บทที่ 1198 (ตอนพิเศษ) เรื่องราวหลังจากนั้นของพวกเขา 3
ทันทีที่เธอตะโกนออกไป ห้องเรียนที่วุ่นวายพลันเงียบสงบลงทันที เด็กนักเรียนที่กำลังทำนั่นทำนี่อยู่ต่างก็มองไปยังหน้ากระดาน
พบว่าเป็นเด็กนักเรียนรุ่นน้องที่น่ารักก็พากันระเบิดเสียงหัวเราะออกมา
“ฮ่าๆ รุ่นน้องมาจากไหนเหรอ มาผิดที่แล้วหรือเปล่า”
“หลงทางหรือเปล่า ให้พี่ชายไปส่งที่ห้องเรียนอนุบาลไหม”
“รุ่นน้องมาหาพี่ชายคนไหน เราช่วยหาไหม”
พวกเขายังคงล้อเลียนต่อไป สีหน้าของชูชูยังคงไม่เปลี่ยน มุมปากค่อยๆ ยกขึ้น เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชาและวางอำนาจ “เมื่อกี้ใครตีเขา ออกมาเดี๋ยวนี้ อย่าให้ฉันต้องชี้ตัว”
แม้ว่าชูชูจะตัวเล็กแต่มีพลังเพียงพอ ท่าทางจริงจังของเธอเหมือนแดดดี้มาก สายตาน่าเกรงขาม คนธรรมดาแน่นอนว่าไม่ใช่คู่ปรับของเธอ
อาจเพราะความน่าเกรงขามของเธอ ห้องทั้งห้องจึงตกอยู่ในความเงียบไม่มีใครกล้าล้อเล่นอีกแล้ว
ผ่านไปชั่วครู่ ประตูด้านหลังก็มีเด็กชายคนหนึ่งเดินเข้ามา เนกไทชุดเครื่องแบบนักเรียนเบี้ยว ท่าทางเอ้อระเหยลอยชาย ก้มหน้าลง กลอกตาขึ้น เขายืนพิงประตู แสยะยิ้ม เป็นรอยยิ้มที่น่ารังเกียจมาก
“ใครมาหาฉัน”
รุ่นน้องหวาดกลัวหดตัวไปหลบอยู่ด้านหลังชูชู ไม่กล้าสบตากับคนที่รังแกตนเอง
ชูชูยิ้มเย็น ที่แท้ก็เจ้าเด็กคนนี้นี่เอง
“ที่แท้ก็เป็นนายนี่เอง ดีมาก อธิบายมาหน่อยสิ ทำไมต้องไปรังแกเขา”
ชูชูยืดเชิดลำคอ ดวงตาจ้องเขม็งไปที่นักเรียนชายคนนั้น ไม่ยอมให้ใครมาดูถูก
นักเรียนชายยกมือขึ้นแตะจมูก มองไปยังเพื่อนรอบๆ สายตาทุกคนก็มองมาที่เขา ราวกับกำลังบอกว่า พี่ใหญ่ มีคนมาหาเรื่องพี่นะ รีบให้บทเรียนเธอหน่อยไหม
ดวงตาใสของชูชูไม่กะพริบแม้แต่น้อย ท่าทางยั่วยุไม่เกรงกลัว
เด็กนักเรียนชายส่งเสียงหยัน “ตีใครต้องมีเหตุผลด้วยเหรอ”
ความหมายนั่นก็คือ ฉันอยากตีใคร นั่นก็เป็นความซวยของมัน ต้องอธิบายอะไรอีก ตลก
ท่าทางยโสโอหังของนักเรียนชายคนนั้นทำให้ชูชูโกรธ ไม่อยากมีชีวิตแล้วใช่ไหมไอ้เด็กนี่ ตายในมือฉันถือว่าเป็นโชคดีของนาย
ชูชูปล่อยมีรุ่นน้อง ส่งให้แอนนี่ดูแล จากนั้นเดินตรงไปยังประตูด้านหลังต่อหน้านักเรียนเกรดห้าทั้งห้อง
ทางที่เธอเดินผ่าน ทุกคนต่างก็หลบทางให้ กลัวว่าจะทำลูกระเบิดที่ไม่ได้จับเวลานั้นระเบิดออกมา
ไม่พูดไม่ได้เลยว่า ถึงจะมองว่าเธอตัวเล็ก ดูบอบบาง ทว่าสายตาและความเยือกเย็นในตัวเธอกลับทำให้คนหวาดกลัว
นี่ลูกใครกันนะ เก่งจริงๆ
ไม่นาน ชูชูก็ทำให้ระยะห่างของทั้งสองนั้นน้อยลง ห่างกันเพียงครึ่งเมตร “ที่แท้จะตีใครไม่จำเป็นต้องมีเหตุผลสินะ ฉันชอบ”
เสียงไพเราะพึ่งจบลง ชูชูยกขาขวาเตะออกไปเต็มกำลัง เป้าหมายคือขาของนักเรียนชายคนนั้น ขาที่เตะเข้าไปในท่าที่งดงาม เข้าเป้าที่ต้นขาด้านหน้าของนักเรียนชายคนนั้นอย่างแม่นยำ
กระบวนท่านั้น เธอเตะออกไปอย่างรวดเร็วแม่นยำด้วยความชำนาญ สองมือกำหมัดแน่น ยกตั้งท่ามวยไทยได้อย่างถูกต้อง
นักเรียนชายคนนั้นตกใจ ปฏิกิริยาแรกที่ตอบสนองคือ มันเป็นไปได้ยังไง
ปฏิกิริยาที่สองคือ เจ็บ
ชูชูสวมชุดเครื่องแบบนักเรียนที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน บวกกับรองเท้าหนังสือดำ ฝ่าเท้านั้นเธอออกแรงเต็มที่ทั้งหมดที่มี แม้จะไม่ทำให้เขาร้องไห้ได้ อย่างน้อยก็ต้องฝากรอยช้ำเขียวเอาไว้ได้แน่นอน
ดึงเท้ากลับมา ชูชูกลับมามีใบหน้าน่ารักไร้เดียงสาเช่นเดิม ราวกับคนที่ทำร้ายคนอื่นเมื่อสักครู่นั้นไม่เกี่ยวอะไรกับเธอ
“เธอ…” นักเรียนชายเจ็บปวดจนต้องกัดฟัน แต่เพราะหน้าตา ไม่อยากให้เพื่อนได้เห็นถึงความเจ็บปวดของเขา พยายามควบคุมใบหน้าให้เรียบนิ่ง ความจริงเจ็บปวดจนอยากเอาคืนคน
ชูชูถามด้วยท่าทางไร้เดียงสา “ฉันทำไมคะ เหมือนกับนายไง ตีคนไม่จำเป็นต้องมีเหตุผล”
ใบหน้าและอำนาจของนักเรียนชายถูกเด็กนักเรียนรุ่นน้องที่อายุน้อยกว่ามาท้าทาย ความโกรธพลันเพิ่มมากขึ้น “ยัยเด็กนี่ รู้ซะบ้าง ขอโทษฉันเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นได้ปากฉีกแน่”
ข่มขู่เธอเหรอ
นี่ไม่ได้มีผลอะไรกับเธอเลยสักนิด
เมื่อก่อนลุงรองเคยสอนเธอไว้ว่า “ชูชู เธอต้องจำเอาไว้ พวกคนที่ข่มขู่เธอ ความจริงแล้วคือคนที่ไม่มีความมั่นใจที่สุด คนที่มีความมั่นใจมีความสามารถเขาลงมือเลยไม่เสียเวลามาพูดมากหรอกยิ่งพูดมาก ความสามารถยิ่งน้อย”
อือหึ
ลุงรองเก่งที่สุด
ชูชูยิ่งเชื่อเข้าไปอีก
“คิดจะฉีกปากฉันเหรอ มาสิ” ชูชูตั้งใจเชิดหน้าขึ้นสูงกว่าเดิม ใจกว้างท้าทายเขาให้เข้ามา
เด็กนักเรียนชายกำหมัดแน่น “เธออย่าคิดว่าฉันไม่ทำร้ายผู้หญิงนะ”
ชูชูกอดอก ยิ้มน่ารัก “ฉันไม่คิดแบบนั้นหรอก จะตีก็ตี พูดมากอยู่ทำไม แพ้แล้วก็ขอโทษรุ่นน้องฉันซะ แล้วสัญญาต่อหน้าทุกคนด้วยว่าจะไม่รังแกใครอีก กล้าไหมล่ะ”
นี่มันท้าทายชัดๆ
เด็กนักเรียนชายกัดฟัน “เธอบังคับฉันเองนะ อย่ามาเสียใจทีหลังก็แล้วกัน”
เสียใจทีหลังงั้นเหรอ
เธอมู่ชูเฉินทำอะไรไม่เคยมาเสียใจทีหลัง
“พูดมาก จะตียังไง ว่ามา” ชูชูกระดิกเท้า แดดดี้เคยบอกว่า ก่อนที่จะออกกำลังกายต้องวอร์มร่างกายเสมอ ไม่งั้นจะปวดเมื่อย
อืม แดดดี้เก่งที่สุด
เด็กนักเรียนชายย่นจมูก “เหอะ อย่าหาว่าพี่ไม่ออมมือนะน้อง”
“นายอย่าออมมือเด็ดขาด”
ชูชูกำหมัดแน่นอีกครั้ง หมัดน้อยปกป้องใบหน้า ก้าวถอยหลัง ย่อตัวเล็กน้อย
แอนนี่และมิน่าปรบมือตื่นเต้น “Angel สู้ๆ เอาเลย ไม่ต้องเกรงใจ”
เธอ แน่นอนอยู่แล้ว
ห้านาทีต่อมา…
เด็กนักเรียนชายนั่งกระแทกลงบนพื้น ใบหน้าชื้นไปด้วยเหงื่อ สายตามองตรงไป “เธอ…”
เขาเจ็บขา เจ็บเอว เจ็บหลัง เจ็บไปหมดทั้งตัว
ยัยเด็กผู้หญิงคนนี้มันสัตว์ประหลาดชัดๆ
คนอื่นๆ ที่อยู่ในห้องต่างพากันอึ้งไปตามๆ กัน เมื่อกี้ที่พวกเขาเห็นนั่นคืออะไรกัน การประลองหมัดที่มีความแตกต่างกันงั้นเหรอ น่าตกใจอย่างเห็นได้ชัด
เด็กสาวไม่ได้ดูใสซื่อน่ารังแกเลย เวลาเธอโกรธนั้นเหมือนเสือตัว น่าเกรงขาม อีกทั้งยังเอาจริง เธอรักษาจังหวะของตัวเองได้เป็นอย่างดี ไม่พลาดท่าเลยสักนิด ออกหมัด เท้า ทุกท่วงท่านั้นคล่องแคล่วแม่นยำ
เวลาที่เธอต่อสู้ อีกฝ่ายแทบไม่มีโอกาสเอาคืนได้เลย
หันกลับไปมองนักเรียนชายที่โดนตี เป็นกระสอบทรายอย่างชัดเจน หมัดที่ปล่อยออกไปถูกตั้งรับได้หมด ยังเปิดโอกาสให้เธอได้ลงมือสวนกลับมาได้ทุกครั้ง คิดจะปกป้องตัวเองยังทำไม่ได้ ไหนจะทันได้ออกหมัดโจมตี
ขายหน้า ขายหน้าที่สุดเลย
ชูชูออกหมัด ต่อยตีจนเหนื่อยแล้ว เจ็บมือ ต่อยมือเปล่ากับใส่นวมมันต่างกันมากจริงๆ
“ยังจะตีอีกไหม”
ชูชูที่ดูภาคภูมิใจ ให้เขาเลือก จะตีต่อหรือไม่ตีแล้วแต่เขาเลย จะตียังไงบอกมา แต่ถ้าแพ้แล้ว ต้องฟังเธอ
เด็กนักเรียนชายยังห่วงหน้าตัวเองอยู่ แต่ถ้าตีต่อไปเขาต้องเสียเปรียบยิ่งกว่านี้แน่ รักษาหน้าตัวเองเอาไว้ไม่ได้แน่
ลูกผู้ชายไม่ยอมเสียหน้า เด็กนักเรียนชายหัวเราะ “ถ้าไม่เห็นว่าเธออายุน้อยกว่าละก็ วันนี้ฉันคงต่อยเธอร้องไห้ขี้มูกโป่งแน่”
ชูชูหัวเราะ ข่มขู่
“ขอโทษ รีบขอโทษรุ่นน้องคนนี้เดี๋ยวนี้ อีกอย่าง ถ้าต่อไปเห็นว่านายรังแกเขาอีก ฉันรับรองได้เลยว่าเจอเมื่อไหร่ฉันต่อยเมื่อนั้นแน่ จะเอาให้หนักขึ้นทุกครั้งเลย” ท่าทางจริงจังของชูชูไม่มีแววล้อเล่นเลยสักนิด
เธอพูดได้ทำได้
เด็กนักเรียนชายลุกขึ้นมา จับกรอบประตูเอาไว้ เพื่อช่วยพยุงขาที่กำลังเจ็บ ต้องใช้พลังเป็นอย่างมากเพื่อให้ยืนได้มั่นคง “ในเมื่อเธอคุ้มครอง ฉันก็จะไม่แตะต้องเขาอีก พวกเธอไปเถอะ”
ไปงั้นเหรอ
“ฉันบอกว่า ขอโทษ ขอโทษเขาซะ”
ชูชูไม่ยอมละทิ้งอุดมการณ์
เด็กนักเรียนรุ่นน้องกำลังตกตะลึง พี่สาวต่อสู้ได้ร้ายกาจมาก เก่งกว่าพี่สาวทุกคนที่เขาเคยรู้จัก
นับถือพี่สาว
มีพี่สาวที่เก่งกาจขนาดนี้คอยคุ้มกัน ใครก็ไม่กล้ามารังแกเขาแล้ว ดีใจเป็นบ้า
เด็กน้อยเดินไปหยุดอยู่ด้านหลังชูชู ดวงตาดำมองเธอ “พี่สาว พี่สุดยอดไปเลย…”
ชายร่างสูงเยาะเย้ย “เด็กน้อย ต่อไปเห็นพี่ชาย เกรงใจหน่อย”
เด็กชายหลบไปอยู่ด้านหลังอีกครั้ง
ชูชูมุมปากกระตุก “ว่าไงนะ พูดอีกรอบสิ”
ยังไม่ทันได้ไปไหนเลยก็เริ่มขู่เขาอีกแล้ว ดูเหมือนเธอยังลงมือไปยังไม่เพียงพอ ไม่ได้ทำให้เขาสำนึกเลย
นี่มันง่ายจะตาย เอาอีกสักรอบดีไหมนะ
“ครูมาแล้ว ครูมาแล้ว”
ด้านนอก มีเสียงตะโกนมา ทันใดนั้น ร่างสูงก็เดินมาถึงหลังห้อง มาหยุดอยู่ตรงหน้าชูชูพอดี
ร่างสูงของครูประจำชั้นของเกรดห้า อายุสามสิบกว่า สวมแว่นตา ในมือถือไม้บรรทัดสามเหลี่ยมสำหรับวาดรูป
“หึ ทะเลาะกันเหรอ ทะเลาะกันเสร็จหรือยัง”