บทที่ 679 ลงมือก่อนได้เปรียบ
วันต่อมา หลังจากเวินเที๋ยนเที๋ยนคุยกับพ่อบ้านแล้ว ก็เตรียมตัวนำถ้วยรางวัลไปที่บริษัทหล่อนซื่อ
ถึงเวลาที่ต้องจบสิ้นเรื่องระหว่างเธอกับประธานหล่อนแล้ว
แต่ว่ายังไม่ทันได้ออกไปไหน อีกคนที่เธอคิดไม่ถึง อยู่ ๆ ก็มาเยี่ยมเยียนโดยไม่คาดคิด
มองผู้จัดการหยางที่นั่งอยู่ในห้องรับแขกตอนนี้ เวินเที๋ยนเที๋ยนแปลกใจเล็กน้อย
“ผู้จัดการหยาง คุณมาได้อย่างไร? วันนี้คุณไม่ควรอยู่ที่บริษัทหรอกเหรอ?”
ผู้จัดการหยางพยักหน้า ในอ้อมแขนยังมีกล่องอยู่กล่องหนึ่ง ท่าทางดูลุกลี้ลุกลนเล็กน้อย
เขามองไปรอบ ๆ แล้วเอ่ย: “คุณเวิน ผมมีธุระสำคัญ”
ผู้จัดการหยางพูดพลาง วางกล่องที่หอบไว้อยู่ตลอดลงบนโต๊ะ
พูดต่อ: “ก่อนหน้านี้ คุณเวินกำลังยุ่งอยู่กับการถ่ายภาพยนตร์ ที่บริษัทประธานหล่อนก็ไม่ได้ว่างเลย”
ในสายตาไม่เข้าใจของเวินเที๋ยนเที๋ยน เขาเปิดกล่องแล้วยื่นเอกสารไม่กี่ฉบับมาให้
“ผมเจอว่าช่วงนั้น ประธานหล่อนโยกย้ายเงินบริษัทจำนวนมาก จำนวนเงินทั้งหมดมากว่าสามร้อยล้านเหรียญสหรัฐ!”
สามร้อยล้าน?
เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินถึงตรงนี้ ยังไม่ทันได้รับเอกสารพวกนั้นมา ทั้งร่างก็ชะงักค้างอยู่ที่เดิม มองเขาอย่างอึ้ง ๆ คล้ายกับกำลังแยกแยะความจริงของคำพูดนี้
แต่ผู้จัดการหยางไม่ใช่คนที่เอาเรื่องแบบนี้มาล้อเล่น เธอสูดลมหายใจเข้าลึก รับเอกสารพวกนั้นมา
ผู้จัดการหยางพูดต่อ: “ตั้งแต่คืนเมื่อวานหลังจากพิธีมอบรางวัลนั้นจบลงแล้ว ประธานหล่อนก็มาถึงที่บริษัทอย่างหัวร้อน เหมือนกับต้องการทำลายหลักฐานก่อนหน้านี้ แต่ถูกผมพบเข้าเสียก่อน จึงสำรองข้อมูลบางส่วนออกมา”
เวินเที๋ยนเที๋ยนหัวใจหนักอึ้ง ตรวจมองเอกสารในมืออย่างละเอียด เงยหน้ามองผู้จัดการหยาง
“พวกนี้เป็นเรื่องจริง?”
“เรื่องจริงทั้งหมด! ตั้งแต่คุณเวินออกจากบริษัท เธอก็เริ่มรับช่วงบริษัทต่อทีละขั้น เหมือนมั่นใจว่าคุณไม่สามารถชนะแน่นอน และโยกย้ายเงินบริษัทโดยพลการ แม้ว่าจะทำอย่างสะอาดเรียบร้อย แต่ถูกผมเจอร่องรอยเบาะแสบางอย่างเข้า จึงบันทึกไว้ได้ทันเวลา”
ผู้จัดการหยางกล่าวอย่างรีบร้อนมาก
“ฉันรู้แล้ว” เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้า ปิดเอกสารในมือเข้าด้วยกันอีกครั้ง
“ตอนบ่ายฉันจะเข้าบริษัทพร้อมคุณ”
ผู้จัดการหยางกลับเอ่ย: “ไม่ทนแล้ว คุณเวินคุณต้องไปเดี๋ยวนี้ ตอนที่ผมออกมาจากบริษัท ได้ยินคนอื่นพูดกันว่า ประธานหล่อนได้เรียกประชุมคณะกรรมการบริหารในคืนนั้น ไม่ให้พวกเขาถอนตัวก่อนที่จะหลักฐานพวกนี้จะถูกพบ”
มิน่า เช้าของวันนี้ผู้จัดการหยางรีบมาอย่างร้อนอกร้อนใจ ที่แท้ประธานหล่อนหลังจากรู้ว่าตัวเองแพ้ ก็เริ่มทำทุกวิถีทางที่จะชุบตัวให้สะอาด
ต้องรีบไปที่บริษัทก่อนที่ทุกอย่างจะเป็นอย่างที่คาดการณ์ไว้ เผยแพร่หลักฐานพวกนี้สู่สาธารณะ
เวินเที๋ยนเที๋ยนรีบพยักหน้า
“พวกเราออกไปตอนนี้เลย”
พูดจบ เธอกำลังจะขยับ หันกลับไปมองจี้จิ่งเชินอีกครั้ง
ไม่ได้พูดอะไร จี้จิ่งเชินเหมือนจะเดาได้ว่าเธออยากพูดอะไร จึงพยักหน้าเล็กน้อย
“ไปเถอะ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเม้มริมฝีปาก แล้วหมุนตัวออกไปกลับผู้จัดการหยาง
ในเวลาเดียวกันนั้น ภายในบริษัทหล่อนซื่อ ข่าวเรียกประชุมคณะกรรมการบริหารอย่างผิดปกติ นำโดยหล่อนเจี้ยนกั๋วและกรรมการคนอื่นๆ ล้วนมาถึงแล้ว
ตั้งแต่ดูพิธีมอบรางวัลเทศกาลภาพยนตร์โบ๋หยู่เมื่อวานแล้ว ทุกคนล้วนอยู่ไม่สุข
ในตอนแรกสมาชิกมีส่วนร่วมกับการเดิมพันของเวินเที๋ยนเที๋ยนและประธานหล่อนมีมากกว่าแปดสิบเปอร์เซ็นต์ พนักงานอาวุโสของบริษัทมากกว่าครึ่งเป็นพยานด้วย
การแข่งขันนี้ เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของพวกเขาโดยตรง
ทันทีที่ได้รับข้อความจากหล่อนเจี้ยนกั๋ว ทุกคนก็รีบมากันอย่างรีบร้อน
ในตอนนี้ห้องประชุมชั้นบนสุดของตึก บรรยากาศเคร่งเครียด ทุกคนล้วนขมวดคิ้วแน่น สีหน้าไม่น่ามอง
“ตอนนี้พวกเราควรทำอย่างไร?”
“เวินเที๋ยนเที๋ยนชนะการแข่งขันครั้งนี้ ต้องรีบกลับมาบริหารบริษัทแน่นอน ถึงตอนนั้นเจอที่พวกเราลงมือไป ต้องไม่ปล่อยพวกเราไปง่าย ๆ แน่นอน”
คนหนึ่งเงยหน้ามองหล่อนเจี้ยนกั๋วที่นั่งอยู่ด้านหน้า พูดอย่างจงใจ: “ตอนแรกประธานหล่อนพูดเองว่า ถ้าหากเวินเที๋ยนเที๋ยนชนะการแข่งขัน ต่อไปคณะบริการบริหารบริษัทจะไม่สามารถร่วมบริหารงานของบริษัทได้ ต่อไปบริษัทหล่อนซื่อทั้งหมดล้วนอยู่ใต้เวินเที๋ยนเที๋ยน แล้วพวกเราจะยังมีตำแหน่งอะไร?”
“ดังนั้นตอนแรกผมก็บอกแล้วว่าตอนนั้นบุ่มบ่ามเกินไป พวกคุณคิดอย่างไรถึงตกลงเดิมพันแบบนี้ล่ะ?”
“ใช่แล้ว ใช่แล้ว บุ่มบ่ามเกินไป”
คนกลุ่มหนึ่งพูดไม่หยุด และพยักหน้าเห็นด้วย
สายตาของหล่อนเจี้ยนกั๋วลากสายตามองพวกเขา สีหน้าเขียวครึ้ม
ตอนนั้นที่พูดถึงการเดิมพันนี้ คำพูดพวกนี้พวกเขาทำไมไม่พูด?
เรื่องมาถึงตอนนี้ แพ้ไปแล้ววัวหายถึงล้อมคอกมีประโยชน์อะไร?
เขากระแอมไอขึ้นมา ทุกคนถึงหยุดลงแล้วหันกลับมามองเขา
“ประธานหล่อน คุณเป็นหุ้นส่วนรายใหญ่ที่สุดของพวกเรา ตอนนั้นเดิมพันก็เป็นคุณที่พูดขึ้นมา ตอนนี้เรื่องยุ่ง ๆ พวกนี้คุณควรจัดการ”
หล่อนเจี้ยนกั๋วก่นด่าหลายคนตรงหน้าอยู่ในใจ ทันทีที่เกิดเรื่องกรรมการก็ปัดเรื่องต่าง ๆ ไปที่คนอื่น แต่บนใบหน้ายังคงสงบนิ่ง
“ในเมื่อนี่เป็นเรื่องของผมกับเวินเที๋ยนเที๋ยน แน่นอนว่าผมต้องจัดการ แต่ว่า ถ้าหากพวกเรายกทั้งบริษัทให้เวินเที๋ยนเที๋ยนจริง ๆ เกรงว่าถึงตอนนั้นจะไม่ใช่แค่ผม พวกคุณเองก็อยากที่จะรักษาตำแหน่งตอนนี้ขอตนเองไว้ได้”
เมื่อพูดจบ ทุกคนก็เริ่มกระซิบกันในทันที
ความจริงแล้ว เวินเที๋ยนเที๋ยนดูเหมือนจะมีนิสัยอ่อนโยน แต่ที่จริงแล้วทุกครั้งที่ต้องปรากฏตัว ก็สามารถนำความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่มาสู่บริษัทได้
คราวนี้พึ่งรับช่วงต่อจากคุณนายหล่อน ก็กล้าพูดจาโอหัง ต้องการทำให้พวกเขาทุกคนพ่ายแพ้เสียอำนาจในการควบคุมบริษัท
ถ้าหากให้เวินเที๋ยนเที๋ยนกลับมาจริง ๆ สุดท้ายแล้วคนที่จะลำบากก็ยังคงเป็นตนเอง
คิดถึงตรงนี้ ทุกคนถึงมีท่าทีอ่อนลง
“แล้วประธานหล่อนคำแนะนำอย่างไร?”
“ไม่กล้าแนะนำ แต่หวังว่าพวกเราจะเกลียดชังและโกรธแค้น เวินเที๋ยนเที๋ยนจะพูดอย่างไรก็เป็นเพียงแค่สาวตัวน้อยคนหนึ่งเท่านั้น ประธานบริษัทจะเป็นใคร ต้องถูกกำหนดโดยคณะกรรมการบริหาร”
เขานิ่งไปชั่วขณะ แล้วพูดต่อ: “ขอแค่ทุกคนเปลี่ยนประธานก่อนที่เธอจะกลับ ต่อให้เวินเที๋ยนเที๋ยนจะยิ่งใหญ่แค่ไหนก็ทำอะไรพวกเราไม่ได้”
“ไม่เลว!”
หลายคนพยักหน้าเห็นด้วย
“ถ้าต้องการให้เวินเที๋ยนเที๋ยนออกไปจริง ๆ มีหนทางทางเดียวคือเปลี่ยนประธาน!”
หลายคนคิดพลางมองหน้ากันไปมา
“ตอนนี้คุณนายหล่อนไม่อยู่ ทั้งบริษัทขึ้นอยู่กับกรรมการบริหาร อยากเปลี่ยนเป็นใครก็เปลี่ยนได้ไม่ใช่เหรอ?”
เห็นท่าทางของทุกคนเปลี่ยนไป ประธานหล่อนจึงพยักหน้าอย่างพอใจ
“ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นพวกเราก็โหวตเลือกประธานกันตอนนี้เลยเถอะ”
คิดไม่ถึงว่าเมื่อกำลังพูดจบ ประตูห้องประชุมก็ถูกคนผลักเปิด เสียงเย็นเยียบเสียงหนึ่งลอยมา
“ทุกท่านต้องการเลือกประธานคนใหม่ ฉันไม่อยู่ เหมือนจะดูไม่ค่อยดี?”
ได้ยินแบบนี้ ทุกคนจึงหันกลับไปมอง
เห็นเวินเที๋ยนเที๋ยนที่เมื่อกี้กำลังเอ่ยถึง ยืนอยู่หน้าประตูอยู่ในตอนนี้
สองมือเธอเก็บไว้ด้านหลัง ข้างตัวยังมีผู้จัดการหยางตามมาด้วย ก้าวเท้าเดินเข้ามาอย่างองอาจ
ในตอนนั้นใครก็ไม่กล้าดูถูกแม้สักครึ่ง