บทที่1096 ฆ่าโดยผู้หญิงของเขา
คงจะไม่มาตายด้วยสภาพแบบนี้หรอกนะ?
ในชั่วพริบตานั้น จางหย่งพิมพ์จดหมายลาตายในใจ แต่สิ่งที่เข้ามาอยู่ในหัวของเขาเป็นอันดับแรกก็คืออิสซา
ในการเผชิญหน้ากับความตาย จางหย่งไม่ได้ยี่หระ เขากับหลงเซียวเฉียดตายด้วยกันมาหลายต่อหลายครั้ง ในหัวเขาเตรียมตัวย้ายบ้านอยู่ตลอด แต่วันนี้นั้นไม่เหมือนกัน จู่ ๆ เขาก็ไม่อยากตาย
โจวจั่นใช้มือหนึ่งถือปืน การกระทำเพิ่งจะเสร็จสิ้นแต่ยังไม่ชักปืน จุดโฟกัสสีแดงรวมตัวกันที่หน้าผากของเขา การเคลื่อนไหวที่ยังไม่เสร็จก็แข็งทื่อ
เจิ้งซิ่วหยาเหลือบมองโจวจั่นและมองออกไปในระยะไกล ตำแหน่งของสไนเปอร์นั้นป้องกันได้ง่ายและโจมตีได้ยาก ครองความได้เปรียบอย่างแท้จริง ในสถานการณ์ของพวกเขาโดยพื้นฐานแล้ว ทั้งหมดจะถูกกำจัด
“ลูกพี่ พวกเรากองสนับสนุนไหม?” โจวจั่นกลืนน้ำลาย เส้นเลือดสีฟ้าโปนสะดุดตา
เจิ้งซิ่วหยาทำหน้าเครียด “ไม่มี”
ทั้งสองคนพร้อมใจมองไปที่จางหย่ง อีกฝ่ายก็หน้าซีดไม่แพ้กัน “ผมก็ไม่มี พวกคุณถูกเล็งตอนไหน?”
“พวกนั้นอาจจะเล็งคุณก็ได้ คุณจับคนของ Cres มานี่”
หัวของเจิ้งซิ่วหยาหมุนเร็ว แต่ไม่ว่าจะเป็นความน่าจะเป็นใด วันนี้เขาอาจจะต้องแลกกับที่นี่ ที่อิตาลีไม่มีพรรคพวกของเขา
เพียงแต่ เธอเสียดายที่ชีวิตตัวเองนั้นยังไม่สมบูรณ์
“จางหย่ง คนคนนั้นตายแล้วนะ”
“ตายแล้ว?”
คำพูดที่ดูแปลกใจมากแบบนั้น ฆ่าคนคนนั้นตายแล้ว? ผู้หญิงคนนี้ร้ายกว่าเขาอีก
เจิ้งซิ่วหยาหัวเราะ “ไม่ต้องมามองฉันแบบนี้ ฉันไม่ได้ฆ่าเขา เขาฆ่าตัวตาย”
จางหย่ง: “…”
ในเวลานี้เส้นประสาทสมองของเขาตึงเครียดเกินไปและเขาไม่สามารถเข้าใจความสัมพันธ์เชิงตรรกะได้ ในเมื่อเขาถูกมัดไว้บนเก้าอี้ชัด ๆ แขนขาถูกมัดแล้วจะฆ่าตัวตายได้ยังไง?
“ปัง!”
จู่ ๆ กระสุนก็พุ่งทะลุแจกันในร้านอาหาร แจกันลายครามแตกสลายในทันทีและเศษชิ้นส่วนจำนวนนับไม่ถ้วนก็ปลิวว่อนไปทั่วพื้น
“อ๊ะ! !”
“เพล้ง! !”
“เพล้ง!”
หลังกระสุนลูกหนึ่ง ร้านอาหารก็เกิดความโกลาหล แขกที่มารับประทานอาหารแห่กันออกไปอย่างบ้าคลั่ง แก้วน้ำจานชามถูกคนปัดตกแตกเสียงดัง
“ก้มลง!”
ในจังหวะเพียงเสี้ยววินาทีนั้น เจิ้งซิ่วหยาตะโกนขึ้น จางหย่งและโจวจั่นก้มลงอย่างรวดเร็ว กระสุนพุ่งเข้ามาที่ตำแหน่งของโจวจั่นเมื่อครู่ ทะลุเข้ากำแพง กรอบรูปบนผนังแตกกระจายลงกับพื้น
มือปืนเจอคู่ต่อสู้?
มีคนช่วยชีวิตพวกเขา? !
เจิ้งซิ่วหยาคลานไปที่กำแพงหลีกเลี่ยงการมองเห็นของมือปืนได้อย่างสมบูรณ์แบบ “ตรงนั้นใครน่ะ?”
“ผมก็ไม่รู้!”นั่งยองๆอยู่ที่มุมถัดจากเจิ้งซิ่วหยา ไวน์แดงหกเลอะทั่วตัวสภาพดูไม่ได้
โจวจั่นกระโดดไปที่มุม “ลูกพี่ กลุ่มคนข้างนอกกำลังช่วยพวกเรา มือปืนถูกสังหารแล้ว”
แน่นอนว่าเสียงปืนหยุดลงอย่างกะทันหันในเวลาเพียงหนึ่งนาทีและความวุ่นวายตื่นตระหนกที่เพิ่งเกิดดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อชาติก่อน
เสียงปืนเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและจบไปอย่างเร็วเช่นกัน ทั้งสามคนมองหน้ากันและคิดไม่ออกว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
หลังจากนั้นไม่นานร่างสีดำสองคนก็เดินเข้ามาในร้านอาหารที่ยุ่งเหยิง ทั้งสองคนสวมเสื้อโค้ทยาวสีดำพร้อมแว่นกันแดดสีดำทรงกว้าง เสื้อผ้าและผมเรียบแปล้ ร่างสูงใหญ่แบบชาวตะวันตกยืนอยู่ตรงหน้า ปิดกั้นแสงไฟขนาดใหญ่
เจิ้งซิ่วหยายืนขึ้นก่อนและมองไปที่ทั้งสองคน “พวกคุณคือ?”
จางหย่งก็อึ้งไป แม่ง ใครอะ? เขาไม่รู้จักเลย
เจ้าของและพนักงานของร้านอาหารเพิ่งประสบกับความหายนะครั้งนี้ ครั้งนี้พวกเขาหวาดผวาเสียจนมองเห็นชายชุดดำสองคนเข้ามาก็หยิบโทรศัพท์พร้อมจะแจ้งความ
แต่ยังไม่ทันจะได้โทร ปากกระบอกปืนอันหนึ่งก็จ่อไปที่หัวของพนักงาน อีกฝ่ายตกตะลึงและเบิกตาโพลงแล้วค่อย ๆ วางโทรศัพท์ลง และยกมือทั้งสองข้าง
โจวจั่นยื่นมือออกไปข้างหนึ่งทางเจิ้งซิ่วหยาเพื่อจะปกป้องเธอ แต่หลังจากนั้นไม่กี่วินาทีเขาก็พบว่าเขาทำอะไรเกินความจำเป็น
“มีคนอยากพบพวกคุณ”
ชายชุดดำพูดเป็นภาษาจีน แต่มีสำเนียงบริติชที่ชัดเจนมาก เป็นคนอังกฤษแน่นอน
ในใจทั้งสามคนคงเกิดความตื่นตัวพร้อมกันว่า เจอพวกเขา? ใครกัน?
ผ่านไปสิบนาที…
ร้านอาหารจีนระดับไฮเอนด์สไตล์อิตาเลียน การตกแต่งสไตล์จีนเหมือนกันทั้งหมด หน้าประตูแขวนเชือกถักของจีนสีแดงล้วนสองอัน เฟอร์นิเจอร์เน้นสีแดงเป็นหลัก ประตูและมุ้งลวดแกะสลัก กลิ่นที่คุ้นเคยของซี่โครงหมูผัดเปรี้ยวหวานและหมูตุ๋น เมื่อเดินเข้าประตูมาจากต่างแดน ก็เหมือนกับเดินข้ามเวลากลับมาที่ถนนในประเทศจีน
นี่คือแฟลกชิปสโตร์ของร้านอาหารหรงเหยียนในอิตาลี
เพียงจางหย่งได้ยินคำว่าหรงเหยียนสองคำนี้ก็แทบกระอักเลือด เขาอยู่โรมมาอย่างน้อยหนึ่งเดือนยังไม่เคยเจอที่ไหนดีเท่าที่นี่
แต่นี่ไม่ใช่ประเด็น
ประตูห้องรับรองหรูหราที่สุดถูกเปิดออกโดยคนชุดดำ ทั้งสามคนเห็นชายคนหนึ่งที่อยู่หลังโต๊ะปาเซียนจัว
MAX สวมหมวกทรงกลม มือหนึ่งถือไม้เท้า แว่นตากันแดดอันใหญ่พลัสไซส์ปกปิดใบหน้าจนเหลือแต่คาง
เขากำลังยิ้ม โชว์ฟันขาวเรียงตัวสวยงาม
เจิ้งซิ่วหยาขมวดคิ้ว “คุณคือ?”
MAX หัวเราะหึ ๆ สองครั้ง เสียงหัวเราะช่างดูถูก ความโดดเด่นโดยธรรมชาติของเขาทำให้เขาดูสูงกว่าความสูงจริงมาก “ผมเป็นผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตพวกคุณ”
ผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิต? ทำไมไม่ว่าจะดูยังไงเขาก็ดูเป็นตัวอันตรายมากกว่า?
“คุณ?” จางหย่งมั่นใจมากว่าเขาไม่รู้จักผู้ชายคนนี้
และยิ่งรู้สึกคุ้นเคยจากไหนสักแห่ง คนคนนี้…เหมือนจะเคยได้ยินเสียงจากที่ไหน หรือเคยเห็นจากที่ไหน
เดี๋ยวก่อน หน้าของเขา…
ทันใดนั้นรูปภาพใบหนึ่งก็ปรากฏขึ้นในหัวของเขา จางหย่งพูดออกมา “คุณคือ MAX”
เมื่อได้ยินเสียง MAX ก็ยกริมฝีปากขึ้นอย่างภาคภูมิใจ “ในที่สุดก็เจอคนที่มีสมอง ฉันคือ MAX พวกคุณคงอยากจะรู้มากสินะว่าทำไมผมจึงมาอยู่ตรงนี้พอดี? ทำไมถึงรู้พอดีว่าพวกคุณถูก Cres หมายหัว”
อันที่จริงเพียงรู้ว่าเขาคือ MAX พื้นฐานแล้วจางหย่งก็สามารถคิดถึงที่เหลือได้
แต่เจิ้งซิ่วหยากลับไม่รู้เบื้องลึกเบื้องหลัง “คุณ MAX เชิญพูด”
MAX โบกมือไปมาให้พวกเขานั่งลง “อาหารเมื่อกี้ พวกคุณคงยังกินไม่อิ่มสินะ นั่งสิ กินต่อ อาหารจีน พวกคุณชอบทั้งนั้น”
กินข้าว?
ในตอนนี้พวกเขาเพิ่งสังเกตเห็นอาหารสิบกว่าอย่างวางเต็มโต๊ะ เป็นอาหารจีนต้นตำรับแท้ ๆ เต็มไปด้วยควันหอมฉุย รูปรสกลิ่นครบถ้วน
ตกใจยังไม่ทันหาย จะกินข้าวบ้าอะไร!
ทั้งสามคนนั่งลง MAX หยิบตะเกียบขึ้น “หลงเซียวฉลาดนะ เขาคาดไว้ว่าพวกคุณจะต้องได้มีเหตุไม่คาดคิดในอิตาลี ถ้าหากผมมาช้ากว่านี้สักนาที พวกคุณสามคนได้ตายแน่”
ตะเกียบของเจิ้งซิ่วหยายังไม่ทันคีบกับข้าว “หลงเซียว?”
MAX ชิมอาหารรสดี ยิ้มอย่างเรียบเฉย “กระบวนการพวกคุณไม่จำเป็นต้องรู้ ผลก็คือผมช่วยพวกคุณ พวกคุณสามคน ตั้งแต่วันนี้ไป ต้องร่วมมือกับผม”
เจิ้งซิ่วหยาคิดในใจว่าฉันเป็นตำรวจนะเว้ย แล้วจะให้ร่วมมือกับมาเฟีย?
จางหย่งไม่มีความอยากอาหาร เขารีบวิเคราะห์สถานการณ์ MAX ช่วยชีวิตคน ต้องได้รับฉันทามติกับเจ้านาย งั้นก็หมายความว่า—— เจ้านายจะร่วมมือกับ MAX ทำสงคราม ร่วมกันโจมตี!
เจ๋ง!
“ไม่มีปัญหา! ผมจะร่วมมือ อยากให้ผมทำอะไรก็พูดมาเลย”
ไม่สนใจท่าทางที่ไม่เชื่อของเจิ้งซิ่วหยาและจางหย่ง จางหย่งแสดงออกอย่างรุนแรงและเที่ยงธรรม
“ฮ่า ๆ ดีมาก ดูแล้ว พี่น้องของหลงเซียวพึ่งพาได้” MAX จับคาง ชายชุดดำหยิบเหล้าอู่เหลียงเย่ที่อยู่ด้านข้างโต๊ะและเทเหล้าให้เขา
เจิ้งซิ่วหยาจ้องดูอู่เหลียงเย่แล้วกระตุกมุมปาก
“คุณเจิ้ง คุณมาอิตาลีครั้งนี้ เป้าหมายสูงสุดคือการเข้าใกล้ Cres อีกขั้นใช่ไหม?” สายตาที่หยั่งรู้ของ MAX เหลือบมองเจิ้งซิ่วหยาราวกับว่ามองเธอออกอย่างหมดไส้หมดพุง
เจิ้งซิ่วหยามองสถานการณ์แล้วคิดว่าการปกปิดคงจะไม่มีประโยชน์อันใดแล้ว “ไม่ผิด ฉันมาเพื่อตรวจสอบเขา แน่นอน ฉันกำลังมองหาหลักฐานของการลักลอบค้าของหลงเซียว”
MAX อดกลั้นก่อนที่จะหัวเราะออกมาอย่างเยือกเย็น “ขอให้คุณโชคดี”
……
เมืองหลวง ประเทศจีน
แสงไฟเงียบ ๆ ในรีสอร์ทหยีจิ่งตอนกลางคืน ประตูห้องหนังสือของหลงเซียวถูกปิดไว้ หลงเซียวที่สวมเสื้อคลุมชุดนอนนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์
“เจ้านาย คุณคาดการณ์ได้ไม่ผิด Cres หมายหัวพวกเขาไม่ก่อนแล้ว ยังดีที่ MAX ปรากฏตัวทันเวลา ไม่อย่างนั้นอาหย่งกับพวกคงตายไปแล้ว”
หลังจี้ตงหมิงได้รับข่าว ก็ลุกขึ้นมาโทรหาหลงเซียว
“อือ Cres รอไม่ไหวแล้ว”
ที่มุมล่างขวาของคอมพิวเตอร์ไอคอนนั้นกะพริบและหลงเซียวคลิกเพื่อเปิดมันเป็นข้อความจากจางหย่ง
“เจ้านาย วันนี้ดุเดือดมาก! สไนเปอร์เล็งไปที่หน้าผากของเราไอ้บ้า! เจ้านาย คุณช่วยชีวิตพวกเราไว้อีกครั้งแล้ว”
แม้เหตุการณ์จะผ่านไปแล้วแต่จางหย่งยังคงปาดเหงื่อ เมื่อกลับถึงโรงแรมและอาบน้ำ เขายังคงจมอยู่กับผลพวงของภาพของดงห่ากระสุน
“ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว ต่อไปยังมีเรื่องยุ่งกว่านี้ เตรียมตัวไว้ให้ดี”
จางหย่งได้เตรียมใจไว้แล้ว “เจ้านายวางใจ วันนี้มันฉุกละหุกเกินไป ครั้งหน้าผมจะไม่ยอมเป็นฝ่ายถูกโจมตี”
จี้ตงหมิงพูดขึ้นในโทรศัพท์ “เจ้านาย ตู้หลิงเซวียนให้เจิ้งซิ่วหยาไปอิตาลีเพื่อหาหลักฐาน ทางคุณ…”
“เตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว”
เมื่อวางสาย ข้อความของจางหย่งก็เข้ามา “เจ้านาย ฆาตกรตายแล้ว…ฆ่าตัวตาย ผมไม่รู้ว่าเขาตายยังไง เจิ้งซิ่วหยาสอบสวนจนทำให้คนตาย ผมถามเธอ เธอไม่ยอมพูด”
หลงเซียวใช้นิ้วเคาะมุมโต๊ะ ตายแล้ว?
คนที่ถังจิ้นเหยียนต้องการจะปกป้อง ถูกผู้หญิงของเขาฆ่าตาย?
ถ้างั้น ก็คงโทษใครไม่ได้
“รู้แล้ว”
“ยังมีอีก Cres ต้องการจะฆ่าคุณกับเถ้าแก่เนี้ย เจ้านายต้องดูแลเธอให้ดีนะครับ” จางหย่งยกคำพูดเดิมมาบอกหลงเซียว
หลงเซียวมองดูตัวอักษรบนหน้าจอแล้วมองออกไปที่นอกประตูเงียบ ๆ
ไม่อาจจะให้ Cres มีชีวิตอยู่ได้อีกต่อไป!
ในช่วงเวลาที่แสนเงียบสงบ หลงเซียวปิดคอมพิวเตอร์แล้วเดินเบา ๆ ไปที่ห้องนอน ภายในแสงจันทร์สว่าง ลั่วหานนอนอยู่บนที่นอน Simmons
หลงเซียวดึงปลายผ้าห่มด้านหนึ่งแล้วไถลตัวเข้าไป
เขาคิดว่าลั่วหานหลับไปแล้ว จึงได้ขยับตัวเข้าไปใกล้ลั่วหาน คนในอ้อมกอดลืมตาขึ้น
“เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”
มือของหลงเซียวยื่นไปช้อนใต้คอเธอแล้วเอนหัวของเธอให้พิงตัวเขา “มีเรื่องที่อิตาลี จัดการได้แล้ว”
เขาหันข้างมืออีกข้างสอดเข้ามาในผ้าห่มจับเอวของเธอ ฝ่ามืออันอบอุ่นแยกชุดนอนเนื้อนุ่มของเธอออกให้รู้สึกถึงชีวิตเล็ก ๆ ที่อยู่ภายใน
ลั่วหานสูดลมหายใจและหลับตา “คุณจะต้องไปด้วยไหม?”
หลงเซียวสูดลมหายใจลึก กลิ่นหอมของเธอลอยอบอวลอยู่ในจมูก “ไม่ไป ผมจะอยู่เป็นเพื่อนคุณ ที่นั่นมี MAX กับอาหย่งก็พอแล้ว”
ลั่วหานหาวอย่างเกียจคร้าน “ฉันจะระวังให้มาก คุณไม่ต้องเป็นห่วง ฉันกับลูกไม่เป็นไร”
ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด
เสียงโทรศัพท์มือถือของหลงเซียวที่หัวเตียงสั่น หน้าจอสว่างโดดเมื่ออยู่ในห้อง
มือทั้งสองข้างของหลงเซียวยังอยู่บนตัวลั่วหานไม่ขยับ
“ไม่ดูหน่อยเหรอ?”
“พรุ่งนี้ค่อยดู นอนก่อน”
หน้าจอดับลงโดยมีข้อความภาษาอังกฤษปรากฏอยู่บนนั้น