เมียหวานของประธานเย็นชา – บทที่935 เรียกพ่อ

บทที่935 เรียกพ่อ

บทที่935 เรียกพ่อ

ในใจของจี้จิ่งเชินนั้นรู้สึกซาบซึ้งมาก

เขาคิดว่า ชีวิตของเขาจะต้องใช้ชีวิตอยู่กับความยากลำบากในการต่อสู้กับคนในครอบครัว

เขาเองก็ปรารถนาครอบครัว ปรารถนาความรัก ปรารถนาที่จะเป็นเหมือนเด็กในครอบครัวทั่วๆไปที่เติบโตขึ้นมา แต่งงาน มีลูก

พบกับครอบครัวแย่ๆแบบนั้น เขาก็แทบจะยอมปล่อยแล้ว

ยังดี ในชีวิตช่วงวัยเด็กที่มืดมน มีนางฟ้าตัวน้อยที่ชื่อว่าเที๋ยนเที๋ยนได้นำพาแสงสว่างมาให้กับเขา

ถึงแม้ว่าจะได้พบเจอกันเพียงแค่เดือนเดียว แต่แสงสว่างนั้น กลับประคับประคองให้เขาเดินผ่านความมืดและความเดียวดาย ผ่านความยากลำบากยากแค้น แล้วมาสร้างอาณาจักรที่เป็นของพวกเขาเอง

ประคับประคองให้เขาได้หาเธอเจอในที่สุด

วันนี้ระหว่างทางกลับได้รับสายจากพ่อบ้าน เขากลัวว่าจะสูญเสียหยู๋ชิงไป และยิ่งกลัวว่าเป็นเพราะเหตุนี้แล้วความสุขของเวินเที๋ยนเที๋ยนก็จะหายไปด้วยเช่นกัน

ตอนที่ประตูเหล็กเปิดออก เห็นร่างกายของจี้หยู๋ชิงที่เต็มไปด้วยฝุ่นแบบนั้น ท้องฟ้าของเขานั้นก็สว่างขึ้นมา

เด็กที่ไอคิวสูงคนนี้ แววตาที่นิ่งเงียบ ฉลาดเฉียบแหลม เหมือนกับตัวเองไม่มีผิด

จี้หยู๋ชิงที่ทรมานมาทั้งวันหลับไปแล้ว คิดแล้วก็คงจะเหนื่อยเหมือนกัน ต่อให้มีไอคิวสูง แต่ร่างกายก็เป็นเด็กอายุเพียงขวบกว่าๆเท่านั้น

“เที๋ยนเที๋ยน ไปเถอะครับ”

จี้จิ่งเชินดึงเวินเที๋ยนเที๋ยนที่ยังคงทำใจออกไปไม่ได้ เธอจำเป็นที่จะต้องพักผ่อน

ประตูห้องปิดลงแล้ว เวินเที๋ยนเที๋ยนจึงเอ่ยถามขึ้นด้วยความสงสัย :

“พี่จิ่ง จัดให้คนมาคอยเฝ้ารอบๆนี้เอาไว้หรือคะ?”

“วางใจเถอะครับ ผมจะไม่ยอมให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีกครั้งอยู่แล้ว”

จี้จิ่งเชินพูดโพล่งรับประกันออกมา

หลังจากกลับมาแล้ว เขาติดต่อบอร์ดี้การ์ด แล้วปรับให้มาเฝ้าให้มากขึ้น แล้วตรวจสอบตำแหน่งในการตรวจตราและเวลาเปลี่ยนผลัดด้วยตัวเอง ทั้งหมดนี้จะต้องไม่ตกหล่นเขาถึงจะยอม

คนที่รับผิดชอบเดิมนั้นเป็นเพราะบกพร่องในหน้าที่ จึงถูกโยกย้ายไปที่อื่นไปแล้ว

จี้จิ่งเชินกอดเวินเที๋ยนเที๋ยนที่ยังมีความหวาดกลัวนี้อยู่ พลางเอ่ยปลอบแล้วลูบหลังเธอเบาๆ จากนั้นจึงกล่อมเธอจนหลับไปในที่สุด

เขาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดู มีข้อความมาหนึ่งฉบับ

“หาคนเจอแล้วครับ กำลังเฝ้าติดตามดูการเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด”

นิ้วเรียวยาวกดข้อความส่งออกไป

“หาโอกาส ติดเครื่องดักฟังและเครื่องระบุตำแหน่ง”

เขาวางโทรศัพท์มือถือ แล้วมองดูเวินเที๋ยนเที๋ยนที่กำลังนอนหลับขมวดคิ้วอยู่ จี้จิ่งเชินก้มแล้วจูบไปตรงหว่างคิ้วของเธอ

ขอให้ผมเยียวยาความเจ็บปวดของคุณได้ และขอให้คุณสงบสุขตลอดไป

จี้หยู๋ชิงถึงจะได้แคล้วคลาดปลอดภัย

เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้สึกโล่งใจ และยิ่งต้องระวังเขาให้มากขึ้น

หลังจากที่เสี่ยวหยู๋ชิงเรียนรู้ที่จะเรียกแม่แล้ว ก็มักจะได้ยินคำว่า “ แม่”ออกมาจากปากเขาเป็นครั้งเป็นคราว ทำให้เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้สึกมีความสุขเป็นอย่างมาก

แต่จี้จิ่งเชินกลับไม่รู้สึกดีใจเลย

อาศัยในช่วงที่เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่อยู่ เขายืนอยู่ตรงหน้าเตียงเด็ก แล้วจ้องมองเสี่ยวหยู๋ชิงที่อยู่ในนั้น

ดวงตาที่เหมือนกัน อาการเหมือนกัน

เผชิญหน้ากับใบหน้าที่จริงจังของเขา เด็กที่มีอายุเพียงครึ่งขวบนั้นกลับไม่รู้สึกกลัวเลยแม้แต่นิดเดียว

“เรียกพ่อสิ”

“แม่!”

“เรียกพ่อ!”

“แม่!”

………..

จี้จิ่งเชินขมวดคิ้ว เพื่อเป็นการหลอกล่อบีบบังคับ

“เรียกพ่อ คืนนี้จะอนุญาตให้เรากลับมานอนกับเที๋ยนเที๋ยนได้คืนนึงนะ”

“ฮึ่ย!”

จี้จิ่งเชินโมโหเสียจนคิ้วสั่น

“เรียกพ่อสิ ไม่อย่างนั้นจะไม่ให้ของเล่นแล้วนะ”

จี้หยู๋ชิงไม่ขยับ ของเล่นเหล่านั้นเขาไม่ได้ชอบอยู่แล้ว

ของเหล่านั้นเป็นของที่เด็กๆเล่นกันทั้งนั้น

จี้จิ่งเชินกัดฟันพลางเอ่ยขึ้นซ้ำ : “เรียกพ่อสิ พ่อ พ่อ……..”

“ฮึ่ย”

คาดไม่ถึง ว่าจู่ๆจี้หยู๋ชิงจะกลับเอ่ยมาเพียงแค่นี้

การเคลื่อนไหวของจี้จิ่งเชินชะงักไป สีหน้ามืดลง ดูแย่มาก

“เจ้าเด็กนี่! เรา…….”

“จี้จิ่งเชิน พี่ทำอะไรอยู่คะ?”

และเวลานี้เอง เวินเที๋ยนเที๋ยนกลับเดินเข้ามาแล้ว

เมื่อเห็นจี้จิ่งเชินกำลังจ้องเสี่ยวหยู๋ชิงอย่าง “ดุ” นั้นเธอก็ตกใจ

จี้จิ่งเชินรีบก็อาการที่อยู่บนใบหน้า แล้วหันกลับมา

“ไม่มีอะไรครับ ผมกำลังสอนลูกพูดอยู่น่ะ”

จี้หยู๋ชิงที่อยู่บนเตียงเด็กเมื่อเห็นเวินเที๋ยนเที๋ยนแล้ว ก็เหมือนกับเห็นคนคอยหนุนหลังขึ้นมาในทันที

แล้วยื่นนิ้วเล็กๆออกมาสองนิ้ว

“แม่! แม่!”

ในใจของเวินเที๋ยนเที๋ยนนั้นรู้สึกอบอุ่นยิ่งนัก แล้วจึงยิ้มขึ้นมาในทันที และเดินเข้าไปอุ้มเขา

“หยู๋ชิงเป็นเด็กดีนะครับ”

จี้หยู๋ชิงซุกอยู่ในอ้อมกอดของเวินเที๋ยนเที๋ยน แล้วเหลือบมองมายังจี้จิ่งเชินอย่างพอใจ

จี้จิ่งเชินยิ่งมีสีหน้าที่มืดลงยิ่งกว่าเดิม

แล้วหันมายิ้มกับเวินเที๋ยนเที๋ยน พลางเอ่ยขึ้น : “คุณไปพักผ่อนเถอะครับ เดี๋ยวผมดูลูกเอง ผมอยากจะ ‘แลกเปลี่ยน’ ความรู้สึกกับลูกให้มากกว่านี้หน่อย”

จี้หยู๋ชิงได้ยินคำพูดนี้แล้ว ก็ตกใจจนตัวสั่น แล้วมุดเข้าไปในอ้อมกอดของเวินเที๋ยนเที๋ยน จะทำอย่างไรก็ไม่ยอมออกห่างเลย

เวินเที๋ยนเที๋ยนกลับพบว่าการตื่นตัวของลูกนี้ ยังคิดว่าเป็นการออดอ้อน จึงพยักหน้าลง

“ลูกดูไม่สนิทกับพี่จริงๆ พี่ต้องดูแลเขาให้ดีๆนะคะ”

“ไม่มีปัญหาครับ”

จี้จิ่งเชินยื่นมือออกมา แล้วรับตัวจี้หยู๋ชิงมา

เสี่ยวหยู๋ชิงรับรู้ได้ถึงความอันตราย จึงจับเสื้อผ้าของเวินเที๋ยนเที๋ยนเอาไว้แน่น น้ำตาคลอ แล้วต่อต้านออกมา

จี้จิ่งเชินแกะมือของเขาออก

ส่งเวินเที๋ยนเที๋ยนไปแล้ว เสี่ยวหยู๋ชิงก็รู้ว่าไม่มีใครช่วยตัวเองได้แล้ว การแสดงออกท่าทางน้ำตาคลอเมื่อครู่นี้หายไปแล้ว เปลี่ยนเป็นจริงจังและดื้อรั้นแทน

จี้จิ่งเชินเห็นท่าทางเช่นนี้ของเขาแล้ว จึงเอ่ยขึ้นมาอย่างโมโห : “ฉลาดนี่นา เมื่อกี้ไม่ใช่ว่ายังดื้ออยู่เลย?”

เสี่ยวหยู๋ชิงเม้มปากไม่ได้พูดออกมา

จี้จิ่งเชินชี้ไปที่เสื้อผ้าของเขา ราวกับกำลังหิ้วกระสอบอยู่ในมืออย่างไรอย่างนั้น

เขาวางเสี่ยวหยู๋ชิงลงบนเตียง แล้วมองสบตาเขา

“เรียกพ่อสิ ไม่อย่างนั้นก็อย่านอนเลย พ่อรู้นะว่าเราเรียนรู้เป็นแล้ว”

เสี่ยวหยู๋ชิงไม่ยอมแพ้ ทำหน้ามุ่ยแล้วไม่พูดออกมา

จี้จิ่งเชินเองก็ไม่ได้บังคับเช่นกัน เตรียมที่จะเสียเวลากับเขาไปจนถึงที่สุด

เวลาผ่านไปนาทีแล้วนาทีเล่า

พละกำลังของเด็กนั้นหมดเร็วมาก เขาค่อยๆง่วง แล้วเริ่มสัปหงก

แต่จี้จิ่งเชินกลับไม่ยอม

เสี่ยวหยู๋ชิงมองเขาอย่างน้อยใจ อยากจะนอน แต่กลับไม่กล้าขยับ

ดวงตานั้นง่วงมากเสียจนมีน้ำตาคลอแล้ว กลับยังไม่ยอมพูดออกมาด้วยความดื้อดึง

จี้จิ่งเชินคิดไม่ถึงว่าเด็กคนนี้จะมีจิตใจที่แน่วแน่ขนาดนี้ เดิมทีคิดว่ายืนหยัดต่อไปอีกไม่กี่นาที เขาก็จะทนไม่ไหว แล้วจะเปิดปากออกมา

