บทที่ 765เธอซ่อนตัวอยู่ที่ไหน
เมื่อได้ฟังคำตอบจากเวินเที๋ยนเที๋ยน เคอเหยียนรุ่ยก็ยิ้ม
“คุณวางใจเถอะ ในเมื่อเป็นความต้องการของพวกคุณ ผมจะทำให้ได้ ไม่เพียงแต่ทำให้จี้จิ่งเชินพอใจ แต่จะทำให้อนุรักษนิยมที่สุดในขณะเดียวกันก็จะคำนึงถึงความสวยงามด้วย”
ขณะที่พูด หางตาของเขาก็เปล่งประกายแสงออกมาเล็กน้อย ในหัวมีไอเดียพรั่งพรูออกมา
“ผมเชื่อว่า การออกแบบชุดแต่งงานในครั้งนี้ จะต้องโดดเด่นมากแน่นนอน!”
นิ้วมือของเคอเหยียนรุ่ยค่อยๆขยับ ราวกับทนรอไม่ไหวที่จะเริ่มออกแบบแล้ว
“ผมเริ่มมีแรงบันดาลใจแล้ว วันนี้ต้องขอตัวกลับก่อน จะเริ่มทำการออกแบบเดี๋ยวนี้”
เมื่อพูดจบ ก็จากไปอย่างรีบร้อน
เขามาอย่างรีบร้อน จากไปก็ไม่มีความลังเลเลยแม้แต่น้อย
เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่คิดเลยว่าเคอเหยียนรุ่ยจะเป็นคนพึ่บพับคิดแล้วทำเลย
แต่หลวนจื่อกลับนิ่งเฉยเป็นอย่างมาก
“ไม่ต้องเป็นห่วง นักออกแบบส่วนใหญ่ก็เป็นเหมือนเขา ขอเพียงแค่มีแรงบันดาลใจ ก็จะละทิ้งเรื่องอื่นจนหมดสิ้น ไม่สนใจเลยแม้แต่น้อย”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้า พูดชื่นชมขึ้นว่า:“แต่ว่าก็คงจะเป็นเช่นนี้ ถึงทำให้สามารถออกแบบชิ้นงานที่สามารถทำให้คนประทับใจได้อย่างคาดไม่ถึง”
เธอหันมามองหลวนจื่อ
“หมินอันเกอได้บอกไหมว่า เขาจะกลับมาเมื่อไหร่?”
“กิจกรรมในครั้งนี้จัดติดต่อกันสองวัน พรุ่งนี้เขาก็คงจะกลับมา”ขณะที่พูด หลวนจื่อก็หันศีรษะไปมองด้านนอก ราวกับว่ากำลังมองหมินอันเกออยู่ไกลๆ
เพิ่งจะจากกันแท้ๆ แต่ตอนนี้กลับเริ่มคิดถึงเขาแล้ว
เมื่อเวินเที๋ยนเที๋ยนเห็นดังนั้น จึงพูดขึ้นว่า:“ในเมื่อเป็นแบบนั้น เดี๋ยวสองสามวันนี้ฉันจะอยู่เป็นเพื่อนคุณเอง”
เมื่อหลวนจื่อได้ยินดังนั้น จึงรีบเก็บสายตา
“ไม่ต้องหรอก วันนี้คุณอุตส่าห์สละเวลารับฉันออกจากโรงพยาบาลก็ลำบากมากแล้ว ฉันแย่งคุณมาจากจี้จิ่งเชิน ฉันรู้สึกเกรงใจจะแย่แล้ว หากเขารู้ว่าจะไม่ได้อยู่กับคุณอีกสองวัน อาจจะมาฆ่าฉันถึงที่ก็ได้?ฉันคงทนไม่ได้”เธอพูดขึ้นอย่างล้อเล่น
เวินเที๋ยนเที๋ยนนึกถึงจี้จิ่งเชิน หากเขารู้การตัดสินใจของตน จะต้องหึงเป็นแน่
“แต่ว่าคุณอยู่คนเดียวไม่มีปัญหาแน่นะ?”
“แน่นอนว่าไม่มีปัญหา”หลวนจื่อพูดขึ้นอย่างวางใจ:“คุณลืมไปแล้วเหรอว่า?แต่ก่อนฉันก็อยู่คนเดียว อีกอย่างของในบ้านก็มีพร้อม ฉันไม่จำเป็นต้องออกไปข้างนอกเลย พรุ่งนี้ตอนเย็นหมินอันเกอก็กลับมาแล้ว คุณไม่ต้องเป็นกังวลเลยแม้แต่นิดเดียว”
เวินเที๋ยนเที๋ยนจัดของในห้องอย่างเรียบร้อย ในที่สุดจึงได้พยักหน้า หลังจากที่รับประทานอาหารเย็นเสร็จ เมื่อเห็นว่าหลวนจื่อต้องการพักผ่อน จึงตัดสินใจจากไป
เมื่อกลับมาถึงคฤหาสน์ ขณะที่กำลังจะโทรหาจี้จิ่งเชิน ก็เดินเข้าไปด้านใน
ขณะที่กำลังเดินมาถึงใจกลางของสวน จู่ ๆ กลับเห็น กิ่งไม้แห้งหลายกิ่งที่เพิ่งตัดเสร็จใหม่ๆ อยู่ในมุมข้างๆ
เธอหยุดฝีเท้าลง และมองดูอย่างละเอียด
กิ่งไม้แห้งเหล่านั้นอยู่ห่างจากถนนค่อนข้างมาก อีกทั้งตำแหน่งที่หักก็ดูแปลกๆ
เวินเที๋ยนเที๋ยนอดไม่ได้ที่จะเดินเข้าไป ก้มหน้ามองดู และเมื่อสังเกตดี ๆ ก็พบว่ามีรอยเท้าอยู่บนพื้น
เธอจำได้ว่า หลายวันมานี้ไม่ได้มีการตัดแต่งดอกไม้และหญ้าในสวน แล้วทำไมถึงได้มีรอยเท้าขึ้นมาได้ล่ะ?
ใจของเธอรู้สึกสงสัย
สัมผัสที่หกบอกกับเธอว่า เรื่องราวคงไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด ดังนั้นเธอจึงไม่ได้โทรศัพท์ แต่เดินตามรอยเท้านั้นเข้าไป หลังจากนั้นก็พบว่ารอยเท้านั้นเดินไปทางห้องครัว
เมื่อเธอเดินมาถึงด้านหน้าของหน้าต่าง ก็ได้ยินเสียงกำลังเก็บของพลางบ่นขึ้นว่า
“หรือว่าในสวนจะมีแมว?ของว่างที่ฉันเพิ่งทำเสร็จ เผลอแวบเดียวทำไมถึงหายไปได้ล่ะ ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนยืนอยู่ด้านนอกหน้าต่าง เมื่อได้ยินดังนั้น จึงเอ่ยปากถามขึ้นว่า:“เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”
เมื่อแม่ครัวได้ยินดังนั้นก็หันกลับมา เมื่อเห็นเวินเที๋ยนเที๋ยนยืนอยู่ด้านนอกหน้าต่าง ก็ตกใจ
“หลายวันมานี้ไม่รู้เหมือนกันว่าในสวนมีสุนัขหรือแมวจอนจัดหลงเข้ามาบ้างไหม หลายครั้งที่ฉันทำอาหารเสร็จแล้ววางไว้บนโต๊ะ กำลังจะนำไปให้คุณผู้หญิงชิม แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงได้หายไปได้”
เธอขมวดคิ้วพลางพูดขึ้น:“ดูเหมือนว่าคงต้องบอกกล่าวกับพวกเขาแล้วว่า ให้ระวังอย่าให้สุนัขจรจัดมาทำร้ายคน”
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองดูรอยเท้าที่ล่างเท้าของตน พลางขมวดคิ้ว
สุนัขจรจัดที่ไหนกัน?
ดูจากรอยเท้าแล้ว เห็นได้ชัดว่ามีคนๆหนึ่งนำของที่แม่ครัวทำเสร็จออกทางหน้าต่าง แต่จะเป็นใครล่ะ?
เธอเดินไปตามรอยเท้านั้น รอยเท้านั้นตรงไปตลอดทาง แต่เมื่อตามไปสักพักก็ไม่เห็นรอยเท้านั้นอีก
เวินเที๋ยนเที๋ยนเงยหน้าขึ้นมอง นี่เป็นทางไปห้องของหลิวเหม่ยหลัน
คฤหาสน์หลังนี้เป็นคฤหาสน์ขนาดใหญ่ แต่ว่ามีประวัติศาสตร์มากกว่าร้อยปี แม้ว่าตึกจะไม่สูงมาก แต่ก็ตั้งอยู่บนพื้นที่กว้างขวางคฤหาสน์แต่ละหลังมีสวนดอกไม้กั้นอยู่
หลังจากที่หลิวเหม่ยหลันและหล่อนเจียนีเข้ามาอาศัยอยู่ที่นี่ ก็อาศัยอยู่ในคฤหาสน์ด้านหลัง น้อยครั้งมากที่เที๋ยนเที๋ยนจะเข้าไป
เมื่อคิดถึงเรื่องเมื่อสองวันก่อน จู่ ๆ ท่าทีของหลิวเหม่ยหลันก็เปลี่ยนไป ร้องขอให้รีบตามหาหล่อนเจียนีกลับมา เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างแปลกๆ จึงก้าวเท้าเดินตรงเข้าไป
ในใจของเธอรู้สึกสงสัยเป็นอย่างมาก
ว่าทำไมพ่อบ้านได้ตามหาหล่อนทุกหนทุกแห่งในเมืองหลวง แต่ก็ไม่พบร่องรอยของเธอเลย?
เมื่อมานั่งนึกตอนนี้ จึงพบว่า พวกเขาไม่ได้ตามหาภายในคฤหาสน์ตระกูลหล่อน
ตอนแรกทุกคนต่างเห็นตรงกันว่าหล่อนเจียนีไม่กล้าที่จะอยู่ต่ออย่างแน่นอน จึงได้หนีออกไปแล้ว แต่จะเป็นไปได้ไหมว่า เธอยังไม่ได้ไปไหนเลย?
มีหลิวเหม่ยหลันช่วยปกปิด อีกทั้งคฤหาสน์หลังนี้ก็กว้างใหญ่ มีสถานที่สำหรับแอบซ่อนคนจำนวนมาก ง่ายมากที่จะหลบสายตาของผู้คน
เวินเที๋ยนเที๋ยนยิ่งคิด ยิ่งเห็นถึงความเป็นไปได้ จึงเคาะประตูห้องของหลิวเหม่ยหลัน แต่ด้านในกลับไม่มีการตอบสนอง
เธอค่อยๆใช้นิ้วผลักประตูออก ประตูไม่ได้ล็อกกลอน
เวินเที๋ยนเที๋ยนขมวดคิ้ว ยกเท้าก้าวเข้าไป สายตามองไปบริเวณรอบๆ ไม่เห็นแม้แต่เงาใครเลย
บนโต๊ะมีนิตยสารที่เปิดอยู่หลายเล่ม บนพื้นมีเปลือกผลไม้ล่วงอยู่บ้าง
ขณะที่เธอครุ่นคิด และกำลังเดินไปข้างหน้า จู่ๆก็มีเสียงเรียกดังมาจากด้านหลัง
“เวินเที๋ยนเที๋ยน!” เนื่องจากความตกใจจึงทำให้น้ำเสียงหลิวเหม่ยหลันเสียศูนย์ เสียงสูงราวกับแมวที่ถูกเหยียบหาง
เวินเที๋ยนเที๋ยนหยุดฝีเท้าลง หันหลังกลับมาดู
สีหน้าของหลิวเหม่ยหลันขาวซีด แล้วรีบเดินมาขวางด้านหน้าเธอ
“คุณมาที่นี่ทำไม?”
ท่าทางของหล่อนลุกกี้ลุกลน ทำให้คนเกิดความสงสัย
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองไปที่หล่อน อยากเห็นความผิดปกติบนใบหน้าของเธอ จึงพูดขึ้นอธิบายว่า:“มาหาคุณมีธุระนิดหน่อย”
หลิวเหม่ยหลันยิ้มแข็ง
“มีธุระอะไรก็ให้พ่อบ้านมาตามฉันไปพบก็ได้ ไม่เห็นจำเป็นจะต้องมาด้วยตัวเองเลย?”
ขณะที่พูด เมื่อตนเห็นเปลือกผลไม้ถูกทิ้งอยู่บนพื้น สีหน้าก็เปลี่ยน รีบพูดขึ้นอย่างรีบร้อนว่า:“ที่นี่รกรุงรัง พวกเราออกไปคุยกันข้างนอกเถอะ”
ยังไม่ทันรอให้เวินเที๋ยนเที๋ยนเห็นด้วย ก็จูงมือเธอออกไปข้างนอก
เมื่อออกจากห้อง หลิวเหม่ยหลันก็ปิดประตูอย่างระมัดระวัง จากนั้นหันศีรษะมายังเวินเที๋ยนเที๋ยน พลางยิ้มเจื่อนๆให้กับเธอ
“มีธุระอะไรเหรอ?”
สายตาของเวินเที๋ยนเที๋ยนที่มองไปยังประตูก็หดสายตาลง พลางถามขึ้นว่า:“ฉันก็แค่อยากจะมาถามว่า คุณได้ข่าวคราวของหล่อนเจียนีบ้างไหม”
“ไม่เลย” หลิวเหม่ยหลันรีบตอบอย่างรวดเร็ว:“แม้แต่พวกคุณก็หาไม่เจอ แล้วฉันจะหาเจอได้ยังไง?ช่วงนี้ฉันก็ไม่ได้ออกไปไหน