บทที่ 1139 จำคุกตลอดชีวิต
เวลาตอนที่กำลังยุ่งมักจะผ่านไปเร็วเป็นพิเศษ ชั่วพริบตาก็ผ่านไปแล้วหนึ่งสัปดาห์
ทางตำรวจและกรมอัยการจะไม่บอกรายละเอียดขั้นตอนการพิจารณาคดีให้กับฝูงชน แต่ผลลัพธ์ที่ข่าวเผยแพร่ออกไปได้เพียงพอที่จะทำให้ผู้คนโห่ร้องกันอย่างยินดี
ข่าวแบบเดียวกัน ก็ปรากฏขึ้นบนโต๊ะทำงานของหลงเซียว
ในเวลานี้ได้เป็นวันที่สิบที่เจิ้งเฉิงหลินถูกจับกุม
หลงเซียวมือข้าวนึงยันหน้าผาก ดูรายงานของผู้สื่อข่าวอย่างรวดเร็ว สิ่งที่สะดุดตามากที่สุดในนั้นก็คือรูปของเจิ้งซินและเจิ้งเฉิงหลิน
สองพ่อลูกใช้บริษัทเสื้อผ้าในการฟอกเงิน ผ่านการสอบสวน พบเงินทั้งหมดสามพันล้านที่ไม่รู้ที่มาที่ไป ตามมาตรากฏหมาย เจิ้งเฉิงหลินจะต้องถูกจำคุกตลอดชีวิต
แต่การสอบสวนของเจิ้งซินไม่ได้รวดเร็วขนาดนั้น ถึงอย่างไรเธอก็คือชาวต่างชาติที่มีเชื้อสายจีน ที่เกี่ยวข้องกับคำตัดสินจะต้องติดต่อสื่อสารกับอเมริกา ตอนที่มีความจำเป็นต้องส่งมอบให้ทางสถานทูต ส่งต่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวของของอเมริกาจัดการ
แต่ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นยังไง ชื่อที่พิมพ์อยู่บนหนังสือพิมพ์และสื่อของเธอก็ลบไม่ออก
คดีคอรัปชั่นของเจิ้งเฉิงหลิน นอกจากเจิ้งเฉิงหลินและเจิ้งซินคือผู้บงการโดยตรงแล้ว บุคคลเกี่ยวข้องที่พัวพันมากถึงยี่สิบสามคน ผู้ว่าการส่วนท้องถิ่นห้าคน ผู้ว่าการส่วนจังหวัดสามคน
ในส่วนของรายละเอียดทางสื่อได้ปกปิดเอาไว้อย่างเหมาะสม ข้อมูลบางอย่างจะไม่เปิดเผยออกสื่อ หากว่าไม่ใช่เฉินว่านเหนียนแอบเผยข้อมูลกับหลงเซียวเป็นการส่วนตัว เขาก็ไม่รู้ว่ารายละเอียดล้วนเป็นใครที่ตกม้า
คำพูดสุภาพที่อยู่หน้าฉาก ทุกคนต่างก็พูดกันอย่างอ้อมค้อมละมุนละไมมาก แต่ส่วนตัวทำยังไง ต่างก็เป็นความรู้ใจที่ไม่จำเป็นต้องพูดออกมา
เวลาสั้นๆเพียงแค่สิบวัน คิดไม่ถึงว่าพวกเขาจะขุดรากถอนโคนเจิ้งเฉิงหลิน ดูจากภายนอก สามารถพูดได้ว่าประสิทธิภาพการทำงานของพวกเขาสูงมาก แต่ลองคิดอย่างละเอียดก็จะรู้ความเร็วแบบนี้ จะต้องไม่ใช่การทำงานวันเดียวอย่างแน่นอนว่า มากพอที่จะเห็นว่าได้ถูกผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องจ้องมานานมากแล้ว
เพียงแต่ขาดแค่หนึ่งโอกาส ดึงเขาลงมาจากด้านบน
หึ!
คนไปชาก็เย็น เป็นเช่นนี้มาโดยตลอด
หลงเซียววางหนังสือพิมพ์ลง อุทานอย่างประชดประชันเบาๆพร้อมกับเอ่ย “ตู้หลิงเซวียนไม่ได้มีท่าทีใดๆ?”
สีหน้าของจี้ตงหมิงดูหมิ่นมาก แต่ดูเหมือนก็ยังอยู่ในที่จินตนาการเอาไว้อีก “ตู้หลิงเซวียนไม่ได้มาประเทศจีน ทนายของเขาอยู่ที่เมืองเจียงเฉิงมาโดยตลอด หลักๆจับสัญชาติของเจิ้งซินเอาไว้ นอกเสียจากประเทศจีนออกหมายแดง ไม่เช่นนั้นเจิ้งซินจะต้องถูกส่งตัวกลับอเมริกาอย่างแน่นอน”
เพียงแค่เธอกลับอเมริกา ตู้หลิงเซวียนดำเนินงานขึ้นมาก็ง่ายมากแล้ว ถึงขั้นมีความเป็นไปได้ที่จะสลายเรื่องใหญ่กลายเป็นเรื่องเล็ก เรื่องเล็กกลายเป็นไม่มีอีกต่อไป
“เจิ้งซินถึงอย่างไรเป็นภรรยาของตู้หลิงเซวียน หลังจากที่ข่าวด้านลบของเจิ้งเฉิงหลินออกมา หุ้นของบริษัทหลันเทียนในวันนั้นก็ล้มลงไปสามจุดเปอร์เซ็นต์ ช่วงระยะหนึ่งสัปดาห์นี้ตู้หลิงเซวียนต้องกำลังพยายามกู้คืนอย่างสุดความสามารถอย่างแน่นอน ดังนั้นหุ้นไม่ได้ทำจนไม่น่าดูมากจนเกินไป”
จี้ตงหมิงเคยสังเกตแนวโน้มหุ้นของหลันเทียนไม่ยอมรับไม่ได้ ตู้หลิงเซวียนมีสไตล์การจัดการเรื่องที่เชี่ยวชาญดุเดือดมากในตอนที่กำลังรับมือกับวิกฤต นักธุรกิจธรรมดาได้แต่ห่างไกลจนมองไม่เห็นฝุ่น
หลงเซียวยิ้มอย่างราบเรียบ “ตู้หลิงเซวียนเอาตัวเองเบี่ยงออกได้สะอาดมาก ลองดูคำสัมภาษณ์ของเขาคุณก็จะรู้ คนๆนี้ลื่นไหลมาก”
จี้ตงหมิงแสดงออกว่าเห็นด้วยร้อยเปอร์เซ็นต์กับเรื่องนี้ “ตู้หลิงเซวียนพูดอะไรต่างก็คลุมเครือสองความหมาย เหลือทางหนีทีไล่ให้กับตัวเองมากพอ คำถามมากมายเขาต่างก็ไม่ทำการตอบกลับตรงๆ”
ทรัพย์สินจำนวนมากของเจิ้งเฉิงหลินต่างก็มีก่อนที่เจิ้งซินและตู้หลิงเซวียนจะแต่งงานกัน ดังนั้นตรวจสอบไปไม่ถึงตู้หลิงเซวียน เรื่องทั้งเรื่อง ตู้หลิงเซวียนราวกับผู้ถูกหลอกที่บริสุทธิ์คนหนึ่ง แต่งงานกับลูกสาวข้าราชการคอรัปชั่นที่ปิดซ่อนสถานะที่แท้จริง
ความคิดเห็นของประชาชนด้านหนึ่งแสดงความทอดถอนหายใจต่อเรื่องนี้ แต่ก็มีพลังแฟนคลับที่สนับสนุนตู้หลิงเซวียนบางส่วนปกป้องไอดอลของตัวเอง
ไม่ว่าจะพูดอย่างไร ชีวิตทางการเมืองของเจิ้งเฉิงหลินก็ถือว่าได้จบสิ้นลงโดยสมบูรณ์แบบแล้ว
ติ๊งต่อง
ประตูออฟฟิศดังขึ้นสองครั้ง
“เข้ามา”
ได้รับคำอนุญาตจากหลงเซียว รองเท้าส้นสูงของแอนดี้ก็ส่งเสียงก้อง เข้ามาใกล้ที่โต๊ะทำงานของหลงเซียว “ท่านประธาน การตรวจสอบครั้งที่สองของอาคารหยวนชิวเริ่มต้นขึ้นแล้ว ข้อมูลเหล่านี่คุณดูผ่านตาก่อนสักหน่อย หากไม่มีปัญหาฉันส่งให้ทางนั้น”
หลงเซียวไม่ได้มีความกังวลต่อการตรวจสอบครั้งที่สอง แต่เพื่อคำนึงถึงความปลอดภัย เขาจะดูผ่านตาด้วยตัวเอง
พิธีเปิดตัวของอาคารหยวนชิวล่าช้าไปหนึ่งวัน เงินและทรัพย์สินที่มองไม่เห็นที่สูญเสียไป ก็เพียงพอที่จะทำให้นักธุรกิจธรรมดาตกตะลึงจนอ้าปากค้าง
ดีที่หลงเซียวไม่ได้ใส่ใจ
“ฝ่ายร่วมลงทุนที่ละเมิดกฏการตกแต่งก่อสร้าง ยกเลิกสัญญาให้เร็วที่สุด”
หลงเซียวออกคำสั่งอย่างหลีกเลี่ยงปัญหาสำคัญ
คนรับผิดชอบต่างก็เป็นเพราะว่าเจิ้งเฉิงหลินถูกจับกุมและถูกจัดการไปด้วยกัน สำนักงานความปลอดภัยเข้าใจมูลเหตุที่อยู่ในนั้น เรียกคืนความเชื่อมั่น ต่อการสร้างและตกแต่งของอาคารหยวนชิว
ถึงอย่างไรอาคารหยวนชิวก็เป็นสิ่งก่อสร้างที่เป็นแลนด์มาร์คของเมืองเจียงเฉิง ในอนาคตจะเป็นภาพลักษณ์ของเมืองเจียงเฉียงปรากฏให้เห็นอยู่บนเวทีต่างๆ จุดด่างพร้อยใดๆเพียงเล็กน้อยต่างก็จะถูกสื่อและกลุ่มคนขยายใหญ่ไม่มีที่สิ้นสุด คำพูดเรื่อยเปื่อย ยากที่จะแยกแยะจริงเท็จ สิ่งที่ได้รับผลกระทบก็คือภาพลักษณ์ของทั้งเมือง
ความรอบคอบของพวกเขา หลงเซียวแสดงออกว่าเข้าใจเป็นอย่างยิ่ง และก็ให้ความร่วมมือพวกเขาในการตรวจสอบ
ผลัดวันแบบนี้ก็คือสิบกว่าวัน
การตรวจสอบครั้งที่สองคอนเฟิร์มแล้วว่าเป็นวันที่หนึ่งเดือนหน้า อีกเหลืออีกสัปดาห์เต็ม
แอนดี้พยักหน้า “ได้มีการเจรจาต่อรองแล้ว แต่ว่าฝ่ายนั้นยังคงต้องการที่จะเอาเงินประกันค่าเช่าคืน ยังไม่สามารถตกลงเป็นเอกฉันท์ได้”
จี้ตงหมิงเงยหน้ามองปฏิกิริยาของบอส การแสดงออกของเขามีความถากถาง
“ค่าเช่าเหรอ ?อาคารหยวนชิวต้องล่าช้าตั้งครึ่งเดือนถึงจะเปิดใหม่ได้ ความเสียหายนี้เธอให้ฝ่ายบัญชีคำนวนกับพวกเขาให้ชัดเจน”
จี้ตงหมิงอยากจะหลุดขำ พวกเขาปัญญาอ่อนกันหรือไง ยังจะกล้าขอเงินค่าเช่าคืน ไม่เคยมาสืบเลยเหรอว่าหลงเซียวเป็นคนอย่างไร!
“ทราบแล้วค่ะท่านประธาน ฉันจะให้ทางบัญชีตรวจสอบข้อมูลสุทธิ แล้วจะนำไปให้พวกเขาดูค่ะ”
ไม่ต้องคิดก็พอจะดูออก ความสูญเสียพวกนั้นทำให้พวกเขาสะดุ้งตื่นทั้งคืน
“นอกจากนั้น หลังจากนั้น ชั้นที่ว่างก็ไม่ต้องหาคนมาเช่าใหม่ ปล่อยไว้ให้คุณชายกู้ ”เสี่ยวหลงเปิดเอกสารไปมา แม้กระนั้นยังพูดด้วยเสียงเรียบๆ
แอนดี้และจี้ตงหมิงพูดขึ้นพร้อมกัน “คุณหมายถึงทั้งชั้นจะยกให้ประธานกู้อย่างนั้นเหรอ?!”
บอส คุณจะใจกว้างไปหรือเปล่า!?
หลงเซียวกลับนิ่งสงบหนักแน่น “ใช่ ค่าเช่าลดลงครึ่งนึง รวมค่าธรรมเนียมทั้งหมด เอาแบบนี้ก่อนสักสองปี หลังจากนั้นคอยดูความร่วมมือค่อยยืนยันใหม่”
แอนดี้สูดลมหายใจเข้า ลดลงครึ่งนึง?แถมรวมค่าธรรมเนียมทั้งหมด บอสช่างรักคุณชายกู้จริงๆ
คุณชายกู้ทำยังไงให้บอสรักใคร่ได้ขนาดนี้
พูดถึงโจโฉ โจโฉก็มา ไม่กี่นาทีกู้เยนเซินก็เข้ามา
เขาไม่ใช่จะมาเพื่อเอาเปรียบ แต่เขาได้รับข่าวสารที่แก้ไขยาก
เห็นว่าแอนดี้กับจี้ตงหมิงก็อยู่ด้วย กู้เยนเซินนำคำถามที่ขึ้นมาถึงลำคอกลืนลงไปทั้งดุ้น “คุณชายหลง ยุ่งอยู่ไหมครับ”
เมื่อได้ยินเขาถามแบบนี้ แอนดี้และจี้ตงหมิงก็หาเหตุผลที่จะออกจากตรงนั้น
รอจนในห้องทำงานมีแค่เขาสองคน กู้เยนเซินก็ปลดเนกไทออก “คุณชายหลง ฉันเช็คการเคลื่อนไหวของหลินเหว่ยเย่ได้แล้ว”
สายตาที่สงบของหลงเซียวเมื่อสักครู่ ถลึงออกมาอย่างเห็นชัด ดวงตาที่ล้ำลึกเอียงไปอีกทา “ว่ามา ”
“ดูเหมือนว่าหลินเหว่ยเย่กับตู้หลิงเซวียนมีการติดต่อกันอย่างลับๆ แถมช่วงนี้ยังดูสนิทเป็นพิเศษ ในระยะเวลาเพียงเจ็ดวันหลินเหว่ยเย่บินไปนิวยอร์กสองรอบแล้ว แถมยังอยู่กับตู้หลิงเซวียนตลอดเวลา แต่ฉันคิดว่า พวกเขาคงไม่ได้ติดต่อกันเรื่องธุรกิจ น่าจะเป็นเรื่องอื่น”
เขาบันทึกรายละเอียดเวลาที่หลินเหว่ยเย่กับตู้หลิงเซวียนนัดกันทุกครั้ง สถานที่ นัดพบใคร จากการตรวจสอบทั้งหมดแล้ว หลินเหว่ยเย่กับตู้หลิงเซวียนกำลังวางแผนหลอกลวง
“เกี่ยวข้องกับ Cresด้วยหรือเปล่า?”
สามารถทำให้พวกเขามีความเกี่ยวข้องกัน จำเป็นต้องขาดCresไม่ได้
เงียบหายไปสองปี อัดอั้นความเลวอะไรเอาไว้?
กู้เยนเซินวางมือข้างหนึ่งไว้บนแขนเก้าอี้ พร้อมกับแหวนบนมือที่ระยิบระยับ “คุณชายหลง ตามที่ฉันคิด จะไม่ดีกว่านี้เหรอถ้าหากเรายืมมือCresกำจัดหลินเหว่ยเย่”
หลงเซียวครุ่นคิด แต่ก็ไม่ได้ให้คำตอบในทันทีคุณเป็นกังวลอะไร น้องสะใภ้?
กู้เยนเซินเข้าใจความขัดแย้งในจิตใจเขามากเพียงใด แต่เมื่อลองไตร่ตรองดูอีกที “คนแบบหลินเหว่ยเย่ ทำงานอย่างรอบคอบและปลิ้นปล้อน หลายๆเรื่องที่โดนตรวจสอบโดยตรงก็หาตัวคนลงมือทำไม่ได้ เขาไม่เหมือนกันกับเจิ้งเฉิงหลิน ทั้งตัวสะอาดสะอ้าน ไม่มีร่องรอยของอาชญากรรม ทนายของผมเคยตรวจสอบ โจมตีตรงๆล่ะก็ เป็นไปได้ที่หลินเหว่ยเย่จะถอยออกมา”
หลงเซียวมองเขาอย่างลึกลับ “แกมีความก้าวหน้าเป็นอย่างมาก”
กู้เยนเซินคว้าเอกสารเล่มหนึ่งขึ้นมาทุบลงบนโต๊ะ “ถ้าไม่มืดดำผมจะตาย?”
หลงเซียวยิ้มอ่อนๆ เขาเข้าใจนิสัยและอารมณ์ของเพื่อนรักเป็นลึกซึ้ง “วิธีการของหลินเหว่ยเย่นั้นชาญฉลาดมาก แต่เขาคิดไม่ถึง ว่าลูกสาวที่เขารักที่สุด จะส่งเขาไปสู่ทางตัน”
“ความหมายของคุณคือ?”
ไม่ใช่ว่าหลินซีเหวินคอยปกป้องพ่อของเธอเหรอ?
“จุดอ่อนของหลินเหว่ยเย่ก็คือลูกสาวของเขา เขาคิดว่าตัวเองฉลาดมาก แต่ยังไงก็คิดไม่ถึงหัวใจของลูกสาวของเขานั้นทั้งบริสุทธิ์และจิตใจงดงามกว่าที่เขาคิด
ประเมินค่าแบบนี้ จะนำพาความเจ็บปวดหัวใจเท่าไหร่ ความขมฝาดบนชาข้น ถูกราดด้วยนมบางๆหนึ่งชั้น ปกคลุมด้วยของเหลวสีดำขลับ
ลั่วหานพูดไม่มีผิด เป็นเด็กผู้หญิงที่น่าเสียดาย
โรงพยาบาลหวาเซี่ย
หลังจากที่หลินซีเหวินตั้งท้อง ที่แท่นผ่าตัดแทบที่จะไม่ต้องไปอีก แต่แผนกผู้ป่วยนอกเยอะเสียอย่างนั้น
เธอก็เป็นเพียงหมอศัลยกรรมหัวใจทั่วไป ผู้ป่วยก็ลงทะเบียนแต่หมอทั่วไป เพียงแค่ขึ้นไปก็พบผู้ป่วยต่อคิวนับร้อย วันจันทร์ถึงวันอาทิตย์ เต็มแน่นทุกวัน
เข้าเวรวันเสาร์ล่ะก็ ผู้ป่วยก็มากยิ่งขึ้น ตั้งแต่ประตูเปิดจนถึงพักเที่ยง เวลาว่างเพียงสัก5นาทีก็ไม่มี
ในที่สุดก็ยุ่งจนถึงเที่ยงคืน หลินซีเหวินบิดขี้เกียจ ไม่สบายไปทั้งตัว
“หมอหลิน คุณไม่จำเป็นจะต้องทุ่มเทขนาดนี้ ผู้หญิงมีครรภ์สามารถดูแลเป็นพิเศษได้ ครั้งหน้าที่เคาน์เตอร์ลงทะเบียนผู้ป่วยนอกต่อคิวแค่ครึ่งวันก็พอแล้ว”
หมอหวังห้องผู้ป่วยนอกข้างๆออกมาจากห้องพร้อมทักทายเธอหลินซีเหวินลูบที่คอของเธอ “ฉันยังสาวนะคุณหมอหวัง ยังแข็งแรงและกระฉับกระเฉง”
หมอหวังเป่าโกจิเบอร์รี่ในแก้วเก็บความร้อนของเขา “ได้เปลืองเวลาอีกสักสองปีเธอก็จะไม่สาวแล้ว อย่าใช้ร่างกายเปลือง !”หลินซีเหวินหรี่ตาลงเล็กน้อย “หมอหยาบคุณผมร่วงแล้วเหรอ?”
หมอหวังถูกสะกิดต่อมเจ็บ ลูบศีรษะอย่างทะนุถนอม “ช่วงนี้กำลังบำรุง กินยาบำรุงหลายตัว รอเธอคลอดลูก ให้เธอลองด้วยละกัน”
หลินซีเหวินนำที่ฟังหัวใจออก ตอนบ่ายต้องรักษาผู้ป่วยอีก เธอต้องรีบไปกินข้าวก่อน “ฉันไปโรงอาหารล่ะ หมอหวางไปด้วยกันไหม?”คุยกันอยู่ ลั่วหานออกมาจากเคสผ่าตัดเข้ามาพอดี “ซีเหวิน ไปเถอะ พาเธอไปกินของอร่อย!”