เมียหวานของประธานเย็นชา – บทที่ 606 การแข่งประมูลเป็นโมฆะ

บทที่ 606 การแข่งประมูลเป็นโมฆะ

บทที่ 606 การแข่งประมูลเป็นโมฆะ

ใครๆก็รู้ว่าก่อนหน้านั้นบริษัทเอ็มไอกรุ้ปได้เคยประสบความล้มเหลวครั้งใหญ่มาก่อน จึงมีหลายคนคิดว่าภายใต้สถานการณ์แบบนี้ บริษัทเอ็มไอกรุ้ปในตอนนี้จึงไม่มีศักยภาพที่จะไปต่อต้านกับตระกูลเวิน แต่ไม่คิดว่า ตอนนี้บริษัทเอ็มไอกรุ้ปจะเผยท่าทางที่สูสีกับตระกูลเวินออกมา

ผ่านไปสักพัก ทั้งสองคนก็เสนอราคาสูงถึงแปดพันล้านเลยทีเดียว!

ขณะนี้ท่าทางของจี้จิ่งเชินยังดีไม่มีหยุด แม้แต่สีหน้าของเวินหงไห่ก็ยังเปลี่ยนไปเป็นไม่ค่อยสู้ดีนัก

จำนวนที่เพิ่มขึ้นค่อยๆผ่อนคลายลง ไม่รุนแรงเหมือนช่วงก่อนแล้ว และจี้จิ่งเชินที่นั่งอยู่อีกฝั่งกลับมีสีหน้านิ่งๆ ไม่กระวนกระวายแม้แต่นิดเดียว

ขณะนี้สีหน้าของเวินหงไห่ค่อยๆตึงเครียดขึ้น เห็นทีว่าราคาที่เขาเสนอมานั้นใกล้จะถึงขีดจำกัดเสียแล้ว

ถ้าไม่เกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น โครงการของการแข่งประมูลครั้งนี้ก็คงต้องตกเป็นของบริษัทเอ็มไอกรุ้ป

และตอนนี้ จี้จิ่งเชินก็เสนอราคาให้สูงขึ้นอีกครั้ง

ครั้งนี้ สีหน้าของเวินหงไห่ดูไม่ได้ไปโดยสิ้นเชิง เขาเม้มปากแน่น กำปั้นที่สองมือกำเข้าหากันแน่นวางอยู่บนพนักรองแขน และเขาก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาสักพักใหญ่

ฝ่ายผู้จัดงานเคาะค้อนอันเล็กในมือด้วยสีหน้าที่ตื่นเต้น

“ เก้าพันล้านครั้งที่หนึ่ง! ครั้งที่สอง…… ”

ผ่านการเคาะครั้งแล้วครั้งเล่า คนที่อยู่ในที่ประชุมทุกคนก็พากันกลั้นหายใจทันที

ขณะนี้การแข่งประมูลครั้งนี้กำลังจะตกอยู่ในกำมือของจี้จิ่งเชินแล้ว ฝ่ายจัดงานผายมือขึ้นเป็นครั้งที่สาม

ในขณะที่ค้อนค่อยๆตกลงมา อยู่ๆก็เกิดเสียงดังปัง อยู่ๆประตูใหญ่ที่ปิดอย่างแน่นหนาก็ถูกคนเปิดออกอย่างกะทันหัน

การกระทำของฝ่ายจัดงานจึงหยุดลงทันที เขาเงยหน้าขึ้นมอง

คนอื่นๆได้ยินเสียง ก็หันไปมองที่ประตูพร้อมๆกัน และเห็นชายวัยกลางคนที่สวมใส่ชุดทหารยืนอยู่ที่ประตู บนตัวของเขาเต็มไปด้วยพลัง และมีเหรียญรางวัลมากมายแขวนไว้อยู่ที่หน้าอกเต็มไปหมด

เขาเม้มปาก สายตาของเขาแหลมคม และดูเคร่งขรึมมาก หลังจากนั้นเขาก็กวาดสายตามองไปรอบๆห้องประชุม

