เมียหวานของประธานเย็นชา – บทที่ 642 ความวุ่นวายที่ไม่มีสาเหตุในกองถ่าย

บทที่ 642 ความวุ่นวายที่ไม่มีสาเหตุในกองถ่าย

บทที่ 642 ความวุ่นวายที่ไม่มีสาเหตุในกองถ่าย

พอหล่อนเจียนีได้ยินแล้วนั้น ก็มองหล่อนเจี้ยนกั๋วอย่างงงๆ

หล่อนเจี้ยนกั๋วจึงเอ่ยพูดต่อ : “ไม่ใช่ว่าแกเกลียดเวินเที๋ยนเที๋ยนมากที่สุดรึไง? แกก็ไปที่กองถ่ายแทนฉัน ไปหาเรื่องเวินเที๋ยนเที๋ยน ให้เธอถ่ายทำภาพยนตร์ต่อไม่ได้ นี่ไม่ใช่ว่าเป็นสิ่งที่แกชอบที่สุดหรอกหรือ?”

หล่อนเจียนีคิดเรื่องที่ตัวเองจะสามารถไปหาเรื่องเวินเที๋ยนเที๋ยนได้ ดวงตาก็เป็นประกายขึ้นมาเล็กน้อย

“จริงหรือคะ?”

หล่อนเจี้ยนกั๋วพยักหน้าลง

“แน่นอนสิ ฉันจะเปิดช่องทางให้แกสามารถเข้าไปในกองถ่ายได้เลย ถ้าหากเจอเรื่องยุ่งยากอะไรแกก็มาบอกฉัน ก่อกวนให้งานถ่ายทำของเวินเที๋ยนเที๋ยนยิ่งวุ่นวายยิ่งดี”

ได้รับการรับประกันเช่นนี้ของหล่อนเจี้ยนกั๋วแล้ว หล่อนเจียนีก็มีท่าทางกระตือรือร้นและตื่นเต้นขึ้นมาในทันที

“พ่อ พ่อวางใจได้เลยค่ะ หนูจะไม่ยอมให้เวินเที๋ยนเที๋ยนได้อยู่เป็นสุขแน่ ในเมื่อกล้ามาเหยียบจมูกของตระกูลเรา และยังทำให้จี้อานต้องออกจากงาน หนูจะต้องทำให้เธอชดใช้คืนให้ได้!”

ว่าแล้วนั้น เธอก็แทบจะรอไม่ไหวแล้วที่จะออกไปจากตระกูลหล่อนแล้วมุ่งตรงไปยังกองถ่ายของเวินเที๋ยนเที๋ยนไม่ไหวแล้ว

เมื่อความจริงของคลิปวิดีโอนั้นกระจ่างออกมาแล้ว นักข่าวที่รวมตัวกันอยู่ด้านนอกกองถ่ายนั้นก็ลดไปจำนวนมาก การถ่ายทำภาพยนตร์นั้นกลับเข้าสู่สถานการณ์ปกติได้ในที่สุด

ทุกวันเวินเที๋ยนเที๋ยนไม่เพียงแต่จะต้องจัดการงานที่บริษัทเพียงเท่านั้น ยังจะต้องมาควบคุมที่กองถ่ายเองอีกด้วย ยุ่งเสียจนไม่สามารถแยกตัวเองไปทำอย่างอื่นได้เลย

ดีตรงที่การถ่ายทำนั้นดำเนินไปอย่างราบรื่น ผลงานเป็นไปตามที่คาดคิดไว้ในตอนนี้ ไม่เกินสามเดือน ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็จะสามารถปิดกล้องได้

วันนี้ เวินเที๋ยนเที๋ยนกำลังตรวจสอบฉากที่ถ่ายทำเสร็จสิ้นไปแล้วเมื่อสองวันก่อนที่กองถ่าย ถ้าหากมีตรงไหนที่ไม่พอใจนั้นก็จะได้สามารถถ่ายทำกันใหม่ได้

และเวลานี้เอง ทางด้านนอกนั้นก็มีเสียงเอะอะโวยวายดังขึ้น

ตอนแรก เวินเที๋ยนเที๋ยนคิดว่าเป็นเพียงแค่ทางทีมงานถ่ายทำพบความขัดแย้งเล็กๆน้อยๆเพียงเท่านั้น

แต่รอไปสักพักหนึ่งแล้ว เสียงที่ดังอยู่ทางด้านนอกนั้นไม่ได้ลดลงเลย แต่กลับยิ่งดังขึ้นเสียอีก

ดังขึ้นพร้อมกับเสียงทำลายข้าวของ เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่สามารถทำงานต่อไปได้อีก จึงวางสิ่งที่อยู่ในมือลงแล้วลุกขึ้นยืน

เธอเปิดประตูออกไป และขณะที่เตรียมจะเดินออกไปนั้น เสียงดังเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นมา!

โต๊ะตัวหนึ่งถูกคว่ำลงอยู่ที่พื้น ผ้านวมและอุปกรณ์การถ่ายทำหล่นลงบนพื้น ทำให้เกิดเสียงดังขึ้น

ตรงข้างๆโต๊ะตัวนั้นมีผู้หญิงร่างท้วมคนหนึ่งยืนอยู่ เธอแต่งตัวหรูหราดูดี ในมือถือกระเป๋าหนังสีเขียวใบหนึ่ง และใส่รองเท้าส้นสูงปลายแหลม

“พวกเธอทำอะไรกัน เอาของพวกนี้มาวางกลางทางเดิน ไม่ใช่ว่าตั้งใจจะให้ฉันสะดุดล้มหรอกใช่ไหม?”

“พวกเธอรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร? ถ้าหากฉันสะดุดล้ม พวกเธอทั้งกองเนี่ยจะต้องชดใช้! อย่าคิดว่าจะได้ถ่ายต่อกันเลยเถอะ!”

“ดูซิว่าพวกเธอจะถ่ายกันอย่างไร!”

เธอด่าว่าไปพลางและใช้เท้าเตะสิ่งของเหล่านั้นอย่างอาละวาด

บนพื้นนั้นมีสิ่งของเรี่ยราดเต็มไปหมด การถ่ายทำก็หยุดชะงักไปชั่วคราว และทั้งกองถ่ายนั้นก็ไม่มีใครกล้าเข้ามาขวางแม้แต่คนเดียวอีกด้วยเช่นกัน

และบุคคลนั้นก็ยังคงด่าว่าออกมาอย่างหยาบคาย

“ที่นี่ใครเป็นคนดูแล? ผู้กำกับล่ะ? ผู้ถ่ายทำล่ะ? พากันออกมาหาฉันเดี๋ยวนี้!”

“ฉันได้รับบาดเจ็บอยู่นี่ ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็อย่าได้คิดที่จะถ่ายต่อไปเลย หยุดให้ฉันเดี๋ยวนี้เลยนะ!”

เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินแล้วนั้น จึงมองไปรอบๆ เห็นว่าเฉินชุนไม่อยู่จึงเป็นฝ่ายยืนขึ้นมาเอง

“ฉันเป็นผู้อำนวยการผลิตภาพยนตร์เรื่องนี้เองค่ะ คุณเป็นใคร? ทำไมถึงได้มาก่อเรื่องวุ่นวายที่นี่?”

เห็นเวินเที๋ยนเที๋ยนเดินออกมาแล้ว ในใจของหล่อนเจียนีนั้นก็รู้สึกพอใจขึ้นมา

ก่อนหน้านี้เธอเคยเห็นหน้าเวินเที๋ยนเที๋ยนอยู่ในระยะไกลอยู่สองสามครั้ง แต่ไม่เคยได้มาสัมผัสอย่างใกล้ชิด แน่นอนว่ารู้จักเธออยู่แล้ว

แต่เวินเที๋ยนเที๋ยนนั้นกลับไม่ได้มีความทรงจำใดๆกับคนตรงหน้าอยู่เลย และไม่รู้เลยเสียด้วยซ้ำว่าเธอคือลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของหล่อนเจี้ยนกั๋ว

เมื่อเห็นเวินเที๋ยนเที๋ยนแล้ว หล่อนเจียนีจึงทำเสียงเย็นชาออกมา แล้วเดินเข้าไปหาด้วยท่าทางที่มั่นใจ

“ฉันเดินผ่านมาทางนี้ แล้วสะดุดของพวกนี้เข้า เกือบจะล้มอยู่แล้ว เธอว่าแบบนี้พวกเธอต้องรับผิดชอบกันหรือเปล่า?”

เวินเที๋ยนเที๋ยนมองพิจารณาเธอ กลับไม่พบว่าร่างกายของผู้หญิงคนนี้จะมีร่องรอยบาดเจ็บใดๆ

“ฉันไม่เห็นว่าคุณจะได้รับบาดเจ็บอะไรตรงไหนนี่คะ”

หล่อนเจียนีเอ่ยพูดเสียงสูง พลางกลอกตาอย่างไม่พอใจ

“ฉันได้รับบาดเจ็บก็ต้องเอาออกมาให้พวกเธอเห็นด้วยอย่างนั้นหรือ พวกเธอนี่มันอะไรกัน? ฉันบอกว่าได้รับบาดเจ็บก็คือเจ็บสิ ตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป ภาพยนตร์เรื่องนี้จะต้องหยุดการถ่ายทำ จนกว่าแผลฉันจะหาย”

เวินเที๋ยนเที๋ยนขมวดคิ้ว คนๆนี้มาหาเรื่องเพื่อก่อความวุ่นวายมากกว่า

เธอไม่ได้สนใจความต้องการของคนตรงหน้า เพียงแค่เอ่ยขึ้นมา : “ถ้าหากคุณได้รับบาดเจ็บจริงๆ ฉันจะให้พวกเขาพาคุณไปโรงพยาบาลค่ะ”

ว่าแล้วนั้น เวินเที๋ยนเที๋ยนก็เตรียมจะให้คนพาเธอไปส่งโรงพยาบาล ไม่คิดว่าหล่อนเจียนีจะกลับกรีดร้องขึ้นมาก่อน

“ฉันไม่ไป! อย่ามาแตะต้องตัวฉัน!”

เธอร้องเสียงแหลม ทำให้ทั้งกองถ่ายนั้นเต็มไปด้วยเสียงของเธอ

เวินเที๋ยนเที๋ยนขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย

“ผู้กำกับล่ะ?”

ผู้ช่วยที่อยู่ข้างๆนั้นเอ่ยพูดขึ้นเสียงเบา : “ผู้กำกับเฉินมีธุระเพิ่งจะออกไปเมื่อครู่นี้ค่ะ”

มิน่าล่ะ ถ้าหากเฉินชุนอยู่ที่นี่ เห็นสถานการณ์แบบนี้ จะต้องโมโหมากๆอย่างแน่นอน

เวินเที๋ยนเที๋ยนมองหล่อนเจียนีที่เวลานี้ยังคงด่าสาปแช่งไม่หยุด ขมวดคิ้วพลางออกคำสั่ง

“พาตัวเธอออกไปก่อน แล้วอย่าให้เข้ามาอีก”

แต่บอร์ดี้การ์ดตรงหน้ากลับมีความลังเลอยู่บ้าง ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ

คนหนึ่งเดินเข้ามาด้วยความระมัดระวัง

“คุณเวินครับ ท่านนี้คือหล่อนเจียนี ลูกสาวของท่านกรรมการหล่อน เชียวนะครับ”

เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินแล้ว จึงเข้าใจจุดประสงค์การมาเยือนของอีกฝ่ายหนึ่งโดยทันที

ตอนนี้เป็นเพราะหล่อนเจี้ยนกั๋วต้องจัดการเรื่องที่บริษัทจึงไม่สามารถมาได้ จึงให้ลูกสาวของเขามาก่อความวุ่นวายที่กองถ่าย ดูแล้วกรรมการหล่อนจะไม่ให้พวกเขาได้ถ่ายทำกันอย่างราบรื่นเลยสินะ ปฏิบัติการกันเป็นครอบครัวจริงๆ

ราวกับรู้ว่าในกองถ่ายนั้นจะไม่มีใครกล้าแตะต้องเธอ หล่อนเจียนีก็ยิ่งรู้สึกพอใจมากยิ่งขึ้น

เธอชี้ไปยังสองสามคนที่อยู่ตรงหน้าอย่างโอหังอวดดี

“ฉันขอสั่งพวกเธอ ว่าให้เลิกกองเดี๋ยวนี้! ฉันไม่อนุญาตให้ถ่ายต่อ! แผลฉันยังไม่หาย พวกเธอก็จะไม่สามารถทำงานกันได้!”

ได้ยินคำพูดนี้แล้ว ทุกคนต่างก็พากันรู้สึกไม่พอใจขึ้นมาในทันที

ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้ภาพยนตร์เรื่องนี้ ไม่น้อยคนนักที่คำนึงถึงคำสั่งของกรรมการหล่อนในการยอมรับที่จะร่วมงานกับเวินเที๋ยนเที๋ยน แต่ตอนนี้ผ่านความพยายามทุ่มเทมาเป็นเวลานานขนาดนี้แล้ว การถ่ายทำภาพยนตร์ก็เข้าสู่การถ่ายทำเป็นปกติแล้วด้วยเช่นกัน

นี่ได้รวบรวมกำลังกายและใจของทุกคนเอาไว้ ตอนนี้จู่ๆจะให้พวกเขาถอนตัวออกมา หยุดการถ่ายทำไว้ชั่วคราว คนจำนวนไม่น้อยจึงรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก

พวกเขาจ้องมองหล่อนเจียนีที่จู่ๆก็มาก่อความวุ่นวายด้วยความโมโห แต่กลับติดตรงสถานะของเธอ จึงไม่กล้าขัด

คนที่มีนิสัยตรงไปตรงมาสองสามคนที่ยิ่งโมโหและอยากที่จะเขาไปเล่นงานเธอ

เวินเที๋ยนเที๋ยนยกมือห้ามเอาไว้ แล้วเอ่ยพูดออกมาอย่างนิ่งๆ : “คุณบอกว่าอุปกรณ์ของพวกเราทำให้คุณได้รับบาดเจ็บ กรุณาเอาหลักฐานที่เหมาะสมออกมาด้วยค่ะ ร่างกายของคุณได้รับบาดเจ็บอะไร? สาหัสขนาดไหน? รอให้คุณเอาหลักฐานออกมาดู ฉันจะมาปรึกษากันอีกทีว่าจะต้องหยุดงานนี้หรือเปล่า”

แต่ครั้งหล่อนเจียนีนั้นมีเจตนาที่จะมาขัดขวางความคืบหน้าของการถ่ายทำของเวินเที๋ยนเที๋ยน จึงไม่สามารถเอาหลักฐานอะไรออกมาได้เลยอยู่แล้ว

ได้ยินเวินเที๋ยนเที๋ยนพูดเช่นนี้แล้ว จึงเงยหน้าขึ้นมาด้วยความมั่นใจ

“ฉันบอกว่าได้รับบาดเจ็บก็คือได้รับบาดเจ็บ อีกอย่างเป็นเพราะอุปกรณ์ของพวกเธอด้วยที่ทำให้ฉันเจ็บ พวกเธอควรจะต้องรับผิดชอบ!”

เวินเที๋ยนเที๋ยนพยายามที่จะทำให้ตัวเองรักษาความใจเย็นนี้เอาไว้

“ถ้าหากเป็นความผิดของพวกเรา พวกเราก็จะรับผิดชอบแน่นอนอยู่แล้วค่ะ แต่ถ้าหากไม่ใช่ โทษทางกฎหมายของการสาดโคลนใส่ความกันแบบนี้มันไม่เบาเลยนะคะ พ่อของคุณเป็นถึงกรรมการบริษัท ช่วงนี้ก็กำลังติดต่อกับทีมตรวจสอบอยู่ด้วย เรื่องนี้เขาคงจะรู้ดีมากกว่าคุณนะคะ”

เมียหวานของประธานเย็นชา

เมียหวานของประธานเย็นชา

Status: Ongoing

“คุณจะคิดแบบนี้ไปถึงเมื่อไรถึงจะกลับบ้านได้?” จี้จิ่งเชินพูดออกมาอย่างจนใจ เขารีบมาที่นี่ทันทีตั้งแต่รับสาย และยืนดูเธอเดินวนคิดเป็นหนูติดจั่นแบบนี้มาครึ่งชั่วโมงแล้ว เธอไม่กล้าออกมา เพราะเธอกลัวว่าถ้าเขารู้เรื่องเข้า เขาจะทำอย่างไร สุดท้ายสิ่งที่เขาทำ คือ จูบหน้าผากของเธอ “ผมเชื่อคุณ… ไม่ต้องอธิบายอะไร ผมก็เชื่อคุณ”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท