บทที่ 1114 จะขอบคุณผมยังไง
จางหย่งพูดอะไรไม่ออก ยังดีที่เขามองเห็นCresที่เดินเข้ามาจากทางด้านหลัง
ไม่รู้เอาแรงมาจากไหน พุ่งเข้าไป กระโจนเข้าหาCresอย่างรวดเร็ว สองมือบีบที่ลำคอเขาเอาไว้แน่น
“แกทำอะไรกับเจ้านายฉัน ฉันจะฆ่าแก ฆ่าแกให้ตาย”
จี้ตงหมิงเดินเข้าไป กังวลใจ “เจ้านายครับ ต้องห้ามอาหย่งไหมครับ”
หลงเซียวยิ้มเย็น “ไม่ต้อง ให้เขาได้ปลดปล่อย”
ลำคอของCresถูกควบคุมด้วยจางหย่ง เขาไม่ได้ขยับ เพียงบอกเสียงเย็น “ปล่อย”
จางหย่งโกรธขึ้นสมอง ไม่ฟังอะไรทั้งนั้น “แกหุบปากไปซะ ฉันจะฆ่าแก”
หลงเซียวยังคงนั่งอยู่บนเก้าอี้ มองเจิ้งซิ่วหยาที่ดวงตาแทบถลนออกมา “อะไรครับเจ้าหน้าที่เจิ้ง” คุณสวมชุดอะไรอยู่ อีกอย่าง ทำไมเขายอมปล่อยพวกเรา
เจิ้งซิ่วหยาหยุดสำลักแล้ว ทว่ามองเขาราวกับเห็นผี “คุณ…ช่วยอธิบายหน่อยสิว่าเกิดอะไรขึ้น คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง คุณทำยังไงกับพวกเขา ทำไมคนพวกนี้ไม่จับคุณ”
หลงเซียวขมวดคิ้ว “เจ้าหน้าที่เจิ้งถามผมเยอะขนาดนี้ ผมจะตอบยังไงดีล่ะครับ”
เจิ้งซิ่วหยาทำอะไรไม่ถูกอยู่ชั่วครู่ “งั้นคุณบอกฉันมาก่อนว่าทำไมพวกเขาถึงปล่อยเรา”
“เจ้าชายเจมส์ช่วยออกหน้า กดดันCresให้ปล่อย เพราะแบบนี้แหละครับ” หลงเซียวอธิบายด้วยท่าทีสบายๆ แต่ไม่มีใครรู้ ตอนที่เขาวางแผนนี้ เขาไม่กล้าเอาความกดดันทั้งหมดไปไว้ที่เจมส์
โดยเฉพาะ คนของเจมส์ช่วยอาหย่งไม่ได้ในทันที
ตามแผนที่วางบนเครื่องบินของพวกเขา ในเวลานี้ ทุกคนยังคงต่อสู้กันในสงครามกระสุน และไม่รู้จะสูญเสียไปเท่าไหร่
โชคดี การปรากฏตัวของเจมส์สามารถหยุดทุกอย่างเอาไว้ได้
เจ้าหน้าที่ใหญ่กดขี่ข่มเหงคนให้ตาย
นี่บางทีอาจจะเป็นเหตุผล ที่มีคนไม่น้อยอยากเป็นเจ้าหน้าที่
“ห๊ะ แค่นี้เหรอ” เจิ้งซิ่วหยาตกใจ และแปลกใจ
เจมส์ถึงขั้นออกหน้าช่วยเหลือ อยู่นอกเหนือจากการสันนิษฐาน ของเธอทั้งสิ้น
“ใช่ แบบนี้แหละครับ”
เจิ้งซิ่วหยาพลันมองเห็นเจมส์ที่เดินเข้ามา เขาสวมชุดเครื่องแบบราชวงศ์ พู่สวยหอยลงมาอย่างสวยงาม กระดุมทองคำเรียงราย ติดตั้งแต่ลำคอยันเม็ดสุดท้าย อย่างน้อยยี่สิบห้าเม็ด
สวมเครื่องแบบแบบนี้แล้ว ถึงดูเป็นเจ้าชายหน่อย
แต่ว่า เมื่อเทียบกับเครื่องแบบของหลงเซียวแล้ว ยังนับว่าอ่อนกว่า
เจมส์ดูตื่นเต้นเพราะพึ่งเสร็จจากงานใหญ่ ก้าวเดินนั้นพลิ้วไหว เส้นผมสลายขยับไปตามจังหวะการก้าวเดิน
เมื่อเห็นหญิงสาวเพียงหนึ่งเดียวในนั้น เขาจึงยืดอกค้อมตัวยื่นมือออกไปหนึ่งข้าง “คุณผู้หญิง สวัสดีครับ”
ริมฝีปากเจิ้งซิ่วหยากระตุกยิ้ม จากนั้นยื่นมือออกไป “สวัสดีค่ะ”
เจมส์จูบหลังมือของเจิ้งซิ่วหยา ท่าทางสง่างาม “คุณผู้หญิง ไม่ทราบว่าผมจะทำอะไรเพื่อคุณได้บ้าง”
ชายหนุ่มหลายคนที่ยืนสังเกตการณ์อยู่มองเห็นถึงความวุ่นวาย ว้าว พี่เขาสมองกระทบกระเทือนหรือเปล่า เป็นบ้าไปแล้ว
เจิ้งซิ่วหยาที่รอดชีวิต รู้สึกไม่เลว จึงอดไม่ได้ที่จะเล่นกับเจมส์สักหน่อย “เจ้าชาย ฉันต้องการให้คุณช่วยจัดการใครสักคน”
เจมส์ยังคงรักษาท่าที “ผมเดาว่า คุณผู้หญิงคงต้องการให้ผมช่วยจัดการชายด้านข้างคนนี้ใช่หรือไม่”
ผู้ชายด้านข้างคนนั้น ก็คือหลงเซียว
จี้ตงหมิงไม่รู้ว่าควรพูดอะไร ที่แท้ เด็กเจมส์คนนี้ เมื่อพึงพอใจก็จะลืมทุกอย่าง ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองแซ่อะไร
เจิ้งซิ่วหยาหัวเราะ บอกตามตรง เธออยากเห็นเจมส์และหลงเซียวสู้กันสักครั้ง ทว่าตอนนี้ยังไม่ใช่เวลา เขาชี้ไปที่ชายอิตาลีที่ยืนอยู่ข้างๆ “หรือว่าเป็นเขา”
เป็นเขา จับเจิ้งซิ่วหยามาขังเองกับมือ กักขังเอาไว้ในกรง เกือบจะแข็งตายไปแล้วด้วยซ้ำ
เจ้าชายเจมส์ยู่ปาก ไม่ได้จัดการหลงเซียว เขาแอบผิดหวังเล็กน้อย “ไม่มีปัญหาครับคุณผู้หญิง”
เจมส์พยักหน้าให้บอดี้การ์ดด้านข้าง คนด้านหลังเข้าใจความหมายของเขา เมื่อรับคำสั่งแล้วก็งอหักข้อมือ ส่งเสียงดังออกมาให้ได้ยินอย่างชัดเจน จากนั้นเดินเข้าใกล้ชายอิตาลีคนนั้น
อีกคนมองCresเล็กน้อย คิดอยู่สักพักว่าต้องเอาคืนไหม แม้กระทั่งเจ้านายของเขาเองก็ยังต่อสู้ตัวต่อตัวไม่ให้พวกเขาเข้าไปยุ่ง นี่หมายถึงพวกเขาต้องรองรับใช่ไหม
ทำไมเป็นเช่นนั้น…
อีกฝ่ายเป็นเจ้าชายแห่งประเทศM เขาจะกล้าลงมือเหรอ นั่นมันรนหาที่ตายชัดๆ
เมื่อนึกถึงตรงนี้ ชายหนุ่มจึงวางหมัดที่เตรียมเอาไว้ลง
เจมส์ชี้นิ้วขึ้นมาท่าทางสง่างาม เขี่ยปลายคางของชายหนุ่ม ก้มลง เอ่ยด้วยภาษาอังกฤษ “I really want to kill you directly” (ฉันอยากฆ่านายซะตอนนี้เลย)
ชายหนุ่มที่แข็งแกร่งที่ถูกควบคุมด้วยปลายนิ้ว ไม่สามารถขยับได้สักนิด ยืดตัวตรง ยืนสบตาเขาอยู่แบบนั้น
เขาถูกคำพูดข่มขู่จนเหงื่อซึมไปทั่วขมับ ได้แต่ยืนนิ่ง
เจิ้งซิ่วหยาขยับชุดคลุมแน่น รู้สึกอุ่นขึ้นมาบ้างแล้ว สบายตัวขึ้น “คุณชายเซียว เรื่องนี้ ฉันต้องเข้าใจว่ายังไงดีคะ”
สมองของเธอไม่มาก ไม่อยากเข้าใจสถานการณ์ในตอนนี้ว่าเป็นยังไง
“คุณอยากเข้าใจแบบไหนก็เข้าใจแบบนั้นแหละครับ แค่คุณสบายใจก็พอ”
