เมียหวานของประธานเย็นชา – ตอนที่ 340

ตอนที่ 340

บทที่ 340 ผลสืบเนื่อง

“ยังติดต่อไม่ได้อีกเหรอ?”

เหยาเย้นเดินเข้ามาหาแล้วถามอย่างดูอะไรบางอย่างออก: “คุณจำเบอร์ผิดหรือเปล่า?”

เวินเที๋ยนเที๋ยนส่ายหน้า

“เป็นไปไม่ได้……”

พูดเสร็จเธอจึงลองโทรไปอีกรอบ แล้วพูด: “ให้โอกาสฉันอีกสักครั้งนะ”

ภายในสายยังคงดังไปด้วยเสียงสายไม่ว่าง

ผ่านไปสักพัก เวินเที๋ยนเที๋ยนก็ยังคงรอคอยอย่างใจจดใจจ่อ

วินาทีต่อมา เสียงสายไม่ว่างภายในโทรศัพท์ก็หยุดลง!

“ฮัลโหล?” มีเสียงดังมาจากปลายสาย

เมื่อเวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินเสียงนี้ ก็ลังเลอยู่หนึ่งวิ แล้วค่อยตอบสนองขึ้นมา

นี้ไม่ใช่จี้จิ่งเชิน แต่เหมือนจะเป็นพ่อบ้านหรือเปล่า?

แต่นี้เป็นโทรศัพท์ส่วนตัวของจี้จิ่งเชิน แล้วทำไมเป็นพ่อบ้านที่มารับสายล่ะ?

เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย ในขณะที่เธอกำลังเตรียมตัวจะพูด อยู่ๆประตูห้องก็ถูกคนข้างนอกเปิดออก!

เธอตกใจจนรีบเงยหน้าขึ้นมองทันที ก็เห็นเวินหงไห่ยืนอยู่หน้าประตูด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความโกรธ

เมื่อเห็นว่าในมือของเวินเที๋ยนเที๋ยนถือโทรศัพท์อยู่ ใบหน้าก็มืดลงทันที

เขารีบเดินเข้ามา และแย่งโทรศัพท์ออกจากมือของเวินเที๋ยนเที๋ยนทันที โดยที่เธอยังไม่ทันจะได้เปิดปากพูด

“เธอกำลังทำอะไรอยู่?”

เขาหันไปตะโกนใส่เหยาเย้นแล้วโยนมือถือที่อยู่ในมือลงบนพื้น

“ไสหัวออกไป!”

ในขณะที่พูด เขาก็ยกมือขึ้นจะไปจับเหยาเย้นไว้

แต่เมื่อเวินเที๋ยนเที๋ยนเห็น ก็รีบวิ่งไปขวางข้างหน้าของเขา

“คุณจะทำอะไร?”

เมื่อเวินหงไห่เห็นเธอ ก็รีบกำหมัดแน่น

“เป็นแค่นักโทษคนหนึ่ง ยังกล้ารับหน้าแทนคนอื่นอีกเหรอ!”

พูดเสร็จ เขาก็ผลักเวินเที๋ยนเที๋ยนออกไป แล้วลากเหยาเย้นออกไปข้างนอก

“เดี๋ยวก่อน!”

เวินเที๋ยนเที๋ยนตะโกนขึ้น แล้วเดินตามไป แต่ประตูที่อยู่ข้างหน้าของเธอมีเสียงดัง“ปัง”แล้วปิดลงทันที

เธอถูกขังอยู่ด้านในอีกครั้ง

เวินเที๋ยนเที๋ยนตบประตูอย่างไม่ลดละ ด้วยความเป็นห่วงความปลอดภัยของเหยาเย้น

“เวินหงไห่ คุณจะทำอะไรกับเธอ? เรื่องนี้มันไม่เกี่ยวกับคุณนายเหยา ถ้ามีอะไรให้มาหาฉัน!”

เธอตบประตูไม่หยุด แต่อีกฝ่ายกลับไม่มีการตอบกลับใดๆ

เวินหงไห่ผลักเหยาเย้นเข้าไปในห้องนอน

เหยาเย้นล้มลงไปตรงพื้น และก้มหน้าด้วยความกลัวไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้าเขา

“เธอลองคิดทบทวนดีๆนะ เรื่องง่ายๆแค่นี้เธอก็ทำไม่ได้ ไร้ประโยชน์สิ้นดี”

“ขอโทษค่ะ……” เหยาเย้นพูดเสียงเบา

เวินหมิงเฮ่ากำลังถือของเล่นอยู่ในมือและเดินขึ้นมาจากข้างล่าง เพิ่งจะขึ้นมาถึงประตู ก็เห็นเวินหงไห่กำลังยืนด่าเหยาเย้นอยู่ จึงรีบวิ่งเข้าไป

“พ่อ! พ่อจะทำอะไร?”

เขารีบวิ่งเข้าไปกอดขาของเวินหงไห่ ไม่ยอมให้เข้าใกล้เหยาเย้น

เวินหงไห่ก้มหน้า และขมวดคิ้วมองไปที่เขา

“แกขึ้นมาทำไม? ออกไปเดี๋ยวนี้!”

แต่เวินหมิงเฮ่าไม่ยอมปล่อยมือ กลับกัดฟันแน่น และมองเขาด้วยใบหน้าที่ระแวดระวัง

“ผมจะไม่ให้พ่อตีแม่เด็ดขาด!”

เวินหงไห่เริ่มชักสีหน้า

เหยาเย้นจึงรีบวิ่งเข้าไป และดึงเวินหมิงเฮ่าเข้ามาในอ้อมกอดของตนเอง

“ขอโทษ ขอโทษ เป็นความผิดของฉันเอง ต่อไปฉันจะไม่สนใจเวินเที๋ยนเที๋ยนอีกแล้ว ”

เวินหงไห่เก็บมือลง และพูดด้วยความไม่พอใจ: “ถ้ามีครั้งต่อไป รอดูได้เลยว่าฉันจะจัดการกับเธอยังไง!”

พูดเสร็จ เขาก็ฮึมเสียงเย็น แล้วหมุนตัวเดินออกไป

เหยาเย้นกอดเวินหมิงเฮ่าไว้ นั่งอยู่ที่พื้นด้วยความตกใจเป็นเวลานาน

ตอนนี้ในอีกด้านหนึ่ง จี้จิ่งเชินที่เพิ่งจะถูกส่งไปโรงพยาบาล ยังคงไม่ได้สติ

พ่อบ้านมองดูโทรศัพท์ของจี้จิ่งเชินที่อยู่ในมือของเขา

แปลกจัง เมื่อสักครู่โทรศัพท์ดังอยู่ตั้งนาน แต่พอเขารับสาย อีกฝ่ายทำไมไม่ยอมพูด?

“ฮัลโหล ไม่ทราบว่าผมเรียนสายใครอยู่ครับ?”

พอเขาถามไปอีกสองสามคำ จู่ๆอีกฝ่ายก็มีเสียงดังหึ่งขึ้นมาอย่างรุนแรง

เมื่อพ่อบ้านได้ยินเสียงดังจนแสบแก้วหู ก็รีบเลื่อนโทรศัพท์ออกจากหูทันที

แต่เมื่อผ่านไปสักพัก ก็ดูโทรศัพท์อีกครั้ง แต่อีกฝ่ายกลับวางสายไปแล้ว

“เป็นใครกันแน่?”

เขาพูดคาดโทษขึ้นมาด้วยความสงสัย แต่เมื่อดูเบอร์โทรศัพท์กลับเห็นว่าเป็นเบอร์ที่ไม่รู้จัก

น่าจะโทรผิดแหละมั้ง?

ในขณะที่กำลังลังเลอยู่ จู่ๆก็มีเสียงดังออกมาจากห้องพักฟื้นของจี้จิ่งเชิน

“ประธานจี้ครับ ประธานจี้ คุณใจเย็นๆก่อนครับ คุณต้องพักผ่อนก่อน ส่วนเรื่องอื่นรอให้ร่างกายดีขึ้นก่อนแล้วค่อยคุยกันนะครับ……ประธานจี้”

ทันทีที่พ่อบ้านได้ยิน ก็รีบวิ่งเข้าไป

เมื่อเข้าไปในห้องพักฟื้น ก็เห็นว่าจี้จิ่งเชินได้ฟื้นแล้ว แต่สีหน้ากลับขาวซีด

เขาลุกขึ้นนั่ง และดึงเข็มน้ำเกลือออก แล้วกำลังวิ่งออกไปข้างนอก

แต่มีจงหลียืนขวางอยู่ข้างหน้าของเขา และพูดเตือนไม่หยุด

เมื่อเห็นว่าพ่อบ้านเข้ามาแล้ว จึงรีบพูด: “เร็ว ประธานจี้จะออกไปแล้ว!”

พ่อบ้านจึงรีบทิ้งโทรศัพท์ไว้ข้างๆ และไปขวางจี้จิ่งเชินไว้ด้วย แล้ววิ่งไปข้างนอกเพื่อเรียกพยาบาล

“รีบไปเรียกหมอเข้ามาหน่อย!”

เมื่อพยาบาลเห็นสถานการณ์ในห้องคนไข้ เขาก็รีบพยักหน้า แล้ววิ่งออกไปข้างนอก

ไม่นาน หมอจางก็เข้ามาในห้องคนไข้ทันที

เมื่อเห็นจี้จิ่งเชินที่อยู่บนเตียง ก็เบิกตากว้างด้วยความตกใจ จึงรีบวิ่งเข้าไป

จี้จิ่งเชินที่อยู่บนเตียงตอนนี้ถูกพ่อบ้านกับจงหลีจับไว้ ขมวดคิ้วไว้แน่นราวกับผ้าขนหนูที่ถูกบิดไว้

ความเจ็บปวดตรงหัว ทำให้สีหน้าของเขาซีดขาว และเหงื่อก็ไหลจนเสื้อผ้าบนร่างกายเปียกชื้นไปหมด

แต่ถึงแม้จะเป็นแบบนี้ จี้จิ่งเชินก็ยังคงดิ้นรนที่จะออกไปจากที่นี่

พ่อบ้านจึงรีบตะโกนขึ้นมา: “เร็วหน่อยครับ พวกผมจะจับไม่ไว้แล้ว!”

หมอจางจึงรีบดึงสติกลับมา และสั่งให้พยาบาลไปเอายาสลบมา

เขารีบเดินเข้ามา และตรวจดูท่าทีในตอนนี้ของจี้จิ่งเชิน

“คาดว่าน่าจะเป็นการทานยาเกินขนาด แล้วบวกกับสภาพจิตใจและร่างกายที่อ่อนล้าเกินไป ก็เลยทำให้เขาสติแตกแบบนี้”

พูดเสร็จ เขาก็รีบไปรับยาสลบมาจากมือของพยาบาล

“เดี๋ยวผมจะฉีดยาสลบให้เขาก่อน เพื่อให้เขาได้พักผ่อนสักพักนะครับ”

และเมื่อหมอจางนำมือไปกดไว้ที่มือของจี้จิ่งเชินไว้ จี้จิ่งเชินก็ขัดขืนขึ้นมาทันที

“จงหลี ปล่อยฉัน!”

ตาของเขาแดงก่ำ และพูดด้วยความโกรธ: “ออกไป ถ้านายกล้า……”

ยังไม่ทันที่จี้จิ่งเชินจะได้พูดจบ หมอจางก็รีบฉีดยาสลบทันที

ไม่นาน จี้จิ่งเชินก็สงบลง เขาปิดตา และหลับลึกไปในทันที

พ่อบ้านกับจงหลีจึงถอนหายใจ และปล่อยมือพร้อมกัน

พ่อบ้านจึงเช็ดเหงื่อที่อยู่บนหัว ขมวดคิ้วแล้วหันไปมองหมอจางด้วยความสงสัย

“มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ครับ? เมื่อสักครู่หมอบอกว่าทานยาเกินขนาด มันคืออะไร?”

เมื่อหมอจางได้ยินคำถามของพวกเขา ก็รู้สึกกังวลขึ้นมาทันที

“เรื่องนี้……จริงๆแล้วเรื่องนี้เป็นความต้องการของจี้จิ่งเชินเอง เดิมทียาที่เขาใช้อยู่ก็มีผลข้างเคียงอยู่แล้ว และผมก็เคยบอกกับจี้จิ่งเชินอย่างชัดเจนแล้วด้วย แต่เขาก็ยังคงเลือกที่จะใช้ยาตัวนี้ ผมก็เลยไม่รู้จะทำยังไง……”

พ่อบ้านกับจงหลีหันมามองหน้ากัน พวกเขาไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อนเลย!

เขาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วถาม: “มันจะมีผลข้างเคียงยังไงครับ?”

หมอจางเช็ดเหงื่อที่อยู่บนหน้าผาก

และพูดด้วยความรู้สึกผิดเล็กน้อย: “อาจจะสร้างความเสียหายให้กับสมองครับ”

“อะไรนะครับ?”

พ่อบ้านร้องขัดคำพูดของเขาขึ้นมา และมองหมอที่อยู่ข้างหน้าด้วยความตกใจ“เรื่องใหญ่ขนาดนี้ ทำไมคุณหมอถึงไม่บอกพวกผม?”

หมอตกใจจนตัวสั่นไปหมด

“ขอโทษครับ นี้เป็นคำสั่งของคุณจี้ครับ……”

พ่อบ้านหายใจเข้าลึกๆ และมองไปยังจี้จิ่งเชินที่ยังคงนอนหมดสติอยู่

เขาจึงพูดขึ้นมาอย่างเด็ดเดี่ยว: “ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป คุณหมอห้ามให้คุณจี้ใช้ยาตัวนี้อีกเป็นอันขาด ถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นพวกคุณต้องรับผิดชอบ”

“ครับ ครับ”

หมอจางจึงรีบตอบตกลง เพราะไม่กล้าแม้แต่จะโต้กลับ

เมียหวานของประธานเย็นชา

เมียหวานของประธานเย็นชา

Status: Ongoing

“คุณจะคิดแบบนี้ไปถึงเมื่อไรถึงจะกลับบ้านได้?” จี้จิ่งเชินพูดออกมาอย่างจนใจ เขารีบมาที่นี่ทันทีตั้งแต่รับสาย และยืนดูเธอเดินวนคิดเป็นหนูติดจั่นแบบนี้มาครึ่งชั่วโมงแล้ว เธอไม่กล้าออกมา เพราะเธอกลัวว่าถ้าเขารู้เรื่องเข้า เขาจะทำอย่างไร สุดท้ายสิ่งที่เขาทำ คือ จูบหน้าผากของเธอ “ผมเชื่อคุณ… ไม่ต้องอธิบายอะไร ผมก็เชื่อคุณ”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท