บทที่ 1117 ลงไม้ลงมือ
ตอนนี้ เสียงหัวเราะต่างๆราวกับกำลังเย้ยหยันความพ่ายแพ้ของเขา แม้กระทั่งภูเขามืดมิดก็ยังหัวเราะเขาอย่างบ้าคลั่ง
ตู้หลิงเซวียนลงจากรถ ยืนตากลมอยู่ตรงนั้น ลมเย็นพัดกระแทกเข้าใบหน้า ราวกับทะลุเข้าไปในผิวของเขา ความเย็นหนาวเหน็บไปถึงเซลล์และหัวใจ
เนิ่นนาน โทรศัพท์ตู้หลิงเซวียนพลันดังขึ้น
เสียงโทรศัพท์ดังชัดเจนท่ามกลางความมืด
เขาไม่แม้แต่จะมองสักนิด ปล่อยให้มันดังอยู่แบบนั้น
หนึ่งนาทีหลังจากนั้น โทรศัพท์ก็ดับไปเอง จากนั้นดังขึ้นอีกครั้ง
ตู้หลิงเซวียนปิดเครื่อง เดินเข้าไปในร้านเหล้า
ร้านเหล้าเป็นเหมือนศูนย์รวมนักท่องเที่ยว ยังมีหนุ่มสาวที่แต่งตัวออกแนวพังก์ บางคนยังดูเป็นนักเรียน และบางคนยังดูออกว่าเป็นอันธพาลในสังคม
ผู้ชายหลายคนมีแจ็คเก็ตหนังยืนอยู่ด้วยกัน พูดคุยหยอกล้อ เนื้อหาหยาบคายและรุนแรง ทำให้เกิดเสียงหัวเราะจากคนกลุ่มหนึ่ง
พลั๊ก
กุญแจรถในมือตู้หลิงเซวียนถูกวางลงบนเคาน์เตอร์ ร่างสูงนั่งลงบนเก้าอี้ ส่วนสูงของเขาเห็นโดดเด่นมาแต่ไกล เมื่อเดินเข้ามาก็สามารถดึงดูดสายตาเหล่าแขกหญิงสาวมากมาย ตอนนี้วางกุญแจลง ผู้ชายหลายคนก็จับตามองไปที่โลโก้หรูหรา
“ขอวิสกี้”
น้ำเสียงแห้งผากของตู้หลิงเซวียนเอ่ยขึ้น ใบหน้าเยือกเย็น ตอนที่บอกกับพนักงานนั้น ท่าทางของเขาเย็นชา
กรอบหน้าภายใต้แว่นนั้น ไร้ความรู้สึก
พนักงานสาวทักทายอย่างเป็นกันเอง “คุณผู้ชาย รอสักครู่นะคะ”
ไม่นาน แก้ววิสกี้สูงถูกเทลงมาครึ่งแก้ว มือขาวยื่นส่งมา ไม่รีบร้อนปล่อยมือ แถมยังวางมือลงบนหลังมือของตู้หลิงเซวียน สัมผัสเบาๆ
ตู้หลิงเซวียนจ้องเขม็งท่าทางรังเกียจ ดึงแก้วมา เงยหน้าขึ้นกรอกลงไปรวดเดียว
พนักงานสาวยู่ปากนั่งลง “คุณผู้ชาย มาคนเดียวเหรอคะ”
เหล่าอันธพาลที่นั่งอยู่ด้านข้างนั้น คาดหวังให้พนักงานสาวสวยมาดูแลตนเองบ้าง ทว่ากลับไม่ได้รับความสนใจจากเธอคนนั้นเลยสักนิด
ตู้หลิงเซวียนพึ่งนั่งลง สายตาของหญิงสาวหลายคนต่างก็ไม่ยอมละไปไหน
ตู้หลิงเซวียนขยับแว่นบนจมูกคม ดื่มต่อไปคนเดียว
หญิงสาวผมยาวสลวยสองคนนั่งอยู่ด้านข้าง ยกแก้วขึ้น เดินเข้ามาหา นั่งลงขนาบข้างซ้ายขวาของตู้หลิงเซวียน
หญิงสาวผมสีลินินด้านซ้ายขยับแนบชิดกับไหล่ของเขาท่าทางน่ารักและอ่อนโยน “พ่อรูปหล่อ ดื่มคนเดียวคงไม่สนุก มาดื่มด้วยกันนะคะ”
หญิงสาวผมแดงไวน์ด้านขวายกแขนขึ้นพาดไปที่ไหล่ของเขา “พ่อรูปหล่อ ฉันชื่อCoco เรามาสนุกด้วยกันนะคะ มา ชนแก้วค่ะ”
หญิงสาวที่เรียกตัวเองว่าCocoยกแก้วมาชนกับแก้วของเขา ริมฝีปากสวยจิบเหล้าไปหนึ่งอึก สาวตาจับจ้องอยู่ที่ตู้หลิงเซวียนตลอดเวลา
หญิงสาวทั้งสองยั่วยวนเต็มที่เพื่อให้ตู้หลิงเซวียนตอบ แต่อีกคนกลับนั่งไม่สนใจอะไรอยู่บนเก้าอี้ ข้อศอกเท้าไปกับเคาน์เตอร์บาร์ ดื่มวิสกี้อีกแล้วอีกเล่า
ชายสวมชุดปักหมุดสะกิดถามเพื่อน “ผู้ชายคนนี้ใคร มีมารยาทบ้างหรือเปล่า”
“ไม่รู้จัก ไม่เคยเห็น คงจะเป็นพวกมีเงิน นายดูรถเขาสิ แถมยังชุดสูทบนตัวเขาอีก รองเท้าหนังของเขา”
ชายหนุ่มมองตู้หลิงเซวียนตั้งแต่หัวจรดเท้าไปหนึ่งรอบ คำนวณจากชุดบนร่างกายของเขา สรุปได้ว่า รวยมาก
“มีเงินเยอะขนาดไหน ไหนบอกมาสิ”
“แว่นของเขาแบรนด์อาร์มานี่ เคยเห็นคนอเมริกาคนหนึ่งสวม เหมือนราคาอยู่ที่ประมาณแปดแสน แพงหูฉี่ ยังมีอีก นาฬิกาของเขาคือวาเชอรอง คองสตองแตง แค่นาฬิกาเรือนเดียวก็สามารถซื้อบ้านได้ทั้งหลังแล้วนายรู้ไหม กุญแจรถของเขานายน่าจะรู้ รถหรู”
เมื่อประเมินแล้ว อีกคนถึงขั้นตกตะลึง “ว้าว รวยขนาดนั้นเลย”
“คืนนี้ รวยแล้ว”
“ไป”
ตู้หลิงเซวียนดื่มไปสามแก้วแล้ว ไม่เอ่ยอะไรแม้เพียงคำเดียว หญิงสาวสองคนที่รุกไม่หยุดเริ่มทนไม่ไหว
“พ่อรูปหล่อ ไม่ไว้หน้ากันเกินไปหรือเปล่า เราออกมาเที่ยว แบบนี้คงไม่ดีมั้ง”
น้ำเสียงอ่อนโยนเริ่มกลายเป็นบ่น
ตู้หลิงเซวียนมองมือของหญิงสาวที่ลูบมา ตะโกนออกไป “ปล่อย”
หญิงสาวหยุดชะงัก มือคล้ายรูปโดนเหล็กร้อน “คุณผู้ชาย ไม่ต้องดุขนาดนั้นมั้ง แค่อยากชวนคุณดื่มสักแก้วเอง”
“พี่ชาย ดุกับผู้หญิงแบบนี้ เราคงทนดูไม่ไหว”
น้ำเสียงหาเรื่องถูกส่งมา ไม่นานก็ได้ยินเสียงหักมือ ตู้หลิงเซวียนไม่ได้หันกลับไปมอง ทั้งสามบุกเข้ามา ดักตู้หลิงเซวียนไว้ที่บาร์
ตู้หลิงเซวียนยังคงดื่มต่อไป ไม่สนใจพวกเขาสักนิด รีบยกแก้วในมือจนหมด เตรียมตัวออกไป
ยังไม่ทันได้ลุกขึ้น ก็ถูกชายคนหนึ่งกดไหล่เอาไว้ นั่งลงที่เดิม
ตู้หลิงเซวียนเสียงเย็น “ทำไม”
ชายหนุ่มถูปลายจมูก “สาวสวยทั้งสองคนนี้ เราดูแล ไม่เกรงใจพวกเธอ เท่ากับไม่ไว้หน้าพวกเรา”
เห็นได้ชัดว่าแค่หาข้ออ้างเท่านั้น
ตู้หลิงเซวียนลูบนาฬิกาที่ข้อมือ “แล้วไง พวกนายจะเอายังไง”
ชายทั้งสามหมุนคอไปมา ด้านหลังยังมีพวกตามเข้ามาอีก ปกติทุกคนมาบ่อย แม้จะไม่รู้จัก แต่ก็ถือว่าคุ้นหน้า
เมื่อเห็นเรื่องน่าสนุก แน่นอนว่าอยากร่วมด้วย
“ปัญหาของผู้ชาย ใช้วิธีในแบบผู้ชายมาจัดการ คุณว่าเป็นไง”
น้ำเสียงและท่าทางวอร์มร่างกาย หมายถึงการเปิดศึก
ตู้หลิงเซวียนยกยิ้มมุมปาก ปลดกระดุมชุดสูท สะบัดมือออกไป ชุดสูทก็กลายเป็นเชือกเส้นหนึ่ง สะบัดไปยังศีรษะของคนเหล่านั้น
“โอ๊ย”
ศีรษะของชายเหล่านั้นถูกโจมตี เสียงร้องเจ็บปวดดังขึ้น จากนั้นกัดฟันบอก “ทุกคน รุม”
จากนั้น ร้านเหล้าก็ถูกชนระเนระนาด แก้วเหล้าในบาร์แตกกระจาย โต๊ะต่างๆเกิดรอยชน ขวดเหล้าและเครื่องดื่มต่างๆหล่นแตกกระจัดกระจาย วุ่นวายจนไม่รู้ว่าใครเป็นใคร
ตู้หลิงเซวียนถูกล้อมด้วยคนกว่าสิบคน ชุดสูทในมือไม่รู้ว่าปลิวหายไปตอนไหน มือเปล่าต่อสู้กับคู่ต่อสู้เป็นสิบ
“กรี๊ด หยุดตีกัน หยุดตีกันได้แล้ว”
“เลือดไหลแล้ว บาดเจ็บ เขาบาดเจ็บแล้ว”
เสียงกรีดร้องของหญิงสาวเหล่านั้นสอดประสานเข้ากับเสียงหมัดกระทบเนื้อ ร้านเหล้าวุ่นวายชุลมุน
ตู้หลิงเซวียนมึนศีรษะขึ้นมากะทันหัน มีคนหยิบขวดเหล้าขึ้นมาฟาดหัวเขา ขวดเหล้าแตกละเอียด
คนฟาดเองก็ตกใจ รีบโยนขวดในมือทิ้ง ถอยหลังไปสองก้าว
ตู้หลิงเซวียนหมุนตัวกลับไปช้าๆ มองเห็นใบหน้าตื่นตระหนกของชายหนุ่ม จากนั้นคลำดูเลือดที่ท้ายทอย เลือดสีแดงฉานเต็มมือ เลือดไหลลงไปบนพื้น เลอะเทอะรองเท้าของเขา
เลือดสีแดงไหลเป็นทาง เปรอะเปื้อนชุดสูทเป็นวงกว้าง กระดุมหลุดไปหลายเม็ด มองเห็นแผ่นอกกว้างของเขา
ใบหน้าของตู้หลิงเซวียนเผยรอยยิ้มบาง “ต่อสิ มา เข้ามา”
เขาตะโกนขึ้นเรื่อยๆ คนที่มาหาเรื่องนั้นไม่กล้าลงมืออีก สบตามองกันทว่าไม่มีใครกล้าลงมือ คนที่ลงมือก่อนขยับไปอยู่อีกฝั่ง
ตู้หลิงเซวียนปล่อยมือออกจากบาดแผล ดึงนาฬิกาแบรนด์ดังออกมาจากกระเป๋า ส่ายไปมา “มา ใครเอาชนะฉันได้ เอานาฬิกานี่ไปเลย”
นาฬิการาคาเท่าบ้านหนึ่งหลัง ดึงความปรารถนาของคนได้สำเร็จ ทั้งสองคนไม่คิดชีวิต พุ่งเข้าไป
สองหมัดของตู้หลิงเซวียนขว้างออกไป ขัดขวางการโจมตีของพวกเขา ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นเป็นระยะนั้นกลบความทรมานใจได้จนหมด จนเขาหมดแรง นอนแผ่หราอยู่บนพื้น
เขานอนราบอยู่บนพื้น เงยหน้ามองโคมไฟบนเพดาน โคมไฟส่ายไปมา แสงไฟสาดส่องไปทั่วทิศ เขากางแขนออก เผยรอยยิ้มออกมาอีกครั้ง
……
รอจนเขาตื่นมาอีกครั้ง ได้กลายเป็นเก้าโมงเช้าของวันใหม่แล้ว
ห้องพักผู้ป่วยสีขาวรวมไปถึงเตียงและผ้าม่าน กลิ่นแอลกอฮอล์แสบจมูก บ่งบอกว่าที่นี่คือที่ไหน
ตู้หลิงเซวียนปวดหัว คล้ายมีมีดมากรีดลงไปในสมอง เขาขมวดคิ้วแน่น
“คุณตื่นแล้วเหรอ รู้สึกยังไงบ้างคะ”
ในมือของเจิ้งซินมีผ้าชุบน้ำอุ่นอยู่ กำลังช่วยเขาซับเหงื่อบนใบหน้า
“คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง” ตู้หลิงเซวียนท่าทางเย็นชา
เจิ้งซินยิ้มเย็น “คุณนี่ช่างคิดจริงๆ จะดื่มเหล้าต้องไปไกลถึงขนาดนั้น อีกอย่าง คุณยังไปต่อยตีกับเขาอีก เป็นบุญตาฉันจริงๆ”
หลังมือของตู้หลิงเซวียนนั้นกำลังให้น้ำเกลือ น้ำเกลือที่แขวนเอาไว้หยดลงมาหยดแล้วหยดเล่า เขาอยากดึงเข็มออก ทว่าถูกเจิ้งซินห้ามเอาไว้
“ที่นี่ที่ไหน”
ตู้หลิงเซวียนถูกฉีดยาไปเยอะ ปากมีรสขม น้ำเสียงก็แหบแห้ง ความเจ็บปวดในหัวนั้นรุนแรง
“โรงพยาบาลหวาเซี่ย เมื่อวานมีคนจำคุณได้ นำคุณส่งมาที่นี่ ฉันรู้ว่าคุณคงไม่อยากมาที่นี่ ถ้าอยากออกจากโรงพยาบาลเร็วๆก็ให้ความร่วมมือกับการรักษา แผลที่ท้ายทอยของคุณถูกเย็บไปสิบห้าเข็ม ผมถูกตัดแล้ว สวมหมวกเอาก็ได้”
เจิ้งซินหัวเราะหยัน แถมยังตั้งใจซื้อของมาให้เขาสามชิ้น
หมวกเบสบอล ไม่เบสบอล หมวกtophatสีดำในแบบอังกฤษ
มุมปากตู้หลิงเซวียนกระตุก “…”
เจิ้งซินช่วยเขาเช็ดหน้าเสร็จแล้ว เบ้ปากบอก “อยากดูข่าววันนี้หรือเปล่าคะ”
ตู้หลิงเซวียนใบหน้าทะมึน “ไม่ดู”
ทว่าเจิ้งซินกลับไม่ให้ความร่วมมือ ยื่นหนังสือพิมพ์ในมือให้เขา “นักข่าวใช้คำเสียดสีมาก โดยเฉพาะสำนักข่าวเทียนเซี่ย ดูสิเขียนถึงคุณเยอะเลย…ประธานบริหารใหญ่หลันเทียนทะเลาะวิวาท สภาพปางตาย ยังมีอีก ตู้หลิงเซวียนเมาจนเสียสติ หึหึ ด้านล่างยังมีที่น่าตลกกว่านี้อีกนะ ตู้หลิงเซวียนขับรถไปซื้อของมึนเมายามค่ำคืน ใครขัดขืนโดนทำร้าย นักข่าวของเทียนเซี่ยเขียนข่าวให้คนจินตนาการได้จริงๆ…ตู้หลิงเซวียนไร้สติพยายามฆ่าตัวตาย เที่ยวหว่านนาฬิกากลางดึก ประธานตู้ คุณรวยจังเลยนะ เห็นว่านาฬิการาคาเป็นร้านก็แจกคนไปง่ายๆ รถก็ไม่เอาแล้วเหรอ ถ้ารู้ว่าคุณใจกว้างขนาดนี้ ฉันคงอยู่ติดตามคุณไปตลอดแน่ๆ”
ตู้หลิงเซวียนโมโหแทบอยากจะฆ่าคน
อ่านพาดหัวข่าวไร้สาระพวกนั้นจบ เจิ้งซินเชยตาขึ้นราวกับอยากจะหัวเราะ “เป็นไงบ้างคะประธานตู้ วางแผนจะชี้แจงยังไงดี”