“ไม่ตอบ หึ ๆ ดูแล้ว มันคงกลัว”
Cres โยนโทรศัพท์แล้วเทวิสกี้ ริมฝีปากที่มีเสน่ห์ชั่วร้ายกลืนไวน์ขาวอย่างกระหายเลือด
“ท่านครับ จะให้คนของเราตายไปทั้งอย่างนั้น?”
ผู้ช่วยคนหนึ่งของ Cres กัดฟันกรอด รู้สึกเจ็บแค้นที่ต้องเสียมือปืนไปอย่างไม่ยุติธรรมเมื่อสองชั่วโมงก่อน
“ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าโดนจ้องเก็บ เป็นขยะชัด ๆ ทิ้งศพ จัดการให้เรียบร้อย”
คนที่ตายไปกลับไม่ได้ดึงความสนใจอะไรของ Cres ได้ แต่หลงเซียวกับ MAX ที่กำลังร่วมมือนกัน มันเป็นปัญหาค่อนข้างยุ่งยากเล็กน้อย
วันรุ่งขึ้น เมืองหลวง
หลินเหว่ยเย่หน้าตาเคร่งเครียดนั่งดื่มชาอยู่ที่ห้องรับแขก ต้าหงเผาที่แช่อยู่จมลงไปในน้ำชาสีน้ำตาล เขาเขย่ามันเล็กน้อยและใบชาก็ลอยขึ้นมาจากก้นถ้วยวนไปมาหลายครั้ง
คุณนายหลินเห็นเขาเช่นนี้ หลังจากแต่งตัวเรียบร้อยแล้วเธอยืนอยู่หน้าโซฟาและเหล่มองเขา “คุณทำแบบนี้ทำไม?”
หลินเหว่ยเย่ลดแก้วชา “ผมจะทำอะไรได้? ก็ดื่มชาแค่นั้น”
เขาพูดจาอย่างแฝงด้วยความเจ็บปวด เข้าจี้ใจดำของคุณนายหลินที่อารมณ์ไม่ดี “คุณทำหน้าแบบนี้ให้ใครดู? ให้ฉันดูเหรอ? ฉันควรจะต้องมานั่งดูคุณทำสีหน้าเหรอ?”
หลินเหว่ยเย่ไม่พูดจาแต่อ่านหนังสือพิมพ์บนโต๊ะด้วยใบหน้าสงบ
คุณนายหลินหยิบหนังสือพิมพ์ไปแล้วขยำเป็นก้อน เมื่อครู่เธอเห็นพาดหัวข่าวใหญ่ในหนังสือพิมพ์ MBK เข้าถือหุ้นหลินซื่อ ยุติการถือครองแต่ผู้เดียวของหลินซื่อ
หลินซื่อนั้นสนใจแต่เรื่องภายนอกแต่ข้างในอ่อนแอ หลินเหว่ยเย่ใช้สถานะลูกเขยของหลงจื๋อเพื่อปีนต้นไม้ใหญ่อย่างหลงเซียว
หลงเซียวลงทุนเพื่อช่วยหลินซื่อ…
สื่อออนไลน์ประโคมข่าวนี้ทั้งวัน คุณนายหลินรู้สึกถึงเพียงการดูแคลน โลกภายนอกเอาแต่พูดว่าหลงเซียวเป็นดาวนำทางผู้ช่วยชีวิต ช่วยเหลือหลินซื่อให้รอดพ้นจากวิกฤติทางการเงิน แต่กลับไม่มีใครเข้าใจ หลงเซียวเป็นพวกที่ปล้นชิงตามไฟ เข้ายึดหุ้นของหลินซื่อ อีกทั้งยังนำทรัพย์สินส่วนตัวของหลินเหว่ยเย่ ออกขายในราคาต่ำ
เรื่องพวกนี้ เกรงว่าคงจะไม่มีใครออกมาพูด
“ไม่ต้องดูแล้ว! มีอะไรน่าดู”
หลินเหว่ยเย่ยิ้มเยาะโดยไม่เงยหน้า “ประธานบริษัทหลินซื่อยังคงเป็นคุณ เรื่องนี้เขาไม่มีทางเปลี่ยนแปลงได้”
“หึ ๆ วันนี้ใช่ แต่วันหน้าจะใช่หรือเปล่าก็ไม่แน่”
คุณนายหลินปรับเสื้อให้กระชับแล้วสะพายกระเป๋าออกไปจากห้องรับแขก
คนขับรถเปิดประตูรถ แล้วพยักหน้าและพูด “คุณนายอรุณสวัสดิ์”
คุณนายหลินหัวเราะหึ ๆ “อรุณสวัสดิ์ แมลงที่ตื่นแต่เช้ามาเป็นอาหารนก! ไปเถอะ!”
หลินเหว่ยเย่จิบชาและเหลือบมองหนังสือพิมพ์ที่ถูกทิ้งลงไปในถังขยะ ดวงตาของเขามืดมิดและเย็นชา
ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์ที่ซ้ำซากจำเจก็ทำลายความเงียบในห้องนั่งเล่นและ หลินเหว่ยเย่ก็หันไปที่หน้าจอโทรศัพท์มือถือที่ส่องสว่าง
“เหวินเหวิน ทำไมถึงโทรมาแด๊ดดี้ในเวลานี้?”
หลินเหว่ยเย่เปลี่ยนอารมณ์ ยิ้มให้ลูกสาวอย่างอ่อนโยนและแสดงความรัก
หลินซีเหวินอยู่กะดึกทั้งคืน เธออยู่ทานมื้อเช้าที่โรงอาหารของโรงพยาบาล ในมือถือซาลาเปาผักแห้งที่ยังทานไม่หมด เธอทานมันอย่างอร่อย “แด๊ดดี้ ไม่เป็นไรนะคะ?”
“พ่อจะเป็นอะไรล่ะ? ก็ดีอยู่นะ”
หลินซีเหวินยิ้มกว้างหนังสือพิมพ์ที่อยู่ในมือมีพาดหัวข่าวบาดตา เธอพลิกไปแล้วแกล้งทำเป็นมองไม่เห็น “แด๊ดดี้เห็นหนังสือพิมพ์วันนี้รึยัง?”
“หนังสือพิมพ์อะไร? พ่อเพิ่งทานอาหารเช้าเสร็จ เตรียมจะไปเดินเล่น ที่บ้านไม่มีหนังสือพิมพ์ใหม่ส่งมา” หลินเหว่ยเย่ทำตัวปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
หลินซีเหวินค่อย ๆ เคี้ยวซาลาเปา “เหอ ๆ ๆ แด๊ดดี้ไปเดินเล่นเถอะค่ะ ออกไปเล่นหมากรุกหรือไม่ก็ไปดูหนัง ไปรำไทเก๊กกับพวกคุณอาหวังก็ได้”
“หนูพูดกับแด๊ดดี้อย่างกับเป็นตาแก่วันเกษียณ แด๊ดดี้แก่ขนาดนั้นแล้วเหรอ?”
“ไม่แก่ค่ะ! แด๊ดดี้ของหนูอายุยี่สิบแปดอยู่เสมอ!”
หลินเหว่ยเย่หัวเราด้วยความรู้สึกที่ซับซ้อน “แด๊ดดี้จะอายุน้อยไปตลอดได้ยังไง ในเมื่อลูกโตเสียขนาดนี้แล้ว เหอ ๆ กินข้าวเช้าอยู่เหรอ? กินเถอะ กินข้าวไปด้วยคุยโทรศัพท์ไปด้วยจะทำให้ส่งผลต่อการย่อย กินข้าวดี ๆ นะ”
หลินซีเหวินจมูกรื้น “อือ แล้วเจอกันค่ะแด๊ดดี้”
ในใจของเธอมันชา ก้อนเนื้อถูกกระชากออกเต็มช่องท้อง
หลินซีเหวินโยนซาลาเปาที่ยังกินไม่หมดทิ้งไป ขยำหนังสือพิมพ์เปิดฝาถังขยะแล้วโยนมันทิ้ง
หลังเข้ากะกลางคืน จึงไม่ค่อยมีสติ หลินซีเหวินคิดว่าตัวเองดูผิดไป หลังจากปรับสายตาดูแล้วจึงมั่นใจว่ารถของหลงจื๋อจอดอยู่นอกคลินิก หลงจื๋อพิงรถอยู่ ด้านนอกของชุดสูทสามชิ้นเป็นเสื้อคลุมขนสัตว์สีน้ำตาลตัวยาว ร่างสูงและผอมอาบแสงยามเช้า
“คุณมาได้ยังไง?”
หลินซีเหวินเปลี่ยนชุดแล้ว สอดมือเข้าไปในกระเป๋าเสื้อแจ็คเก็ตดาวน์ เสื้อแจ็คเก็ตดาวน์สีขาวตัวสั้นกางเกงรัดรูปสีดำและรองเท้าบูทหิมะขนยาวดูเหมือนนักศึกษาวิทยาลัย
หลงจื๋อเดินเข้าไปแล้วก้มลงกอดหลินซีเหวิน “เมื่อคืนคุณเข้าเวรไม่กลับบ้าน ผมเลยอยากเจอคุณก่อนไปทำงาน”
หลินซีเหวินที่กำลังอารมณ์ไม่ดี อยู่ในอ้อมแขนของเขา กดใบหน้าของเธอกับหน้าอกของเขา “หลงจื๋อ ฉันทำเรื่องบางเรื่องผิดไปไหม? ในข่าวพวกนั้น ทำร้ายแด๊ดดี้กับหม่ามี๊ฉันมาก”
ที่หลงจื๋อกลัวก็คือเธอจะเห็นข่าวที่รบกวนจิตใจพวกนั้น คิดไม่ถึงว่าเธอจะเห็นแล้ว “เหลวไหล แด๊ดดี้กับหม่ามี๊คุณคร่ำหวอดอยู่ในแวดวงธุรกิจมานับสิบปี สื่อเองก็ปากไม่มีหูรูด พวกเขารู้ดี”
หลินซีเหวินอ้อยอิ่ง “หลงจื๋อ พี่สะใภ้ท้องแล้ว คุณรู้รึเปล่า?”
หลงเจ๋อเปิดเสื้อคลุมและห่อหลินซีเหวินไว้ในเสื้อโค้ท “รู้แล้ว ผมโทรไปหาพี่ใหญ่แล้ว วันนี้จะไปแสดงความยินดีที่ตึก MBK คุณอยากบอกอะไรเขา ผมจะบอกให้”
หลินซีเหวินสูดหายใจเข้าและออก “อวยพรพวกเขาแทนฉัน คุณไปทำงานเถอะ ฉันจะนั่งรถกลับบ้านไปพักหน่อย”
เธอจะไปแล้วหลงจื๋อก็ดึงมือเธอไว้ “ผมไปส่งคุณกลับบ้าน รอคุณหลับแล้วผมค่อยไปบริษัท”
หลินซีเหวินเงยหน้าขึ้นดวงตาที่อ่อนล้าของเธอเต็มไปด้วยภาพสะท้อนของเขา “หลงจื๋อ ตาฉันกระตุกตลอดเลย รู้สึกว่าต้องมีเรื่องแน่”
“เพ้อเจ้ออีกแล้ว! เป็นหมอแล้วยังเชื่อเรื่องงมงาย ห้ามคิดฟุ้งซ่าน คิดอะไรก็คิดถึงผมนี่” หลงจื๋อกระตุกหูของเธอติ่งหูของเธอนุ่มมาก
“ฉันไม่คิดถึงคุณหรอก” หลินซีเหวินยิ้มที่มุมคิ้วและปากของเธอก็เก๊ก
“ผมไม่เชื่อ” หลงจื๋อกดหน้าผากเธอและจงใจพ่นลมหายใจใส่ใบหน้าของเธอ
เมื่อขึ้นรถ หลินซีเหวินนั่งอยู่ที่นั่งข้างคนขับและหลับไป เอียงศีรษะและเอนไปทางด้านข้างของหลงจื๋อโดยไม่ได้นอนหลับอย่างสงบ
หลงจื๋อขับรถให้ช้าลง และอุ้มเธอขึ้นไปข้างบนกลัวว่าจะทำเธอตื่น และไม่กล้าปลุกเธอ เขาอุ้มหลินซีเหวินและขึ้นลิฟต์ เปิดประตูแล้ววางเธอลงบนเตียง
ช่วยถอดรองเท้าให้เธอ ดึงผ้าห่ม เตรียมไว้ทุกอย่าง หลงจื๋อไม่รีบที่จะจากไปแต่นั่งอยู่ที่ขอบเตียง ก้มหน้าชื่นชมการนอนหลับอันเงียบสงบของเธอ
ช่วงนี้พวกเขาต่างคนต่างยุ่ง ทุกวันเขายังไม่ทันตื่นเธอก็ออกไปทำงานแล้ว เขายังไม่เลิกงานเธอก็เข้านอนแล้ว บางครั้งเธอต้องทำงานล่วงเวลาและไม่ได้เจอกันทั้งคืน
ถึงแม้จะอยู่ด้วยกัน แต่กลับเหมือนอยู่กับคนละซีกโลกที่มีเวลาห่างกันสิบสองชั่วโมง
หลินซีเหวินขยับหัวใจของหลงจื๋อ
ตอนนี้เขาเข้าใจแล้วความรู้สึกตอนแรกที่พี่ใหญ่อยากให้พี่สะใภ้ออกจากงาน สามีที่รักภรรยาสุดหัวใจคนไหนก็ไม่อยากจะให้เธอต้องลำบาก
ใครให้พวกเขามีโชคชะตาเหมือนกันเลือกคุณหมอมาเป็นภรรยากันล่ะ
ห้องประธานบริษัท อาคาร MBK
หลงจื๋อนำบัญชีที่บริษัทฉู่ซื่อทำกับหลงเซียวเป็นการส่วนตัวเพื่อขออนุมัติ เมื่อเข้าไปก็พบว่าพี่ใหญ่กำลังดูโทรศัพท์มือถือ
ไม่กล้ารบกวนเขา จึงรออยู่ข้างประตูอย่างเงียบ ๆ
บนหน้าจอโทรศัพท์ของหลงเซียวยังคงมีข้อความจากเมื่อคืน
Cres: “หลงเซียว คุณรู้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้นกับคนสุดท้ายที่ทรยศฉัน?”
ครั้งก่อนก็คือฆาตกรที่ฆ่าตัวตายคนนั้น Cres ข่มขู่เขา
หลงเซียวไม่ตอบและเลือกที่จะลบข้อความทิ้งทันที
“ทำไมไม่เข้ามาล่ะ?”
เมื่อเห็นหลงจื๋อ หลงเซียววางโทรศัพท์ไว้ที่มุมโต๊ะ
“พี่ยุ่งอยู่ ผมก็รอ พี่ใหญ่ไม่ยุ่งแล้วเหรอ?” หลงจื๋อวางรายงานไว้และมีป้ายกำกับในโฟลเดอร์ทั้งสามซึ่งบันทึกสิ่งที่อยู่ข้างใน
“รายงานให้เลขาส่งมาก็ได้ นายไม่ต้องมาเองก็ได้” หลงเซียวคิด ฉู่ซื่อกำลังถ่ายโอนงาน หลงจื๋อคงจะยุ่งมาก
หลงจื๋อนั่งอยู่ตรงข้ามเขา และพูดอย่างยินดี “สิ่งสำคัญของผมไม่ใช่เอาเอกสารมาให้ ผมมาหาพี่ใหญ่”
“อยากจะไปเลี้ยงลูกให้ฉันที่บ้าน?” หลงเซียวยิ้มล้อเลียน
“ได้นะ ขอแค่พี่ให้ผมไป วันนี้ผม…เอาเถอะ วันนี้ไม่ไปดีกว่า ซีเหวินไม่ต้องทำโอทีวันนี้” หลงจื๋อตาหยี ยิ้มอย่างใสซื่อ
หลงเซียวขมวดคิ้ว น้องชายของเขาเป็นพวกกลัวเมียตั้งแต่เมื่อไหร่?
“ใช่แล้ว อันนี้ให้นาย ครั้งที่แล้วก็ลืม”
หลงเซียวเปิดลิ้นชักทางด้านขวาและหยิบกุญแจออกมา มีกุญแจสีทองเหมือนกันสามอันในพวงกุญแจโลหะ วางไว้ในมือของหลงจื๋อดังกรุ๊งกริ๊ง
หลงจื๋อนิ่งไป “นี่อะไร?”