บทที่ 842 ต่อไปจะไม่ทำให้พวกเธอเป็นห่วงอีกแล้ว
หลวนจื่อก้าวเข้าไปข้างหน้าอย่างรีบร้อย มองเวินเที๋ยนเที๋ยนอย่างละเอียด เพราะความประหลาดใจน้ำเสียงของเธอจึงดังขึ้นโดยไม่รู้ตัว
“เที๋ยนเที๋ยน เธอท้องแล้ว?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนยิ้มพลางพยักหน้า
“จี้จิ่งเชินไม่ได้บอกพวกเธอเหรอ?”
หลวนจื่อส่ายหน้า
จี้จิ่งเชินเอ่ย “ผมเกรงว่าพวกเขาจะเป็นห่วง เลยไม่ได้บอกพวกเขา”
“ขอโทษนะ” เวินเที๋ยนเที๋ยนเอ่ยขึ้น “ต่อไปพวกเธอไม่ต้องเป็นห่วงแล้ว”
เธอต้องการปลอบหลวนจื่อ ใครจะรู้ว่าทันทีที่เธอพูดจบ ดวงตาของหลวนจื่อก็แดงขึ้นมาอีกแล้ว
“รู้ว่าตัวเองท้อง เธอยังวิ่งไปทั่ว?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนจับมือเธอแล้วเอ่ยรับประกัน “ต่อไปไม่มีแล้ว”
หลวนจื่อถึงเช็ดน้ำตาที่หัวตาของเธอ
“ไม่พูดเรื่องพวกนี้แล้ว เที๋ยนเที๋ยน ฉันทำโจ๊กบำรุงมาให้เธอโดยเฉพาะ เธอรีบกินตอนที่ยังร้อนๆ อยู่”
หลวนจื่อหันไปทางหมินอันเกอ หมินอันเกอจึงยื่นขวดรักษาอุณหภูมิในมือให้เธออย่างรู้กัน
กลับโดนจี้จิ่งเชินสกัดกลางทาง
“หลวนจื่อเองก็เป็นคนท้อง ไม่สมควรเหนื่อย เรื่องป้อนโจ๊กเที๋ยนเที๋ยนส่งให้ผมเถอะ”
จี้จิ่งเชินสีหน้าไม่เปลี่ยนกอดขวดรักษาอุณหภูมิไว้ กลับไปนั่งตรงเก้าอี้
“เที๋ยนเที๋ยน เธอดูเขาสิ!”
ถูกแย่งขวดเก็บอุณหภูมิไป หลวนจื่อจึงฟ้องอย่างโกรธๆ
เวินเที๋ยนเที๋ยนจึงต้องยิ้มปลอบเธอ “ไม่ต้องโมโหไป ป้อนโจ๊กทั้งเหนื่อยทั้งเปลืองแรง ตอนนี้เธอควรดูแลตัวเองให้ดีถึงจะถูก”
ได้ยินเวินเที๋ยนเที๋ยนพูด หลวนจื่อจึงมองไปที่จี้จิ่งเชินอย่าง
“ได้ยินหรือยัง เที๋ยนเที๋ยนเห็นใจฉันถึงยกหน้าที่ป้อนโจ๊กนี่ให้คุณ!”
จี้จิ่งเชินทำเป็นไม่ได้ยินคำพูดเธอ
ทันทีที่เขาเปิดขวดเก็บอุณหภูมิออก กลิ่นหอมของโจ๊กก็กระจายไปทั่ว
“หอมจัง!”
เวินเที๋ยนเที๋ยนอดไม่ได้ที่จะอุทานออกมา
จี้จิ่งเชินเทโจ๊กลงในถ้วยเล็กๆ ตักขึ้นมาเป่าให้เย็นแล้วถึงส่งไปที่ปากเวินเที๋ยนเที๋ยน
เวินเที๋ยนเที๋ยนดื่มลงไปอย่างเชื่อฟัง
“อร่อยไหม?” จี้จิ่งเชินถาม
“อร่อยมาก”
เธอพยักหน้ายืนยัน แล้วเอ่ยชมทันที “หลวนจื่อ พ่อครัวบ้านเธอฝีมือเยี่ยมยอดขึ้นเรื่อยๆ แล้ว”
“พ่อครัวอะไรกัน นี่ฉันทำให้เธอด้วยตัวเองเลย!”
เพราะเหตุนี้เธอเกือบจะเผาห้องครัวที่บ้านอยู่แล้วเชียว!
ไม่ง่ายเลยกว่าจะทำโจ๊กออกมาได้ ยังถูกจี้จิ่งเชินแย่งไปเอาใจเวินเที๋ยนเที๋ยนอีก
หลวนจื่อมองเวินเที๋ยนเที๋ยนอย่างน้อยใจ “เพื่อโจ๊กถ้วยนี้ ฉันเรียนทั้งคืนเลยนะ! ทีเขาล่ะ แย่งไปเลย!”
พูดถึงประโยคหลังก็ยังไม่ลืมที่จะฟ้องจี้จิ่งเชิน
เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินจะหัวเราะก็หัวเราะไม่ออก จะร้องไห้ก็ร้องไห้ไม่ออก
“จี้จิ่งเชินเป็นห่วงว่าเธอจะเหนื่อย ใช่ไหม?”
เธอขยิบตาให้จี้จิ่งเชินบอกใบ้ให้เขารีบยอมแพ้
จี้จิ่งเชินหันไปมองทางเวินเที๋ยนเที๋ยน เอ่ยเสียงทุ้ม “เอาเป็นว่าใช่ เที๋ยนเที๋ยนพูดอะไรก็ถูกทั้งนั้น”
เขาพูดพลางตักโจ๊กให้เวินเที๋ยนเที๋ยนอีกหนึ่งช้อน
“ทานให้เยอะหน่อย พวกนี้ล้วนเป็นน้ำใจของหลวนจื่อ”
หลวนจื่อได้ยินที่จี้จิ่งเชินพูด ก็มองไปที่เขาอย่างสงสัยทันที
ไม่คิดว่าจี้จิ่งเชินที่ยามปกติเย็นชาไร้อารมณ์ จะดูแลเวินเที๋ยนเที๋ยนได้อย่างราบรื่น
แม้แต่เธอเองยังละอายใจ
จี้จิ่งเชินป้อนโจ๊กทั้งชามเสร็จอย่างรวดเร็ว เขาหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาอย่างเป็นธรรมชาติแล้วเช็ดโจ๊กที่ติดอยู่บนมุมปากของเวินเที๋ยนเที๋ยน
เวินเที๋ยนเที๋ยนหลับตาลงรับการดูแลจากเขาอย่างเชื่อฟัง
ความไว้วางใจซึ่งกันและกันของทั้งสองคน ทำให้หลวนจื่อรู้สึกอิจฉาขึ้นมาเล็กน้อย
“ชิๆ พวกเธอทั้งคู่เห็นไหมว่าตรงนี้ยังมีคนอื่นอีก?”
หลวนจื่อหลับตาแล้วแกล้งตะโกนออกมา “ตาของฉัน จะบอดเพราะภาพแห่งความรักนี่อยู่แล้ว!”
เวินเที๋ยนเที๋ยนย่อมเข้าใจว่าเธอหมายความว่าอย่างไร
“หลวนจื่อ เธอแสดงให้มันเหมือนจริงหน่อยได้ไหม?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเอ่ยอย่างอดหัวเราะไม่ได้ “ไม่ต้องพูดถึงพวกฉันเลย แม้แต่หมินอันเกอก็ไม่เชื่อเธอแล้ว”
หลวนจื่อหันไปมองทางหมินอันเกอ ใบหน้าก็แดงเรื่อขึ้นทันที
“พวกเธอผัวเมียรวมหัวกันแกล้งฉัน!”
หมินอันเกอยิ้มพูดกับหลวนจื่อ “ถ้าอย่างนั้นก็ไม่มีทางแล้ว ผมสู้พวกเขาไม่ได้ ให้คุณรังแกผมแทนดีไหม?”
หลวนจื่อถลึงตาใส่เขาอย่างโมโห “ฉันรังแกคุณคนที่ปวดใจก็ไม่ใช่ฉันเองเหรอ?”
หมินอันเกอไม่พูดอะไร ได้แต่ยิ้มเจิดจ้า
ไม่มีอะไรมีความสุขไปกว่าถูกคนที่ตัวเองรักเอาใจใส่
เวินเที๋ยนเที๋ยนเห็นตอนนี้พวกเขาสวีตหวานกันมากก็ยิ้มออกมา
ตอนนี้ดูแล้วหลวนจื่อไม่ได้อารมณ์ไม่ดีอย่างที่หมินอันเกอพูดไว้ก่อนหน้านี้
“พอแล้ว” เวินเที๋ยนเที๋ยนพูดปลอบ “เธอเองก็บำรุงร่างกายให้ดี เพื่อตัวเอง แล้วก็เพื่อลูก!”