แต่คิดไม่ถึงเลยว่าหนึ่งชั่วโมงผ่านไปแล้ว จะยังไม่เคลื่อนไหวอะไรเลยแบบนี้

เห็นร่างเล็กๆที่สัปหงกแกว่งไปแก่วงมา จี้จิ่งเชินรู้สึกใจอ่อนขึ้นมาบ้าง

เขายืนขึ้นแล้วเดินเข้าไป

พลางถอนหายใจออกมา

“ช่างเถอะ ถ้าหากเราอยากจะนอนล่ะก็………..”

จี้จิ่งเชินเพิ่งจะยกมือขึ้นเพิ่งจะสัมผัสโดนจี้หยู๋ชิงนั้น ลูกก็อ่อนยวบลงแนบกับมือเขาแล้ว ไม่คิดว่าจะหลับไปแล้วแบบนี้

เขาอึ้งไปเล็กน้อย จากนั้นปากของจี้หยู๋ชิงที่กำลังหลับอยู่นั้นก็ขยับ

“พ่อ~”

น้ำเสียงเลือนรางเข้าสู่ใบหูของเขา

จี้จิ่งเชินมองเขาด้วยความเอ็นดูอย่างเลี่ยงไม่ได้

“เหมือนกับแม่เราจริงๆเลยนะ”

เขาห่มผ้าให้กับเสี่ยวหยู๋ชิง แล้วก้มลงจูบลงบนหน้าผากของเขา

“น่ารักเหมือนกันเลย”

ปิดไฟแล้ว จี้จิ่งเชินถึงได้เดินออกไปอย่างระวัง

วันรุ่งขึ้น ไม่รู้ว่าไปรู้ข่าวที่ว่าจี้หยู๋ชิงหายตัวไปแล้วหาตัวเจอแล้วนั้นจากที่ไหน ท่านเปิงจึงมาหาถึงที่ด้วยตัวเองแบบนี้

หลังจากที่หยอกล้อกับจี้หยู๋ชิงพักหนึ่งแล้ว ก็หยิบเอาป้ายหยกในกระเป๋าขึ้นมา เป็นสีขาว อ่อนโยนละเอียดอ่อน มองผ่านแสงสว่างแล้ว สามารถเห็นเส้นใยที่กำลังเคลื่อนไหวอย่างช้าๆ นั่นคือแก่นแท้ของหยกเก่าแก่ ที่เรียกว่า “ยู่ซิน”

แต่หินหยกที่รวมตัวกันเป็นยู่ซินนั้น ล้วนแต่เป็นงานชั้นสูง เห็นได้น้อยมาก

เมียหวานของประธานเย็นชา

เมียหวานของประธานเย็นชา

Status: Ongoing

“คุณจะคิดแบบนี้ไปถึงเมื่อไรถึงจะกลับบ้านได้?” จี้จิ่งเชินพูดออกมาอย่างจนใจ เขารีบมาที่นี่ทันทีตั้งแต่รับสาย และยืนดูเธอเดินวนคิดเป็นหนูติดจั่นแบบนี้มาครึ่งชั่วโมงแล้ว เธอไม่กล้าออกมา เพราะเธอกลัวว่าถ้าเขารู้เรื่องเข้า เขาจะทำอย่างไร สุดท้ายสิ่งที่เขาทำ คือ จูบหน้าผากของเธอ “ผมเชื่อคุณ… ไม่ต้องอธิบายอะไร ผมก็เชื่อคุณ”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท