เมียหวานของประธานเย็นชา – บทที่997 ทำไมมีกลิ่นเปรี้ยวๆ?

บทที่997 ทำไมมีกลิ่นเปรี้ยวๆ?

ก่อนไป หลุยส์หันมากุมมือของหลวนจื่อด้วยความตื่นเต้น

“เยี่ยมเลยครับ ที่แท้คุณรู้จักคุณเวิน!ตอนที่สัมภาษณ์งานเห็นหน้าคุณ ผมก็รู้เลยว่าคุณไม่ธรรมดาแน่นอน เพื่อนของคุณเวินก็ไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน”

“เดี๋ยวแสดงดีๆนะ ถ้าแสดงได้ดีผมสามารถแนะนำคุณให้เพื่อนๆที่เป็นดีไซน์เนอร์ทั้งหลายของผมนะ”

เหล่านางแบบที่อยู่ข้างๆ ได้ยินคำพูดเหล่านี้แล้วสูดหายใจเข้าทางปากทันที

หลุยส์ท่านนี้ยืนอยู่จุดสูงสุดของวงการดีไซน์ตั้งนานแล้ว และเพื่อนที่เขาพูดล้วนเป็นดีไซน์เนอร์ตัวท็อปทั้งนั้น

คนอื่นอยากเข้าร่วมแฟชั่นโชว์ของพวกเขา ต่างก็แข่งขันกันอย่างดุเดือด

แต่ตอนนี้ ไม่คิดเลยว่าหลุยส์บอกว่าจะเป็นคนแนะนำหลวนจื่อให้พวกเขารู้จัก!

ถ้าเดินแฟชั่นโชว์ของดีไซน์เนอร์ครบทุกคนจริงๆ หลวนจื่อก็จะกลายเป็นราชินีคนใหม่ของวงการนางแบบในระยะเวลาอันรวดเร็วที่สุด!

ไอรีนได้ยินคำพูดเหล่านี้แล้วโมโหจนกัดฟันกร่อน สีหน้าดูแย่สุดๆ

“น่าแค้นจริงๆ! ทำไมหลวนจื่อถึงได้ดวงดีขนาดนี้?”

“โชคขี้หมา!”

พวกเธอทั้งหลายคิดอย่างขุ่นเคือง

แต่ขณะนี้ หลวนจื่อกลับยิ้มให้กับหลุยส์พร้อมเปิดปากพูดว่า: “ต้องขออภัยด้วยค่ะ”

“เวินเที๋ยนเที๋ยนเป็นเพื่อนของฉันก็จริง วันนี้ฉันเป็นคนเรียนเชิญเธอมาเอง แต่แค่เพื่อดูแฟชั่นโชว์นานาชาติครั้งแรกของฉันเฉยๆ ไม่ได้อยากหลอกใช้เธอเพื่อให้ฉันเดินอยู่บนเวทีได้ราบรื่นขึ้นเลยค่ะ”

“สำหรับงานแฟชั่นโชว์ของปรมาจารย์หลายท่านที่คุณพูดถึง ฉันจะทยอยไปแคสติ้งงาน และใช้ความสามารถของตัวเองก้าวขึ้นไปบนเวทีของพวกเขาค่ะ”

หลุยส์ฟังแล้วหันมามองเธออย่างตื่นตะลึง

สำหรับหลวนจื่อชื่อนี้ ก่อนหน้านี้เขาเคยได้ยินแค่ไม่กี่ครั้ง แม้กระทั่งยังเคยร่วมงานอยู่ครั้งสองครั้ง

แต่ตอนนั้น กลิ่นไอโอ้อวดบนตัวเธอและนิสัยที่ร่าเริงสดใสของเธอ กลับไม่ตรงตามดีไซน์ของเขา เขาก็เลยไม่ได้ไปสนใจอะไรมากเป็นพิเศษ

หลังจากร่วมงานกันหลายครั้ง ก็ได้ทิ้งเรื่องพวกนี้ไว้ข้างหลัง

ตลอดจนถึงงานแคสติ้งของหลายสัปดาห์ก่อน ตอนที่เห็นหลวนจื่ออีกครั้ง เขาถึงพบว่าถึงแม้หน้าตาของหลวนจื่อดูไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรเลย แต่บุคลิกบนตัวเธอกลับเปลี่ยนไปอย่างน่าตกใจ

จากสาวน้อยที่ใสซื่อโรแมนติก กลายมาเป็นมีความเป็นผู้ใหญ่และฉลาดหลักแหลม เปลี่ยนไปเยอะจนทำให้คนตกตะลึงสุดๆ

เขาจึงได้เซ็นต์สัญญากับเธอ ในตอนนั้นและเข้าร่วมแฟชั่นโชว์ของครั้งนี้เลย

แต่ถึงจะอย่างนี้ก็เถอะ เขาก็ไม่ได้ให้ความสนใจกับหลวนจื่อมากไปกว่านี้

เพราะยังไงซะ อยู่ในแวดวงนางแบบนี้ คนที่โดดเด่นกว่าเธอมีถมเถไป

แต่เมื่อครู่เพราะเรื่องของเวินเที๋ยนเที๋ยน เขายังเป็นฝ่ายโยนโอกาสไปให้หลวนจื่อเอง

เจอสถานการณ์แบบนี้ ไม่ว่านางแบบคนไหน ล้วนจะต้องตกลงอย่างดีอกดีใจ แต่ไม่คิดเลยว่าหลวนจื่อจะปฏิเสธ

แถมยังบอกว่าตัวเองไม่อยากพึ่งพาคนอื่น แต่อยากจะพึ่งพาตัวเอง

คำนี้ ทำให้หลุยส์มองดูเธอหลายทีอย่างไม่รู้ตัวพร้อมอึ้งไปครู่นึง

เหล่านางแบบที่อยู่รอบๆได้ยินคำพูดของหลวนจื่อแล้ว ในใจก็ช็อกไปตามๆกัน

แต่ว่า พวกเธอกลับหัวเราะอย่างเย็นชา โอกาสดีขนาดนี้ หลวนจื่อไม่ไขว่คว้าไว้ดีๆ ดูท่าชักจะโง่จริงๆ

หลังจากผ่านแฟชั่นโชว์ของครั้งนี้ หลวนจื่อจะต้องไปจากวงการนางแบบแน่นอน ไม่ต้องเห็นเธอเป็นคู่แข่งเลยด้วยซ้ำ

ในใจกำลังคิดแบบนี้อยู่ จู่ๆหลุยส์กลับหัวเราะขึ้นมา ทำเอาผู้คนตกใจหมด

ต่อมา เขาถึงพยักหน้าให้หลวนจื่อ

“ดี! ดีมาก! ผมก็ชื่นชอบความกล้าหาญเด็ดเดี่ยวแบบนี้ของคุณเนี่ยแหละ หลวนจื่อใช่มั้ย? ผมจะจำชื่อนี้ไว้ตลอดเลย เฝ้ารอผลงานต่อไปของคุณนะ”

พอพูดจบ ถึงได้จากไปพร้อมกับเวินเที๋ยนเที๋ยน

นางแบบที่เหลือได้ยินคำพูดก่อนจากไปของหลุยส์แล้วต่างก็ช็อก

ใครก็คิดไม่ถึง หลังจากเขาถูกปฏิเสธจะมีปฏิกิริยาแบบนี้

พอหลุยส์กับเวินเที๋ยนเที๋ยนจากไป ไอรีนที่เมื่อครู่กำลังเอะอะโวยวายกับหลวนจื่อ โมโหจนส่งเสียงฮื้ออย่างเย็นชา พร้อมจ้องหลวนจื่ออย่างโหด

“ถึงหลุยส์จดจำชื่อของแกแล้วจะทำไม? ฉันต่างหากที่เป็นตัวเด่นของแฟนชั่นโชว์ของครั้งนี้! ส่วนแก ก็เป็นแค่ตัวประกอบเท่านั้นแหละ!”

พอพูดจบก็ได้จ้องเธออย่างโหดทีนึง จากนั้นได้เดินจากไปด้วยท่าทางที่ไม่เกรงกลัวใคร

พอเธอไปแล้ว หลวนจื่อเดินกลับไปที่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง เตรียมงานเดินแบบของอีกสักครู่ต่ออย่างเงียบสงบ

ถ้าเป็นเมื่อก่อน ตอนนี้เธอคงจะคว่ำโต๊ะและไปโดยตรงแน่นอน

แต่ว่าตอนนี้ไม่เหมือนที่ผ่านมา หลังจากผ่านเรื่องราวมามากมายขนาดนี้ เธอไม่ใจร้อนเหมือนเมื่อก่อนแล้ว

การเหน็บแนมและความดูถูกที่ทุกคนมีต่อเธอในวันนี้ วันข้างหน้าล้วนจะกลายเป็นแรงบันดาลใจของเธอ ให้พวกเธอไม่สามารถอาจเอื้อม!

ทั้งหมดนี้ เธอไม่พึ่งอำนาจของตระกูลหล่อน และไม่พึ่งเวินเที๋ยนเที๋ยนกับหมินอันเกอ พึ่งแค่ตัวเธอเอง!

อีกฝั่งนึง เวินเที๋ยนเที๋ยนถูกหลุยส์พาเข้ามาที่ออฟฟิศส่วนตัวของเขา

หลังจากดูเครื่องแต่งกายหลายชุดที่สร้างขึ้นมาตามบูรณะวัตถุโบราณของคนนั้น ยิ่งตกตะลึงสุดๆ

คิดไม่ถึงเลยอยู่ในความทรงจำของเธอ ของสองชิ้นที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกันเลยสักนิด จะสามารถหลวมรวมเข้ามาอยู่ด้วยกัน

ในการออกแบบพวกนี้ แฝงไปด้วยความรู้ที่เกี่ยวกับบูรณะวัตถุโบราณจริงๆ ทำให้คนทึ่งในความสวยงาม

หลุยส์แนะนำผลงานหลายชิ้นให้เธอด้วยสีหน้าภาคภูมิใจ

เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้า ในที่สุดก็เข้าใจทำไมก่อนหน้านี้หลวนจื่อกับนางแบบพวกนั้นถึงได้ชื่นชมหลุยส์ท่านนี้มาก

หลังจากดูผลงานออกแบบไปหลายชิ้น เธอได้แสดงความคิดเห็นของตนเอง

เนื่องจากเวลาไม่เยอะ ใกล้จะถึงเวลาเดินแบบแล้ว ทั้งคู่จึงได้หยุด

หลุยส์ส่งเธอมาที่หน้าเวที

เวลานี้ พิธีกรบนเวทีได้เริ่มอุ่นเครื่องและผู้คนก็มาถึงในงานแล้ว

พอเห็นหลุยส์ที่ชื่อเสียงโด่งดังปรากฎตัว ต่างก็ทยอยกันลุกขึ้น พยักหน้าและพูดทักทาย

แต่หลุยส์กลับไม่ค่อยสนใจพวกเขาเลย แต่ได้เดินไปกับคนข้างกายอย่างระมัดระวัง และคอยเปิดทางให้เธอ

ผู้คนเห็นสถานการณ์แล้ว ต่างก็มองไปด้วยความสงสัย แต่กลับพบว่าใบหน้าของคนๆนั้นค่อนข้างคุ้นเคย

คนกลุ่มนึงดูอยู่พักนึง ในที่สุดถึงนึกขึ้นได้ว่าเธอคือใคร

“เวินเที๋ยนเที๋ยน? นี่ไม่ใช่ประธานของบริษัทหล่อนซื่อ เวินเที๋ยนเที๋ยนเหรอ?”

“อะไรนะ? เวินเที๋ยนเที๋ยนที่เธอพูดถึง คงไม่ใช่เวินเที๋ยนเที๋ยนที่หลายวันก่อนเข้าร่วมการแข่งขันบูรณะวัตถุโบราณคนนั้นมั้ง?”

“ถูกต้อง ก็เธอนั่นแหละ!”

“ฉันก็ได้ดูการแข่งขันของเธอแล้วเหมือนกัน ทำเอาคนดูตื่นเต้นไปตามๆกันจริงๆ!”

“ฉันก็ดูแล้วเหมือนกัน!”

ในขณะนั้น ทุกคนต่างก็พูดคุยกันถึงการแข่งขันบูรณะวัตถุโบราณที่สะเทือนโลก พูดถึงเวินเที๋ยนเที๋ยนยิ่งเพลิดเพลินเข้าไปใหญ่

พอหลุยส์ฟังคำพูดเหล่านี้ ไม่คิดเลยว่าจะรู้สึกภาคภูมิใจกว่าชมตัวเองเสียอีก เขาพูดอย่างมีความสุข: “คุณเวิน ผมเห็นมีคนไม่น้อยเลยที่เป็นแฟนคลับคุณ”

เวินเที๋ยนเที๋ยนพูดอย่างถ่อมตน: “คุณชมเกินไปแล้วค่ะ ที่จริงเป็นเพราะว่าพวกเธอสนใจบูรณะวัตถุโบราณมากกว่า ถึงได้ติดตามฉันค่ะ”

หลุยส์หัวเราะอย่างสะใจ

“คุณอย่าถ่อมตัวเลยครับ แม้แต่ผมดูแล้วก็ยังกลายเป็นแฟนคลับของคุณเลย พวกเธอก็ย่อมเหมือนกันอยู่แล้ว”

ระหว่างที่พูด หลุยส์ได้พาเวินเที๋ยนเที๋ยนเดินทะลุผู้คนมาถึงแถวหน้าสุด

จี้จิ่งเชินเห็นเวินเที๋ยนเที๋ยนตั้งแต่นาทีที่เธอปรากฎตัว เขาได้ลุกขึ้นมา

สายตาของเขาจ้องอยู่ที่บนตัวของหลุยส์ตลอด เห็นทั้งสองพูดไปด้วยและหัวเราะไปด้วย ก็ได้ขมวดคิ้วขึ้นมา สายตาเฉียบคมกวาดไปมาที่บนตัวของหลุยส์

จี้หยู๋ชิงที่ถูกเขาอุ้มอยู่ในอ้อมกอดเอียงศีรษะไปมาอย่างมีความสุข ยกมือเล็กๆขึ้นมาพัดอากาศที่อยู่ตรงหน้า

เอ๊ะ ทำไมรู้สึกรอบๆมีกลิ่นเปรี้ยวๆนะ?

เมียหวานของประธานเย็นชา

เมียหวานของประธานเย็นชา

Status: Ongoing

“คุณจะคิดแบบนี้ไปถึงเมื่อไรถึงจะกลับบ้านได้?” จี้จิ่งเชินพูดออกมาอย่างจนใจ เขารีบมาที่นี่ทันทีตั้งแต่รับสาย และยืนดูเธอเดินวนคิดเป็นหนูติดจั่นแบบนี้มาครึ่งชั่วโมงแล้ว เธอไม่กล้าออกมา เพราะเธอกลัวว่าถ้าเขารู้เรื่องเข้า เขาจะทำอย่างไร สุดท้ายสิ่งที่เขาทำ คือ จูบหน้าผากของเธอ “ผมเชื่อคุณ… ไม่ต้องอธิบายอะไร ผมก็เชื่อคุณ”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท