บทที่ 1042 เขียนชื่อคุณเต็มไปหมดโดยไม่รู้ตัว
ในห้องทำงานMBK
คุยกับจางหย่งเสร็จ จี้ตงหมิงก็เคาะประตูเข้ามา
“เถ้าแก่ เจ้าชายเจมส์กลับอังกฤษแล้ว ถึงลอนดอนพรุ่งนี้”
เจมส์ใส่ใจเรื่องคุณผู้หญิงมาก พูดกับเขาแค่คำเดียว เขาก็รีบเริ่มปฏิบัติการทันที ประสิทธิภาพดีมาก ปฏิบัติการรวดเร็ว จี้ตงหมิงรู้สึกตกใจ
แน่นอน เถ้าแก่รู้สึกพอใจมาก
หลงเซียวพยักหน้า มือยังอยู่บนคีย์บอร์ด ตอบจดหมายให้ผู้จัดการสาขาพิมพ์หนังสือไปแค่ไม่กี่ตัว แต่ใจไม่ได้อยู่ในเรื่องนั้น “กำหนดการยังไง?”
จี้ตงหมิงคิดถึงกำหนดการเดินทางก็หัวเราะ ไม่สนใจว่าคนที่อยู่ข้างหน้าคือเถ้าแก่ “เจมส์จะไปกินอาหารเย็นกับราชินีอังกฤษเป็นอันดับแรก เป็นการเยี่ยมเยือนแบบเรียบง่าย ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เขาเข้าพบราชินีอังกฤษและประธานาธิบดี ไม่ได้เป็นงานใหญ่โต
เจมส์แจ้งกับฝั่งโน้นว่า ครั้งนี้เป็นการเยี่ยมเยือนโดยไม่ให้ใครรู้ ไม่อยากทำให้นักข่าวรู้แล้วเกิดความวุ่นวายที่ไม่จำเป็น ทางด้านอังกฤษแสดงความยอมรับกับเรื่องนี้”
ถ้าเป็นแบบนี้ การพบกันของเจมส์กับลั่วลั่ว ก็จะไม่เป็นที่สนใจของคนภายนอก สำหรับลั่วลั่วแล้วก็ถือว่าเป็นการปกป้อง
“ดีมาก ถ้ามีอะไรคืบหน้ารีบมารายงาน”
ความหมายคือ เขาต้องรู้ข้อมูลเป็นอันดับแรก
“ได้ครับเถ้าแก่ ผมจะจับตาไว้”
หลงเซียวมองรูปภาพบนโต๊ะทำงานด้วยสายตาอ่อนโยน ผู้หญิงที่สวยงามกำลังมองเขาแล้วยิ้มอย่างอ่อนโยนให้เขา ยิ้มจนทำให้ท้องฟ้าสดใส
หวังว่า…..เธอจะอยู่ข้างกายเขา
“อีกเรื่องหนึ่ง ติดต่อประธานหวัง ผมจะถอนเงินก้อนหนึ่ง”
จี้ตงหมิงทำหน้างง “เถ้าแก่จะลงทุนหรือว่า?”
ถึงขั้นต้องติดต่อประธาน ดูแล้วคงไม่ใช่ตัวเลขน้อยๆ ตอนนี้เป็นปลายปี ธนาคารต่างต้องทำยอด ทางด้านประธานคงต้องเจ็บเนื้อแน่นอน
“ผมจะซื้อของสะสมส่วนตัวของหลินเหว่ยเย่ ของสะสมทั้งหมดของเขา นี่คือราคาของทั้งหมด หักออกสามสิบเปอร์เซ็นต์จากราคานี้ ต้องการเท่าไหร่ถอนออกมา”
หลงเซียวส่งในราคาที่หลินซีเหวินให้เขายื่นให้จี้ตงหมิง
จี้ตงหมิงยื่นมือสองข้างมารับ เปิดดูอย่างสงสัย ราคาต่อชิ้นล้วนสูงมาก ราคารวมคือ…..
“ทำไมเถ้าแก่ถึงคิดจะลงทุนงานศิลปะ? ตอนนี้ไม่ใช่ช่วงเวลาลงทุนงานศิลปะที่ดี”
ช่วยครอบครัวน้องสะใภ้ ก็ไม่ใช่ช่วยแบบนี้นะ? เสียเงินไปสูญเปล่า
อีกอย่างเงินในบัญชีเถ้าแก่ เพิ่งหมุนเข้ามาได้ช่วงนี้เอง ตัวเลขก็ไม่เยอะนัก แต่ความเสี่ยวก็น่าตกใจ เถ้าแก่ยังต้องต่อสู้กับพวกมาเฟีย เงินทองช่างหายาก
เจ็บหัวใจแทน
ริมฝีปากบางของหลงเซียวกลับยิ้ม “เงินลงทุนก้อนนี้ต้องเกินคุ้มแน่นอน รีบไปจัดการ ขั้นต่อไปผมจัดการเอง อีกอย่าง นอกจากเงินที่จะซื้องานศิลปะแล้ว เตรียมเงินอีกก้อนหนึ่งเพื่อรับซื้อหุ้นส่วนของบริษัทหลินซื่อ”
จี้ตงหมิงฟังถึงตรงนี้ก็เข้าใจโจ่งแจ้งแล้ว
งานศิลปะเป็นเพียงแค่หัวข้อความสนใจเท่านั้น จุดสำคัญคือหุ้นส่วน
แน่นอน……เถ้าแก่ก็คือเถ้าแก่
“ครับ ผมจะไปธนาคารเดี๋ยวนี้”
หวังว่าจะไม่ทำให้ประธานหวังตกใจจนเป็นลม
สั่งเรื่องให้จี้ตงหมิงเรียบร้อยแล้ว หลงเซียวก็มองไปนอกหน้าต่าง ท้องฟ้าอันโปร่งใสสงบนิ่งดั่งผิวน้ำ
ตง ตง
เสียงเคาะประตูอย่างระวังทำให้เขาตื่นจากความคิด ขมวดคิ้วอย่างรู้สึกไม่พอใจ “เข้ามา”
“พี่ใหญ่”
ครั้งนี้คนที่เข้ามาคือหลงจื๋อ เขาประชุมกับผู้จัดการแผนกเสร็จก็รีบเข้ามา สีหน้าเร่งรีบ เส้นเลือดในตาเห็นอย่างชัดเจน มีหนวดสีเขียวอ่อนๆงอกออกมาตรงคาง น่าจะด้วยความเร่งรีบจึงไม่ได้โกน
“มีธุระ?”
ปัญหาระหว่างเขาสองพี่น้องตอนนี้ น่าจะเป็นหลงถิง สำหรับหลินซีเหวินเล่าสถานการณ์บริษัทหลินให้เขาฟังหรือไม่ หลงเซียวไม่รู้
“ผมได้รับโทรศัพท์จากสถานีตำรวจ พวกเขาบอกว่าคำนึงถึงอาการป่วยของพ่อผม ผมสามารถยื่นขอประกันให้เขาออกมารักษาตัวข้างนอกได้ มัน……น่าจะเป็นเพราะพี่ใหญ่ช่วยพูดใช่ไหม?”
ไม่อย่างนั้นเขานึกไม่ออกว่ายังมีสถานการณ์ที่สองอีก
“ถึงฉันจะไม่พูด พวกเขาก็ต้องให้ความดูแลเป็นพิเศษสำหรับคนพิเศษอยู่แล้ว นายก็แค่ทำตามขั้นตอนปกติก็พอ อย่างอื่นไม่ต้องคิดมาก”
หลงเซียวไม่ได้อยากเอาความดีใส่ตัวหมด
“ไม่ว่ายังไง ผมขอบคุณพี่แทนเขาด้วย” หลงจื๋อสายตาเร่าร้อนดั่งไฟ สติก็ดีเป็นพิเศษ
อย่างน้อยหลงเซียวก็ตัดสินออกว่า หลินซีเหวินไม่ได้เล่าเรื่องครอบครัวให้เขาฟัง ดูแล้วหลินซีเหวินไม่อยากหลอกใช้หลงจื๋อ
“แต่ไม่ได้หมายความว่าฉันยกโทษให้เขาแล้ว เข้าใจไหม?”
หลงจื๋อค่อยๆก้มหน้าลง “ผมรู้ ผมเชื่อว่าเขาต้องขอโทษพี่แน่นอน พี่ใหญ่ให้เวลาผมอีกนิด”
ใช่ เขาต้องขอโทษ ไม่ใช่กับเขา แต่กับพ่อของเขา กับคนสิบกว่าชีวิตของตระกูลมู่
……
เพราะว่าเจมส์กำลังจะถึงอังกฤษ ลั่วหานก็ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี
ที่เดิม คนในคฤหาสน์นี้ไม่เคยเห็นมีน้ำใจซึมอยู่นิดเดียว ไม่รู้ตั้งแต่วินาทีไหน เริ่มได้เห็นรอยยิ้มขึ้นมา ถึงแม้จะเป็นเพียงการยิ้มแบบมารยาท
แม่บ้านสีหน้าเย็นชาพอเห็นลั่วหาน ก็ก้มหน้าทั้งทายด้วยรอยยิ้มอย่างเกรงใจ “สวัสดีตอนเช้า หมอแอนน่า”
ลั่วหานก้มหน้าตอบรับอย่างไม่เคยชิน “สวัสดี”
แม้กระทั่งMerrickก็เปลี่ยนไปแบบร้อยแปดสิบองศา Merrickที่ค่อนข้างอ่อนโยนอยู่แล้ว เปลี่ยนเป็นคุณลุงที่อ่อนโยนสง่ายามไปเลย พยุงร่างที่อยู่ในอาการป่วย ต้องฝืนลุกขึ้นมาเทกาแฟให้เธอ
ทำให้ลั่วหานตกใจต้องรีบไปพยุงไหล่เขาให้เขานอนลง “คุณMerrick คุณเป็นคนป่วย ฉันเป็นหมอ ความสัมพันธ์ระหว่างเราไม่ได้เปลี่ยน คุณไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้”
Merrickก็ต้องเกรงใจเธอบ้าง แค่คิดถึงความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเจ้าชายเจมส์ ถึงจะเป็นนักการเมืองอังกฤษ ก็ต้องระวัง “คุณหมอแอนน่า เรื่องที่จะพบกับเจมส์ คุณพอรู้รายละเอียดบ้างไหม?”
ลั่วหานแค่คิดถึงงานที่พิธีรีตองมากมายก็ปวดหัวแล้ว “ก็พอสมควร”
Merrickพยักหน้า คิดว่าคนฉลาดอย่างเธอ น่าจะรับมือได้ “อีกอย่าง เสื้อผ้า เครื่องประดับที่จะใส่ในงานของคุณ คุณชอบแบบไหน?”
แบบไหน?
เรียบง่ายสบายเหมาะสมไม่โชว์เนื้อหนังไม่โป๊ไม่ยั่วยวน สรุปแล้วก็คือเรียบร้อยสะดวกปลอดภัยแบบนั้น
“ฉันเลือกเองดีกว่าค่ะ”
“ได้ครับ ได้ครับ”
แต่ลั่วหานเปิดตู้เสื้อผ้าในห้องนอน ค้นดูชุดราตรีทั้งหมดแล้ว ก็ไม่เจอสักชุดที่เหมาะสมกับเธอสักชุดเลย คนอังกฤษไม่ใช่ชอบแบบสง่าเหรอ? นี่……มันไม่โชว์เยอะไปหน่อยเหรอ
เธอเจอกับเจมส์ ใส่เสื้อกันหนาวตัวเดียวก็ยังได้ เธอไม่อยากให้เจมส์เข้าใจผิด และไม่อยากทำตัวเซ็กซี่ต่อหน้าคนอื่น
อาจจะเป็นเพราะเป็นแม่คนแล้ว ยิ่งใส่ใจภาพลักษณ์ตัวเองในสายตาคนอื่น ไม่อยากให้คนเข้าใจเป็นแบบอื่น
“คุณMerrick ฉันไม่เจอชุดที่เหมาะสม เพราะฉะนั้นมีเรื่องอยากจะขอร้อง รบกวนคุณให้ฉันออกไปข้างนอกสักครั้ง แค่ครึ่งวันก็พอ”
ลั่วหานบอกตามความเป็นจริง Merrickตอบอย่างหนักแน่น “แน่นอน”
ที่จริงแล้ว ช่างตัดเสื้อส่วนตัวเข้ามาบริการได้ถึงที่ สามารถบริการตามที่เธอต้องการได้ทุกอย่าง แต่Merrickเข้าใจ ความหมายของเธอไม่แค่อยากได้เสื้อเพียงชุดเดียว เธออยากออกไปสูดอากาศสดชื่นข้างนอก
แน่นอน ต้องมีคนตามเธอไปอยู่แล้ว ตามไปเฝ้าดูในนามว่าปกป้องเธอ
ลั่วหานก็ทำอะไรไม่ได้
ยังคงเป็นคนขับรถพร้อมบอดี้การ์ดคนเดิม นั่งรถออกจากคฤหาสน์อย่างสงบ รถขับไปตามทางในแบบอังกฤษ บ้านเรือนสิ่งก่อสร้างในแบบอังกฤษโบราณเต็มสองข้างทาง
จากบทเรียนครั้งก่อน คนขับรถไม่ได้มองลั่วหานเป็นเพียงหมอที่เห็นเท่านั้น
ทุกครั้งที่เห็นใบหน้าเธอจากกระจก ก็คิดถึงผู้หญิงที่ทำท่าทางน่ารักถ่ายรูปเอง
ต่างกันโดยสิ้นเชิง
นิ้วมือลั่วหานแตะเบาๆตรงหัวเขา กำลังคิดอยู่ว่าจะใช้วิธีไหนทำให้เขายอมยืมมือให้เธอ……
คิดไป รถก็ขับเข้าไปในเมืองที่เจริญเต็มไปด้วยผู้คน ด้านหน้าก็คือศูนย์การค้าที่ใหญ่ที่สุดในลอนดอนWestfield Stratford City ซึ่งถูกเรียกว่าเป็นศูนย์การค้ารวมที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป พอสำหรับเธอใช้เวลาครึ่งวันแล้ว
ให้เธอได้พบเจอผู้คนบ้าง ไม่อย่างนั้นเธอจะลืมแสงสีเสียงไปหมดแล้ว
ชั้นหนึ่งและสองของศูนย์การค้าเป็นยี่ห้อลำดับต้นๆของโลก ยังมีสตูดิโอแบบสั่งทำพิเศษ ได้รับความนิยมจากผู้ดีคนรวยมากมาย แน่นอน ในศูนย์การค้านี้ก็นักช็อปคนจีนอยู่ไม่น้อย
หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีคนจำเธอได้
ลั่วหานหยิบผ้าปิดปากจากกระเป๋าที่เตรียมไว้แล้ว นำมาใส่ปิดหน้า ร่างผอมสูงอยู่ท่ามกลางคนยุโรปก็ไม่ถือว่าโดดเด่นนัก
จากนั้น ลั่วหานก็มองบัตรvisaที่Merrickให้เธอ ก็ยิ้มอย่างพอใจ
มุมหนึ่งของศูนย์การค้า ผู้ชายชุดดำสองคนปลอมตัวเป็นลูกค้า คุยกันบ้าง
“ข้างกายลั่วหานมีบอดี้การ์ดอยู่ ต้องคิดหาวิธีล่อเขาออกไป”
“ฉันล่อเขาเอง นายล่อลั่วหานออกไป หาสถานที่ไม่มีคน มือไม้เร็วหน่อย”
ลั่วหานไม่ได้สนใจสินค้าที่วางขายอยู่แม้แต่น้อย เธอคิดแต่มือถือบนตัวของบอดี้การ์ด
กำลังคิดอยู่ว่าจะหาเหตุผลอะไรหลอกเขา บอดี้การ์ดก็ยื่นมือถือมาให้เธอ
ลั่วหาน “……”
แล้วหันไปมองหน้าบอดี้การ์ด สีหน้าไม่แสดงอารมณ์ใดๆ
เพราะฉะนั้นท่าทางของเขาถึงแสดงถึงความตลก
“ขอบคุณค่ะ เดี๋ยวฉันเลี้ยงข้าวคุณ คุณอยากกินอะไร” ลั่วหานหยิบมือถือไปอย่างไม่เกรงใจ หาป้ายห้องน้ำในมุมลับจนเจอ แล้วชี้ไปที่ฝั่งตรงข้าม
บอดี้การ์ดทำท่าอึดอัดใจ แล้วเว้นระยะห่างจากลั่วหาน
ลั่วหานไม่รู้ว่าเจมส์เป็นคนที่หลงเซียวส่งมา เพราะฉะนั้นเมื่อโทรติดอันดับแรก เธอก็เตรียมตัวจะบอกข่าวดีกับเขา
ขนาดฟังเสียงรอสาย ลั่วหานก็ใช้ฟันกัดริมฝีปาก
และหลงเซียวที่อยู่ถึงเมืองจีน กลับถึงบ้านแล้ว ผ่านงานหนักหักโหมมาทั้งวัน เขาอาบน้ำเสร็จ เตรียมตัวจะพักผ่อน
เสียงมือถือทำให้เขารู้สึกปวดหัวมาก ขมวดคิ้วเป็นก้อน
เบอร์ไม่รู้จักแสดงบนหน้าจอ……
เดี๋ยว เขาเคยเห็น
ลั่วลั่ว
เปรียบเสมือนไฟช็อต หลงเซียวคิดออกว่าเขาเคยเห็นเบอร์นี้ มือใหญ่รีบคว้ามือถือขึ้นอย่างกับพายุ “ลั่วลั่ว”
ฝั่งโน้นหูสะเทือน น้ำเสียงนี้ ก็ยังคงน่าฟังขนาดนี้ “นอนรึยัง?”
ไหนบอกว่าจะรายงานข่าว?
“ยัง เพิ่งอาบน้ำเสร็จ ลูกสาวนอนแล้ว ลูกสบายดี ไม่ต้องเป็นห่วง”
ลั่วหานน้ำตาคลอ คิดถึงลูกสาวแล้วก็อยากร้องไห้ “แล้วคุณละ? สบายดีไหม?”
หลงเซียวรู้สึกหัวใจสั่นไหว ตอบเสียงอ่อนโยน “ผมสบายดี”
แค่คิดถึงคุณที่สุด
ลั่วหานยื่นอยู่หน้าอ่างล้างหน้า มือเปียกน้ำ เขียนชื่อหลงเซียวเต็มไปหมดอย่างไม่รู้ตัว “ฉันคิดถึงคุณมาก”