เมียหวานของประธานเย็นชา – ตอนที่ 382

ตอนที่ 382

บทที่ 382 พูดตรงกันข้าม

เจียงหยู่เทียนก้มหน้าลงเช็ดน้ำตาที่ไม่ได้มีอยู่จริง

“เรื่องพวกนี้ คุณไปถามใครๆก็รู้ทั้งนั้น ต่อมาคุณสังเกตได้ถึงความทะเยอทะยานของเธอ จึงซ่อนฉันที่กำลังตั้งครรภ์อยู่เอาไว้ และตอนที่ไฟไหม้ เพื่อที่จะช่วยฉัน คุณถึงได้รับบาดเจ็บไงคะ”

เธอยื่นมือออกมาจับตัวจี้จิ่งเชินเอาไว้

“คุณอย่าไปเชื่อเธออีกนะคะ ถึงตอนนั้นเธอจะต้องตั้งใจแต่งเรื่องโกหกคุณอีกแน่ๆ จริงๆแล้วจุดประสงค์จริงๆของเธอ ก็คือต้องการจะฆ่าปิดปากคุณต่างหากค่ะ!”

จี้จิ่งเชินรู้สึกตกใจกับเรื่องที่เจียงหยู่เทียนบอกเขาเมื่อครู่นี้มาก โดยที่ไม่ได้สังเกตเห็นเลยว่า กำลังถูกเธอดึงมือเอาไว้อยู่

เขาขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย แล้วดึงมือกลับมา ในหัวของเขากลับเอาเรื่องนี้มาเชื่อมโยงกับผู้หญิงคนนั้นได้ยากมากเหลือเกิน

“ผมรู้แล้วครับ” เขาเอ่ยพูดออกมาอย่างเรียบๆ แล้วหันกลับเข้าห้องของตัวเองไป

เจียงหยู่เทียนมองเขาเดินเข้าไปในห้อง ในใจกลับยังคงรู้สึกไม่วางใจอยู่บ้าง

เธอไม่คิดว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนจะตามหาตัวพวกเธอได้เร็วขนาดนี้

ถ้าหากเวินเที๋ยนเที๋ยนลงมือทำอะไร หรือจู่ๆความทรงจำของจี้จิ่งเชินก็ฟื้นคืนมานั้นก็คงจะแย่น่าดู

เธอเดินไปเดินมาอย่างร้อนใจ ลังเลอยู่พักหนึ่ง ถึงได้หยิบกระเป๋าขึ้น แล้วออกไปอย่างเงียบๆ

เวินเที๋ยนเที๋ยนถูกไล่ออกมา ทำให้ตอนนี้เธอรู้สึกตกตะลึงเป็นอย่างมาก

จี้จิ่งเชินจำเธอไม่ได้แล้ว

มิน่าล่ะ เขาถึงไม่มาหาเธอ

มิน่าล่ะ แววตาของเขาถึงได้ดูเรียบเฉย ไม่มีการหวั่นไหวใดๆเลย

เธอนั่งอยู่ในรถ ศีรษะพิงกระจก สายตามองต่ำลงเล็กน้อย ไม่รู้ว่ากำลังมองอะไรอยู่

จงหลีนั่งอยู่ตรงตำแหน่งคนขับรถ แล้วหันมามองคนที่อยู่ทางด้านหลังด้วยความรู้สึกกังวล

จี้จิ่งเชินความจำเสื่อมก็ทำให้เขารู้สึกตกใจมากเช่นกัน แต่ทำไม ตอนที่รู้ว่าเขาลืมเวินเที๋ยนเที๋ยนไปแล้วนั้น ในก้นบึ้งหัวใจของเขานั้น กลับรู้สึกดีใจขึ้นมา

นึกถึงความรู้สึกตอนนั้นแล้ว แม้แต่ตัวจงหลีเอง ก็ขมวดคิ้วขึ้นมาด้วยความไม่ชอบใจเท่าไหร่นัก

ทำไมเขาถึงได้มีความคิดเช่นนี้……

“จงหลี”

จู่ๆเวินเที๋ยนเที๋ยนที่นั่งอยู่ทางด้านหลังจึงร้องเรียกเขาขึ้นมา

“ครับ คุณเวิน”

จงหลีเงยหน้าขึ้นมามอง กลับสบตาเวินเที๋ยนเที๋ยนในกระจกเข้าพอดี

เธอเอ่ยพูดขึ้น : “ก่อนหน้านี้จี้จิ่งเชินเคยบอกไว้ ว่าได้จัดสถานที่ให้กับเจียงหยู่เทียนแล้ว คือที่ไหนหรือคะ?”