“…” เจิ้งซิ่วหยารู้สึกราวกับกำลังโดนแกล้ง สมองมึนงงไปหมดแล้ว
Cresไม่ใช่คนโง่ เขาไม่ปล่อยให้จางหย่งโวยวาย เขาเอาคืนอย่างรวดเร็ว ยังไม่ทันได้ออกแรงทั้งหมด ก็เห็นได้ชัดแล้วว่าจางหย่งไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา
“พอแล้ว อาหย่ง”
ในตอนที่จางหย่งเสียเปรียบ หลงเซียวรีบตะโกนบอกให้เขาหยุด หมัดของCresที่พุ่งมายังจางหย่งก็หยุดชะงักอยู่ปลายจมูกของเขา เกือบทำให้จางหย่งจมูกหักได้แล้ว
จางหย่งรู้สึกเพียงว่ามีกระแสลมพัดผ่าน แม้ว่าหมัดนั้นจะมายังไม่ถึง ทว่ากลับมีกระแสลมรุนแรงพัดเข้ามา ไม่เหลือทางรอดเอาไว้เลย
ว้าว…
ฝีมือของCresเก่งกาจขนาดนี้เลยเหรอ
เกาจิ่งอานกำมือจนเจ็บ นึกโชคดีอยู่ในใจที่หมัดนั่นไม่ได้พุ่งเข้ามาหาตัวเอง
สามารถปะทะกับพี่ใหญ่ได้ ไม่ธรรมดาจริงๆ
ใบหน้าของCresเข้มขึ้น “เจ้าชายเจมส์ คำขอของคุณผมจัดการให้แล้ว ต่อไป เราจะคุยกันอย่างอื่นหน่อยได้ไหม”
เจมส์ล้วงกระเป๋าท่าทางขี้เกียจ “เราไม่มีอะไรต้องคุยกัน”
เจมส์เบนสายตาไปหาหลงเซียวที่กำลังนั่งดื่มชาอยู่ เอ่ยต่อ “เรื่องเข้าใจผิดเล็กน้อย ต้องอธิบายให้ชัดเจน ไม่งั้นจะก่อให้เกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวง”
นี่เขากำลังกลัว
Cresไม่กล้าเป็นศัตรูกับเจมส์
เจิ้งซิ่วหยาฟังอย่างพึงพอใจ โม้กับหลงเซียวเสียงเบา “ฉันเข้าในแล้วว่าอะไรที่เรียกว่ามีภูเขาที่สูงกว่าภูเขา แม้ว่าCresจะร้ายแค่ไหน แต่เมื่อเห็นเจมส์ก็ยังเชื่องอยู่ดี สบายใจ”
หลงเซียวทำเพียงเหลือบมองเธอ ไม่ตอบอะไร
Cresเป็นคนยังไง เกรงว่าเจิ้งซิ่วหยาใช้สมองทั้งหมดของเธอก็ยังคงไม่เข้าใจ
ครืด ครืด ครืด
เสียงโทรศัพท์หลงเซียวสั่นขึ้นมา
เมื่อมองเห็นชื่อบนหน้าจอ หลงเซียวก็ยื่นมันให้เจิ้งซิ่วหยา
“เอ่อ จิ้นเหยียน
เจิ้งซิ่วหยาคว้าโทรศัพท์มาได้แล้วจึงตะโกนเสียงดัง “ที่รัก ฉันเองค่ะ ฉันเอง”
ถังจิ้นเหยียนลงจากเครื่องได้ก็มึนงง “ซิ่วหยา”
“ใช่ค่ะ ฉันเอง ฉันคิดถึงคุณจังเลย คุณอยู่ที่ไหนคะ” เจิ้งซิ่วหยายกสองมือกอดโทรศัพท์แน่น ท่าทางเหมือนกอดคนรัก
หลงเซียว “…”
เกาจิ่งอาน “…”
จางหย่ง “…”
ผู้หญิงคนที่ต่อสู้กับเขาทั้งคืน เป็นใครกันนะ
หัวใจที่หนักอึ้งของถังจิ้นเหยียนนั้นร่วงหล่นไปบนพื้น เขากลัวมาตลอดทาง ได้ยินเสียงของเจิ้งซิ่วหยา ในที่สุดสติก็กลับคืนมา “ซิ่วหยา คุณโอเคไหม คุณอยู่ที่ไหน ผมจะไปหาคุณเดี๋ยวนี้”
เจิ้งซิ่วหยาเผยรอยยิ้มหวาน “ฉันปลอดภัยดีค่ะ อยู่กับพวกคุณชายเซียว ที่นี่คือโคลอสเซียม”
“รอผมนะ เดี๋ยวจะถึงแล้ว”
โคลอสเซียมเหรอ
จางหย่งมองเจิ้งซิ่วหยาราวกับเห็นผี “คุณเป็นคนสองบุคลิกหรือเปล่า”
รอยยิ้มหวานบนใบหน้าเจิ้งซิ่วหยายังคงอยู่ ยกยิ้มมุมปาก คืนโทรศัพท์ให้หลงเซียว “ไม่บอกคุณหรอก”
จางหย่ง “…”
เมื่อโทรศัพท์มาถึง ข้อความก็เข้ามาทันที
ลั่วหาน “ที่รัก ราบรื่นดีไหมคะ”
ใบหน้าเรียบนิ่งของหลงเซียว ค่อยๆเผยรอยยิ้มอบอุ่นขึ้นมา
“เดี๋ยวผมไปคุยโทรศัพท์หน่อย”
ครอบข้าง “…”
ฤดูใบไม้ผลิมาแล้วเหรอ
ลั่วหานนอนไม่หลับ กังวลความปลอดภัยของหลงเซียว จึงลองส่งข้อความไปให้เขา ไม่คิดว่าหลงเซียวจะโทรกลับมาเร็วขนาดนี้
“ที่รัก ราบรื่นดีไหมคะ”
ความง่วงของลั่วหานหายไปทันที กอดผ้าห่มลุกขึ้นนั่ง
“ราบรื่นกว่าที่คิดไว้เยอะเลย จัดการได้อย่างราบรื่น ไม่มีการลงมือใดๆ พวกเราปลอดภัยมันทุกคน พรุ่งนี้ก็กลับแล้ว”
“ทำไมล่ะครับ”
“ผมขอให้เจมส์มาช่วย สถานะของเขา…คุณก็น่าจะรู้” น้ำเสียงของหลงเซียวอ่อนโยน ห่างกันข้ามวันข้ามคืน ความหลงใหลไม่ได้ลดน้อยลงสักนิด
“งั้นก็ดีแล้วค่ะ เดี๋ยวก่อนนะ เจมส์เหรอ”
หลงเซียวเดาได้ถึงความสงสัยของลั่วหาน “ข้อเสนอของเขา คือกลับไปคุณต้องทำกับข้าวให้เขากิน สองวัน”
ลั่วหานหัวเราะ “งั้นก็ได้สิคะ แค่พวกคุณไม่เป็นอะไร ฉันเลี้ยงข้าวเขาทั้งเดือนก็ได้”
เขาไม่เป็นไร โชคดีจริงๆ
……
เจมส์และCresคุยกันไม่ราบรื่นเท่าที่ควร
“ต้องขอโทษด้วยครับ ผมเคยรับปากกับหลงเซียว ต้องช่วยเขาให้ออกจากกลุ่มให้ได้ เรื่องนี้ ผมคงช่วยคุณไม่ได้”
หลงเซียวได้ใจเจมส์ไปก่อนแล้ว เขาไม่มีวันยอมถูกซื้อง่ายๆหรอก
“ดูเหมือน ไม่มีทางที่จะคุยได้แล้ว” เจมส์สัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่าง อนาคตคงยากที่จะข่มขู่หลงเซียว
“ก็เห็นอยู่ ตอนนี้ผมก็คุยกับคุณอยู่ไม่ใช่เหรอ” เจมส์เลียนแบบท่าทางอวดเก่งของหลงเซียว ทว่าเลียนแบบได้ไม่เหมือนเท่าไหร่ ไม่เข้าท่า
เอ่ยจบ เขาสะบัดแขนเสื้อแล้วเดินออกไป ไม่หันกลับมามองสักนิด ท่าทางเย่อหยิ่ง
เจิ้งซิ่วหยายกเท้าขึ้น “Cres สิงโตล่ะ เราอยากเห็นการแสดง”
ใบหน้าของCresกระตุก “…”
พวกเขาเอาจริงงั้นเหรอ
เจมส์ยืนเอามือขัดหลัง ร่างผอมสูงยืนอยู่ตรงหน้าหลงเซียว เมื่อสักครู่เขาคุยโทรศัพท์อยู่ข้างๆตลอด ยิ้มอ่อนโยนขนาดนั้น ต้องโทรหาแอนน่าแน่นอน
เหอะ
“นี่”
เจมส์เรียกเขาอย่างไม่พอใจ
“อะไร”
“คุณให้ผมส่งคนมา ผมก็ส่งมาแล้ว” เจมส์เชิดหน้าขึ้น บอกอยู่ในใจว่าผมช่วยคุณขนาดนี้แล้ว ดูว่าคุณจะขอบคุณผมยังไง
“อยู่ไหน”
“บนรถผม”
“ผมจะไปตอนนี้