เมียหวานของประธานเย็นชา – บทที่ 787

บทที่ 787

บทที่787 แนวความคิดการออกแบบชุดแต่งงาน

ความปรารถนาอันยาวนานตลอดปี ในที่สุดก็มาถึงแล้ว

ไปๆมาๆเธอกับจี้จิ่งเชินก็ผ่านอะไรมาด้วยกันมากมายขนาดนี้ แต่สุดท้ายก็กลับมาตรงจุดเดิม

เวินเที๋ยนเที๋ยนหลับตาลง แล้วพิงอยู่ที่ไหล่ของจี้จิ่งเชินอย่างเงียบๆ

เหมือนกับเมื่อนานมาแล้ว เธอจะพิงอยู่ข้างๆพี่จิ่งแบบนี้

“ฉันเคยนึกถึงหลายๆฉากที่จะได้พบกับพี่จิ่ง แต่ละครั้ง ในหัวของฉันก็จะมีภาพเหล่านั้นปรากฏขึ้นมา”

เธอพึมพำเบาๆข้างๆหูของจี้จิ่งเชิน แววตาย้อนคิดถึงเรื่องราวในอดีต

จี้จิ่งเชินก้มลงแล้วหอมลงที่ปลายผมของเธอ พลางเอ่ยถามอย่างอ่อนโยน : “ถ้าอย่างนั้นคุณจินตนาการถึงภาพที่เราเจอกันยังไงล่ะครับ?”

“อาจจะเป็นซักวันนึง ฉันจะเจอพี่อยู่บนถนน แล้วอาจจะมีวันนึงที่จู่ๆพี่ก็มาหาฉันที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า”

เวินเที๋ยนเที๋ยนเงยหน้าขึ้นมา รอยยิ้มที่แวบขึ้นมาในดวงตาของเธอ “แต่ฉันคิดไม่ถึงเลยว่า ฉันจะใช้วิธีที่น่าอายแบบนั้นมาอยู่ข้างๆพี่ได้”

“การได้มาพบกันอีกครั้งของเราจะเต็มไปด้วยฉากที่เหมือนกับในละครแบบนั้น”

ถูกทำให้สลบ แต่งงานแทน ดูเหมือนกับเป็นความบังเอิญที่ดูไร้สาระ แต่เบื้องหลังนั้นราวกับมือใหญ่แห่งโชคชะตาพรหมลิขิตที่คอยสนับสนุนผลักดันอยู่อย่างไรอย่างนั้น

“เพราะฉะนั้นแล้วพูดได้ว่าพวกเราได้ถูกกำหนดให้อยู่ด้วยกัน”

จี้จิ่งเชินกระชับกอดเวินเที๋ยนเที๋ยนให้แน่นขึ้น : “คุณเวินเที๋ยนเที๋ยน ได้ถูกกำหนดไว้ให้เป็นภรรยาของจี้จิ่งเชิน ใครก็เปลี่ยนแปลงไม่ได้”

น้ำเสียงที่ดูเผด็จการเอาแต่ใจของชายหนุ่มดังเข้าไปในหูของเธอ ลมหายใจอุ่นๆทำให้ใบหูที่ไวต่อความรู้สึกนี้แดงขึ้นมา

จี้จิ่งเชินโอบเอวทางด้านหลังของเวินเที๋ยนเที๋ยน แล้วก้มศีรษะลงมาประทับจูบลงบนริมฝีปากของเธอ

จูบที่ลึกซึ้งนี้ทำให้ลมหายใจของเวินเที๋ยนเที๋ยนดูยุ่งเหยิงไปเล็กน้อย

และเวลานี้เองนั้น โทรศัพท์มือถือของเวินเที๋ยนเที๋ยนก็ดังขึ้น

เธอเงยหน้าขึ้นมาอย่างทำอะไรไม่ถูก และไม่พลาดกับสายตาที่หงุดหงิดของจี้จิ่งเชิน

“ฉันรับโทรศัพท์ก่อนนะคะ”

เวินเที๋ยนเที๋ยนหัวเราะออกมาเบาๆ แล้วชดเชยด้วยการหอมลงตรงใบหน้าทางด้านข้างของเขาไปหนึ่งที

จี้จิ่งเชินทำได้เพียงพยักหน้าลงอย่างจำยอม “ถ้าอย่างนั้นผมกลับห้องก่อนนะครับ”

เวินเที๋ยนเที๋ยนกำลังจะเลื่อนปุ่มกดรับนั้น ได้ยินแล้วก็เงยหน้าขึ้นมามองเขา พลางเอ่ยขึ้นอย่างสงสัย : “กลับห้อง? กลับห้องไหนคะ?”