คนนั้นใส่อินทรธนู ไม่คิดว่าจะเป็นตำแหน่งพลโท และสูงกว่าตำแหน่งของฝ่ายจัดงานอีกต่างหาก

พอเขาโผล่มา สถานที่ประชุมก็เงียบลงทันที ไม่มีใครกล้าพูดอะไร

พลโทไม่พูดอะไร เขาเดินก้าวยาวๆมาที่บนเวที

ฝ่ายจัดงานเห็นเขาขึ้นมา ก็รีบยืนตรงและทำความเคารพเขาด้วยท่าทางเคารพทันที

คนนั้นทำเพียงแค่พยักหน้า หลังจากนั้นก็ดึงฝ่ายจัดงานไปด้านข้าง และพูดกับเขาเสียงเบา

เห็นเพียงฝ่ายจัดงานมีสีหน้าลำบากใจนิดหน่อย เขาลังเลสักครู่ถึงจะพยักหน้า หลังจากนั้นก็ส่งค้อนในมือให้กับพลโทที่เพิ่งมาใหม่

ทุกคนมองการเปลี่ยนแปลงตรงหน้าอย่างงุนงง กำลังคิดว่าเกิดอะไรขึ้น ก็เห็นพลโทที่เพิ่งมาใหม่คนนั้นหยิบค้อน และเดินมาตรงกลางเวทีเสียแล้ว

สายตาแหลมคมของเขามองไปทั่วห้องประชุม ทุกคนถูกสายตาของเขาจับจ้องและไม่มีใครกล้าพูดอะไร

คนนั้นพูดด้วยเสียงทุ้ม: “ ผมเป็นผู้ดำเนินการแข่งประมูลต่อจากนี้ ”

พอเขาพูด ในใจของทุกคนก็เต็มไปด้วยความไม่เข้าใจ นี่เป็นครั้งแรกที่เห็นการประมูลเปลี่ยนผู้ดำเนินกลางคันแบบนี้

แต่พอเผชิญหน้ากับพลโทที่มีอำนาจยิ่งใหญ่ตรงหน้า ก็ทำให้ไม่มีใครกล้าคัดค้านอะไร

จี้จิ่งเชินเห็นพลโทโผล่มา เขาก็ขมวดคิ้วนิดหน่อย

ทว่าอีกฝั่ง เวินหงไห่ที่เดิมทีได้พ่ายแพ้ไปแล้วพอเห็นการมาของพลโท เขากลับเผยท่าทางโล่งใจขึ้นทันที แม้แต่สองมือที่กำเข้าหากันแน่นก็ค่อยๆคลายออกเช่นกัน มุมปากของเขายกขึ้นนิดหน่อย ราวกับมีความมั่นใจอีกครั้ง

นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?

ตอนที่เวินเที๋ยนเที๋ยนกำลังไม่เข้าใจ ก็ได้ยินเสียงพลโทคนนั้นพูดขึ้น

“ การแข่งประมูลเมื่อสักครู่เป็นโมฆะ ตอนนี้เริ่มใหม่อีกครั้ง ”

คำพูดประโยคนี้ได้ยกเลิกความพยายามก่อนหน้านั้นทั้งหมดไปจนหมดสิ้น ทุกคนจึงอดไม่ได้ที่หายใจสะดุด

เดิมที การแข่งประมูลครั้งนี้ได้เข้าใกล้ช่วงสุดท้ายแล้ว ใครๆก็รู้ว่าจี้จิ่งเชินกลายเป็นผู้ชนะในการแข่งประมูลครั้งนี้

แต่ไม่คิดว่า เพราะคำพูดของเขาประโยคเดียวกลับต้องเริ่มใหม่อีกครั้ง

อีกทั้งคนนั้นก็ยังไม่หยุดพูด กลับพูดต่อ: “ สำหรับกฎเกณฑ์ในการแข่งประมูลก็มีการแก้ไขด้วยเช่นกัน ”

เขาไม่สนใจความไม่เข้าใจกับความสงสัยของทุกคนแม้แต่นิดเดียว แถมยังพูดออกมาเสียงดังว่าจะแก้ไขกฎการแข่งขัน

“ เพราะโครงการครั้งนี้ไม่ธรรมดา ดังนั้น กฎการแข่งประมูลก็ต้องเพิ่มกฎใหม่เข้าไปในพื้นฐานเดิมด้วยเช่นเดียวกัน นอกจากราคาในการแข่งประมูลแล้ว บริษัททุกบริษัทที่เข้าร่วมการแข่งประมูลก็ต้องบรรยายแผนงานกับความคิดของบริษัทตัวเองด้วย และผู้ตัดสินจะทำการเลือกคนที่เหมาะสมที่จะปฏิบัติโครงการนี้ ”

เพิ่งพูดเสร็จ ในห้องประชุมก็เงียบสนิท

ถึงแม้ว่าจะไม่มีใครแสดงความไม่พอใจอะไร แต่เห็นได้อย่างชัดเจนว่า พอทุกคนได้ฟังก็รู้ได้ทันทีว่ายังมีช่องโหว่มากมายในกฎใหม่นี้

แผนงานที่เพิ่งเริ่มยังถือว่ายุติธรรม แต่ตอนนี้กลับมีความเห็นแก่ตัวเพิ่มเข้ามา ถ้าผู้ตัดสินมีความสัมพันธ์ดีกับบริษัทใดบริษัทหนึ่ง และวางแผนไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ถ้าเป็นแบบนั้นไม่ว่าคนอื่นๆจะเสนอราคาสูงขนาดไหน ไม่ว่าคนอื่นๆจะเสนอแผนงานดีเพียงใด ก็คงจะไม่ได้ครอบครองโครงการนี้อย่างแน่นอน

พอได้ฟังกฎที่แก้ไขใหม่ นอนจากเวินหงไห่แล้ว สีหน้าของคนอื่นๆก็ไม่ค่อยสู้ดีสักเท่าไหร่ พวกเขาไม่คิดว่าตอนนี้จะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดแบบนี้ขึ้น

เวินเที๋ยนเที๋ยนขมวดคิ้วแน่น หรือว่านี่ก็คือแผนที่เวินหงไห่คิดไว้ก่อนแล้ว?

เธอคิดไปด้วย และอดไม่ได้ที่จะหันไปมองอาจารย์ฟ่านที่ยืนอยู่อีกฝั่ง

คล้ายกับฝ่ายนั้นรับรู้ถึงอะไรบางอย่าง เธอก็ได้ชำเลืองมองมาที่เวินเที๋ยนเที๋ยนอย่างเร่งรีบ หลังจากนั้นก็รีบเคลื่อนสายตาไปทางอื่น และไม่กล้าสบตากับเวินเที๋ยนเที๋ยนโดยตรง

ต่อให้ทุกคนมีคำพูดที่คับแค้นใจมากมายขนาดไหน แต่พอเผชิญหน้ากับพลโทผู้ทรงอิทธิพลตรงหน้า ก็ไม่มีใครกล้าคัดค้านอะไร

ภายใต้คำสั่งของเขา การแข่งประมูลในรูปแบบใหม่ก็เริ่มขึ้น

คนนั้นยังยืนยันกรรมการตัดสินทุกคนอีกด้วย นอกจากเขากับฝ่ายจัดงานช่วงก่อนแล้ว คนที่เหลืออีกหนึ่งคนก็คือลูกน้องที่มากับเขา

พอเห็นแบบนี้ ทุกคนก็เข้าใจทันที

ไม่ว่ายังไง ลูกน้องของเขาก็คงจะยืนอยู่ฝั่งเขาอย่างแน่นอน

ขณะนี้ไม่ว่าบริษัททั้งห้าจะแสดงออกยังไงก็ไม่สำคัญแล้ว เพียงแค่พลโทชอบ ก็คงจะกลายเป็นผู้ชนะคนสุดท้ายด้วยข้อได้เปรียบสองต่อหนึ่งอย่างแน่นอน ไม่มีความเป็นธรรมแม้แต่นิดเดียว

เวินเที๋ยนเที๋ยนขมวดคิ้วอย่างเป็นกังวล ตอนนี้เวินหงไห่ยิ่งอยู่ยิ่งลำพองใจ แถมเขายังแสดงสีหน้ามั่นใจว่าจะชนะออกมาอีกด้วย ทุกคนล้วนรู้ถึงความทะเยอทะยานอันป่าเถื่อนของเขา

การประมูลโครงการที่อยู่ตรงหน้าก็ได้เปลี่ยนเป็นละครตลกไปแล้ว ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ ก็ไม่มีประโยชน์ของการเสนอราคาแล้วจริงๆ

หลังจากที่เขาพูดจบ ผู้รับผิดชอบของบริษัทอื่นก็ไม่ได้พูดอะไร มีเพียงเวินหงไห่ที่พูดขึ้นมาก่อน

“ ห้าร้อยล้าน ”

พอเขาพูด สีหน้าของทุกคนก็เปลี่ยนเป็นซับซ้อนทันที

ก็เห็นอยู่ว่าเมื่อสักครู่เสนอราคาสูงถึงเก้าพันล้าน ไม่คิดว่าพอเวินหงไห่พูดขึ้น ราคาที่เสนอจะตกลงไปถึงขนาดนี้

เงินทุนถูกตัดจนต่ำขนาดนี้ ส่วนเงินที่เหลือไปอยู่ไหนแล้ว คล้ายกับทุกคนรู้ดี

ต่อให้ทุกคนรู้ถึงสถานการณ์นี้ แต่ก็ไม่มีใครกล้าคัดค้านอะไร

ในห้องประชุมที่แข่งประมูลเงียบลงทันที บริษัทอื่นๆมีข้อด้อย จึงทำการละทิ้งการแข่งขันไปในที่สุด จึงทำให้ถูกควบคุมโดยตระกูลเวินทันที

เดิมที ฝ่ายจัดงานการประชุมในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกก็คือกองทหาร ถ้าตระกูลเวินอยากหาคนที่มีระดับประมาณพลโทมายืนอยู่ฝั่งตัวเองก็สามารถทำได้ง่ายๆ

แต่ใครก็ไม่คิดว่าตระกูลเวินจะมีการเคลื่อนไหวที่ใหญ่ขนาดนี้ และทำเรื่องแบบนี้ออกมาได้อย่างไม่เกรงกลัว

ต่อให้จี้จิ่งเชินเสนอราคาประมูลสมเหตุสมผล หยิบแผนการออกมาได้ยอดเยี่ยมขนาดไหน ไม่ว่าดูจากด้านไหนเขาก็เป็นผู้ชนะที่เหมาะสมที่สุดแล้ว

แต่พอเผชิญกับกลุ่มตรวจสอบแบบนี้ ถ้าเขาอยากชนะก็คงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย

เวินเที๋ยนเที๋ยนที่เดิมทีรู้สึกสบายใจแล้ว ก็ได้ตึงเครียดขึ้นอีกครั้ง

เมียหวานของประธานเย็นชา

เมียหวานของประธานเย็นชา

Status: Ongoing

“คุณจะคิดแบบนี้ไปถึงเมื่อไรถึงจะกลับบ้านได้?” จี้จิ่งเชินพูดออกมาอย่างจนใจ เขารีบมาที่นี่ทันทีตั้งแต่รับสาย และยืนดูเธอเดินวนคิดเป็นหนูติดจั่นแบบนี้มาครึ่งชั่วโมงแล้ว เธอไม่กล้าออกมา เพราะเธอกลัวว่าถ้าเขารู้เรื่องเข้า เขาจะทำอย่างไร สุดท้ายสิ่งที่เขาทำ คือ จูบหน้าผากของเธอ “ผมเชื่อคุณ… ไม่ต้องอธิบายอะไร ผมก็เชื่อคุณ”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท