1148 หากกระดานหมากรุกพูดได้
“คุณหลิน”
หลินเหว่ยเย่นั่งอยู่ในห้องหนังสือ ท่าทางตึงเครียด ในมือถือลูกประคำ ลูบทีละลูก ลูกประคำทำให้เกิดเสียงกระทบกันดังกึกก้อง
“ประธานตู้ หลงเซียวได้จ้องฉันไว้แล้ว เพื่อความปลอดภัย ฉันต้องการที่จะดำเนินแผนก่อน หุ้นของบริษัทหลินซื่อ ฉันต้องที่ปลอยภัยแล้วโอนไป”
หลินเหว่ยเย่ใจร้อน ให้โอกาสตู้หลิงเซวียนพอดี “คุณหลินอยากโอนยังไง? ในเมื่อหลงเซียวได้จ้องคุณแล้ว ไม่ว่าคุณโอนไปที่ไหน ก็ไม่สามารถคลาดสายตาเขาได้ คุณรู้ใช่ไหม?”
แน่นอนว่าหลินเหว่ยเย่รู้ ดังนั้นตึงเครียด “จักจั่นลอกคราบ นายช่วยฉันหาบริษัทที่อเมริกา ฉันโอนทรัพย์สินทั้งหมดไปที่อเมริกา แค่ฉันตัดความกังวลออก เราถึงจะสู้ไปด้วยกันได้”
สายตาเย็นชาของตู้หลิงเซวียนมองไปหัวข้อของนิตยสารอีดครั้ง “ในเมื่อจะสู้ไปด้วยกัน คุณหลินเชื่อใจฉันไหม?”
“นายหมายความว่าไง?” หลินเหว่ยเย่ไม่ใช่คนโง่ หลังพยายามมาหลายสิบปี ไม่เคยเห็นตีชิงตามไฟ เป้าหมายของตู้หลิงเซวียน เกรงว่าจะเป็นการฉวยโอกาสเจาะบริษัทหลินซื่อ
“หลันเทียนสามารถครอบครองหุ้นของบริษัทหลินซื่อได้ แล้วบริษัทซื้อหลินซื่อ คุณเป็นผู้ถือหุ้น ฉันจัดการ คุณเก็บเงิน การซื้อขายแบบนี้ ไม่ทราบว่าคุณหลินอยากทำหรือเปล่า”
ตู้หลิงเซวียนอธิบาย ดูเหมือนว่ากำลังพิจารณาแทนหลินเหว่ยเย่ทุกอย่าง แต่ถ้าคิดดีๆ ก็จะรู้ ความคิดของเขา คือการกลืนกินบริษัทหลินซื่อ
อนาคตแม้ว่าหลินเหว่ยเย่สามารถเข้าบริษัทหลันเทียน มากสุดก็ได้ตำแหน่งที่ไม่เจ็บไม่คัน ค่อยๆ ชายขอบ กลายเป็นเป้าหมายที่ประชาชนโจมตี
หลินเหว่ยเย่คิดถึงความเป็นไปได้นี้ หัวเราะ “ตู้หลิงเซวียน ความทะเยอทะยานของนายใหญ่มาก”
“คุณหลินก็เหมือนกันไม่ใช่เหรอ? ไม่วางยาพิษไม่เป็นคนยิ่งใหญ่” ตู้หลิงเซวียนดับก้นบุหรี่ นิ้วเรียวยาวบีบก้นบุหรี่สองด้านแรงๆ ก้นบุหรี่แตกออกเป็นเสี่ยงๆ
“ฉันต้องการพิจารณา”
นี่เป็นเรื่องที่ใหญ่ หลินเหว่ยเย่ไม่ต้องการสูญเสียทุกอย่างไปในที่สุด เขาแค้นหลงเซียว แต่ถ้าจะสูญเสียทุกอย่างของตัวเองเพื่อปราบปรามหลงเซียว เขาไม่ยอม
“เวลาของเรามีไม่มาก ขอให้คุณหลินรีบให้คำตอบกับฉัน”
“ฉันออกจากตำแหน่งประธานของบริษัทหลินซื่อเป็นเวลานานแล้ว ภรรยาของฉันเป็นคนดูแลมาตลอด ต่อให้ตัดสินใจ เกรงว่าก็ต้องปรึกษากับภรรยาของฉัน จะตัดสินใจอย่างไร ฉันจะบอกนาย”
หลินเหว่ยเย่ไม่สามารถให้คำตอบทันที ใช้ภรรยาเป็นเกราะกำบัง กลบเกลื่อนไปก่อน
ตู้หลิงเซวียนจะฟังไม่ออกได้อย่างไรว่าเขากำลังผัดวันประกันพรุ่ง แต่ทั้งสองรู้แค่ไม่พูด “แน่นอน ฉันเห็นด้วยกับการกระทำของคุณหลิน”
วางโทรศัพท์อย่างไม่หนักไม่เบา หลินเหว่ยเย่ตกอยู่ในความคิดหนัก
เดินทางนี้ ทั้งตัวเขาไม่สามารถถอยหลังได้ หลับตามแล้วเดินให้สุด หรือ……ไม่มีอะไรเหลือ
ทำให้หลงเซียวไม่พอใจ เขาถามตัวเองว่าอนาคตหนทางจะไม่ง่าย
อีกอย่าง ตอนนี้หลงเซียวได้เจาะลึกบริษัทหลินซื่อ ต่อให้เขาไม่ เคลื่อนไหว หลงเซียวก็จะทำลายทรัพย์สินของเขา
หลินเหว่ยเย่ไม่ชอบถูกบังคับ
เขาเชื่อว่ายิ่งอันตราย ก็ยิ่งมีโอกาสชนะมากขึ้น
ก๊อกๆ
ประตูของห้องหนังสือถูกเคาะสองที
หลินเหว่ยเย่กลับสู่สภาพปกติ พูดเบาๆ “เข้ามา”
ที่ไม่คาดคิดคือ คนที่เข้ามาไม่ใช่ภรรยาของเขา แต่เป็นหลงจื๋อ
การมาของหลงจื๋อ ทำให้หลินเหว่ยเย่รู้สึกคาดไม่ถึงไม่มากก็น้อย เขาไม่ได้ฟังซีเหวินบอกว่าวันนี้จะกลับมา หลงจื๋อก็ไม่ได้บอกเขา เวลานี้ก็ทำตัวไม่ถูกเล็กน้อย
“เสี่ยวจื๋อ? ทำไมวันนี้มีเวลามาหา?”
กับลูกเขยคนนี้ ท่าทีของหลินเหว่ยเย่เปลี่ยนไปมาก ในเวลาสองปี หลินเหว่ยเย่มองเห็นความพยายามและความจริงใจของหลงจื๋อ แม้ว่าจะไม่สามารถพักพิงทางการเงินจากหลงจื๋อได้โดยตรง ความรักที่เขามีต่อหลินซีเหวิน ก็ทำให้หลินเหว่ยเย่ประทับใจ
หลงจื๋อก็เคารพหลินเหว่ยเย่มาก พยักหน้าทักทาย “วันนี้ออกมาคุยงาน อยู่แถวนี้พอดี ก็คิดว่ามาเยี่ยมท่าน สาวใช้บอกว่าท่านอยู่ที่ห้องหนังสือ ผมก็ขึ้นมาทันที ไม่รบกวนท่านใช่ไหม?”
หลินเหว่ยเย่มีท่าทางอาวุโสมาก ลุกจากเก้าอี้ เดินอ้อมจากโต๊ะ วางมือไว้บนไหล่ของหลงจื๋อ “เป็นครอบครัวเดียวกันพูดว่ารบกวนทำไม ไป ลงไปคุยกันที่ชั้นล่าง”
ห้องหนังสือคือห้องทำงานห้องคุยงาน อยู่ข้างในย่อมรู้สึกอึดอัด ณ ตอนนี้ หลินเหว่ยเย่ก็ยอมแพ้แล้วเล็กน้อย นิสัยของหลินซีเหวิน เขาไม่มีทางเลือก ตอนนี้ยังมีหลงจื๋อ ทุกเรื่องต้องฟังภรรยา หลินซีเหวินไม่ให้เขาทำ เขาก็ไม่ทำ
ยิ่งกว่านั้น เพื่อปกป้องหลงจื๋อ หลินซีเหวินยังเคยให้เขาเขียนจดหมายรับรอง สัญญาว่าจะไม่มีการสนับสนุนทางการเงินให้กับบริษัทหลินซื่อและตระกูลหลิน
แน่นอน สำหรับพวกเขาแล้ว ภายในหลายสิบล้านไม่เต็มใจที่จะให้การสนับสนุนทางการเงิน การต่อต้านเป็นการเคารพพ่อแม่และผู้อาวุโส
นับดู สองปีมานี้ จริงๆ แล้วหลงจื๋อก็ไม่เคยให้เงินตระกูลหลินน้อยลง โดยตรงโดยอ้อม เอาวัตถุโบราณมาให้ ที่เห็นก็มีไม่น้อยแล้ว
ในเวลาเดียว จิตใจของพวกเขาสองคนได้เปลี่ยนไปอย่างเงียบๆ หลายรอบแล้ว
หลงจื๋อไม่ใช่เด็กที่ไม่รู้เรื่องเมื่อหลายปีก่อนแล้ว เขารู้จักสังเกต เข้าใจการคำนวณไหวพริบของหลินเหว่ยเย่ ยิ่งรู้จักการปกป้องตัวเอง
มากที่สุดคือ ขอบคุณภรรยาที่ดีของเขา เตือนเขาซ้ำๆ ว่าให้ระวังคนรอบข้าง
และหลินเหว่ยเย่ยิ่งชื่นชมการกระทำของหลงจื๋อมากขึ้น ความซื่อสัตย์ ตั้งใจ ความขยันของหลงจื๋อ ทำให้เขาปฏิบัติต่อกันด้วยความชื่นชม
สายตาของลูกสาวดีจริงๆ
“ได้ ไม่ได้ดื่มชาเล่นหมากรุกกับพ่อนานแล้ว วันนี้เล่นสักเกม” หลงจื๋อกวาดสิ่งที่อยู่ในใจ ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
“ดีเลย! ฉันไม่เล่นหมากรุกมานานแล้ว เรามาเล่นกันหน่อย ไม่รู้ว่าช่วงนี้นายพัฒนาขึ้นหรือเปล่า ฮ่าๆ!”
ทั้งสองเดินลงบันไดไปด้วยพูดคุยกันไปด้วย สาวใช้ได้เตรียมชาและกระดานหมากรุกไว้ที่ห้องรับแขกเรียบร้อยแล้ว
หลงจื๋อรินชาให้หลินเหว่ยเย่ ชื่นชม “ตอนนี้พ่อดื่มชาขาวแล้ว?”
หลินเหว่ยเย่ยิ้ม “ชาแดงชาเขียวดื่มเยอะแล้ว อยากเปลี่ยนรสชาติ ชาขาวสดชื่น เหมาะกับฤดูร้อน นายชิมดู ไม่เลวนะ”
หลงจื๋อรินให้ตัวเองหนึ่งแก้ว ชื่มหนึ่งคำ “อืม ไม่เลวเลย ผมเชื่อมั่นในรสชาติชาของพ่อมาก ทุกครั้งที่มีก็จะได้ดื่มชารสชาติดี”
หลินเหว่ยเย่หยิบหมากรุกสีดำ พูดอย่างไม่พอใจ “รู้ว่าที่นี่มีชาดี ยังไม่มาหาฉันบ่อยๆ? ฉันและแม่นายอยากให้พวกนายมาพูดคุยมาดื่มชาทุกวันเลย โดยเฉพาะเหวินเหวิน หลังจากตั้งครรภ์ยังไปทำงานที่โรงพยาบาล ฉันให้เธอหยุดงานแล้วมาอยู่ที่บ้าน ให้แม่นายดูแลเธอ เธอก็ไม่ยอม พวกนายสองคนไม่มีใครเชื่อฟังเลย”
สิ่งที่เขาพูดคือการตำหนิ แต่ความรักและความเต็มใจของรุ่นพ่อ กลับทำให้หัวใจของหลงจื๋ออบอุ่น
หลังจากหลงถิงมีความผิดปกติทางจิต หลงจื๋อเสียที่พักพิงของบิดาโดยสิ้นเชิง ต่อมาการกระทำของ หลินเหว่ยเย่ทำให้เขาได้พบกับความรักของพ่ออีกครั้ง ความรักนี้มีค่าสำหรับเขา
แต่ว่า……
หลงจื๋อหยิบหมากรุกสีขาว วางลง “ซีเหวินเป็นห่วงคนไข้ของเขา ให้เธออยู่ที่โรงพยาบาลชั่วคราวเถอะ พี่สะใภ้ของผมก็อยู่ที่นั่น ไม่ให้เธอเหนื่อยเกินไป”
หลินเหว่ยเย่แอบเหลือบมองคนตรงข้าม พูดอย่างอ่อนโยน “เสี่ยวจื๋อ พวกนายอยู่ใกล้พี่ใหญ่ของนาย เวลาไปไหนมาไหนบ่อยขึ้นใช่ไหม?