เธอจำไม่ได้ว่าได้เตรียมห้องเอาไว้ให้จี้จิ่งเชินด้วย!

“ก็ต้องกลับห้องของเราสิครับ”

จี้จิ่งเชินยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย ใบหน้าแสดงความหยอกล้อออกมา “วางใจเถอะครับ ผมรู้หรอกว่าห้องของเราอยู่ห้องไหน คุณรับโทรศัพท์เถอะ ไม่ต้องสนใจผมหรอก”

ไม่คิดว่าเขาจะอยู่ต่อจริงๆ!

แต่ตอนที่เขาอยากจะพูดอะไรออกมาอีกหน่อยนั้น จี้จิ่งเชินก็ได้หันหลังเดินกลับไปยังห้องของเธอเสียแล้ว!

ลังเลอยู่พักหนึ่ง เวินเที๋ยนเที๋ยนจึงรับสายก่อน ถึงอย่างไรจี้จิ่งเชินก็อยู่ที่นี่ รอเอาไว้ไปปรึกษากับเขาอีกทีก็ยังทัน

“ฮัลโหล?”

“เที๋ยนเที๋ยน ฉันเอง เคอเหยียนรุ่ย!”

เวินเที๋ยนเที๋ยนอึ้งไปพักหนึ่งแล้วเอาโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดู ถึงได้ตอบกลับเขาไป

“ฉันจำได้ว่าฉันบันทึกเบอร์นายไว้นี่! เบอร์นี้เป็นเบอร์ของนายเหมือนกันใช่ไหม?”

ทางฝั่งนั้นมีเสียงของเคอเหยียนรุ่ยดังอธิบายขึ้นมา : “ไม่ใช่ นี่เป็นโทรศัพท์มือถือของเพื่อนฉันเอง วันนี้ฉันไม่ได้พกมือถือมาด้วย ยังดีที่ฉันให้หลวนจื่อเอาเบอร์เธอมาให้ฉัน”

หลวนจื่อ?

เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย พลางพูดออกมาอย่างแปลกๆ : “ถ้าอย่างนั้นนายมีธุระอะไรกับฉันล่ะ?”

“ก็ต้องมีอยู่แล้วสิ เรื่องใหญ่แล้วก็ด่วนด้วย!”

คำพูดของเคอเหยียนรุ่ยทำให้เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้สึกสงสัยและเป็นกังวล ช่างออกแบบชุดแต่งงานของเธอตอนนี้บอกกับเธอว่ามีเรื่องใหญ่ เกิดปัญหาขึ้นกับชุดแต่งงานของเธออย่างนั้นหรือ?

เวินเที๋ยนเที๋ยนเอ่ยมาด้วยความตึงเครียด : “สรุปแล้วเรื่องอะไรกันแน่? ไม่ใช่ว่าชุดแต่งงานของฉันจะมีปัญหาอะไรหรอกใช่ไหม?”

“เธอวางใจเถอะ เกี่ยวกับชุดแต่งงาน แต่ไม่ใช่ว่ามีปัญหา เป็นเรื่องดีต่างหาก!”

เคอเหยียนรุ่ยพูดต่อ : “วันนี้ฉันกับเพื่อนไปเที่ยวที่สวนน้ำกันมา มีแนวคิดที่มหัศจรรย์อยู่อย่างนึงด้วยล่ะ”

สวนน้ำหรือ? เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้สึกสงสัย

“แนวคิดอะไร?”

“ฉันอยากจะวาดลวดลายของคลื่นแห่งความฝันบนชุดแต่งงานของเธอ เธอลองคิดดูนะ ตอนที่ลมพัดชุดแต่งงานของเธอ ลวดลายคลื่นนั้นก็จะพลิ้วไหวขึ้นมา เหมือนกับกระแสน้ำเลย คงจะสวยน่าดูเลยนะ!”

เคอเหยียนรุ่ยเอ่ยพูดขึ้นมาอย่างตื่นเต้น หากเขาพูดถึงเรื่องการออกแบบขึ้นมานั้น ก็จะพูดเป็นน้ำไหลไฟดับ

เวินเที๋ยนเที๋ยนชินกับท่าทางแบบนี้ของเขาไปแล้ว

แต่ คลื่น…..

เธอคิดพิจารณา และอดที่จะไตร่ตรองตามภาพที่เคอเหยียนรุ่ยบอกไว้ไม่ได้

“แต่อยากจะให้เป็นคลื่นแบบนั้น ชุดแต่งงานของฉันก็จะต้องใช้ผ้าสีฟ้าด้วยน่ะสิ?”

เวินเที๋ยนเที๋ยนนึกถึงตัวเองใส่ชุดแต่งงานสีฟ้าแล้ว ก็รู้สึกสงสัยขึ้นมาบ้าง

ชุดแต่งงานสีฟ้าเห็นได้น้อยมากในประเทศ นับว่าแหวกแนวไปพอสมควร

“ตอนแรกฉันก็คิดแบบนี้แหล่ะ เพราะฉะนั้นฉันก็เลยไม่ได้เอาแนวคิดลายคลื่นนี้มาใส่ใจนักไง แล้วก็ไม่ได้บอกเธอด้วย”

เคอเหยียนรุ่ยหัวเราะออกมา เหมือนกับจะรู้สึกอายเล็กน้อย

แต่เวินเที๋ยนเที๋ยนกลับฟังออกถึงความหมายลึกๆนี้ในคำพูดของเขา

“ถ้าอย่างนั้นตอนนี้นายบอกฉัน ก็เป็นเพราะนายมีความคิดที่ดีกว่าอย่างนั้นใช่ไหม?”

“แน่นอนสิ!”

น้ำเสียงของเคอเหยียนรุ่ยนั้นไม่สามารถซ่อนความตื่นเต้นเอาไว้ได้เลย “ตอนที่ฉันเล่นสไลด์เดอร์ ในนั้นมืดมาก มีเพียงแค่แสงไฟที่สว่างอยู่เป็นวงๆเท่านั้น”

“ฉันสไลด์ลื่นลงมาจากข้างบน ก็เหมือนกับอยู่ในอุโมงค์มิติเวลาอย่างไรอย่างนั้นเลย”

เวินเที๋ยนเที๋ยนกระพริบตา “แล้วนี่มันเกี่ยวอะไรกับการออกแบบของนายด้วย?”

“เกี่ยวเยอะเลยแหล่ะ เธอรู้ไหมว่าทำไมในประเด็นหัวข้อของเกลียวปิดนี้ ให้ความรู้สึกเหมือนกับอุโมงค์มิติเวลา?”

คำถามของเคอเหยียนรุ่ยทำให้เวินเที๋ยนเที๋ยนต้องตกอยู่ในห้วงของความคิด

ด้านในสไลด์เดอร์ที่ปิดทึบนั้น นอกจากแสงไฟแล้วก็มองไม่เห็นอะไรเลย

ตอนที่สไลด์ลงมา แสงไฟที่ส่องผ่านร่างของคนที่มาเล่น ราวกับแสงแห่งมิติเวลาอย่างไรอย่างนั้น

“เพราะว่าในสไลด์เดอร์ที่ปิดทึบแบบนั้น ที่คนสามารถเห็นได้ก็มีเพียงแค่แสงไฟเท่านั้น เห็นได้เพียงตัวเองที่กลิ้งไปมาอยู่ในช่องรับแสงนั้น เพราะฉะนั้นจะเกิดเป็นภาพลวงตาที่เหมือนกับเดินทางผ่านกาลเวลาแบบนี้ไง”

เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินคำพูดของเขาแล้ว ก็อดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้

ก่อนหน้านี้เคยได้ยินคนพูดว่า นักออกแบบเหมือนเด็ก ก็เป็นแบบนั้นจริงๆ

น้ำเสียงของเคอเหยียนรุ่ยนั้นแสดงความชื่นชมอย่างปิดไม่มิด “เธอพูดถูก ด้านในสไลด์เดอร์ที่ปิดทึบแบบนั้น เราเห็นได้เพียงแค่ภาพที่อยู่ในสไลด์เดอร์เท่านั้นแหล่ะ”

