บทที่788 หกชั่วโมงกับข้อตกลง
เคอเหยียนรุ่ยชอบที่สุดก็คือเจ้านายที่รู้เหตุรู้ผลอย่างเวินเที๋ยนเที๋ยนแบบนี้
ก่อนหน้านี้เขารับงานออกแบบงานชุดแต่งงานมาแล้วตั้งมากมาย เจอคนที่ชอบชี้นิ้วสั่ง อะไรๆก็ติดขัดไปหมดแบบนี้มาไม่น้อย
น้อยมากที่จะเป็นแบบเวินเที๋ยนเที๋ยนแบบนี้ ยอมวางมือแล้วให้เขาเป็นคนออกแบบให้เอง
“คุณเวิน ฉันจะต้องออกแบบชุดแต่งงานที่ดีที่สุดออกมาให้เธอให้ได้ ทำให้เธอกลายเป็นเจ้าสาวที่สวยที่สุด!”
เคอเหยียนรุ่ยเอ่ยพูดให้คำมั่นสัญญาออกมาอย่างจริงใจ
วางสายไปแล้ว เวินเที๋ยนเที๋ยนก็ยังคงรู้สึกพูดไม่ออกบอกไม่ถูกอยู่บ้าง
แต่ไม่นาน เธอก็เจอเข้ากับเรื่องที่ทำให้เธอถึงกับพูดไม่ออกยิ่งไปกว่าเดิมเสียอีก
“พี่คิดจะอยู่ที่นี่ไม่ไปไหนจริงๆหรือคะ?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนยืนอยู่หน้าประตูห้องตัวเอง เห็นผู้ช่วยของจี้จิ่งเชินย้ายกล่องใบหนึ่งเข้ามา
ด้านในเป็นเสื้อผ้าของจี้จิ่งเชิน
เวลาที่เธอโทรศัพท์เพียงแค่ไม่นาน จี้จิ่งเชินก็ให้ผู้ช่วยของเขามาแล้วย้ายของเข้ามาในห้องของเธออีก
ต้องเร็วขนาดนี้เลยหรือ?
“คุณไม่อยากจะให้ผมอยู่ที่นี่ อยู่ข้างๆคุณหรอกหรือครับ?”
จี้จิ่งเชินเดินมาตรงหน้าเวินเที๋ยนเที๋ยน แล้วตั้งใจทำท่าทางน่าสงสารออกมา
ในเมื่อรู้ว่าผู้ชายคนนี้จะฉกฉวยความเห็นใจนี้จากเธอ เวินเที๋ยนเที๋ยนจึงอดที่จะส่ายหน้าออกมาไม่ได้
“ฉันไม่ได้หมายความแบบนี้เสียหน่อย ฉันอยากให้พี่อยู่ข้างๆฉันอยู่แล้ว…..”
“ผมก็เหมือนกันครับ”
จี้จิ่งเชินจับไหล่ของเวินเที๋ยนเที๋ยนเอาไว้ ด้วยความรู้สึกที่จะยึดครองเธอเอาไว้คนเดียว : “ผมก็ไม่อยากแยกจากคุณไปเลยแม้แต่ช่วงเวลาเดียวเลยเหมือนกัน”
“แต่ว่า…..”
“ไม่ต้องแต่แล้วครับ ผมไม่อยากกลับไปคฤหาสน์แล้ว ที่นั่นไม่มีคุณ ให้ผมอยู่ที่นั่นผมไม่มีความสุขเลยแม้แต่นิดเดียว”
น้ำเสียงของจี้จิ่งเชินนั้นมีความน้อยใจ เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินแล้วก็ทำให้เธอหวั่นไหวไปด้วย
“อยู่ที่นี่กับฉันก็ได้ค่ะ แต่ว่าฉันขออย่างนึงนะ” เวินเที๋ยนเที๋ยนเงยหน้าขึ้นมองจี้จิ่งเชิน แววตามุ่งมั่นอย่างเห็นได้ชัด
“พี่ต้องอยู่ห้องรับรองแขกนะ”
เพียงแค่ไม่ต้องอยู่ด้วยกัน เพื่อทำลายกฎระเบียบของการแต่งงานก็พอ
เธอไม่คาดหวังที่จะเห็นงานแต่งงานของตัวเองกับจี้จิ่งเชินออกมาอย่างไม่สมบูรณ์แบบแม้แต่นิดเดียว
ได้ยินคำพูดของเวินเที๋ยนเที๋ยนแล้ว มุมปากของจี้จิ่งเชินก็ปรากฏรอยยิ้มออกมา
เขายกมือขึ้นมาจับแก้มของเวินเที๋ยนเที๋ยนเอาไว้ “นี่คุณกำลังหลอกตัวเองอยู่สินะครับ”
“เรื่องของฉันนี่คะ?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเลี่ยงสายตาออกมาอย่างเขินอาย
ผู้ชายคนนี้ยังจะมาบอกว่าเธอหลอกตัวเองอีกอย่างนั้นหรือ? ไม่ใช่เพราะว่าเขาไม่ยอมย้ายไปรึไง ถึงต้องใช้วิธีการนี้
เมื่อรับรู้ว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนมีแนวโน้มที่จะโกรธเนื่องจากความเขินอายนี้ จี้จิ่งเชินจึงรีบยอมทำตามนั้น : “โอเคครับ ผมไปนอนห้องรับรองแขกก็ได้”
เสียงของเขาทุ้มต่ำ แววตานั้นมองด้วยความเอ็นดู
ไม่คิดว่าจะตอบรับอย่างง่ายๆแบบนี้?
เวินเที๋ยนเที๋ยนยังเตรียมพูดอ้อนเอาไว้แล้วเสียด้วยซ้ำ ไม่คิดว่าจี้จิ่งเชินจะตกปากรับคำได้อย่างง่ายดายขนาดนี้!
“พี่…..”
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองเขาอย่างประหลาดใจ แต่กลับถูกเขาก้มหน้าลงมาจูบเธอเข้าพอดี
เขากระซิบด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มต่ำ : “ทำยังไงดีครับ ผมพบว่ายังไม่ทันได้แต่งงานเลย ผมก็กลายเป็นคนกลัวภรรยาไปแล้ว”
“ถ้าอย่างนั้นพี่ก็ไม่ชอบเป็นพวกคนที่กลัวภรรยาหรือคะ?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเลิกคิ้วขึ้น พลางเอ่ยถามอย่างยั่วยุ
เธอคิดเอาไว้แล้ว ว่าถ้าจี้จิ่งเชินกล้าพูดว่าไม่ เธอก็จะไล่เขากลับคฤหาสน์ไปเสียเลย
“ก็ต้องไม่ชอบอยู่แล้วสิครับ ใครจะชอบเป็นพวกกลัวภรรยากันบ้าง?”
คำพูดของจี้จิ่งเชินทำให้เวินเที๋ยนเที๋ยนเบิกตาขึ้นมาในทันที และที่เธอกำลังจะโกรธนั้น กลับได้ยินเขาเอ่ยพูดขึ้นต่อ
“แต่เพื่อคุณ ผมยอมที่จะเป็นพวกกลัวภรรยาไปตลอดชีวิตเลยนะ”
น้ำเสียงที่อ่อนโยนและแหบพร่าของเขามีเสน่ห์ทำให้คนหลงได้
เวินเที๋ยนเที๋ยนตกตะลึงอยู่ตรงที่เดิม หัวใจของเธอขึ้นๆลงๆราวกับกำลังเล่นบันจีจัมป์อย่างไรอย่างนั้น
สุดท้ายแล้วเชือกที่อยู่ในใจนั้นก็หลุดออกโดยสิ้นเชิง หลังจากนั้นหัวใจของเธอนั้นก็ตกลงไปในบ่อน้ำลึกที่มีชื่อว่าจี้จิ่งเชินเสียแล้ว
เธอยิ้มออกมาอย่างควบคุมไม่ได้ “พูดน่าฟังจังค่ะ……”
“เรายังมีเวลาอีกนาน ผมจะใช้ทั้งชีวิตเพื่อทำตามคำสัญญาของผม”
“แต่ก่อนช่วงนี้นั้น เราก็ยังต้องแยกกันซักช่วงนึง”
เวินเที๋ยนเที๋ยนถึงได้ไม่สนใจคำพูดหวานๆของเขา ยังคงยืนหยัดในการตัดสินใจของตัวเอง : “ฉันรู้สึกว่าแม่ครัวพูดถูก”
ถ้าหากไม่แยกกันเป็นการชั่วคราวเสียหน่อย จิ่งเชินก็จะรู้สึกตกตะลึงตอนที่เธอสวมชุดแต่งงานบ้าง
เธอต้องมีภูมิคุ้มกันกับใบหน้าที่หล่อเหลาของจี้จิ่งเชินแล้ว
พวกเขาสองคนอยู่ด้วยกันตลอดทั้งวัน จะมีอะไรให้เซอร์ไพรส์ได้อีกกัน?
“พี่เองก็ไม่คาดหวังให้งานแต่งงานของเราออกมาไม่สมบูรณ์แบบหรอกใช่ไหมคะ?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองเขาอย่างรอคอย
ถูกสายตาของเวินเที๋ยนเที๋ยนเกลี้ยกล่อมแล้ว จี้จิ่งเชินเม้มริมฝีปากบาง แล้วจึงพยักหน้าลง
ดวงตาที่ลึกซึ้งของเขาจ้องมองไปยังเวินเที๋ยนเที๋ยน ราวกับหมาป่าที่เตรียมพร้อมแล้วอย่างไรอย่างนั้น
“รอหลังจากที่แต่งงานแล้ว พวกนี้ผมจะต้องขอเรียกคืนกลับมานะครับ”
“พวกนี้” หมายถึงอะไร? ชัดเจนมากจริงๆ
เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้สึกร้อนที่ใบหู แล้วหลบสายตาไปอย่างอายๆ
จงหลีผู้น่าสงสารที่เพิ่งจะขนย้ายของมาไว้ที่ห้องโถงตามคำสั่งนั้น ก็ถูกจี้จิ่งเชินสั่งให้เอาของไปไว้ที่ห้องรับรองแขกอีกครั้ง
“เย็นนี้อยากทานอะไรคะ?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนอยู่เอาเสื้อผ้าเก็บเข้าตู้เป็นเพื่อจี้จิ่งเชิน
จี้จิ่งเชินเอ่ยขึ้นโดยไม่ต้องคิด : “เที๋ยนเที๋ยน”
“…….”
เวินเที๋ยนเที๋ยนหยุดการเคลื่อนไหวลง แล้วเงยขึ้นมองเขา “ฉันถามพี่อย่างจริงจังนะ!”
“ผมเองก็ตอบคุณจริงจังเหมือนกัน”
จี้จิ่งเชินก้าวเข้าไปยืนตรงหน้าของเวินเที๋ยนเที๋ยน ร่างสูงใหญ่นั้นกั้นขวางแสงแดดผืนใหญ่เอาไว้
“ทำไมมองฉันแบบนี้คะ?”
เธอหันหน้าไปอย่างเกร็งๆ และไม่สบตาเขา
“ผมอยากทานข้าวต้มปลาฝีมือคุณแล้ว” จี้จิ่งเชินลูบผมเธออย่างอ่อนโยน “ไม่เพียงแค่ข้าวต้มปลานะ ขอเพียงแค่คุณเป็นคนทำ ผมก็ทานหมดนั่นแหล่ะ”
“กลัวว่าต่อไปพี่จะต้องทานจนเบื่อน่ะสิคะ”
“ทานมานานขนาดนี้แล้ว คุณเคยเห็นผมเบื่อไหมล่ะครับ? ผมทานอาหารที่คุณทำ ผมไม่เบื่ออยู่แล้ว”
ได้ยินแล้วนั้น เวินเที๋ยนเที๋ยนนึกย้อนกลับไปจริงๆ
เหมือนกับว่าทุกๆครั้งอาหารที่เธอทำ จี้จิ่งเชินจะกินจนหมดเกลี้ยงตลอด
“ได้ค่ะ ฉันไปทำให้พี่นะ ทำเสร็จแล้วเดี๋ยวให้พวกเขาเอามาให้แล้วกัน”
“ให้แม่บ้านเอามาให้หรือ?” จี้จิ่งเชินมองเธอแปลกๆ เห็นได้ชัดว่าแววตานั้นกำลังเอ่ยถามขึ้น : ทำไมคุณไม่เอามาส่งผมเอง
เวินเที๋ยนเที๋ยนหัวเราะพลางเอ่ยขึ้น : “ไม่ใช่ว่าคุยกันแล้วหรือคะ? พวกเราจะต้องเจอกันให้น้อยลง แบบนี้ตอนวันแต่งงานจะได้มีความรู้สึกเซอร์ไพรส์ไง”
“เซอร์ไพรส์? ได้เห็นแค่คุณก็เซอร์ไพรส์แล้ว นี่คงจะไม่ได้ให้ผมเจอหน้าคุณทั้งเดือนใช่ไหม?”
จี้จิ่งเชินขมวดคิ้วเข้าหากัน แทบจะมารวมกันอยู่ตรงหว่างคิ้ว
อาการที่แสดงออกมาว่าไม่เต็มใจนี้ชัดเจนมากว่าเขาจะไม่ยอมร่วมมือ
“แล้วพี่อยากจะทำยังไง?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเอ่ยถามเขา
“หนึ่งวันจะต้องเจอหน้ากันเกินห้าชั่วโมงขึ้นไป ไม่ต้องนอนด้วยกันก็ได้ แต่จะต้องมาทานข้าวด้วยกัน”
จี้จิ่งเชินครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง แล้วก็ส่ายหน้าอีกครั้ง “ไม่ได้สิ อย่างน้อยๆต้องอยู่ด้วยกันหกชั่วโมง!”
เขายื่นมือมาทำสัญลักษณ์เป็นเลขหก
หกชั่วโมง? ไม่นับรวมเวลานอน นั่นก็เท่ากับว่าเวลาที่พวกเขาอยู่ด้วยกันนั้นคิดเป็นหนึ่งในสามของวันนั่นเอง!
ถ้าอย่างนั้นจะเก็บความรู้สึกที่ลึกลับนี่ได้อย่างไร และยังจะสร้างความเซอร์ไพรส์ได้อย่างไรกันแบบนี้?
เวินเที๋ยนเที๋ยนกำลังจะโต้แย้งกลับไป ก็ถูกจี้จิ่งเชินตัดบทไปเสียก่อน “ถ้าไม่อย่างนั้น ที่ผมพูดไปก่อนหน้านี้ผมก็จะยกเลิก แล้วรีบย้ายกลับเข้าไปอยู่ในห้องคุณเหมือนเดิมนะ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองจี้จิ่งเชินอย่างตกตะลึง ผู้ชายคนนี้ทำไมถึงได้หน้าไม่อายแบบนี้กัน!
ทั้งๆที่รับปากกันดีแล้ว แล้วนี่จะมาเปลี่ยนใจอีกอย่างนั้นหรือ?
“พี่ พี่กลับไปอยู่ที่คฤหาสน์ดีกว่านะคะ”