บทที่ 767 ห้ามนอนค้างคืน
“หากคุณผู้หญิงทราบเรื่อง ต้องไม่ให้อภัยคุณแน่!”
แม่บ้านโกรธพลางบ่นพึมพำ และเดินเข้ามา
เดิมทีจี้จิ่งเชินอยากจะเดินจากไปอย่างเงียบๆ แต่เมื่อได้ยินคำพูดดังกล่าว เดินไปได้ครึ่งทางก็หยุดลง และหันกลับมาอย่างจนปัญญา
สายตาของแม่ครัวเห็นใบหน้าของเวินเที๋ยนเที๋ยน หล่อนจึงเงียบลง
เวินเที๋ยนเที๋ยนโบกมือให้กับหล่อน
“สวัสดีตอนค่ำค่ะ”
แม่บ้านตกตะลึง พลางถามขึ้นด้วยน้ำเสียงตกใจว่า:“คุณผู้หญิง คุณมาได้ยังไงคะ?คุยกันแล้วไม่ใช่เหรอคะว่าช่วงนี้จะมานอนค้างคืนไม่ได้?”
หล่อนมองไปที่เวินเที๋ยนเที๋ยน วินาทีนั้นไม่รู้ว่าจะชื่นชมยินดี หรือว่าก่นด่าดี
เดิมทีคิดว่าจี้จิ่งเชินทำเรื่องที่ไม่ดี แต่คิดไม่ถึงเลยว่าฝ่ายตรงข้ามกลับเป็นเวินเที๋ยนเที๋ยน
จี้จิ่งเชินไม่ได้เอ่ยปาก แต่อาศัยช่วงแม่บ้านกำลังเผลอ รีบอุ้มเวินเที๋ยนเที๋ยนขึ้นไปข้างบนอย่างรวดเร็ว
เมื่อขึ้นไปถึงชั้นสอง เวินเที๋ยนเที๋ยนก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้
พยายามระมัดระวังมาตลอดทาง แต่กลับถูกแม่บ้านจับได้
“ดูซิว่าคราวหน้าคุณยังจะกล้าอีกไหม?”เวินเที๋ยนเที๋ยนพูดขึ้น
น้ำเสียงของจี้จิ่งเชินจนปัญญา เขาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า:“ครั้งหน้าผมจะครุ่นคิดให้ดีกว่านี้ จะให้พวกแม่บ้านกับพ่อบ้านลาหยุด”
เวินเที๋ยนเที๋ยนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา
“หากคุณพูดแบบนั้น พวกเขาก็ต้องรู้แน่ๆ”
“แล้วจะทำไมล่ะ?”จี้จิ่งเชินพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ:“เวินเที๋ยนเที๋ยนเป็นภรรยาของผม แล้วจะมีใครกล้าคัดค้านเหรอ?”
เขาพูดขึ้นอย่างสามหาว น้ำเสียงเต็มไปด้วยความโอหัง จากนั้นหันหลังพาเวินเที๋ยนเที๋ยนไปยังห้องนอน ปิดประตู ไม่ยอมให้ใครเข้ามารบกวน
วันรุ่งขึ้น เวินเที๋ยนเที๋ยนเพิ่งจะลงมาจากข้างล่าง แล้วตรงมาที่ห้องอาหาร ก็พบว่าพ่อบ้านและแม่ครัวยืนขนาบข้างจี้จิ่งเชินอยู่ ใบหน้าเต็มไปด้วยสีหน้าตำหนิมองไปที่เขา
สีหน้าของจี้จิ่งเชินไม่เปลี่ยนแปลง นั่งลงอย่างเงียบๆ
เมื่อเวินเที๋ยนเที๋ยนเดินเข้ามา สายตาของทั้งสองก็มองมาที่เธอ
สายตามองมาอย่างชัดเจน ทำให้เวินเที๋ยนเที๋ยนหยุดฝีเท้าลง ไม่รู้ว่าวันนี้ควรที่จะอยู่ต่อดีหรือว่ารีบหนีไปดี
“อรุณสวัสดิ์ค่ะ ?”เธอยืนอยู่กับที่อย่างกระอักกระอ่วนใจ สายตามองไปที่จี้จิ่งเชินเพื่อขอความช่วยเหลือ
จี้จิ่งเชินยังไม่ทันตอบรับ แม่ครัวก็บ่นกล่าวขึ้นว่า:“คุณผู้ชายดื้อก็ช่างเถอะ แต่คุณผู้หญิงทำไมถึงได้ดื้อตามคุณผู้ชายไปอีกคนล่ะคะ?”
ไม่รู้เหมือนกันว่าแม่ครัวไปได้ยินความเชื่อมาจากไหน เวินเที๋ยนกับจี้จิ่งเชินผ่านอะไรกันมามากมาย หากต้องการที่จะมีชีวิตที่สงบสุขหลังแต่งงาน ช่วงเวลาระหว่างหมั้นกับแต่งงานห้ามนอนค้างคืนด้วยกันอย่างเด็ดขาด หากไม่เป็นเช่นนั้น ต่อไปจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น
หลังจากที่หล่อนทราบข่าวนี้ ก็รีบบอกคนอื่นๆ ทั้งยังลากพ่อบ้านมาเป็นหน่วยสนับสนุนของหล่อน ทั้งสองร่วมมือกันสอดส่องดูแล
คราวที่แล้วที่จี้จิ่งเชินหลอกให้เวินเที๋ยนเที๋ยนมา วันรุ่งขึ้นจี้จิ่งเชินถูกแม่บ้านอบรมยกใหญ่
เวินเที๋ยนเที๋ยนและจี้จิ่งเชินไม่เชื่อเรื่องพวกนี้ มองว่าเป็นเพียงความงมงายก็เท่านั้น
เมื่อวานเดิมทีจี้จิ่งเชินดีใจ คิดอยากที่จะหลบหลีกพวกเขา แต่คิดไม่ถึงเลยว่าหลบพ่อบ้านได้แล้ว แต่กลับหลบแม่ครัวไม่ได้ และยังถูกจับได้อีก
แม่ครัวพูดอยู่ข้างๆ สีหน้าของเวินเที๋ยนเที๋ยนแดงก่ำ คิดไม่ถึงเลยว่าวันหนึ่งจะต้องถูกบ่นเรื่องพวกนี้
เธอเงยหน้ามองจี้จิ่งเชินด้วยความไม่พอใจ
ก่อนที่เวินเที๋ยนเที๋ยนจะลงมา ทั้งสองจะต้องอบรมเขาแล้วยกใหญ่ แต่สีหน้าท่าทางของจี้จิ่งเชินราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เมื่อสังเกตเห็นสายของเวินเที๋ยนเที๋ยน เขาจึงยกมือขึ้นมา
“เที๋ยนเที๋ยน ผมให้พวกเขาทำพุดดิ้งให้คุณ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนดึงมือของเขาเดินเข้าไป
จี้จิ่งเชินก็พูดขึ้นกับแม่ครัวและพ่อบ้านว่า:“ผมว่าพวกคุณน่าจะมีเวลาว่างมากเกินไป?หากงานในปราสาทไม่มีมากพอให้พวกคุณทำ ผมจะให้พวกคุณหยุดพักผ่อน รอให้พวกเราแต่งงานกันเรียบร้อยก่อนค่อยกลับมา”
เมื่อพ่อบ้านได้ยินดังนั้น ก็ตกใจจนต้องรีบปฏิเสธ
“ไม่ต้องหรอกครับ คุณผู้ชาย งานแต่งงานของคุณกับคุณผู้หญิงจะขาดเราสองคนได้ยังไง?”
“แต่ว่า……”แม่ครัวลังเลเล็กน้อย
จี้จิ่งเชินเอ่ยปากขึ้นอีกครั้งว่า:“คุณไม่ต้องเป็นกังวล ผมไม่ยอมให้เที๋ยนเที๋ยนเป็นอะไรไปหรอก”
เขาพูดอย่างหนักแน่น เมื่อแม่ครัวได้ยินสายตาก็ยังคงมีความกังวลอยู่
ลังเลอยู่นาน แต่ก็ทำได้เพียงรับปาก
เมื่อเวินเที๋ยนเที๋ยนเห็นสีหน้าที่ยังกังวลของหล่อน ก็อดที่จะพูดโน้มน้าวไม่ได้ว่า:“คุณไม่ต้องเป็นห่วง ไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นหรอก”
แม่ครัวพูดขึ้นอย่างเป็นกังวลว่า:“แต่ถ้าไม่เป็นแบบนั้นจะทำยังไง?”
“ไม่หรอก” จี้จิ่งเชินตอบอย่างหนักแน่น
เวินเที๋ยนเที๋ยนก็พยักหน้า เธอไม่ได้เชื่อมั่นในตนเองมากเกินไป แต่เมื่อพิจารณาสถานการณ์แล้วจึงได้ตัดสินใจแบบนี้
เรื่องเวินฉี่มันผ่านไปแล้ว มีเพียงเวินหงไห่สาบสูญไร้ร่องรอย กำลังหลบหนีอยู่ข้างนอก ขอเพียงแค่เขาโผล่หัวขึ้นมา ก็จะต้องถูกหาจนพบอย่างแน่นอน
แม้ว่าจะยังหาหล่อนเจียนีไม่เจอ และถึงแม้ว่าจะตามหาต่อไป จู่ๆ เธอก็คงจะไม่โผล่มา เรื่องเมื่อก่อนที่เคยกังวลใจรวมไปถึงเรื่องที่เคยถูกช่มขู่ แล้วจะมีเรื่องอะไรที่สามารถข่มขู่พวกเขาได้อีกล่ะ?
