บทที่ 1132 เรื่องยุทธภพ คนในยุทธภพทำเอง
ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ข่าวที่เจิ้งเฉิงหลินถูกจับกุมก็สะพัดไปทั่วเว็บไซต์ใหญ่ต่างๆ การตรวจสอบอย่างเป็นรูปธรรมยังไม่เริ่มต้มขึ้น เสียงวิพากย์วิจารณ์ที่พุ่งเป้าไปยังเจิ้งเฉิงหลินได้กวาดเรียบทุกซอกทุกมุม
รถไฟฟ้าใต้ดิน รถโดยสารประจำทาง ห้างสรรพสินค้า ซุปเปอร์มาเก็ต ออฟฟิศของบริษัทใหญ่ต่างๆ ทุกคนต่างก็กำลังวิพากษ์วิจารณ์ “ตระกูลเจิ้งแห่งเมืองเจียงเฉิง” ที่ผู้ไม่รู้คอยประสมโรงก็คือความสนุกสนาน อยากจะพยายามทำความคุ้นเคยกับเส้นสนกลไกที่สลับซับซ้อนของทั้งเรื่องราวให้เร็วที่สุด และผู้ที่รู้เรื่องก็อดไม่ได้ที่จะนำความไม่ยินดีภายในจิตใจระบายเผยแพร่ลงในเว็บไซต์ทั้งหมด
พลังแห่งมติมหาชนเกินกว่าที่คาดการณ์เอาไว้ไปไกล ความรู้สึกของกลุ่มคนทั้งหลายที่มีต่อพฤติกรรมการใช้อำนาจในหน้าที่การงานแอบทำเรื่องที่ไม่ดีบางอย่างยิ่งเป็นการเกลียดชังอย่างเข้ากระดูกดำ แทบอยากจะจับเจิ้งเฉิงหลินขังใส่นรกขุมที่สิบแปดโดยไม่ต้องผ่านการพิจารณาตัดสินคดี ไม่ให้ได้ผุดได้เกิดไปตลอดกาล
กรมทรัพยากรธรณีและกรมพัฒนาที่น้ำน้ำมันอุดมสมบูรณ์ จะเกิดการโลภอย่างมหาศาลได้ง่ายที่สุด ตำแหน่งนี้ ไม่ว่าจะถูกเจ้าของโครงการนับไม่ถ้วนจับจ้อง สายตาของกลุ่มประชาชนทั้งหลายก็ไม่เคยละห่างมาโดยตลอดเช่นเดียวกัน
ไม่เกิดเรื่องถือว่าดี แต่หากดึงออกมาได้เส้นนึง งานที่ตามมาในภายหลังก็จะเอ่อล้นจนกลายเป็นอุทกภัย ที่รุนแรงถึงขั้นก่อให้เกิดการเปลี่ยนถ่ายเลือดครั้งยิ่งใหญ่ของระบบบริหารของทั้งเมือง
ความสลับซับซ้อนที่อยู่ภายใน ในใจของกลุ่มคนทั้งหลายต่างก็มีตราชั่งเป็นของตัวเอง ดังนั้นข่าวฉาวของเจิ้งเฉิงหลินเพิ่งจะถูกสื่อเปิดโปง ประชากรเมืองปิงก็เดือดพล่านแล้ว
เพื่อปลอบขวัญอารมณ์ความรู้สึกของกลุ่มคน หลีกเลี่ยงความโกรธแค้นที่มากเกินความพอดีก่อให้เกิดความวุ่นวายภายในสังคม ข่าวได้หลักเลี่ยงการกระตุ้นที่ทำให้เกิดความขัดแย้งอย่างเหมาะสม แต่รับอารมณ์ที่ร้อนแรงของกลุ่มคนทั้งหลายไม่ไหว ทยอยกันริเริ่มเปิดผยข่าวออกมา คาดหวังให้เจิ้งเฉิงหลินได้รับการลงโทษทางกฎหมายภายในระยะเวลาที่สั้นที่สุด
ประมาณหกโมงเย็นในวันเดียวกัน หลงเซียวได้รับสายโทรศัพท์จากเฉินว่านเหนียน
ตอนนี้ในเขตอิทธิพลเล็กๆของเมืองเจียงเฉิง ไม่ได้เหมือนกับเมืองหลวงที่จะทำงานราบรื่นขนาดนั้น ถึงอย่างไรที่นี่ก็ไม่ใช่ที่หลักของหลงเซียว ดังนั้นความคืบหน้าของเรื่อง ก็ยังต้องรับรู้จากปากของเฉินว่านเหนียน
“ผู้อำนวยการเฉิน ลำบากท่านแล้ว” หลงเซียวทักทายด้วยรอยยิ้มอย่างสุภาพมีมารยาทอยู่ทางนี้
เฉินว่านเหนียนนั่งอยู่ที่ห้องรับรองแขกของกรมอัยการ ถ้วยชาที่อยู่ด้านข้างมีควันร้อนลอยออกมา เขาดูเหมือนไม่ได้สบายเท่าไรนัก “ลำบากไม่กล้ารับ เพียงแต่ผลกระทบภายหลังของเรื่องนี้ เกรงว่าคุณผมต่างก็ไม่กล้าที่จะจินตนาการ”
หลงเซียวแอบปิดเปลือกตาลง “อ๋อ? ผมไม่ได้อยู่ในตำแหน่งนั้นก็ไม่ไปคิดถึงเรื่องที่อยู่บนตำแหน่งนั้น แต่ผู้อำนวยการเฉินเป็นข้าราชการมาหลายสิบปี สถานการณ์แบบไหนที่ไม่เคยเห็น ไม่ถึงขั้นจินตนาการไม่ถึงหรอกมั้งครับ?”
เขาไม่กล้าที่จะจินตนาการ คงจะเป็นสองสถานการณ์
อย่างแรก เขากำลังถ่อมตัว และก็เป็นการอธิบายทางอ้อมเช่นเดียวกันว่าข่าวที่เจิ้งเฉิงหลินคายออกมาน่าตกใจมาก
อย่างที่สอง เขาไม่รู้จริงๆ ถ้างั้นก็ยิ่งเป็นการอธิบายว่า เรื่องที่อยู่บนตัวของเจิ้งเฉิงหลินใหญ่เกินไปแล้ว
ไม่ว่าจะเป็นอันไหน เจิ้งเฉิงหลินต่างก็ตายแน่อย่างไม่ต้องสงสัย
เฉินว่านเหนียนอารมณ์ดีเล็กน้อย เปิดฝาถ้วยชาออก ลูบผ่านใบชาที่ลอยอยู่ “ปากของเจิ้งเฉิงหลินปิดแน่นมาก อะไรก็ไม่อธิบายออกมา ยืนกรานปฏิเสธข้อกล่าวหาทุกอย่าง ดูเหมือนเขาจะไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา”
อันนี้หรอ…
หลงเซียวก็คิดถึงแล้ว
เจิ้งเฉิงหลินกล้าถือโอกาสเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ จะต้องคิดทางหนีทีไล่เอาไว้เรียบร้อยแล้วอย่างแน่นอน บวกกับลูกสาว ลูกเขยของเขาช่วยอยู่ภายใน ขอเพียงแต่เขาข้ามผ่านสองสามวันที่ยากที่จะอดทนมากทึ่สุดไปได้ ภายหลังก็ยังจะคงเป็นวันเวลาดีๆที่ทอดน่องสบายๆ
“ผู้อำนวยการเฉินมีความคิดเห็นยังไงครับ? ท่านว่า”
เฉินว่านเหนียนก็ไม่ได้เล่นลูกไม้กับหลงเซียว พูดอย่างตรงจุดตรงประเด็น “ลูกสาวของเจิ้งเฉิงหลินอยู่ที่อเมริกา คนของพวกเราเหนือบ่ากว่าแรงเข้าไปยุ่งเกี่ยวไม่ได้ ต้องคิดวิธีให้ลูกสาวของเขากลับมาประเทศ เรื่องที่พวกเขาสองพ่อลูกร่วมมือกันทำ ขอเพียงแค่แยกกันไปตรวจสอบ จะต้องตรวจสอบพบรอยรั่วอย่างแน่นอน”
“ใช่แล้วครับ บริษัทของเจิ้งซินพูดง่ายๆก็คือหน่วยงานฟอกเงิน เธอคนเดียวรับผิดชอบจัดการเงินมืดของเจิ้งเฉิงหลิน ดังนั้นตรวจสอบเงินสกปรกโดยตรงไม่ง่าย”
นิ้วมือของหลงเซียวเคาะโต๊ะทีละนิดๆ สายตาลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น
หนึ่งปีก่อน เจิ้งซินแต่งงานอย่างเป็นทางการกับตู้หลิงเซวียน บริษัทที่แต่เดิมเจิ้งซินเปิดอยู่ที่ประเทศจีน ก็ย้ายตามไปถึงอเมริกา และสัญชาติของเจิ้งซินก็เปลี่ยนเป็นอเมริกันแล้วเช่นเดียวกัน ตอนนี้สถานะของเธอสำหรับฝ่ายตรวจสอบแล้วคือด่านยาก
ต่อให้เธอกลับประเทศ ฝ่ายตำรวจของประเทศจีนก็ไม่สามารถตรงไปจับกุมเธอได้
หมัดของหลงเซียวม้วนเข้าหากันแน่นขึ้นเล็กน้อย
“ไม่ง่ายจริงๆ พวกเราได้กำลังสื่อสารกับอเมริกา หวังว่าทางนั้นจะให้ความร่วมมือในการตรวจสอบของพวกเรา”
เฉินว่านเหนียนแม้ว่าจะพูดเช่นนี้ แต่ระดับความยากของการตามตรวจสอบข้ามประเทศจะมากกว่าภายในประเทศเยอะมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งคืออเมริกา
“สวรรค์ของผู้กระทำความผิดเลยล่ะ หลบเป็นจริงๆ”
เฉินว่านเหนียนประชดประชันเสริมขึ้นมาอีกหนึ่งประโยค
“ตาข่ายกฎหมายห่างแต่ไม่รั่ว จะต้องมีวิธีตรวจสอบจนถึงที่สุดอย่างแน่นอน ช่วงเวลาที่จำเป็น ผมช่วยได้”
ความหมายของหลงเซียวชัดเจนมาก เขาไม่ใช่คนของวงราชการ และก็ไม่ได้ขึ้นกับทางตำรวจ แต่ในฐานะด้านที่เป็นนักธุรกิจ เขามีวิธีการทำงานของตนเอง รับมือกับเจิ้งซินและตู้หลิงเซวียนคนแบบนี้ หลงเซียวก็ถือว่าเชี่ยวชาญแล้ว
เฉินว่านเหนียนคิดไม่ถึงว่าเขาจะตรงไปตรงมาและจริงใจเช่นนี้ ก็ถือเป็นการประหยัดเวลาอ้อมค้อมพูดความคิดเห็นของตนเอง “ในฐานะพลเมืองประเทศจีน ช่วยทางตำรวจทำงานอำนวยความสะดวกให้ถือเป็นหน้าที่พื้นฐานจริงๆ แต่…หลงเซียว ผมต้องพูดขอบคุณกับคุณคำหนึ่ง”
ขอบคุณคำนี้ น้ำหนักไม่เบา หลังจากที่หลงเซียวพิจารณาดูแล้ว ได้ทำการตัดสินใจอย่างนึง
หลังจากนั้นไม่กี่นาที ภายในบ้านของกู้เยนเซินที่ไกลออกไปอีกมหาสมุทร
กู้เยนเซินยังไม่ตื่นขึ้นจากเตียง หกโมงเช้าของอเมริกาพระอาทิตย์ทะลุผ่านท้องฟ้าของทางตะวันออก แสงอาทิตย์ที่โชติช่วงสาดส่องเต็มขอบหน้าต่างจากบนลงล่าง
ถูกเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์มือถือที่สนั่นขัดจังหวะความฝันที่สวยหรู ทำให้ชายหนุ่มที่อยู่บนเตียงพลิกตัวอย่างไม่พอใจมาก หลับตาคลำหาโทรศัพท์มือถืออย่างขี้เกียจ
แม่งใคร!
เช้าตรู่รบกวนฝันหวานของคนอื่น!มีชีวิตจนหน่ายแล้ว!
“Who is that!”
กู้เยนเซินใบหน้าแนบกับหมอน ตะคอกออกไปอย่างไม่สบอารมณ์
หลงเซียวขมวดคิ้ว นำโทรศัพท์มือถือละออกจากหูเล็กน้อย “คุณชายกู้ อารมณ์ตื่นนอนรุนแรงมาก”
กู้เยนเซินหรี่ตาลง เอียงศีรษะมองดูหน้าจอโทรศัพท์มือถือแวบหนึ่ง แม่ง คิดไม่ถึงว่าจะเป็นหลงเซียวที่โทรเข้ามา
“หาฉันเรื่องอะไร? เช้าตรู่ขนาดนี้ แกโทรสายหน่อยไม่เป็นหรอ?” คุณชายกู้ถูใบหน้าทีหนึ่ง ให้ตัวเองตื่นตัวเล็กน้อย
เขาต้องหาหลงเซียวเพื่อเช่าบ้าน ต้องเกรงใจหน่อย
“แกอย่าเพิ่งรีบร้อนกลับประเทศก่อน มีเรื่องนึงฉันต้องการความช่วยเหลือจากแก”
กู้เยนเซินได้ฟังทั่วทั้งร่างกายก็เตรียมพร้อมป้องกัน “ธุระอะไร? ยืมเงินหรือเปล่า?”
หลงเซียวอุทานออกมาอย่างประชดประชัน “ฉันต้องหาแกยืมเงิน? ฟัง เรื่องเป็นแบบนี้…”
ไม่กี่นาทีหลังจากนั้น หลงเซียวนำเรื่องที่เจิ้งเฉิงหลินถูกจับ ปฏิเสธข้อกล่าวหา ทางตำรวจตรวจสอบคดีประสบความยากลำบากต่างๆบอกกับคุณชายกู้ สุดท้ายเอ่ย “เจิ้งซินตอนนี้คือหนึ่งในบุคคลกุญแจสำคัญของคดี แกรับผิดชอบนำตัวเธอกลับประเทศ”
กู้เยนเซินฟังจบ ปากอ้าออกกว้างอย่างเงียบๆ จากนั้นก็ปิดลงอย่างเงียบๆอีกครั้ง “เชี่ย!ถูกจับแล้ว!ถูกอกถูกใจทุกคนจริงๆ!เจิ้งเฉิงหลินไอ้เก๋าเจ้งนี่ควรเข้าไปตั้งนานแล้ว สองปีก่อนแกก็ควรนำหลักฐานส่งมอบขึ้นไป!ตอนนี้ดีจริง เจิ้งซินกลายเป็นสัญชาติอเมริกันไปเลย ตำรวจของประเทศจีนจะลงมือยังไง?”
หลงเซียวขมวดหัวคิ้วเล็กน้อย ทนต่อการแขวะของกู้เยนเซินชั่วคราว สำหรับเรื่องที่สองปีก่อนไม่ส่งมอบหลักฐาน หลงเซียวไม่ทำการอธิบายใดๆ
“คำไร้สาระพูดจบแล้ว?”
กู้เยนเซินยังคิดอยากจะด่าอีกประโยค แต่น้ำเสียงของหลงเซียวดูเหมือนไม่ใช่ว่าดีมากนัก รีบหุบปากอย่างรู้กาลเทศะในทันที “พูดจบแล้วตาแกแล้ว”
“ตู้หลิงเซวียนจะต้องห้ามปรามเจิ้งซินไม่ต้องกลับประเทศซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างแน่นอน ทั้งยังจะเพิ่มกำลังคนคุ้มกันเจิ้งซิน ขอเพียงแค่เธออยู่ที่อเมริกา เทียบกันแล้วก็ปลอดภัยมาก ดังนั้น ภารกิจของแกยากลำบากและหนักหน่วงมาก”
หลงเซียวไม่คลุมเครือ เอ่ยเตือนเขาอย่างจริงจัง
กู้เยนเซินเลิกผ้าห่มออก ยืนเท้าเปล่าอยู่ริมหน้าต่าง “ฉันเข้าใจ”
“คำนึงถึงต้นทุนเวลา ดังนั้นฉันจะหาผู้ช่วยให้แกสองสามคน”
กู้เยนเซินเสยผมขึ้นไปด้านบน “คนของกลุ่มมาเฟีย?”
“ต้องการไหม?”
“ต้องการ!แน่นอนว่าต้องการ!คนของยุทธภพ ทำเรื่องในยุทธภพ!แหะๆๆ ไม่ต้องมาก สิบคนก็พอแล้ว”
สิบคน?
ทำไมเขาไม่เอากองทัพกองหนึ่งไปเลย?
“สิบคนไม่มี สองคนเอาไหม?” หลงเซียวบีบหัวคิ้วเอาไว้ ค่อนข้างที่หมดคำพูดกับกู้เยนเซิน
“สองคน? ฉันจะเป็นลม เล่นไพ่นกกระจอกยังสามขาดหนึ่งเลย แกใจกว้างหน่อยได้เปล่า? ฉันรู้แกอยู่ในองค์กรไม่ขาดคน…อ๋อ ลืมเลย แกออกจากองค์กรแล้ว”
กู้เยนเซินยิ้มแก้เขิน
หลงเซียวสองปีก่อนได้ถอนตัวออกจากกลุ่มมาเฟียแล้ว ทั้งยังสะสางความสัมพันธ์กับผู้กุมอำนาจของอิตาลี หลินเค่อเฟยนำทรัพย์สินภายใต้ชื่อของเขาทั้งหมดทำให้ถูกต้องตามกฎหมายอย่างราบรื่น หลงเซียวในตอนนี้ ไม่กลัวใครหน้าไหนใช้วิธีการใดๆตรวจสอบ
“ไม่พอล่ะก็ ฉันให้MAXช่วยแก แต่มีเวลาเพียงแค่สองวัน”
เวลาไม่เหมาะที่จะยื้อนานจนเกินไป มิเช่นนั้นยืดเยื้อออกไปจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงที่ไม่ดีเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
“หลังจากสำเร็จแล้ว มีผลดีอะไรไหม?” กู้เยนเซินตอนนี้พอเห็นอาคารหยวนชิวตาทั้งสองข้างก็เปล่งประกาย หากไม่ต้องจ่ายค่าเช่าเข้าไปอยู่ได้ งั้นก็ยอดเยี่ยมไปเลย
หลงเซียวเดาแผนการเล็กๆของเขาออก ไม่ให้คำสัญญากับเขาไปก่อน “สำเร็จก่อนค่อยว่ากัน”
“เฮ้ย? พูดอะไร? ฮัลโหล?”
กู้เยนเซินยังอยากจะโต้กับเขาอีกสองสามประโยค โทรศัพท์ก็ถูกตัดสายทิ้งไปแล้ว
OK
เวลาสองวัน งั้นก็ปะกับเจิ้งซินที่ไม่ได้เจอมาสองปีสักหน่อย…คิกๆๆ!