ท้ายที่สุดแล้ว โนดะซังก็ยังคงกังวลมากเกินไปอยู่ดี
ผู้นำในครั้งนี้ควรจะให้ตัวเองเป็นคนทำถึงจะถูก
โนดะซังได้ยินคำพูดนี้แล้ว ก็ขมวดคิ้วขึ้น
พลางเอ่ยพูดขึ้นอย่างระมัดระวัง : “มัตสึโมโตะ ฮิโรฮิโตะ ฉันหวังว่าครั้งนี้นายต้องระวังบ้างก็แล้วกัน เอาเวินเที๋ยนเที๋ยนอยู่ในพวกกลุ่มที่อันตราย คนแบบนี้น่ากลัวที่สุด ถ้าหากถึงตอนนั้นแล้วนายรับมือไม่ทัน นายก็ไม่มีวิธีอื่นแล้วนะ”
มัตสึโมโตะ ฮิโรฮิโตะโบกมือ ยังคงไม่แคร์อยู่เช่นเดิม
“รู้แล้ว รู้แล้ว รอการแข่งขันวันพรุ่งนี้ ฉันจะทำให้นายดู ว่าต่อให้คนที่เก่งกว่า พอมาเจอฉัน ก็จะมีแต่แพ้ทั้งนั้นแหล่ะ!”
เขาเชิดหน้าขึ้น ราวกับว่ากำชัยชนะอยู่ในมือเอาไว้แล้วอย่างไรอย่างนั้น
โนดะซังเห็นว่าตัวเองเกลี้ยกล่อมเขาไม่ได้แล้วจึงถอนหายใจออกมา
เทคนิคการซ่อมแซมของอนั้นดีมากก็จริง แต่เขาเป็นคนที่เย่อหยิ่งและไม่สนใจใครทั้งนั้น
นิสัยแบบนี้ จะต้องเสียเปรียบในไม่ช้าก็เร็ว เพียงแค่อย่าส่งผลกระทบต่อการแข่งขันครั้งใหญ่ระดับนานาชาติครั้งนี้ก็พอ
สองสามคนว่าพลางเดินเข้าไปในร้านอาหาร
เมื่อเห็นในร้านอาหารเต็มไปด้วยผู้คนแล้ว จึงส่งเสียงเอะอะขึ้นมา
“พนักงาน มานี่หน่อย มีที่นั่งไหม? เตรียมห้องVIPให้พวกเราห้องนึง”
วันนี้แขกที่มามีจำนวนมากจริงๆ อย่าว่าแต่ห้องVIPเลย แม้แต่โซนพื้นที่รวมชั้นหนึ่งก็แทบจะไม่มีที่นั่งแล้ว
พนักงานได้ยินความต้องการนี้แล้ว ก็ยิ้มออกมาอย่างลำบากใจ
“ต้องขอโทษด้วยจริงๆนะคะ วันนี้ลูกค้าเยอะมาก ห้องVIPเต็มหมดแล้ว พื้นที่รวมแทนได้ไหมคะ?”
เพิ่งจะพูดออกไปนั้น ก็ขมวดคิ้วขึ้นมาอย่างไม่พอใจในทันที
“ดูให้ดีนะว่าพวกเราเป็นใคร จะให้พวกฉันนั่งกินข้าวข้างนอกกับคนพวกนี้อย่างนั้นหรือ?”
พนักงานได้ยินประโยคนี้แล้ว จึงมองพิจารณาสองสามคนนั้นอย่างละเอียด ในใจกลับยังคงรู้สึกสงสัย
การแข่งขันครั้งใหญ่นี้คนทั่วประเทศมาเข้าร่วมด้วย จึงลุกเป็นไฟตั้งแต่แรกแล้ว แต่พวกโนดะซังกับมัตสึโมโตะ ฮิโรฮิโตะไม่ได้เข้าร่วมการแข่งขันในวันนี้ ดังนั้นจึงไม่ได้เป็นที่คุ้นเคยนัก
พนักงานมองอยู่พักหนึ่ง ก็ไม่รู้จักสถานะของคนเหล่านี้
จึงเอ่ยแค่เพียง : “พวกคุณเป็นผู้คัดเลือกในการแข่งขันครั้งนี้หรือคะ? ต้องขอโทษด้วยนะคะ ไม่มีที่แล้วจริงๆ”
ท่าทางของเธอนั้นนอบน้อมเป็นอย่างมาก แต่ในสายตาของอนั้นกลับกลายเป็นดูขอไปทีอย่างไรอย่างนั้น
เขาโมโหเสียจนสีหน้าที่เคร่งขรึม โบกมือแล้วร้องเอะอะเสียงดังออกมา
“ฉันไม่สน! ตอนนี้พวกเธอไปหาห้องVIPมาให้พวกฉันเดี๋ยวนี้!”
เขาโวยวายออกมาอย่างไม่พอใจ และเป็นการดึงดูดสายตาจากคนจำนวนไม่น้อยขึ้นมาทันทีอีกด้วย
เดิมทีเวินเที๋ยนเที๋ยนที่กำลังพาจี้หยู๋ชิงรอจี้จิ่งเชินให้เข้ามาแล้วขึ้นไปดาดฟ้าด้วยกัน
ได้ยินการเคลื่อนไหวทางด้านนี้แล้ว ก็มองไปด้วยความสงสัย
เห็นสองสามคนนั้นยังก่อกวนไม่หยุด เวินเที๋ยนเที๋ยนจึงเดินเข้าไป
“เกิดอะไรขึ้น?”
เมื่อเธอเอ่ยพูดขึ้นนั้น โนดะซังและมัตสึโมโตะ ฮิโรฮิโตะก็หันมามอง แล้วจำเวินเที๋ยนเที๋ยนขึ้นมาได้ทันที
คนที่เพิ่งจะพูดถึงไปมาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้า สองสามคนนั้นจึงมองพิจารณาเธอตั้งแต่บนลงล่าง ด้วยสายตาที่ระแวดระวังเป็นอย่างยิ่ง
โนดะซังยังคงดูลังเลอยู่บ้าง แต่มัตสึโมโตะ ฮิโรฮิโตะพอเห็นเวินเที๋ยนเที๋ยนแล้ว ก็รีบก้าวเข้ามาหาทันที
“เธอคือเวินเที๋ยนเที๋ยนใช่ไหม?”
“เวินเที๋ยนเที๋ยนที่แข่งกับคุณเดซี่เมื่อวานนี้ใช่ไหม?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนจำมัตสึโมโตะ ฮิโรฮิโตะได้ จึงพยักหน้าลง
“ฉันเองค่ะ”
คิดไม่ถึงว่ามัตสึโมโตะ ฮิโรฮิโตะจะกลับส่งเสียงออกมาอย่างไม่พอใจ พลางเอ่ย : “แค่นี้เองน่ะหรือ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนขมวดคิ้วขึ้น แต่กลับไม่ได้สนใจเขา
เอ่ยขึ้นเพียง : “เรื่องที่พวกคุณพูดกันเมื่อกี้ ฉันได้ยินหมดแล้ว”
“ตอนนี้ในร้านกำลังยุ่งกันอยู่จริงๆค่ะ ผู้เข้าแข่งขันจำนวนมากกำลังรับประทานอาหารกันอยู่ในร้านนี้ ห้องไม่พอก็พอจะเข้าใจได้ ถ้าหากคุณนั่งพื้นที่รวมทางด้านนอกไม่ได้ ก็คงจะต้องรอก่อนนะคะ รอให้คนที่ใช้ห้องVIPรับประทานอาหารเสร็จแล้ว ค่อยเข้าไป”
มัตสึโมโตะ ฮิโรฮิโตะหัวเราะเยาะออกมา
“พวกเราจะกินข้าวที่ไหนแล้วมันเกี่ยวอะไรกับเธอ? อย่าคิดว่าวันนี้เธอเอาชนะคุณเดซี่แล้ว ทุกคนจะต้องฟังคำพูดของเธอ”
“ก็แค่พวกเด็กที่อ่อนประสบการณ์คนนึง คิดจะมายุ่งกับฉันอย่างนั้นหรือ?”
ก่อนหน้านี้เวินเที๋ยนเที๋ยนเคยได้ยินอาจารย์ฉู่พูดถึงผู้เข้าแข่งขันของประเทศนี้ โดยเฉพาะมัตสึโมโตะ ฮิโรฮิโตะคนนี้
เป็นคนที่มีเป้าหมายที่สูงส่งแต่ไม่มีฝีมือ ไม่เห็นใครในสายตา ถึงแม้ว่าจะมีเทคนิคในการซ่อมแซม แต่นิสัยของเขากลับทำให้ไม่มีใครกล้าเข้าหา คนที่เห็นก็มีแต่จะหลีกเลี่ยงไป
คิดไม่ถึงว่าวันนี้จะมาเจอที่ร้านอาหารTHALIA
ดูเหมือนกับ วันพรุ่งนี้จะต้องแข่งกับเขาใช่ไหม?
เห็นเขาพูดยั่วยุออกมาแบบนี้แล้ว เวินเที๋ยนเที๋ยนจึงไม่ได้เอ่ยพูดออกมา จี้หยู๋ชิงที่อยู่ในอ้อมแขนเธอนั้นโมโหเสียจนยกแขนขึ้นมา แล้วส่งเสียงอ้อแอ้ๆฟ้องออกมาอย่างไม่พอใจ อยากจะช่วยแม่ออกหน้า
แต่คำพูดของเขานั้นไม่มีใครฟังเข้าใจแม้แต่คนเดียว โดยเฉพาะพวกมัตสึโมโตะ ฮิโรฮิโตะ
เห็นเด็กตัวเล็กๆที่กล้าส่งเสียงเอะอะกับพวกเขาแล้ว ก็ยิ่งโมโหขึ้นมา : “นี่ลูกเธอหรือ? ฉันเตือนให้เธอรีบออกไปจากที่นี่ดีกว่านะ กลับไปเลี้ยงลูกเถอะ การแข่งขันใหญ่ระดับนานาชาติแบบนี้ไม่ใช่คนอย่างเธอจะสามารถมาร่วมแข่งขันได้หรอก!”
ว่าแล้วก็หันกลับมาตะคอกใส่พนักงานคนนั้นอีก : “ให้เธอรีบไปไล่คนที่อยู่ข้างในออกมาซะ พวกฉันจะกินข้าวกันข้างใน!”
พนักงานลำบากใจ ไม่รู้ว่าควรจะจัดการอย่างไรดี
เวินเที๋ยนเที๋ยนขมวดคิ้วพลางเอ่ยขึ้น : “ไม่ต้องไป”
เธอตะโกนเรียกพนักงานคนนั้นเอาไว้ แล้วเอ่ยพูดกับมัตสึโมโตะ ฮิโรฮิโตะที่อยู่ตรงหน้า : “ถ้าพวกคุณไม่อยู่ตรงพื้นที่โซนรวมตรงนี้ พวกคุณก็รีบออกไปจากที่นี่เถอะค่ะ”
มัตสึโมโตะ ฮิโรฮิโตะได้ยินแล้ว กลับหัวเราะออกมา ราวกับว่าได้ยินเรื่องตลกอะไรเสียอย่างนั้น
“พวกฉันจะอยู่ตรงไหนแล้วมันเกี่ยวอะไรกับเธอ?”
“แน่นอนว่าต้องเกี่ยวกับฉันอยู่แล้วสิคะ” เวินเที๋ยนเที๋ยนเอ่ยพูดอย่างเรียบๆ : “คุณอยู่ที่ร้านอาหารของฉัน ฉันจะไม่สามารถยุ่งได้อย่างนั้นหรือคะ?”
“ร้านอาหารของเธอ?”
สองสามคนนั้นได้ยินแล้วก็รู้สึกตกตะลึง
เวินเที๋ยนเที๋ยนเป็นเจ้าของร้านอาหารร้านนี้อย่างนั้นหรือ?
มัตสึโมโตะ ฮิโรฮิโตะสีหน้าเปลี่ยน แต่เขาก็มองพิจารณาเวินเที๋ยนเที๋ยนอีกครั้ง แล้วหัวเราะเยาะออกมา แววตาเต็มไปด้วยความเยาะเย้ย
“ตอนนี้ยังจะกล้ามาพูดโม้อีกนะ? ถ้าเธอเป็นเจ้าของร้านอาหารนี้ ฉันก็จะบอกว่าถนนทั้งเส้นนี้ก็เป็นของฉันน่ะสิ!”
เวินเที๋ยนเที๋ยนยิ้มออกมา
“ขอโทษนะคะ ถนนเส้นนี้เองก็เป็นของฉันจริงๆเหมือนกัน”
แต่ตอนนั้นกลับหัวเราะออกมาเสียงดัง
“เธอบอกว่าถนนเส้นนี้เป็นของเธออย่างนั้นหรือ? เวินเที๋ยนเที๋ยน เธอนี่ล้อเล่นเก่งจริงๆนะ เธอเองก็ไม่ได้ดูตัวเองเลยนะว่าใส่ชุดอะไรอยู่ ยังจะกล้ามาคุยโม้แบบนี้อีก”
“เขาว่ากันว่าพูดโกหกก็ต้องร่างคำพูดแล้ว ฉันเห็นว่าเธอพูดออกมาได้โดยไม่แม้แต่จะคิดเลยอย่างนั้นหรือ?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินแล้วจึงก้มลงมองร่างกายของตัวเอง
หลังจากที่เธอแข่งขันเสร็จแล้ว ก็ไม่ได้กลับไปที่คฤหาสน์ มุ่งมาที่ร้านอาหารนี้เลย
ในฐานะที่เป็นร้านอาหารห้าดาวมิชลินแนวหน้าของประเทศ คนที่มาทานอาหารที่นี่ส่วนมากก็มักจะใส่ชุดสูทรองเท้าหนัง
ผู้หญิงถึงแม้จะไม่ใช่ชุดราตรี แต่ก็สวมชุดที่เหมาะสม แต่เพื่อการแข่งขัน เวินเที๋ยนเที๋ยนถึงได้อยู่ในสภาพท่าทางที่สบายๆ ในชุดเสื้อเชิ้ตกางเกงยีน
เวลานี้ใส่ชุดแบบนี้มาก็ดูไม่เหมาะสมอยู่บ้างจริงๆ
หรือว่าเป็นเพราะชุดเสื้อผ้าพวกนี้ มัตสึโมโตะ ฮิโรฮิโตะก็ดูถูกตัวเองแบบนี้หรือ?
รู้สึกว่าคำพูดของเธอเมื่อครู่นี้เป็นคำโกหกทั้งหมดเลยสินะ?
เห็นเขาพูดออกมาแบบนี้แล้ว เวินเที๋ยนเที๋ยนก็ยังไม่ได้พูดอะไรออกมา ส่วนพนักงานคนอื่นๆก็อดที่จะแอบยิ้มออกมาไม่ได้ แววตานั้นเต็มไปด้วยความเยาะเย้ย
มัตสึโมโตะ ฮิโรฮิโตะสังเกตเห็นอาการที่แสดงออกมาของพวกเขาแล้ว จึงขมวดคิ้วขึ้นมาทันที แล้วเอ่ยขึ้นมาอย่างไม่พอใจ : “พวกเธอหัวเราะอะไรกัน? มีอะไรน่าขำอย่างนั้นหรือ?