เวินเที๋ยนเที๋ยนค่อนข้างวางใจ
อีกทั้งหลังจากที่พวกเขาทั้งสองแต่งงานกัน จี้จิ่งเชินก็จะอยู่ข้างกายเธอ ทั้งสองก็ไม่มีอะไรที่ต้องเข้าใจผิดกัน และไม่ต้องทำเรื่องที่เป็นการทำร้ายฝ่ายตรงข้าม ความกังวลของแม่ครัวก็จะไม่มีอีกต่อไป
หลังจากที่แม่ครัวฟังสิ่งที่เวินเที๋ยนเที๋ยนวิเคราะห์ ในที่สุดก็วางใจ
“ไม่มีเรื่องอะไรก็ดีแล้ว”หล่อนยิ้มพลางพูดขึ้น:“ได้เห็นคุณผู้ชายและคุณผู้หญิงอยู่ด้วยกัน พวกเราก็วางใจ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนหันไปขยิบตาให้กับจี้จิ่งเชิน จากนั้นก็นั่งลง
จิ่งเชินค่อยๆยืดตัวขึ้น พลางพูดขึ้นที่หูเธอเบาๆว่า:“เที๋ยนเที๋ยนคุณฉลาดมากเลย แล้วทำไมถึงเพิ่งพูดล่ะ?”
หากเป็นเช่นนี้ ก็คงไม่ต้องรอนานขนาดนี้แล้ว
เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่ได้อธิบาย แต่ว่าสายตาของเธอนั้นอธิบายแทนหมดทุกอย่างแล้ว
หมินอันเกอกลับมาที่นี่ในวันที่สองหลังจากเขากลับมา
เมื่อเขามาถึง เวินเที๋ยนเที๋ยนก็เดาได้ว่า ต้องเป็นเพราะเรื่องของหล่อนเจียนีเป็นแน่ที่ทำให้เขากลับมา
แต่แม้ว่าจะรู้ว่าเขามาด้วยเหตุผลอะไร แต่เวินเที๋ยนเที๋ยนก็ไม่รู้จะทำอย่างไร
แม้ว่าก่อนหน้านี้เธอจะเคยสงสัยหลิวเหม่ยหลัน กำชับให้พ่อบ้านจับตามอง แต่ว่าต่อมากลับไม่พบว่าหล่อนมีสิ่งผิดปกติอะไร วิธีนี้คงต้องตัดใจ
ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นเพราะเวินเที๋ยนเที๋ยนเดาผิด หรือเป็นเพราะว่าพวกเก็บซ่อนไว้เป็นอย่างดี
“ต้องขอโทษด้วยนะคะ พวกเรายังไม่ได้เบาะแสอะไรเลย ที่ๆ ควรตามหาก็ตามหาจนหมดแล้ว”เวินเที๋ยนเที๋ยนกลัดกลุ้มจนต้องขมวดคิ้ว
เมื่อหมินอันเกอัฟงจบ ก็ไม่รับสาย
“หล่อนเจียนียังอยู่ที่เมืองหลวงจริงเหรอ?หรือว่าควรที่จะขยายขอบเขตให้กว้างขึ้น”
เวินเที๋ยนเที๋ยนก็เคยสงสัยแบบนั้น แต่ว่าหล่อนเจียนีไม่มีเงิน และนี่ก็เป็นความจริง ในสถานการณ์แบบนี้เธอไม่น่าจะไปได้ไกล
คิดไปคิดมา จึงพูดขึ้นว่า:“ฉันจะให้คนตามหาในวงกว้างขึ้น ไม่ว่าจะต้องพลิกแผ่นดินหา ก็ต้องหาคนให้เจอ”
“รบกวนคุณด้วย”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้า
“หลวนจื่อเกิดเรื่องขึ้น ก็มีสามเหตุมาจากฉัน นี่มันก็เป็นสิ่งที่ฉันควรทำ”
ขณะที่เวินเที๋ยนเที๋ยนกำลังจะส่งเขา เพิ่งจะเดินได้เพียงไม่กี่ก้าว กำลังที่จะเตรียมกล่าวลา จู่ๆ ก็กลับถูกผลักจากด้านหลัง
เหตุการณ์เกิดขึ้นรวดเร็วมาก เธอยังไม่ทันยืนนิ่ง ก็กลับล้มลงไปข้างหน้า
หมินอันเกอที่เดินอยู่ด้านหน้าได้ยินเสียงก็หันกลับมา และยื่นมือไปคว้าเดินอย่างอัตโนมัติ
ยังไม่ทันรอให้ทั้งสองยืนนิ่ง คนที่ผลักเวินเที๋ยนเที๋ยนเมื่อครู่ก็รีบผลักหมินอันเกออย่างรวดเร็ว
พวกเขายังไม่ทันได้ดูอย่างแน่ชัดว่าฝ่ายตรงข้ามคือใคร ก็ล้มลงไปกองอยู่ข้างหน้า