“เพราะฉะนั้นพวกเขาจะแยกความจริงกับภาพลวงตาได้ยาก ประกอบกับความรู้สึกที่ไร้น้ำหนักก็จะให้ภาพลวงตาที่เหมือนกับเรากำลังเดินทางผ่านกาลเวลานี่แหล่ะ”

เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินคำพูดของเขาแล้ว ก็พยักหน้าลงอย่างครุ่นคิด

“ดังนั้นฉันก็เลยคิดว่า ไม่อย่างนั้นก็เพิ่มคุณค่าสำคัญของภาพลวงตานี้ลงไปในชุดแต่งงานดู” เคอเหยียนรุ่ยบอกความคิดนี้กับเวินเที๋ยนเที๋ยน

“แล้วนายคิดจะทำยังไงล่ะ? เวลาของเรามีไม่มากแล้วนะ”

ถ้าหากมีการเปลี่ยนแปลงมากเกินไป ก็คงจะไม่สามารถเร่งให้ทันงานแต่งงานของเธอกับจี้จิ่งเชินได้

เคอเหยียนรุ่ยเองก็เข้าใจความกังวลของเวินเที๋ยนเที๋ยนอย่างเห็นได้ชัด เขาเอ่ยขึ้นมาอย่างมั่นใจ : “วางใจเถอะ ชั้นนอกไม่จำเป็นต้องแก้อะไรมากหรอก เพียงแค่ต้องเพิ่มชั้นกระโปรงอีกสองสามชั้น ตอนที่มันแกว่งไปมาจะได้เหมือนคลื่นที่กำลังเคลื่อนไหวไง”

“นายหมายความว่า ให้ความรู้สึกเป็นขั้นๆน่ะหรือ?”

เวินเที๋ยนเที๋ยนเข้าใจแล้ว “แต่จะยุ่งยากไปหรือเปล่า? แล้วอีกอย่างนายก็บอกเองว่า ตอนที่แกว่งไปมาเท่านั้นถึงจะให้ความรู้สึกเหมือนคลื่นที่กำลังเคลื่อนไหว แบบนี้จำเป็นการสนใจรายละเอียดเล็กๆน้อยจนละเลยจุดที่สำคัญหรือเปล่าน่ะ?”

พูดแบบนี้แล้ว ก็ดูเหมือนจะถูก?

ตอนนี้ถ้าหากทำตามที่เคอเหยียนรุ่ยบอกนั้น เพิ่มด้านในของชุดแต่งงานอีกสองสามชั้น ถ้าเป็นกระโปรงยาวมันจะดูเทอะทะหรือเปล่า?

“ตรงจุดนี้ฉันเองก็คิดอยู่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นฉันก็เลยจะเปลี่ยนแปลงแค่ตรงกระโปรงเท่านั้น ไม่ส่งผลกระทบต่อส่วนอื่นหรอก”

ได้ยินแล้ว เวินเที๋ยนเที๋ยนก็นับว่าวางใจขึ้น “ถ้าอย่างนั้นก็ไม่มีอะไรให้น่ากังวล ออกแบบชุดแต่งงานนายเชี่ยวชาญอยู่แล้ว เอาว่าถ้านายรู้สึกว่ามันดูดี ก็แก้ไปตามนั้นก็แล้วกันนะ”

เมียหวานของประธานเย็นชา

เมียหวานของประธานเย็นชา

Status: Ongoing

“คุณจะคิดแบบนี้ไปถึงเมื่อไรถึงจะกลับบ้านได้?” จี้จิ่งเชินพูดออกมาอย่างจนใจ เขารีบมาที่นี่ทันทีตั้งแต่รับสาย และยืนดูเธอเดินวนคิดเป็นหนูติดจั่นแบบนี้มาครึ่งชั่วโมงแล้ว เธอไม่กล้าออกมา เพราะเธอกลัวว่าถ้าเขารู้เรื่องเข้า เขาจะทำอย่างไร สุดท้ายสิ่งที่เขาทำ คือ จูบหน้าผากของเธอ “ผมเชื่อคุณ… ไม่ต้องอธิบายอะไร ผมก็เชื่อคุณ”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท