เมียหวานของประธานเย็นชา – ตอนที่ 432

ตอนที่ 432

บทที่ 432 เด็กคนนั้นตายไปแล้วนี่นา

ในหัวของเจียงหยู่เทียนกำลังตีกันให้ยุ่งเหยิง

ไม่ได้นอนมาทั้งคืน อีกทั้งยังตกใจเกินขนาด ทำให้ความรู้สึกนึกคิดของเธอไม่สามารถรวมศูนย์กันได้

เธอก้มหน้าคิดอยู่สักพัก

“ ฉัน……ฉัน…… ”

กลับพูดไม่ออก

“ หลังจากที่เธอหนีออกไปแล้ว ก็เห็นจากทางหน้าต่างว่าคุณกำลังจุดเพลิง ไม่ได้หรือไง? ”

เจียงหยู่เทียนพูดไม่ออก เวินหงไห่ที่อยู่ข้างๆก็พูดโต้แย้งขึ้นมาอย่างอดไม่ได้

จี้จิ่งเชินรู้อยู่แล้วว่าเขาจะต้องพูดขึ้นมา เขาจึงยิ้มเล็กน้อย

“ คุณชายรองของตระกูลเวินครับ พอพูดถึงเรื่องนี้ ทำไมผมถึงได้ยินคนพูดว่าตอนที่บ้านตระกูลจี้เกิดไฟไหม้ เขาได้เห็นบอดี้การ์ดของตระกูลเวินมาโผล่อยู่ที่บริเวณรอบๆล่ะครับ? ถึงขนาดที่มีคนขับแท็กซี่คนนึงกำลังจะแจ้งตำรวจว่าเกิดไฟไหม้ แต่กลับถูกบอดี้การ์ดของตระกูลเวินขัดขวางไว้เสียก่อน มันเกิดอะไรขึ้นกันครับ? ”

จี้จิ่งเชินพูดอย่างไม่รีบร้อน เขาหันกลับมา แต่สายตากลับค่อยๆเปลี่ยนเป็นแหลมคมขึ้น

“ ในเมื่อตอนนั้นคนของตระกูลเวินอยู่แถวนี้ ทำไมเห็นไฟไหม้แล้วถึงไม่แจ้งตำรวจ ไม่พูดอะไรล่ะครับ ถึงขนาดที่ขัดขวางคนที่จะเข้ามาช่วย ยังปิดกั้นทางสัญจรด้านในและด้านนอก แถมยังไม่อนุญาตให้คนเข้าไปใกล้ ไม่อนุญาตให้รถดับเพลิงมาดับไฟอีกด้วย ”

“ ไฟลุกไหม้ตลอดทั้งวันถึงจะดับลง ในระหว่างที่ไฟไหม้นั้น ไม่มีพนักงานดับเพลิงผ่านมาเลยสักคนเดียว ”

เรื่องนี้ไม่ได้ถือว่าเป็นความลับอะไรในเมืองหลวง

อาจเป็นเพราะสาเหตุนี้ ถึงได้มีคนเล่าต่อๆกันว่า เหตุการณ์ไฟไหม้ของตระกูลจี้เกี่ยวข้องกับตระกูลเวิน

เวินหงไห่ฟังเสร็จ สีหน้าของเขาก็ค่อยๆเปลี่ยนไปเล็กน้อย

“ ไม่ไปดับไฟนั้นมันหน้าที่ของพนักงานดับเพลิง เกี่ยวอะไรกับตระกูลเวินล่ะ? อีกอย่าง คุณรู้ได้ไงว่าคนที่พูดกล่อมให้คนขับรถคนนั้นออกไปคือคนของตระกูลเวิน? พูดอะไรต้องมีหลักฐานด้วย ”

“ หลักฐานมีแน่ ”

จี้จิ่งเชินพูดนิ่งๆ “ และง่ายมาก เพียงแค่เรียกพวกบอดี้การ์ดข้างกายคุณให้เข้ามา และทำการแยกแยะ คราวนี้ก็สามารถแยกแยะออกแล้ว ”

พูดจบ เขาก็เงยหน้าขึ้น และชำเลืองไปที่บอดี้การ์ดคนที่ยืนอยู่ด้านหลังของเวินหงไห่คนนั้นนิดหน่อย

คนคนนั้นเป็นคนที่โผล่มาวันนั้น และเป็นคนที่ไล่คนขับรถแท็กซี่ให้ออกไป

ฝ่ายนั้นสังเกตเห็นสายตาของเขา ก็ได้ก้าวถอยหลังไปเล็กน้อย เพื่อหลบหลีกสายตาแหลมคมนั้น

เวินหงไห่ที่นั่งอยู่ตรงหน้าเขากลับมีสีหน้าเปลี่ยนไป

“ ถ้าคุณมีหลักฐาน ผมจะยอมให้ความร่วมมือ และให้ตรวจสอบ ต่อให้เหตุการณ์ไฟไหม้นั้นมีเลศนัย แต่เด็กคนนั้น…… ”

“ เด็กคนนั้นเป็นใครกันแน่ล่ะ……เจียงหยู่เทียน หรือว่าตัวคุณเองยังไม่รู้หรอ? ”

เขาค่อยๆหันกลับมา สายตาของเขาผ่านเวินหงไห่ ไปหยุดอยู่ที่เจียงหยู่เทียนที่มีสีหน้าขาวซีด

“ เป็นคุณแน่นอน! ”

เจียงหยู่เทียนรีบพูดโต้แย้งทันที

“ ใช่หรอ? ทำไมผมจำได้ว่าเมื่อก่อนคุณไม่ได้พูดแบบนี้ล่ะ? ”

พูดจบ จี้จิ่งเชินก็หันไปมองพ่อบ้านเล็กน้อย

วินาทีต่อมา ในสถานที่ประชุมก็มีเสียงสารภาพผิดกับเสียงหวีดร้องของเจียงหยู่เทียนตอนที่อยู่ในโรงแรมเมื่อคืนดังขึ้น

“ ไม่ใช่ฉัน! ไม่ใช่ฉัน! เวินหงไห่เขาให้ฉันทำแบบนี้! ”

“ ถ้าไม่ใช่จี้ยี่หยันไอ้คนบ้านั้น ก็คงจะไม่เป็นแบบนี้! ”

“ ฉันไม่ได้ตั้งใจทำร้ายแก ถ้าแกมีเรื่องอะไรก็ไปหาเวินหงไห่นู่น…… ”

เสียงของเจียงหยู่เทียนดังสะท้อนอยู่ในสถานที่ประชุม ทุกคนหูผึ่งและตั้งใจฟังทันที

ปัง!

เสียงกะทันหันนั้นดังขัดจังหวะความคิดของทุกคน!

ในขณะเดียวกัน ทุกคนก็หันกลับมา เห็นเวินหงไห่มีสีหน้าที่ดูไม่สู้ดีสักเท่าไหร่ สองมือของเขายังวางค้างอยู่บนโต๊ะ

เสียงเมื่อสักครู่ เป็นเขาเองที่ตบลงไปบนโต๊ะ และเกิดเป็นเสียงขึ้น

สีหน้าของเขาเคร่งเครียด มองมาด้วยแววตาโมโห

“ นี่มันหลักฐานอะไร? จี้จิ่งเชิน นายตั้งใจแกล้งพวกเราเล่นใช่ไหม? ไม่มีหลักฐานที่แน่ชัดก็ยอมรับมาเถอะ! ”

ถ้าเทียบกัน ท่าทางของจี้จิ่งเชินกลับใจเย็นมากกว่า

“ นี่เป็นหลักฐานแน่นอน ”

เขาชำเลืองมองเวินหงไห่ และพูดขึ้น: “ แต่วิธีที่ดีที่สุดก็คือพิสูจน์ด้วยตัวเองว่าพ่อเด็กเป็นใคร ทุกคนคงเข้าใจดี ”

เขาคิดว่าจี้จิ่งเชินจะเอาหลักฐานอะไรออกมา ไม่คิดว่าจะเป็นอันนี้

เขาจึงหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา

“ คุณเอาอะไรมาพิสูจน์? ตอนนี้เด็กได้ตายไปแล้ว ตรวจสอบไม่ได้แล้ว หรือคุณจะพิสูจน์กับวิญญาณล่ะ? ”

พูดจบ เขาก็หัวเราะเยาะจี้จิ่งเชิน

แต่เจียงหยู่เทียนที่ยืนอยู่ข้างๆ พอได้ยินคำว่าผี กลับตัวสั่นขึ้นมาทันที

ตอนนี้เธอเงยหน้าขึ้นมาอย่างกะทันหัน เห็นเงาคนเคลื่อนผ่านไปจากที่ไม่ไกลออกไป

เจียงหยู่เทียนเบิกตาโตขึ้น และอารมณ์บนใบหน้าของเธอก็ได้แข็งทื่อไปทันที

เธออ้าปากพูดไม่ออกอยู่สักพักใหญ่

คนบริเวณรอบๆกลับไม่รับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงของเธอ

เจียงหยู่เทียนเบิกตาโต เธอกระพริบตามองไปที่ที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล

ผ่านไปสองสามวินาที ก็มีเงาคนเดินผ่านไปอีกครั้ง

ครั้งนี้ เธอเห็นรูปร่างของฝ่ายนั้นอย่างชัดเจน

นั้นมันเวินเที๋ยนเที๋ยน!

และเธอกำลังอุ้มเด็กคนนึงอยู่!

เด็ก!

เจียงหยู่เทียนตาโต รูม่านตารัดเข้าหากันจนเป็นจุดสีดำ

“ อ๊ะ―― ”

เสียงหวีดร้องแสบหูดังทะลุเข้าไปในเยื่อแก้วหูของทุกคนอย่างกะทันหัน และเข้าไปจนถึงเส้นประสาท

ทุกคนล้วนสะดุ้งตกใจ ในขณะเดียวกันก็หันกลับมา

เห็นเพียงท่าทางเหมือนเห็นผีของเจียงหยู่เทียน เธอตกจากบนเก้าอี้ลงไปนั่งอยู่ที่พื้น ตาจ้องมอง และสองเท้าก้าวถอยหลัง

“ อย่าเข้ามา! อย่าเข้ามานะ! ”

“ ไม่ใช่ความผิดของฉัน ฉันไม่ได้ฆ่าแก เป็นเวินหงไห่ เป็นเขาที่ฆ่าแก! ”

“ ไม่ใช่ความผิดของฉัน…… ”

น้ำเสียงของเธอไม่ได้ดังมาก แต่ทุกคนล้วนได้ยินอย่างชัดเจน ที่เธอพูดออกมาตอนนี้ เหมือนกับในคลิปเสียงที่เพิ่งเปิดเมื่อสักครู่เลย

นักข่าวทุกคนมองเธออย่างตกใจ

เมื่อสักครู่เจียงหยู่เทียนพูดอะไร?

เวินหงไห่ฆ่าเด็กคนนั้น?

เกิดอะไรขึ้นกัน?

ทุกคนแทบจะหันไปมองเขาสักเดี๋ยวนั้น เห็นเพียงเวินหงไห่ที่มีสีหน้าดูไม่ได้ หน้าดำคร่ำเครียดเหมือนก้นหม้อ

“ เธอพูดเหลวไหลอะไรน่ะ? ”

เขาดึงเจียงหยู่เทียนขึ้นมาจากพื้น

แต่เจียงหยู่เทียนกลับตะเกียกตะกายเหมือนคนบ้า เธอหวีดร้อง และอ้าปากกัดลงไปบนแขนของเขา

ในที่สุดก็สลัดออกมาได้

“ อย่าเข้ามา! อย่าเข้ามานะ! ”

ตอนนี้ สถานที่ประชุมวุ่นวายไปหมดแล้ว

มีนักข่าวบางคนดึงสติกลับมาได้ จึงรีบหยิบกล้องถ่ายภาพในมือขึ้นมา และเก็บภาพบรรยากาศนี้ไว้

เวินหงไห่เห็นสถานการณ์นี้ ก็รู้ว่าสามารถทำให้เรื่องมันบานปลายไปมากกว่านี้ เขาจึงรีบส่งสายตาให้บอดี้การ์ดข้างกายทันที

บอดี้การ์ดสองคนเดินขึ้นมาจะจับเจียงหยู่เทียน พวกเขาเพิ่งจะได้จับมือของเธอ เจียงหยู่เทียนก็ตะเกียกตะกาย ทั้งเตะ ทั้งต่อย

และสลัดพวกเขาออกไปได้ในที่สุด หลังจากนั้นเธอก็วิ่งหวีดร้องออกไปด้านนอก

เหล่าบรรดาบอดี้การ์ดพากันตามไป และรีบพากันออกไปอย่างรวดเร็ว

ตอนนี้ พวกนักข่าวอยากตามออกไปด้วย อยากขัดขวางเจียงหยู่เทียนไว้ เพื่อจะได้ถามเรื่องที่เกี่ยวกับเหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งนั้นกับเรื่องเด็กมากกว่านี้

แต่ยังไม่ได้ออกไป ก็ถูกคนของจี้จิ่งเชินดักไว้เสียก่อน

“ ทุกท่านอย่าเพิ่งไปครับ ”

“ ละครฉากสำคัญของวันนี้ยังไม่ได้เริ่มเลย…… ”

ทุกคนหันกลับมามองอย่างสงสัย กลับเห็นเวินเที๋ยนเที๋ยนเดินเข้ามาจากอีกทางของสถานที่ประชุม

ในอ้อมกอดของเธอเหมือนกำลังอุ้มอะไรไว้อยู่……

ทุกคนจ้องมองก็พบว่านั่นคือเด็ก!

เวินเที๋ยนเที๋ยนอุ้มเด็กคนนึงไว้อยู่ในอ้อมกอด!

เห็นภาพเหตุการณ์นี้ ใบหน้าของคนดูก็เต็มไปด้วยความสงสัย

มีเพียงเวินหงไห่ที่มีสีหน้าเปลี่ยนไป และมองเธออย่างตกตะลึง

เด็กคนนั้น……

เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้อย่างเด็ดขาด

เด็กคนนั้นตายไปแล้วนี่นา!

เมียหวานของประธานเย็นชา

เมียหวานของประธานเย็นชา

Status: Ongoing

“คุณจะคิดแบบนี้ไปถึงเมื่อไรถึงจะกลับบ้านได้?” จี้จิ่งเชินพูดออกมาอย่างจนใจ เขารีบมาที่นี่ทันทีตั้งแต่รับสาย และยืนดูเธอเดินวนคิดเป็นหนูติดจั่นแบบนี้มาครึ่งชั่วโมงแล้ว เธอไม่กล้าออกมา เพราะเธอกลัวว่าถ้าเขารู้เรื่องเข้า เขาจะทำอย่างไร สุดท้ายสิ่งที่เขาทำ คือ จูบหน้าผากของเธอ “ผมเชื่อคุณ… ไม่ต้องอธิบายอะไร ผมก็เชื่อคุณ”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท