ประธานหยิ่งยโสของฉัน – ตอนที่ 1057

ตอนที่ 1057

บทที่ 1057 สามีหึงลูกสาว

ไร้สาระ!

แน่นอนว่าเขารู้

ในปีนั้นพวกเขามีกันห้าคน ตอนนี้เขารู้สถานะของสี่คนในนั้นอย่างแน่นอนแล้ว

สำหรับคนที่ห้านั้น หลงเซียวยังไม่ได้มีหลักฐานโดยตรง อีกทั้งเพราะว่าคนที่ห้าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องที่ชัดเจนนัก หลงเซียวเลือกที่จะจับตัวใหญ่ปล่อยตัวเล็ก

พอMAXเตือนขึ้น หลงเซียวอดไม่ได้ที่จะจริงจังขึ้นมา “ยังไง คุณรู้?”

“แน่นอนว่าฉันรู้ ฉันรู้อย่างชัดเจนดีมาก” MAXได้ใจต่อปฏิกิริยาตอบสนองของหลงเซียวเป็นอย่างมาก ดูเหมือนเขาไม่ได้รู้ไปหมดทุกอย่าง เด็กหนุ่มคนนี้!หึ เขาก็มีส่วนที่ไม่ช่ำชองเช่นเดียวกัน

“พูดมาเถอะ” หลงเซียวอยากจะรู้มากจริงๆ แต่ความรู้สึกที่ให้กับMAXดูเหมือนรู้ไม่รู้ก็ไม่ได้สำคัญอะไร

MAXใจคอเหี่ยวแห้ง

“ในปีนั้นคนอเมริกาเริ่มลงทุนทางด้านการเงินและอสังหาริมทรัพย์ ตอนที่ในตลาดหุ้นได้รับการถูกโจมตีที่รุนแรง เขาเลือกทางอีกเส้นหนึ่ง งานศิลปะ” MAXลดความเร็วในการพูด เอ่ยคำว่างานศิลปะสี่คำออกมาอย่างเชื่องช้า

แต่ฟังอยู่ในหูของหลงเซียว กลับดูเหมือนเสียงฟ้าร้องที่ดังก้อง ไม่ใหญ่ ไม่สั่นสะเทือน แต่กลับทำให้คนรู้สึกไม่สบาย!

หลินเหว่ยเย่?

“เดาออกว่าคือใครแล้วล่ะสิ? ฮ่าๆ”

ใช่ เขาเดาออกแล้ว เพราะว่าเดาได้ง่ายมาก ขอบเขตเล็กมาก ผู้ที่น่าสงสัยก็น้อยมากเช่นเดียวกัน

หลงถิงพยายามอย่างสุดความสามารถเร่งให้การแต่งงานของเสี่ยวจื๋อกับหลินซีเหวินประสบความสำเร็จ หลินเหว่ยเย่อยากแทรกมือเข้ามาในตลาดหุ้นของบริษัทMBK ทุกสิ่งทุกอย่าง ที่จริงแล้วต่างก็คือหลักฐาน เพียงแต่หลงเซียวไม่ได้คิดมาทางด้านนี้เท่านั้น

เบาะแสปรากฏออกมาเยอะมากตั้งนานแล้ว เพียงแต่เขาไม่ได้มองลึกเข้าไปทางนั้น

บางที ในจิตใต้สำนึกอาจจะอยากหลงเหลือความบริสุทธิ์แจ่มแจ้งไว้ให้กับโลกใบนี้สักเล็กน้อย แต่ทว่า…โลกที่บริสุทธิ์แจ่มแจ้งนั้น คิดจะมีก็มีได้อย่างไรกัน?

“แต่ว่าตอนนี้เขาคือพ่อตาของน้องชายแก แกยังจะลงมืออยู่อีกหรอ?” MAXสอดรู้สอดเห็นเรื่องของหลงเซียวด้วยอารมณ์ที่ไม่เลวนัก ในตอนที่ปลุกเร้า ทำให้หลงเซียวพะอืดพะอมนั้น MAXมีความสนใจเป็นอย่างยิ่ง

หลงเซียวกลับไม่ได้มีเวลาว่างอยู่เป็นเพื่อนเขา “นั่นคือเรื่องของผม ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับคุณ”

พรึ่บ

หลงเซียวตัดสายโทรศัพท์ลงอย่างเด็ดขาด

หลินเหว่ยเย่คือพวกเดียวกับหลงถิง ในปีนั้นเขาจะต้องเข้าร่วมคดีฆาตกรรมตระกูลมู่ไม่มากก็น้อยอย่างแน่นอน และผลงานของคุณแม่เหล่านั้น บางทีอาจจะไม่ใช่หลินเหว่ยเย่รับซื้อมา เป็นไปได้มากกว่าที่จะเป็นการใช้กลยุทธ์ตีชิงตามไฟ

คนๆนี้…

นิ้วมือที่เรียวยาวราวกับหยกแกะสลักก็ไม่ปานของหลงเซียวเคาะไปบนหน้าจอโทรศัพท์มือถือเบาๆ

เมืองหลวง

หลินซีเหวินติดต่อหลงเซียวไม่ได้ และก็ติดต่อลั่วหานไม่ได้เช่นเดียวกัน อยู่ที่บ้านร้อนรนจนโมโห

“หม่ามี๊ โทรศัพท์ของหลงเซียวต่อไม่ติด ข้อความไม่มีคนตอบกลับ เขากลับคำแล้วหรือเปล่าคะ?”

คุณนายหลินพยายามลืมตาขึ้นจากอาการกะปลกกะเปลี้ย ร่างกายตนเองเข้าใจแล้วว่าอะไรคือโรคมาราวกับเขาถล่มรวดเร็วและรุนแรงมาก “กลับคำ? หึหึ พวกเรายอมกำไรให้สามส่วนแล้ว มันยังคิดกลับคำ?”

หลินซีเหวินกอดมือของเธอเอาไว้ ทำสีหน้าไม่ถูก “หม่ามี๊ พูดแบบนี้ไม่รู้สึกร้อนตัวหรอคะ? สิ่งของเหล่านั้นในบ้านของพวกเรา นอกจากเขา แม่คิดว่ายังจะมีใครสามารถรับช่วงต่อ?ตอนนี้คนที่ครอบครองสถานะผู้กระทำคือเขา ผู้ถูกกระทำคือพวกเรา ยังไงแม่ก็ทำตัวอ่อนน้อมหน่อยเถอะค่ะ”

คุณนายหลินส่งเสียงอุทานออกมาอย่างกลัดกลุ้ม “นั่นแล้วจะยังไง? นี่ไม่ใช่เริ่มแสดงออกมาให้ดูแล้วหรอ?”

หลินซีเหวินจิตใจไม่สงบ “พวกเราแอบแด๊ดดี้เร่งทำการร่วมมือให้สำเร็จ นี่ก็เสี่ยงมากแล้วนะคะ หากหลงเซียวไม่ตอบตกลง…หม่ามี๊ บริษัทจะล้มละลายใช่หรือเปล่าคะ?”

คุณนายหลินหันศีรษะไปทางอื่น หลินซีเหวินนำหมอนรองสูงให้กับเธอ

“แกคิดว่าเงินทุนของหลงเซียวเข้ามา บริษัทก็ไม่เป็นไรแล้วหรอ? เงื่อนไขของมันคือซื้อหุ้นผู้ก่อตั้งที่อยู่ในมือของฉัน ต่อไปมันก็คือหุ้นส่วนของบริษัท

ตอนนี้กลับดี ด้านหน้าคือจ้าวไห่เซิง ด้านหลังคือหลงเซียว แม่ของแกต่อไปต้องเสียบอยู่ที่ตรงกลาง แกคิดว่าบริษัทหลินซื่อยังจะเป็นบริษัทหลินซื่ออยู่หรือเปล่า?”

พอฟังแม่อธิบาย หลินซีเหวินก็รู้สึกจิตใจกระสับกระส่ายเช่นเดียวกัน “แต่ว่า…นอกเหนือจากนี้แล้ว พวกเรายังมีวิธีอยู่อีกหรอคะ?”

คุณนายหลินคิดเล็กน้อย ล้มเลิกความคิดที่มีอยู่ในสมอง ที่จริงแล้ววิธีใช่ว่าจะไม่มี ขอเพียงแค่นำเงินทุนของหลงจื๋อทั้งหมดลงทุนเข้าบริษัทหลินซื่อก็พอ แต่ทรัพย์สินส่วนตัวของหลงจื๋อส่วนใหญ่ก็กลายเป็นศูนย์แล้ว ซีเหวินไม่ยินยอมอย่างแน่นอน

“ช่างเถอะ หลงเซียวเข้ามาอยู่บริษัทหลินซื่อก็ไม่ได้มีอะไรไม่ดี ต่อให้สุดท้ายบริษัทหลินซื่อตกไปอยู่ในมือของหลงเซียว ก็ย่อมดีกว่าถูกคนอื่นกลืนกินเข้าไปหน่อย ไม่ว่าอย่างไร ความสามารถในด้านธุรกิจของหลงเซียวฉันเชื่อใจได้”

หลินซีเหวินจ้องมองโทรศัพท์ที่นิ่งเงียบด้วยจิตใจที่ไม่สงบ “ค่ะ…งั้นหนูลองไปโทรดูอีกครั้ง”

“ซีเหวิน…”

คุณนายหลินดึงมือของเธอเอาไว้อย่างกะทันหัน เรียกชื่อเธอออกมาคำหนึ่ง

“หืม? เป็นอะไรไปคะหม่ามี๊?”

“หากต่อไปลูกรู้ว่าแด๊ดดี้กับหม่ามี๊ทำเรื่องผิด ลูกจะให้อภัยพวกเราหรือเปล่า? ไม่ว่า…จะเป็นความผิดแบบไหน” สายตาที่เปล่งประกายของคุณนายหลินมองดูลูกสาวด้วยความคาดหวัง เส้นเลือดฝอยภายในรอบดวงตากระจายเต็มไปหมด

หลินซีเหวินยิ้มโง่ๆ ถูหลังฝ่ามือของเธออย่างสนิทสนม “หม่ามี๊ หม่ามี๊เป็นแม่แท้ๆของหนูนะคะ!”

คุณนายหลินเม้มริมฝีปากอย่างเกินความสามารถ ฝ่ามือลูบไล้จากคางของหลินซีเหวินมายังหน้าผากของเธอ “หม่ามี๊รักลูกมากจริงๆ ไม่ว่าหม่ามี๊ทำอะไร ลูกก็ต้องจำเอาไว้ว่า หม่ามี๊รักลูกจริงๆ”

เพื่อปกป้องลูก เพื่อบ้านหลังนี้ ถึงได้ดำเนินการอย่างระมัดระวังรอบคอบทุกย่างก้าว ถึงได้ทำเรื่องที่ไม่มีทางเลือกมากมาย

ลูกเข้าใจไหม? ลูกสาวสุดที่รักของแม่

“หนูรู้ค่ะ หนูรู้ รอแม่หายดีแล้ว พวกเราก็ไปเล่นสกี ดูแสงเหนือที่สวิตเซอร์แลนด์ด้วยกัน ไปช้อปปิ้งที่ปารีส ไปแช่น้ำพุร้อนที่ญี่ปุ่น หากหม่ามี๊คิดอยากเปลี่ยนเป็นสวยยิ่งขึ้น พวกเรายังไปทำศัลยกรรมที่เกาหลีได้อีกด้วย!ต่อไปหนูก็จะเรียกแม่ว่าพี่สาว!ดีไหมคะ?”

หลินซีเหวินพูดโม้ไปเป็นชุดอย่างถูกตามใจจนเหลิง หยอกล้อจนคุณนายหลินมีความสุข “เอาล่ะ ไปโทรศัพท์เถอะ ปากนี่ ฉันว่าผ่านไปอีกยี่สิบปีก็ยังไม่โต”

หลินซีเหวินช่วยเธอห่มผ้าให้เรียบร้อย ผลักประตูเดินออกไป

สูดหายใจลึกๆเข้าเต็มปอด หลินซีเหวินโทรออกเบอร์ของหลงเซียวอีกครั้งด้วยความร้อนอกร้อนใจเป็นอย่างมาก…

หลงเซียวที่อยู่ไกลถึงโรงแรมลอนดอน มองเห็นหน้าจอโทรศัพท์มือถือที่สว่างขึ้นมา

ลั่วหานไม่เห็นชื่อที่อยู่บนหน้าจอ กลืนอาหารที่เพิ่งถูกหลงเซียวส่งเข้าไปในปากลงไป “คุณรับโทรศัพท์ก่อน ฉันทานเองค่ะ”

ในมือของหลงเซียวถือถ้วยเคลือบเซรามิคโบนไชน่าเอาไว้ ในช้อนคือซุปไก่ดำที่เป่าเรียบร้อยแล้ว “ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไร ทานข้าวก่อน”

ลั่วหานไม่เชื่อ “ไม่มีอะไรจะโทรศัพท์หาคุณโดยตรง ใครไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วไม่ลืมตาขนาดนี้? รีบรับค่ะ ฉันรอคุณ”

ลั่วหานกินซุปไก่ที่อยู่ในช้อนลงไป ดันไหล่ของเขาเบาๆ

หลงเซียววางถ้วยและช้อนซุปลง เงาร่างที่สูงโปร่งออกไปจากโซฟา ที่ถูกเขานั่งยุบลงไปเมื่อสักครู่นี้ค่อยๆเด้งตัวขึ้นมา

“ฮัลโหล”

ยืนอยู่ด้านหน้าหน้าต่างกระจกที่ระเบียง เสียงของหลงเซียวเคร่งขรึมราวกับฤดูหนาวที่หนาวเย็นที่สุดภายนอกหน้าต่าง

หัวใจของหลินซีเหวินกระตุกขึ้นมาอย่างกะทันหัน!

ติดแล้ว!

คิดไม่ถึงว่าจะติดแล้ว!

“พี่ใหญ่หลง!ฉันเองค่ะ…ฉันคิดเสร็จเรียบร้อยแล้ว และได้ปรึกษากับหม่ามี๊ของฉันแล้วเช่นเดียวกัน พวกเรายอมรับเงื่อนไขของพี่ค่ะ งานศิลปะขายให้พี่ตามราคาส่วนลดสามสิบเปอร์เซ็นต์ หุ้นผู้ก่อตั้งที่อยู่ในมือของหม่ามี๊ฉัน พวกเรา…ยินดีขายให้กับพี่สามเปอร์เซ็น”

หลงเซียวมองไกลๆออกไปยังท้องฟ้าที่อยู่ด้านนอกหน้าต่าง เมืองที่แปลกหน้า มีเพียงแค่นำสายตามองอ้อมไปยังท้องฟ้าจากด้านบนสุดของสิ่งก่อสร้างชั้นสูง ถึงจะไม่รู้สึกว่าที่นี่คือต่างบ้านต่างเมือง”

“สามเปอร์เซ็นต์?”

“ทะ…ทำไมคะ? ไม่ใช่ตัวเลขนี้หรอ?”

นิ้วมือของหลินซีเหวินม้วนขึ้น ม้วนขึ้นอีก

“ซีเหวิน บริษัทใดๆก็ตามที่ฉันลงทุน หุ้นที่ถือต่างก็ไม่ต่ำกว่าห้าเปอร์เซ็นต์”

นี่!

หลอกรีดไถหรอ!

ก็…ก็ไม่ถูก เพราะว่าก่อนหน้านี้พวกเขาไม่ได้คุยกันว่าหุ้นส่วนยอมให้เท่าไรกันแน่

ใบหน้าเล็กๆของหลินซีเหวินเดี๋ยวซีด เดี๋ยวแดง แต่ว่าที่เธอพูดกับหม่ามี๊คือสามเปอร์เซ็นต์ ทำยังไงดี?

“ดูเหมือนพวกเธอยังไม่ได้คิดให้เรียบร้อย งั้นก็…”วางก่อนล่ะ

“รอเดี๋ยว พี่ใหญ่หลง โอเคค่ะ ห้าเปอร์เซ็นต์ก็ห้าเปอร์เซ็นต์ พวกเราเซ็นต์สัญญากันเมื่อไรคะ?”

หลงเซียวใบหน้าไร้ความรู้สึก ดวงตานิ่งสงบถึงขั้นไม่ได้มีความรู้สึกเกลียด “ตอนนี้ฉันไม่ได้อยู่ที่เมืองหลวง รายละเอียดผู้ช่วยจี้จะเป็นฝ่ายพูดคุยกับเธอ”

“ค่ะ ได้ค่ะ!”

วางสายโทรศัพท์ลง หลงเซียวกลับไปถึงที่ร้านอาหาร ก้มศีรษะลงมองดูลั่วหานที่กำลังทานอาหารด้วยตัวเองอยู่อย่างคนที่ไม่มีเรื่องอะไรยังไงอย่างงั้น

บนคอของเธอใส่เฝือกไม่สะดวก ท่าทางในการกินข้าวไม่ระรื่นตาเป็นอย่างมาก มีความโก๊ะของเด็กน้อย

“ผมเองเถอะ” หลงเซียวนั่งลงข้างๆเธอ หยิบเอาอุปกรณ์รับประทานอาหารจากมือของเธอไป

ลั่วหานเลียซุปที่อยู่มุมริมฝีปากเล็กน้อย “ทำธุระเสร็จแล้ว?”

“อืม ไม่มีอะไรเร่งด่วน”

“ฉันมีค่ะ!”

ลั่วหานดีดตัวขึ้นมา เกือบจะชนช้อนซุปที่อยู่ในมือของหลงเซียวหล่น

ยังดีปฏิกิริยาตอบสนองของหลงเซียวฉับไว หลบมือของลั่วหานทัน มั่นใจแล้วว่าไม่ได้หกใส่มือของเธอถึงได้ถามขึ้น “หืม? เรื่องอะไร?”

“รูปของลูกสาวล่ะ!คุณถ่ายหรือยังคะ? คลิปวิดีโอสั้นๆมีไหม? อัดหรือยัง? รีบให้ฉันดูหน่อย!ฉันคิดถึงเธอจะตายอยู่แล้ว!รีบให้ฉันดูหน่อยค่ะ”

หลงเซียวไม่รู้ว่าจะร้องไห้หรือหัวเราะดีไปชั่วขณะ นำซุปไก่ป้อนเข้าไปในปากของเธอ อุดปากของเธอเอาไว้ “พวกเราแปดเก้าวันไม่ได้เจอกันแล้ว คุณไม่ใช่ว่าควรดูสามีฉบับจริงที่อยู่ตรงหน้าก่อนหรอ? คิดไม่ถึงว่าจะอยากเห็นเพียงแค่ลูกสาวที่อยู่ในวิดีโอคลิป?

ลั่วหานยืดช่วงเอวให้ตั้งตรง เลียนแบบน้ำเสียงในการพูดของเขากระแอ้มเล็กน้อย “หน้าใบนี้ของคุณ ต่อไปฉันจะต้องดูอีกหลายปีมาก คุณน่ะ ผ่านไปห้าปีสิบปีก็ยังคงเป็นสามีของฉัน แต่ลูกสาวโตขึ้นต้องแต่งงานจากฉันไป คุณว่าฉันดูใครก่อน?”

หลงเซียว “…”

แม้ว่าดูเหมือนไม่ได้มีเหตุผลอะไร แต่คิดไม่ถึงว่าจะไม่สามารถที่จะคัดค้านได้

ประธานหยิ่งยโสของฉัน

ประธานหยิ่งยโสของฉัน

Status: Ongoing

คุณหลง อย่าหยิ่งยโสเกินไป / ประธานหยิ่งยโสของฉัน หมออายุรศาสตร์มือหนึ่งฉู่ ลั่วหาน แต่งงานมาสามปีแล้ว กลับ ไม่มีใครสักคนรู้ว่าสามีเธอเป็นคุณชายใหญ่ของตระกูลหลง ตระกูลร่ำรวยอันดับแรกของเมืองเจียงตู ซึ่งเป็นคุณชาย เซียวที่ใครๆได้ยินชื่อก็ต้องหวาดกลัว ตลอดสามปีมาทั้งสอง ไม่เคยมีอะไรกัน เธอต้องทนดูรูปภาพหวานๆของเขากับเมีย น้อยโชว์บนหน้าจอ เธอหัวเราะ “หลงเซียว เราหย่ากันเถอะ” ” เห้อ หย่าเหรอ คุณผู้หญิง คุณคิดว่าผมเป็นอะไร? ” เธอเซ็น ใบหย่าอย่างไม่ลังเล ทิ้งแหวนแต่งงาน ดีมาก! เธอกล้ามาก คอยดูแล้วกันว่าผมจะจับคุณกลับมายังไง!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท