็นระเบิดจริงๆก็เพียงพอที่จะระเบิดบริษัทอึนเคอกระจุยสินะ?
เกาจิ่งอานมึนตึ๊บ เปิดดี? หรือไม่เปิดดี?
นี่คือปัญหาใหญ่!
เกาจิ่งอานวนรอบกล่องสองสามรอบ เตะอย่างไม่วางใจสองสามครั้ง เสียงไม่ตันข้างในน่าจะมีช่องว่างอยู่มาก
เย็ดแม่! คงจะไม่ส่งระเบิดมาให้เขาเหมือนในหนังใช่มั้ย?
ฉากต่างๆอย่างขนระห่ำไปบี้นรกยังคงแวบกลับมาในหัว เกาจิ่งอานหวาดกลัวกับความคิดที่ตนสร้างมา
หลังจากสู้กับความคิดมานาน เกาจิ่งอานจึงตัดสินใจจะไม่กลัว!
พอกรีดเทปออกแล้ว เกาจิ่งอานก็หายใจเข้าลึกๆ ขาข้างหนึ่งของเขาก้าวถอยหลังพร้อมที่จะหนีได้ทุกเมื่อ
เขาโน้มตัว นิ้วก็บีบฝาลังกระดาษ เขาตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยวเปิดออก”ปัง”!
จู่ๆข้างในก็เงียบไปจนแม้แต่เงาผีก็เห็น
เกาจิ่งอานได้ใช้พลังนักกีฬาผลักกล่องไปที่มุมห้องโดยยังคงถือไม้เบสบอลไว้ในมือ
หลังจากรอไปสองสามวินาที ข้างในกล่องไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ เกาจิ่งอานกลืนน้ำลาย ค่อยๆขยับเข้าไปทีละก้าวๆมองเข้าไปข้างใน
“…”
พอเห็นสิ่งที่อยู่ข้างในเกาจิ่งอานเหมือนจะถูกฟ้าผ่าตั้งแต่กลางหัวลงมา
โจวโร่หลินนั่งไขว่ห้างอยู่ในกล่องเงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความดูถูกเหยียดหยามแล้วกลอกตา “เมื่อกี้นายทำอะไร? ทำไมมันช้าจัง? ยังมีอีกเมื่อกี้นายเอาเท้าเตะด้วยเหรอ?!”
เกาจิ่งอานถูกจับได้แล้วและเธอมองไปที่ เขามองโจวโร่หลินที่อยู่ในกล่องอย่างรักใคร่ “เธอทำอะไรเนี่ย?”
โจวโร่หลินกอดเข่าด้วยความรังเกียจ เธออยากจะลุกขึ้น แต่ขาของเธอชาจึงทำได้เพียงแสร้งทำตัวสง่างามราวกับนางฟ้า “ฉันอยากจะเซอร์ไพรส์นาย แค่นี้ก็ไม่รู้เหรอ?”
เกาจิ่งอานโยนไม้ออก รวบผมไว้ในทิศทางตรงกันข้าม “เธอ…เซอร์ไพรส์? ดึกดื่นป่านนี้เนี่ยนะ เธอกำลังแสดงหนังสยองขวัญหรอ ทำไมไม่มาตรงๆล่ะ?”
โจวโร่หลินรองก้น หยิบกล่องกระดาษออกมาจากกระเป๋า “ฉันมาส่งให้นาย!”
เกาจิ่งอาน “…”
โจวโร่หลินยื่นกล่องกระดาษให้เขา เธอเอียงคอยังคงไม่พอใจ “ช่วงนี้ประธานเกางานยุ่งจนลืมไปแล้วสินะว่ายังมีแฟนที่ไม่เป็นที่รักอีก?”
เกาจิ่งอานมองกล่องกระดาษซึ่งมีโลโก้ของร้านเค้ก ข้างในมีเค้กอยู่
“ไม่ได้ไม่รักแน่นอน ขอโทษนะโร่หลิน ช่วงนี้ฉันยุ่งมากๆ หนังสือที่ระบุมาตรฐานการประมูลของเมืองเจียงเฉิงต้องทำใหม่ถึงสองครั้ง หวังว่าครั้งนี้จะผ่าน รอการประมูลสิ้นสุดลง ฉันจะไปเที่ยวกับเธอหลายวันเลย!”
ขณะที่ปากพูดหัวก็หมุนอย่างรวดเร็ว โจวโร่หลินเอาเค้กทำไม? วันเกิดของเขา? ยังไม่ถึงนี่! วันเกิดของเธอ? ไม่ใช่…มั้ง?
บ้าเอ๊ย! ในช่วงเวลาที่สำคัญแบบนี้คิดไม่ออกว่าผู้หญิงจะให้ความสำคัญกับวันครบรอบมากๆ ว่ากันว่าจะตายอย่างอนาถมาก โดยเฉพาะแฟนสาวของเขาที่มีประวัติต้องโทษ ถ้าไม่พอใจขึ้นมาก็ตีเขาจนแทบจะลืมหน้าพ่อหน้าแม่เลย
“ไม่ต้องคิดแล้ว ไม่ใช่วันเกิดฉัน ฉันมาหานายเพื่อฉลองการเลื่อนตำแหน่งกับการได้ขึ้นเงินเดือน!”
โจวโร่หลินพูดช่วยเกาจิ่งอาน
เกาจิ่งอานถอนหายใจอย่างโล่งอก ริมฝีปากบางยิ้มอย่างเซ็กซี่ “วันเกิดเธอฉันไม่รู้ที่ไหนกัน? แน่นอนว่าไม่ใช่วันนี้! การได้เลื่อนตำแหน่งได้ขึ้นเงินเดือนเป็นเรื่องที่ดีควรค่าแก่การฉลอง! จะต้องฉลอง!”
เกาจิ่งอานครุ่นคิดอย่างรวดเร็วว่าในห้องทำงานมีอะไรที่สามารถให้เธอเป็นของขวัญได้ เหล้าที่เขาหวงยังดื่มไม่หมด แล้วยังมีอะไรที่เพิ่มความสนุกได้อีก?
โจวโร่หลินยู่ปาก “พยุงฉันขึ้นสิ”
“โอ้?! ได้ ลุกขึ้นก่อน” เกาจิ่งอานเอาเค้กมา แล้วจับเอวโจวโร่หลินพยุงขึ้นมา
“เฮ้ยๆๆ! อย่าขยับอย่าขยับ! ขา…ขาชา! อ๊ะ อย่าขยับ ค้างท่านี้ไว้อย่าขยับ!”
เขาเพิ่งยื่นมือมาโจวโร่หลินก็กรีดร้องราวกับหมูโดนเชือด โดยเฉพาะในช่วงครึ่งหลังของประโยค เสียงของเธอดังพอที่จะได้ยินไปทั่วชั้นโดยไม่ต้องใช้ลำโพง บวกกับสภาพแวดล้อมเงียบสงบในช่วงกลางดึก เสียงนั้นได้ยินได้ชัดเจอกว่ากลางวัน
รปภ.ที่เข้าเวรกะกลางคืนของบริษัทอึนเคอมองหน้ากัน…
เกิดอะไรขึ้นที่ห้องทำงานของประธาน?
รปภ.ทั้งสองรีบวิ่งไปที่ประตู ดึงกระบองไฟฟ้าออกมาเตรียมจะบุกเข้าไป จากนั้นพวกเขาก็ได้ยินเสียงเกาจิ่งอาน “ฉันจะไม่ขยับ ฉันจะไม่ขยับ”
รปภ.มองกันอย่างไม่รู้จะเอายังไง “…”
“แสบ เจ็บ โอ๊ยๆๆ เป็นเพราะนาย!”
ไม่งั้นเธอคงไม่นั่งนานขนาดนั้น! เป็นเรื่องง่ายสำหรับเธอหรอ? เธอใช้เวลาคิดวิธีนี้ตั้งนานมาก
“ความผิดฉัน ความผิดฉันเอง เมื่อกี้ฉันควรจะให้เธอออกมาก่อน”
เกาจิ่งอานไม่กล้าขยับจับแขนเธอแล้วขมวดคิ้ว
รปภ.ทั้งสองคนพ่นปากพร้อมกัน เขามองหน้ากันส่งสัญญาณต่างๆ
พวกเขาคิดมากเกินไป…คิดมากไปเองใช่มั้ย?
“ดีขึ้นไหม? ออกมาได้ไหม? ให้ฉันอุ้มเธอไหม? ไปที่โซฟาไหม?” เกาจิ่งอานเห็นเธอในสภาพนั้นก็เตรียมจะอุ้มเธอไปที่โซฟาจะได้สบายขึ้น
รปภ. “…”
ดังนั้นตอนนี้ประธานกับแฟนสาวอยู่ที่ไหน?
มันช่าง…ช่างทำให้คนคิดไปไกลง่าย มันสามารถทำให้นึกภาพภาพยนตร์รักกับแอ็คชั่นได้อีกด้วย
“อืม นายอุ้มฉัน เบาๆสิ”
“โอเค ฉันจะเบาๆ”
รปภ.กลืนน้ำลายลงคอด้วยความยากลำบาก ทั้งสองสบตากัน: ไป? หรือจะยังไม่ไป?
ถ้าไปคงน่าเสียดายแย่
ถ้าไม่ไปแล้วถูกจับได้คงตกงานแน่ๆ
ระหว่างตกงานกับชมการถ่ายทอดสดของเจ้านาย รปภ.เลือกอันแรก
ในที่สุดความรู้สึกชาที่ขาก็หายไปแล้ว โจวโร่หลินก็ถอดกระเป๋า หยิบเทียนสองสามเล่มออกมาจากถุง “ปักเลยๆ”
เกาจิ่งอานเบะปาก “ไม่ได้ฉลองวันเกิดไม่จำเป็นต้องปักเทียนนี่?”
“ต้องสิ! ตราบใดที่กินเค้กและเป่าเทียน ก็ต้องขอพร ไม่รู้เหรอ?” โจวโร่หลินเน้นย้ำอย่างจริงจัง
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกาจิ่งอานได้ฟังตรรกะพระเจ้าแบบนี้ แต่เขาก็ยอมใจมาก
ปักเทียนหกเล่มแล้วจุดไฟเล็ก เปลวไฟสีส้มเหลืองกำลังเต้นอยู่ในห้องทำงานที่ปิดไฟแล้ว แสงเทียนที่อบอุ่นสะท้อนบนใบหน้าของทั้งสองคน โจวโร่หลินมองแสงเทียนที่สะท้อนในแววตาเกาจิ่งอานดอกท้อของเขาอย่างคลุมเครือ
“นายไม่อยากถามหรอว่าฉันได้เลื่อนตำแหน่งอะไร? แล้วเงินเดือนของฉันเพิ่มขึ้นเท่าไหร่ นายไม่อยากรู้เหรอ?” โจวโร่หลินถามด้วยความดีใจ
“อืม…มันสำคัญหรอ? ต่อให้เธอไม่ทำงาน แต่ฉันก็จะเลี้ยงดูเธออย่างดีเหมือนกัน” เกาจิ่งอานอยากให้เธอไม่ไปทำงาน
โจวโร่หลินตบหน้าเขา “ตอนนี้ฉันเป็นนักบัญชีวิศวกรรมแผนกการเงินของบริษัทฉู่ซื่อ อีหน่อยฉันจะเข้าไปแทรกแซงโครงการใหญ่ๆได้โดยตรง!” แววตาภาคภูมิใจของโจวโร่หลินเป็นประกายสดใสใต้แสงเทียน
เกาจิ่งอาน “…”
แค่บัญชีวิศวกรรมทำให้เธอมีความสุขขนาดนี้หรือ?
เอ่อ…
“เธอมาทำงานที่อึนเคอเถอะ ฉันจะให้เธอเป็นคณบดีแผนกการเงินโดยตรง ยังไงพี่ชายฉันไม่ได้อยู่บริษัทฉู่ซื่อแล้ว เธอไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นั่น มาทำงานที่ฉันเถอะได้มั้ย?” เกาจิ่งอานถือโอกาสจับมือเธอแล้วโน้มน้าว
โจวโร่หลินยิ้มจนตาโค้ง “ไม่ได้ ฉันตกลงกับพี่ลั่วไว้แล้ว ว่าฉันจะทำงานที่บริษัทฉู่ซื่ออีก 3 ปี หลัง 3 ปีไปฉันสามารถออกได้ ระหว่างนี้ฉันจะตั้งอกตั้งใจพัฒนาบริษัทฉู่ซื่อ!”
“ตกลงอะไร? ค่าตอบแทนเท่าไหร่? ฉันจะจ่ายให้เธอแทนเธอ”