บทที่ 649 สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ผมเลือกเอง
หลังจากที่หมินอันเกอมาที่กองถ่ายแล้ว ก็จะได้รับของขวัญที่เธอส่งมาให้อยู่บ่อยๆ
เดิมทีคิดว่าใจของเธอนั้นค่อยๆปล่อยวางได้แล้ว แต่คิดไม่ถึงเลยว่าจะก่อเรื่องแบบนี้ได้
บุคคลนั้นพุ่งเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง แล้วจับผมของหลวนจื่อเอาไว้แล้วใช้แรงดึง
หลวนจื่อหลบไม่ทัน จึงร้องอุทานออกมา มือหนึ่งโอบอุ้มท้องตัวเองเอาไว้ ในใจทั้งรู้สึกตกใจและทั้งรู้สึกกลัว
ตัวเองได้รับบาดเจ็บก็คงไม่เป็นไร แต่เธอกังวลที่สุดก็คือลูกในท้องมากกว่า
ไม่นาน ทางทีมงานที่อยู่ข้างๆนั้นก็พากันเข้ามาต้องการจะแยกทั้งสองคนออกจากกัน
แต่ผู้หญิงคนนั้นกลับดูเหมือนจะบ้าไปแล้วเสียอย่างนั้น ทั้งกรีดร้องทั้งอาละวาดขึ้นมา
“ฉันจะฆ่าเธอ! ผู้หญิงคนนี้! เธอที่ทำลายชื่อเสียงหมินอันเกอ!”
ผู้หญิงคนนี้เหมือนกับจะบ้าไปแล้วอย่างไรอย่างนั้น ทางทีมงานสองสามคนนั้นไม่สามารถขัดขวางเธอเอาไว้ได้เลย
ไม่นาน สามสี่คนนั้นก็ตะลุมบอนกันไปเสียแล้ว
“ฉันจะฆ่าเธอ! ผู้หญิงสารเลว!”
ผู้หญิงคนนั้นกำลังตะโกนออกมา แววตาดุร้ายและจะเข้าไปจับตัวหลวนจื่อด้วยความโหดร้ายอีกด้วย
และเวลานี้เอง ไหล่ของเธอก็ถูกใครคนหนึ่งดึงเอาไว้
ผู้หญิงคนที่กำลังมีท่าทางโหดร้ายอยู่นี้ถูกดึงถอยหลังออกไป
เธอหันมามองอย่างไม่พอใจ นัยน์ตานั้นมีแต่อารมณ์ที่ขุ่นมัวฉุนเฉียว
“นาย…..”
ยังไม่รอให้เธอได้ทันด่าออกมานั้น เมื่อหันไปมองแล้ว จู่ๆกลับพบว่าคนที่ดึงเธอออกมาแล้วยืนอยู่ทางด้านหลังนั้นไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นหมินอันเกอนั่นเอง
ไม่รู้ว่าเขาเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จตั้งแต่เมื่อไหร่ มือหนึ่งนั้นกำลังดึงไหล่ของผู้หญิงคนนั้นออกมา ใบหน้าไม่มีการแสดงออกถึงความรู้สึกใดๆออกมาทั้งสิ้น แววตาเย็นชา
แต่ดวงตาสีน้ำตาลนั้นลึกๆแล้วมีความโกรธแฝงอยู่
ทางทีมงานคนนั้นเมื่อเห็นเทพบุตรคนที่ตัวเองชื่นชอบมาอยู่ตรงหน้า ก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาจนพูดติดๆขัดๆไปหมด
“หมิน หมินอันเกอ?”
ว่าแล้ว เธอก็หันกลับมาทางหลวนจื่ออีกครั้ง พลางกัดฟันแล้วเอ่ยขึ้น : “คุณวางใจได้ ฉันจะช่วยคุณสั่งสอนเธอเอง! จะไม่ให้เธอมายุ่งกับคุณได้อีก!”
เธอยังคิดอยากที่จะลงมือต่อ แต่หมินอันเกอกลับไม่ได้ปล่อยมือ แต่กลับใช้แรงบีบแน่นกว่าเดิม
“เป็นผมเองที่ไปยุ่งกับเธอ ไม่ได้เกี่ยวกับหลวนจื่อ คุณไม่พอใจอะไรก็มาลงที่ผม”
บุคคลนั้นอึ้งไปพักหนึ่ง แววตานั้นเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
“แต่ แต่ มันจะเป็นไปได้อย่างไร? ผู้หญิงคนนี้จะต้องใช้เด็กมาขู่คุณแน่ๆ! เธอเกาะคุณได้แล้วไง!”
หมินอันเกอขมวดคิ้ว
“ความจริงก็เป็นแบบนี้แหละครับ คุณไม่พอใจอะไรก็มาแก้มาลงที่ผมได้โดยตรง ตอนนี้ คุณรีบปล่อยมือเดี๋ยวนี้เลย”
เขาหันไปมอง แล้วจ้องไปที่มือของผู้หญิงคนนั้นที่กำลังจับตัวหลวนจื่ออยู่
บุคคลนั้นราวกับคิดไม่ถึงว่าจะได้ยินคำตอบแบบนี้จากปากของหมินอันเกอ จึงอึ้งอยู่ตรงที่เดิมตรงนั้น
ยังไม่รอให้เธอได้เอามือออกมานั้น หมินอันเกอก็ดึงเธอออกมาอีกครั้ง เธอถอยหลังออกมา แล้วค่อยๆปล่อยตัวหลวนจื่อ
หมินอันเกอรีบเข้าไปหาแล้วโอบกอดร่างเธอเอาไว้ พลางมองสำรวจตัวเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า
“คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”
หลวนจื่อส่ายหน้า เมื่อครู่นี้เธอเพียงแค่ถูกดึงผมไปเพียงเท่านั้น และตอนที่เธอดิ้นนั้นร่างกายก็มีร่องรอยอยู่บ้าง
“ฉันไม่เป็นไรค่ะ”
หมินอันเกอเม้มริมฝีปาก สีหน้าเคร่งขรึมลงเล็กน้อย
เมื่อครู่นี้ที่เขาเดินออกมาจากห้องแต่งหน้า ตอนที่เห็นฉากตรงหน้านี้ ก็รู้สึกตกใจเสียจนหัวใจเกือบจะหยุดเต้น
จนกระทั่งตอนนี้ หลวนจื่อไม่ได้อยู่ในอันตรายแล้ว ในใจของเขานั้นก็ยังคงรู้สึกหวาดกลัวอยู่ดี
ทีมงานคนนี้ยืนอึ้งอยู่ตรงข้างๆ เห็นท่าทางที่หมินอันเกอปฏิบัติต่อหลวนจื่ออย่างระมัดระวังแล้ว ยังคงไม่อยากจะเชื่ออยู่ดี
เธอก้าวถอยหลังออกไป แล้วส่ายหน้า ยังอยากที่จะเข้าไปดึงเขาออกมา
“หมินอันเกอ ทำไมคุณเป็นแบบนี้? รีบออกมาจากเธอซะ! ผู้หญิงคนนี้หลอกคุณ เธอ……”
“ใครก็ไม่ได้หลอกผมทั้งนั้น ทางเลือกทุกอย่างในตอนนี้ผมเป็นคนตัดสินใจเองทั้งนั้น ไม่เกี่ยวกับคนอื่น”
ยังไม่ทันได้รอให้คนนั้นพูดจบ หมินอันเกอก็ขัดเธอขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึมและเด็ดขาด
น้ำเสียงแสดงออกถึงความไม่พอใจและความโมโหอย่างชัดเจน แล้วจ้องมองไปที่เธอ
“แล้วก็ขอให้คุณอย่าได้มารบกวนชีวิตของพวกเราอีก”
“นี่เป็นไปได้อย่างไรกัน? แต่ว่าพวกฉันรักคุณนะ คุณเป็นความหวังของพวกเรา แล้วก็เป็นแฟนในอุดมคติที่พวกเราใฝ่ฝันอยากได้ด้วย คุณจะทิ้งพวกเราได้อย่างไรกัน?”
สีหน้าของหมินอันเกอนั้นค่อยๆจริงจังขึ้นมา เขาหมุนตัวออกมาเล็กน้อย แล้วเผชิญหน้ากับแฟนคลับคนนั้น น้ำเสียงจริงจังอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
“ขอโทษนะครับ ผมไม่ได้สมบูรณ์แบบอย่างที่พวกคุณคิดหรอก ผมเองก็มีข้อด้อย ผมเองก็ทำผิดพลาดได้ ตอนนี้สิ่งที่พวกคุณเผชิญอยู่ทั้งหมดนั้นล้วนแต่เป็นสิ่งที่ผมเลือกเองทั้งนั้น ไม่เกี่ยวกับคนอื่น ถ้าหากพวกคุณชอบผมจริงๆ ก็ขอให้อย่าได้สนใจกับชีวิตส่วนตัวของผมเลยนะครับ สนใจแต่ผลงานของผมก็พอ”
แต่ผู้หญิงคนนั้นกลับฟังไม่เข้าใจไปเสียแล้ว เธอส่ายหน้าอย่างรุนแรง
“คุณยังจะมีผลงานอะไรอีก? ก็เพราะผู้หญิงคนนี้นี่แหละ….คุณจะมีได้อย่างไร!”
อารมณ์ของเธอนั้นอยู่ในสภาวะหวั่นไหวเป็นอย่างมาก หมินอันเกอขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย ยังอยากจะอธิบาย แต่กลับถูกหลวนจื่อดักเอาไว้เสียก่อน
หลวนจื่อส่ายหน้าให้เขา แล้วกดมือของหมินอันเกอเอาไว้ พลางเดินไปทางด้านหน้า
เวลานี้ท่าทางของเธอยังดูเย็นชา ผมยุ่งเหยิง เสื้อผ้าก็ยับเยินจากการฉุดกระชากเมื่อครู่นี้ด้วยเช่นกัน แต่แววตาของเธอนั้นกลับมีความสงบนิ่งเป็นอย่างมาก
“ขอโทษนะคะ”
เธอเอ่ยขึ้นเบาๆ : “บางทีอาจจะเป็นเพราะฉัน ทำให้หมินอันเกอที่อยู่ในใจของพวกคุณกับแบบที่เป็นอุดมคติของพวกคุณแตกต่างและห่างไกลกันเกินไป แต่หมินอันเกอในตอนนี้ถึงเป็นเขาในแบบนี้จริงๆ และฉันก็รักเขาที่เป็นแบบตอนนี้ด้วย”
คำพูดเรียบง่ายทำให้ทุกคนเงียบลง
เสียงของหลวนจื่อนั้นเบามาก ไม่มีคำสาบานที่จริงจัง และไม่ใช่ความรักที่เด็ดเดี่ยว แต่เป็นความอาลัยอาวรณ์ที่ทอดยาวดังสายน้ำไหล กลับยิ่งทำให้รู้สึกซาบซึ้งยิ่งนัก
หมินอันเกอที่ยืนอยู่ข้างๆได้ยินคำพูดของเธอแล้วจึงหันมามองเธอ จ้องมองใบหน้าด้านข้างที่อ่อนโยนของหลวนจื่อ
ทันใดนั้นเอง ราวกับมีอะไรบางอย่างที่กำลังค่อยๆฟูขึ้นมาในใจของเขา เป็นการฝังเมล็ดพันธุ์เอาไว้อย่างเงียบๆ
ทีมงานคนที่มีอารมณ์หวั่นไหวคนนั้นยืนอยู่ตรงที่เดิม ราวกับว่าเวลานี้ได้อารมณ์ความรู้สึกจากหลวนจื่อไปแล้ว ไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก อารมณ์ค่อยๆสงบลงมาได้
หมินอันเกอดึงตัวหลวนจื่อเอาไว้ แล้วเอ่ยขึ้น
“ผมไปส่งคุณออกไปก่อนดีกว่าครับ”
พูดจบแล้ว เขาก็ค่อยๆประคองหลวนจื่อกลับออกไปจากสถานที่ถ่ายทำ
ทางด้านหลังของพวกเขา แฟนคลับคนนั้นมองทั้งสองคนที่ค่อยๆเดินออกไป แสงในดวงตาก็เริ่มดับลงแล้ว
แล้วสักพักหนึ่ง ถึงได้โซเซนั่งลงที่พื้นแล้วร้องไห้ออกมา
ทีมงานคนอื่นๆทนดูไม่ได้ จึงเข้ามาตบไหล่เธอ แล้วช่วยเตือนเธอ
“ถึงแม้ว่าตอนนี้หมินอันเกอจะแต่งงานกับคนอื่นแล้ว มีที่ไปแล้ว เธอเองก็ไม่ต้องมาเสียใจแบบนี้หรอก”
“ใช่ เธอชอบเขาไม่ใช่หวังอยากจะให้เขามีความสุขหรอกหรือ? ฉันคิดว่าหมินอันเกอในตอนนี้มีเสน่ห์มากกว่าเมื่อก่อนอีกนะ”
คนอื่นๆต่างก็พยักหน้าอย่างเห็นด้วย
“ใช่ ใช่ เมื่อก่อนรู้สึกแค่ว่าเขาดูดีแค่นั้นเอง แต่กลับดูไม่มีจิตวิญญาณ การแสดงเมื่อกี้พวกเธอก็เห็นใช่ไหม ฉันรู้สึกว่าหล่อกว่าเมื่อก่อนเยอะเลย”
“ฉันเองก็จะกลายเป็นแฟนคลับเขาแล้วนะ! เทียบกับหน้าตาแล้ว มีความหมายที่ทำให้รู้สึกถึงเสน่ห์ได้มากกว่าอีกนะ”
คนที่นั่งอยู่บนพื้นได้ยินคำพูดของพวกเขาแล้ว ผ่านไปสักพักหนึ่ง ถึงได้ลุกขึ้นมาในที่สุด
ครั้งนี้ แววตาของเธอนั้นสว่างขึ้นมาอีกครั้ง
สองสามคนนั้นรู้สึกตกใจกับการเคลื่อนไหวของเธอ
“เธอเป็นอะไรน่ะ?”
เห็นเพียงแค่เธอกำหมัดเอาไว้แน่น แล้วเอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงที่มุ่งมั่น : “ฉันเลิกล้มความตั้งใจแล้ว ถึงแม้ว่าหมินอันเกอจะคบกับคนอื่นไปแล้ว แต่เขาก็ยังคงเป็นไอดอลที่ฉันชื่นชอบมากที่สุด ฉันไม่ยอมแพ้หรอก!”
พูดจบแล้ว เธอจึงหันหลังกลับออกมาด้วยความฮึกเหิม แล้วเริ่มทำงานของตัวเองต่ออย่างคึกคัก