คือบ้านตระกูลจี้หรือเปล่า?

แววตาที่เฉียบแหลมของเวินเที๋ยนเที๋ยนมองเขา

จงหลีเม้มปาก และในที่สุดจึงพยักหน้าลง

“ตอนช่วงนั้น เจียงหยู่เทียนอยู่ที่คฤหาสน์จริงๆครับ แต่ไม่ได้มีเพียงแค่เธอ ยังมีจี้ยี่หยันกับฉวีช่วยฉินที่อยู่ในนั้นด้วยครับ”

เขามองดูแววตาที่ดูตื่นตะลึงของเวินเที๋ยนเที๋ยน ขมวดคิ้วแล้วเอ่ยขึ้น : “แต่พวกเขาถูกขังอยู่ในห้องใต้ดิน คงจะไม่ใช่….”

จงหลียังพูดไม่ทันจบ แต่ก็ชัดเจนมากแล้ว

เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินแล้ว อารมณ์ของเธอนั้นยิ่งมัวหมองหนักขึ้นกว่าเดิม

จี้จิ่งเชินเคยบอกไว้ ว่าเมื่อก่อนเขากับแม่ถูกขังไว้ในห้องใต้ดินของตระกูลจี้เป็นเวลาถึงแปดปี

พวกเขาเองก็คงจะถูกขังไว้ในนั้นเหมือนกันสินะ?

ถึงแม้จะไม่รู้ว่าเจียงหยู่เทียนพบกับจี้จิ่งเชินได้อย่างไร แต่เวินเที๋ยนเที๋ยนก็จะไม่ยอมปล่อยให้เธออยู่ข้างๆกายจี้จิ่งเชินไปตลอดอยู่แบบนี้

แล้วยังมีเรื่องเด็กคนที่อยู่ในท้องเธออีก ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่?

จงหลีมองเธอจากกระจกมองหลัง

“พวกเราควรทำอย่างไรกันดีครับ?”

เวินเที๋ยนเที๋ยนสูดหายใจเข้า แล้วทำให้ตัวเองมีกำลังใจขึ้นมา

“จี้จิ่งเชินลืมได้ ฉันเองก็จะทำให้เขาจำขึ้นมาใหม่ให้ได้ นึกถึงฉัน นึกถึงเรื่องราวทั้งหมด”

สายตาที่บ่งบอกถึงความเป็นคนแปลกหน้าของจี้จิ่งเชินที่มองมาเมื่อครู่นี้ ทำให้เธอไม่สามารถทนรับได้แล้ว

จงหลีเอ่ยขึ้นด้วยความสงสัย : “แต่จะได้หรือครับ?”

“ความทรงจำที่อยู่ในหัวอาจจะหายไปได้ แต่สิ่งที่อยู่ในจิตวิญญาณ ไม่มีทางลบออกไปได้หรอกนะคะ เขาเพียงแค่จำไม่ได้ชั่วคราวเท่านั้น”

จงหลีได้ยินคำพูดนี้แล้ว รู้สึกอึ้งไปเล็กน้อย แล้วเงยหน้าขึ้นมามอง

แววตาของเวินเที๋ยนเที๋ยนมีความมุ่งมั่น ราวกับเปล่งประกายส่องแสงออกมา

ชั่วขณะนั้นในใจของเขาเกิดความรู้สึกอิจฉาขึ้นมา

ถึงแม้จะหายสาบสูญ หรือแม้กระทั่งตาย ก็มีคนที่รอคอยเขาด้วยความเต็มใจ

ถึงแม้จะความจำเสื่อม ลืมทุกอย่างไปแล้ว ก็มีเวินเที๋ยนเที๋ยนที่พร้อมจะทำทุกวิถีทางเพื่อปลุกให้เขาตื่นขึ้นมา

จี้จิ่งเชิน ช่างโชคดีเสียจริงๆ

เขาฝืนยิ้มออกมา

เมื่อไหร่ถึงจะมีคนที่ปฏิบัติกับเขาแบบนี้บ้าง?

วันถัดมา เวินเที๋ยนเที๋ยนต่อสายตรงโทรหาจี้จิ่งเชิน

เดิมทีรู้สึกกังวลว่าอีกฝ่ายนั้นจะไม่ยอมออกมา แต่ไม่คิดว่าเมื่อเธอออกปากไปนั้น จี้จิ่งเชินก็ยอมขึ้นมาทันที

รถของเวินเที๋ยนเที๋ยนจอดอยู่ทางด้านล่างตึก เห็นรถเข็นของจี้จิ่งเชินที่เคลื่อนออกมาจากด้านในแล้ว สายตาก็มองไปยังขาทั้งสองข้างของเขา

เธอยังไม่ได้ถามเขาเลย ว่าทำไมขาทั้งสองข้างของจี้จิ่งเชินถึงได้กลายเป็นแบบนี้

จี้จิ่งเชินราวกับว่าสังเกตเห็นถึงสายตาของเธอ จึงเอ่ยขึ้น : “ตอนที่ผมฟื้นขึ้นมาก็เป็นแบบนี้แล้วครับ”

ในใจของเวินเที๋ยนเที๋ยนรู้สึกเจ็บปวด

“คงจะได้รับบาดเจ็บตอนที่ไฟไหม้”

จี้จิ่งเชินถูกคานไม้หล่นลงมาทับ ภาพที่เขานอนจมอยู่ในกองเพลิงนั้นลอยเข้ามาในหัวของเธออีกครั้ง

เธอไม่สามารถช่วยจี้จิ่งเชินออกมาจากกองเพลิงนั้นได้ และยิ่งไม่สามารถปรากฏตัวอยู่ข้างๆเขาในตอนที่เขาฟื้นขึ้นมาได้อีกด้วย

ตอนนั้น ใครกันที่อยู่ข้างๆเขา?

“ตอนที่พี่ฟื้นขึ้นมา…..”

เธอพูดไปได้เพียงครึ่งเดียว แต่ราวกับว่าตรงลำคอของเธอนั้นเหมือนมีอะไรมาจุกอยู่ ทำให้ไม่สามารถเอ่ยพูดออกไปได้เลย

แต่ราวกับว่าเขารู้ในสิ่งที่เธอต้องการจะถาม

จึงตอบกลับด้วยน้ำเสียงฟังดูเรียบๆ : “เจียงหยู่เทียนเป็นคนพาผมกลับมา”

“อย่างนั้นหรือคะ….”

มุมปากของเวินเที๋ยนเที๋ยนกระตุก ปรากฏให้เห็นรอยยิ้มฝืนๆขึ้นมา

ทั้งสองคนขึ้นรถ แล้วนั่งตรงที่นั่งตรงเบาะทางด้านหลัง

ทั้งๆที่เป็นแม้แต่ความฝันที่เธออยากจะให้เป็นจริงมาตลอดในช่วงสองสามเดือนมานี้ แต่ตอนนี้ เห็นสายตาที่ดูห่างเหินของจี้จิ่งเชินแล้ว เธอกลับไม่รู้สึกดีใจเลย

“ฉันจะพาพี่ไปที่คฤหาสน์ก่อนนะคะ บางทีพี่อาจจะนึกอะไรขึ้นมาได้ ก่อนหน้านี้พี่อยู่ที่นั่นมาตลอด”

“คฤหาสน์?”

จี้จิ่งเชินหันมา “ผมคิดว่าคุณจะไปร้านอาหารเสียอีก”

เวินเที๋ยนเที๋ยนยิ้ม สังเกตเห็นแววตาของเขา รอยยิ้มกลับดูแข็งทื่อ

“พ่อบ้านกับแม่ครัวพวกเขารู้ว่าพี่กลับมาแล้ว ก็อยากจะเจอพี่มาตลอดเลยนะคะ”

ว่าแล้วนั้น ก็เห็นว่าจี้จิ่งเชินไม่มีปฏิกิริยาอะไรตอบกลับมา

เธอจึงเอ่ยพูดเพียงว่า : “ฉันไม่รู้ว่าเจียงหยู่เทียนพูดอะไรกับพี่บ้างในช่วงนี้ แต่ฉันคิดว่า ฉันจะต้องบอกความจริงกับพี่”

จี้จิ่งเชินหันมามองเธอ เพื่อเป็นการบอกว่าเขาจะฟัง

เวินเที๋ยนเที๋ยนถึงได้เอ่ยขึ้น : “ตอนที่ตระกูลจี้เกิดเหตุไฟไหม้ พี่ถูกติดอยู่ในกองเพลิงนั้นจนได้รับบาดเจ็บ เรื่องนี้เป็นฝีมือของตระกูลเวินจริงๆ แต่เรื่องราวไม่ได้เป็นไปอย่างที่เจียงหยู่เทียนบอกพี่นะคะ ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาฉันไม่เคยทำร้ายพี่…..”

ท่าทางของจี้จิ่งเชินมองดูแล้วเงียบๆไป พลางเอ่ยถามขึ้น : “เธอบอกกับผม ว่าตอนนี้บริษัทเอ็มไอกรุ้ปและคฤหาสน์เป็นชื่อของคุณไปแล้ว?”

เมื่อวานนี้จี้จิ่งเชินสืบหาข้อมูลเรื่องนี้ในอินเตอร์เน็ตแล้วรอบหนึ่ง แล้วเอาตัวเองกับจี้จิ่งเชินที่ตายไปคนนั้นกลับมารวมเข้าด้วยกันใหม่ แต่ในใจกลับมีข้อสงสัยมากมาย

“นั่น….นั่นเป็นก่อนที่พี่จะเกิดเรื่อง ตัดสินใจโอนมาให้ฉันค่ะ ฉันกังวลว่าจะถูกคนตระกูลเวินแย่งเอากิจการของพี่ไป ถึงได้โอนมาเป็นชื่อของฉันชั่วคราว”

เวินเที๋ยนเที๋ยนมองดูท่าทางของเขา ในใจกลับรู้สึกหงุดหงิดและไม่สบายใจ

เธอมาช้ากว่าเจียงหยู่เทียนไปก้าวหนึ่ง จี้จิ่งเชินเลือกที่จะเชื่อเจียงหยู่เทียนหรือเปล่ากัน?

“สัญญาที่ผมทิ้งเอาไว้เอง? แล้วทำไมเมื่อก่อนคุณถึงไม่ยอม แต่กลับมายอมตอนหลังจากที่ผมตายไปแล้วล่ะ?”

“ฉันถูกบีบจนไม่มีทางเลี่ยงแล้วค่ะ”

เมียหวานของประธานเย็นชา

เมียหวานของประธานเย็นชา

Status: Ongoing

“คุณจะคิดแบบนี้ไปถึงเมื่อไรถึงจะกลับบ้านได้?” จี้จิ่งเชินพูดออกมาอย่างจนใจ เขารีบมาที่นี่ทันทีตั้งแต่รับสาย และยืนดูเธอเดินวนคิดเป็นหนูติดจั่นแบบนี้มาครึ่งชั่วโมงแล้ว เธอไม่กล้าออกมา เพราะเธอกลัวว่าถ้าเขารู้เรื่องเข้า เขาจะทำอย่างไร สุดท้ายสิ่งที่เขาทำ คือ จูบหน้าผากของเธอ “ผมเชื่อคุณ… ไม่ต้องอธิบายอะไร ผมก็เชื่อคุณ”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท