บทที่ 1174 (ตอนจบ5) หน้าชาหรือยังประธานกู้
ผ่านไปห้านาทีเต็มๆ เกาจิ่งอานตบไหล่หวังเค่ยเบาๆ สูดหายใจเข้าลึก ไม่รู้ว่าอยากร้องไห้หรือกำลังร้องไห้อยู่
“พี่สาวผมชอบเด็กมาก เธออยากเป็นแม่จริงๆ สักครั้ง”
หวังเค่ยยกหมัดมากดเอาไว้ที่สันจมูก สูดน้ำมูก น้ำเสียงสะอื้นเบาๆ แต่เขายังคงยิ้ม ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นคนยิ้มง่าย “พี่สาวคุณเป็นผู้หญิงที่ดี เธอเป็นแม่ที่ดีเช่นกัน ชาตินี้ผมได้แต่งงานกับเธอ นับว่าเป็นวาสนาของผม”
คำพูดนั้น ถ้าเมื่อก่อนได้ฟัง เกาจิ่งอานจะต้องย่นจมูกแล้วตอบโต้กลับในทันที แต่ตอนนี้ พี่สาวต่างออกไปจากเมื่อก่อนแล้ว แต่งงาน เป็นแม่เลี้ยง เลี้ยงดูเด็กทั้งสองที่ไม่ได้มีสายเลือดเกี่ยวข้องกับตัวเองเลยแม้แต่น้อย
ไม่ใช่ผู้หญิงทุกคนจะทำได้
แต่เมื่อพูดถึงตรงนี้ ผู้หญิงต่างก็อยากจะเป็นแม่ หวังว่าจะมีสักชีวิตที่มีสายสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับตอนเอง เป็นสายเลือดสืบทอดต่อไปของตนเอง
บางที…
ความเจ็บปวดแบบนี้ อาจจะเป็นบทลงโทษจากสิ่งที่เธอทำมาก่อนหน้านี้ เธออาจจะหลบเลี่ยงจากกฎหมาย แต่ไม่สามารถหลบหลีกโชคชะตาได้
เกาจิ่งอานยกแก้ววิสกี้ขึ้น ดื่มหมดรวดเดียว
“แล้วยังไง สุดท้ายเป็นยังไงบ้าง”
การทำเด็กหลอดแก้วนั้นยากมาก และน้ำเชื้อต้องมีประสิทธิภาพสูง คนที่ทำ ต้องลองหลายสิบครั้งก็อาจไม่สำเร็จ
ถ้าโชคดีก็อาจจะสำเร็จตามที่หวัง หรือถ้าไม่ ก็คงต้องทนทุกข์อยู่แบบนั้น
“หมอบอกว่า…ไข่ไม่มีชีวิต”
เกาจิ่งอานไม่พูดอะไร
เดิมพี่สาวก็มีความเสี่ยงอยู่แล้ว ไม่สำเร็จก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพียงเรื่องแบบนี้เกิดกับคนในครอบครัวของตัวเอง มันต่างจากการที่เกิดกับคนรอบข้างมาก เจ็บปวดอยู่ในใจ เย็นเยียบ พูดไม่ออก
จี้ตงหมิงไม่กล้ายุ่งเรื่องของครอบครัวของพวกเขา ไม่ได้ออกความคิดเห็นของตนเองทันที เรื่องแบบนี้คงต้องให้คนในครอบครัวมานั่งคุยกัน
จี้ตงหมิงชงเหล้าให้พวกเขาคนละแก้ว ด้านในมีใบสะระแหน่สองใบลอยอยู่ “ลองชิมการวิจัยล่าสุดของผม”
ดีที่จี้ตงหมิงเป็นคนเปลี่ยนหัวข้อสนทนา ทั้งสองจบบทสนทนาหัวข้อที่ไม่มีความสุข ยังไงซะก็เป็นผู้ชาย แม้จะปวดใจแค่ไหนก็ไม่มีวันร้องออกมาไม่หยุด
“ว้าว ประธานเกามาดื่มกินที่นี่อีกแล้วเหรอครับ”
หน้าประตู กู้เยนเซินกำลังเดินเข้ามา เพียงเดินเข้ามาก็มองเห็นเกาจิ่งอานที่นั่งอยู่ที่บาร์อยู่ก่อนแล้ว เข้าไปหยอกล้อ
เกาจิ่งอานสูดน้ำมูก ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น หันกลับไปกลอกตา “ประธานกู้ ไม่กลัวคนที่บ้านจะจับขังเหรอครับ ทำไมออกมาดื่มเหล้าดึกดื่นขนาดนี้”
กู้เยนเซินโยนเสื้อคลุมทิ้งบนโซฟา ดีดนิ้ว “ขอแบบเมื่อวานหนึ่งแก้ว”
จี้ตงหมิงเริ่มหยิบจับอุปกรณ์ “ประธานกู้ มาดื่มติดต่อกันสองวัน ภรรยาคุณไม่สนใจคุณจริงๆ เหรอครับ”
ไป๋เวยดูจะไม่ธรรมดา มีใครไม่รู้บ้าง
เธอไม่ธรรมดาขนาดไหนน่ะเหรอ
สามารถทำให้ผู้ชายเจ้าเล่ห์กลายเป็นสามีที่ดี พ่อที่ดี ดูมีคุณธรรมขึ้นมาเลย
ผู้หญิงแบบนี้ คิดดูสิว่าน่านับถือขนาดไหน ที่สำคัญก็คือ ไม่รู้ว่าไป๋เวยใช้วิธีไหน ถึงขั้นทำให้กู้เยนเซินยอมทิ้งบริษัทที่อเมริกา เพื่อป้องกันไม่ให้พ่อกับแม่ของเขาบังคับให้กลับไปดูแลธุรกิจ
ก็เพราะไป๋เวยไม่อยากหนีไปจากฉู่ซื่อ
เหอะๆ ไว้อาลัยเขาเลย
กู้เยนเซินย่นจมูกกับคำหยอกล้อของเพื่อ “พวกคุณจะเข้าใจอะไรล่ะ การปกครองในบ้านของผมพวกคุณไม่เข้าใจหรอก ผู้หญิงน่ะ คุณต้องเรียนรู้ที่จะปล่อยวาง แค่คุณดีกับเธอ เอาใจเธอ ทำให้เธอคิดว่าคุณไม่มีข้อกังวล เป็นคนดี ไม่ออกนอกลู่นอกทางอย่างแน่นอน แบบนั้น คุณจะทำอะไรผู้หญิงก็จะไม่สงสัย”
เมื่อเห็นเกาจิ่งอานและหวังเค่ยกำลังกลอกตา กู้เยนเซินก็พูดต่อ “ผมไม่ได้โม้นะ แต่เพราะตอนนี้ภรรยาผมคิดว่าผมเป็นผู้ชายที่ดี ถึงกลางคืนผมไม่กลับบ้าน ก็ไม่มีใครตรวจสอบ”
เพื่อแสดงให้เห็นว่าตัวเองไม่ได้โกหก กู้เยนเซินจึงดื่มค็อกเทลลงไปอึกใหญ่
เกาจิ่งอานดื่มแก้วของตัวเอง “ประธานกู้ คุณไม่กลัวประธานไป๋จะได้ยินเหรอครับ หึหึ คุณมีบุญมากนะครับ”
หวังเค่ยหันกลับมา เอ่ยด้วยความตกใจ “ประธานไป๋ บังเอิญจังเลยครับ คุณก็มาดื่มเหมือนกันเหรอครับ”
“เฮ้ย”
กู้เยนเซินกระโดดลงจากบาร์ราวกับโดนไฟช็อต ยังไม่ทันมองเห็นแม้แต่เงาแต่ก็รีบแก้ตัว “คุณภรรยา เดี๋ยวผมรีบกลับตอนนี้ สักครู่นะครับ”
“ฮ่าๆ ”
“ว้าว หน้าชาหรือยังประธานกู้”
ชายหนุ่มทั้งสามหัวเราะพลางหายใจไม่ทัน เกาจิ่งอานยกขาข้างหนึ่งขึ้นราวกับตั้งใจชมมาก เฝ้ารอกู้เยนเซินแก้ตัว
ริมฝีปากของเกาจิ่งอานเย้ยหยัน “อวดเก่งนะ อวดเก่งต่อสิ คืนนี้ห้ามกลับนะ ลองดูหน่อย”
กู้เยนเซินนั่งลงอย่างไม่พอใจ ยกเหล้ากระดกเพื่อลดความตกใจ “เฮ้ พวกคุณ ทำไมพวกคุณมาอยู่ที่นี่ น้องชายภรรยากับพี่เขยทำไมมาอยู่ด้วยกันได้ล่ะ คุณหมอเกาเศร้าใจอะไรหรือเปล่า น้องชายภรรยาออกมาระบายอารมณ์เหรอ”
เกาจิ่งอานดึงแก้วตนเองกลับคืน ปกป้อง “ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณ”
จี้ตงหมิงบอก “นานๆ ทีจะได้มารวมตัวกันแบบนี้ ให้คุณชายรองมาด้วยไหมครับ”
เมื่อได้ยินว่าคุณชายรอง เกาจิ่งอานก็ตื่นเต้นขึ้นมาทันใด รีบบอก “ได้สิ นานแล้วที่ไม่ได้ดื่มกับน้องรอง พอดีเลย คืนนี้เรามาดื่มด้วยกัน”
กู้เยนเซินว่าเขา “ดื่มอะไรล่ะ มีครอบครัวกันทั้งนั้นแล้ว คิดว่าตัวเองเป็นชายหนุ่มอายุยี่สิบหรือยังไง”
ปากบอกแบบนั้น แต่ในใจกลับอยากผ่อนคลายยิ่งกว่าใคร ปล่อยวางสักหน่อย
เกาจิ่งอานไม่สนใจเขา ยกโทรศัพท์ขึ้นมา
ไม่นาน ก็มีคนรับสาย
หลงเจ๋อนั่งอยู่ในห้องหนังสือของตนเอง มองหน้าจอ “ว่ายังไง”
“น้องรอง เราดื่มกันอยู่ที่ร้านของจี้ตงหมิง มาด้วยกันสิ”
หลงเจ๋อเหลือบมองคอมพิวเตอร์ “ดึกขนาดนี้แล้วยังดื่มอยู่อีกเหรอ”
“อย่าพูดมาก บอกมาว่าจะมาไม่มา” เกาจิ่งอานถลึงตาใส่กู้เยนเซิน สื่อความหมายว่า คุณรอเถอะ เราสองพี่น้องไม่ปล่อยคุณไว้แน่
กู้เยนเซินส่งเสียงหึ ยังกับว่าเขาไม่มีตัวช่วย
สู้กันหน่อย
ทั้งสองเริ่มต่อสู้กัน โดยที่หวังเค่ยและจี้ตงหมิงไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรด้วยทั้งนั้น เพียงรอดูความสนุก
เมื่อวางสาย เกาจิ่งอานตบไหล่กู้เยนเซิน “ประธานกู้ คุณอย่าร้องไห้แล้วกัน”
มีครั้งหนึ่ง กู้เยนเซินเคยท้าทายเกาจิ่งอานที่ผับ เกาจิ่งอานจึงโทรเรียกหลงเจ๋อมา สุดท้ายกู้เยนเซินจึงต้องกลับไปด้วยความพ่ายแพ้ เพียงออกไปพ้นประตูก็อาเจียน อาเจียนไปตลอดทาง
ภาพนั้นช่างงดงามจริงๆ อยากจะเห็นมันอีกสักครั้ง
กู้เยนเซินยกโทรศัพท์ขึ้น กดเปิดรายชื่อที่บันทึก “เฮ้ ทำอะไรอยู่ ออกมาดื่มกันหน่อย บาร์ชื่อส่วยหลิวหนียน”
ฝั่งถังจิ้นเหยียนพูดอะไรสักประโยค มุมปากของกู้เยนเซินกระตุก
หวังเค่ยเห็นชื่อที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอของเขา “ประธานกู้ เกินไปหรือเปล่า แม้กระทั่งคุณหมอถังคุณก็เรียกเหรอ คุณไม่รู้เหรอว่าคุณหมอถังดื่มได้มากแค่ไหน”
เมื่อเทียบกับคำถามนี้แล้ว สิ่งที่เกาจิ่งอานไม่พอใจก็คือ “คุณไปสนิทกับคุณหมอถังตั้งแต่เมื่อไหร่ พวกคุณเป็นทีมเดียวกันตั้งแต่เมื่อไหร่”
กู้เยนเซินหัวเราะพึงพอใจ “คุณไม่รู้อะไรล่ะสิ ผมสนิทกับภรรยาของคุณหมอถัง ไปๆ มาๆ ก็มาสนิทกับเขาด้วย”
นี่ยิ่งไม่เข้าใจเลย
เกาจิ่งอานถาม “คุณไปสนิทกับเจิ้งซิ่วหยาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ใครทำผิดแล้วถูกจับ เจิ้งซิ่วหยาเป็นตำรวจที่ซื่อตรงขนาดนั้น ให้โอกาสคุณด้วยเหรอ คุณไม่ได้พูดมั่วใช่ไหม”
เรื่องนี้พูดแล้วมันยาว ดังนั้นกู้เยนเซินจึงไม่คิดจะอธิบาย “พูดมาก มาดื่มก็คือดื่ม อย่าพูดมาก”
เกาจิ่งอานก็ไม่ได้ถามต่อ “แล้วเกาจิ่งอานมาไหม”
กู้เยนเซินย่นจมูก “ไม่มา”
“อ้าว”
“เขามีเวรดึกคืนนี้ อีกทั้งพ่อของเขานอนอยู่ที่โรงพยาบาลหวาเซี่ย เราต้องเข้าใจ”
ขณะที่กำลังพูดคุย ก็มีหญิงสาวสวยกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามา เปิดไหล่ เกาะอก สายสปาเกตตี ด้านบนต่ำ ด้านล่างสั้น อีกทั้งยังแต่งหน้าจัด หน้าที่แต่งจัดจนทำให้รูปหน้าดูเปลี่ยนไป
“ทุกคน วันนี้ฉันเลี้ยงเอง ไม่ต้องเกรงใจ วันนี้เราจะดื่มกันให้เต็มที่แล้วค่อยกลับ”
หูของกู้เยนเซินตอบสนองกับเสียงที่คุ้นเคย ว้าว ทำไมเสียงคุ้นขนาดนี้ ราวกับเป็นเสียงที่ได้ยินก่อนใครตั้งแต่ตื่นขึ้นมา
ปากของเกาจิ่งอานอ้ากว้างโดยไม่รู้ตัว สะกิดหวังเค่ย ราวกับดวงตาแทบถลน “พี่เขย ช่วยผมดูหน่อย ผู้หญิงชุดแดงคนนั้นใช่โร่หลินหรือเปล่า”