“เธอเองก็เหมือนกัน รีบๆ ดีขึ้นนะเที๋ยนเที๋ยน”
หลวนจื่อกุมมือเวินเที๋ยนเที๋ยนไว้แน่น ความจริงใจเห็นได้ชัดเจนในแววตา
เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้ หลวนจื่อยังรู้สึกผิดกับเรื่องนี้
เธอยิ้มพลางพยักหน้า “หลวนจื่อ จำคำฉันไว้ นี่ไม่ใช่ความผิดของเธอ เวินหงไห่หมายตาฉันไว้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เขาต้องลงมืออย่างแน่นอน ไม่ว่าช้าหรือเร็ว”
หลวนจื่อพยักหน้า
“พี่หมิน รีบพาหลวนจื่อกลับไปพักผ่อนเถอะ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองไปทางหมินอันเกอ บอกให้เขาพาหลวนจื่อกลับไป
โรงพยาบาลไม่เหมือนสถานที่อื่น แม้ว่าที่นี่จะเป็นในห้องพักผู้ป่วยVIP สภาพแวดล้อมดีมาก แต่หลวนจื่อตั้งครรภ์อยู่ จะประมาทไม่ได้
หมินอันเกอเข้าใจแล้วพาหลวนจื่อออกจากห้องไป
เวินเที๋ยนเที๋ยนโบกมือลาพวกเขา
จี้จิ่งเชินที่ยังอยู่ต่อ หยิบเอาผลไม้บนโต๊ะมา
“ทานผลไม้เยอะๆ หน่อย” จี้จิงเชินพูด
“แต่ตอนนี้ฉันยังไม่หิว” เวินเที๋ยนเที๋ยนกล้ำกลืน
จี้จิ่งเชินกลับเอ่ยอย่างเคร่งขรึม “แม่ครัวบอกว่าควรทานผลไม้เยอะๆ ดีต่อสุขภาพ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเห็นท่าทางเป็นห่วงของเขา จึงได้แต่พยักหน้า
“รู้แล้วๆ คุณหั่นแค่ไหน ฉันก็กินแค่นั้น โอเคไหม?”
เธอกำลังจะยื่นมือไป เสียงพูดคุยกันก็ดังขึ้นด้านนอกประตู
“ที่ฉันจำได้ก็ที่นี่แหละ”
“ของเอามาด้วยแล้วหรือยัง? เกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ พวกเขากลับไม่บอกพวกเรา!”
“เกือบจะมาช้าไปแล้ว”
เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินเสียงนี้ก็ชะงักไป
“ดูเหมือนจะเป็นท่านเปิงกับท่านจาง?”
เมื่อพูดจบ ประตูห้องพักผู้ป่วยก็ถูกเปิดออก
ท่านเปิงกับท่านจางเดินเข้ามาจริงๆ
เวินเที๋ยนเที๋ยนเห็นพวกเขาก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย ก่อนจะยิ้มออกมา
“ท่านเปิง ท่านจาง พวกท่านมาได้ยังไง?”
เมื่อท่านจางกับท่านเปิงเห็นเวินเที๋ยนเที๋ยน สายตาของผู้อาวุโสทั้งสองเจือด้วยความรักเอ็นดู ถอนหายใจออกมาอย่างปวดใจ
“ท่านจาง ท่างเปิง ท่านทั้งสองมาได้อย่างไร?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนคิดไม่ถึงว่าพวกเขากลับมาแล้ว จึงแปลกใจมาก
แล้วพวกเขารู้ได้อย่างไรว่าตัวเองเข้าโรงพยาบาล?
ท่านจางยิ้มแล้ววางกระเช้าผลไม้ที่เอามาไว้ข้างๆ “เมื่อวานฉับกับท่านเปิงได้ยินว่าเธอกลับมาแล้ว ก็เลยจะไปเยี่ยมเยียนที่บ้าน สุดท้ายก็คว้าน้ำเหลว หลวนจื่อบอกพวกเราว่าเกิดเรื่องขึ้นกับเธอ”
เมื่อวานเธอยังถูกเวินหงไห่ลักพาตัวที่ร้านเซียงซาน
“เกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ จี้จิ่งเชินยังไม่บอกพวกเราอีก!” ท่านจางมองจี้จิ่งเชินอย่างไม่พอใจ
“ดีที่ไม่เป็นอะไรมาก” ท่านเปิงพูดอย่างหวาดกลัว “คืนก่อนฉันกับท่านจางล้วนนอนไม่หลับ อยากมาเยี่ยมเธอที่โรงพยาบาลเร็วๆ”
“ขอบคุณค่ะ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนนัยน์ตาไหวระริก
“ขอบคุณอะไรกัน ตอนนี้เธอต้องบำรุงร่างกายให้ดี ก็เป็นการขอบคุณที่ยิ่งใหญ่สำหรับพวกเราแ