ถึงอีกฝ่ายจะมีรอยยิ้มออดอ้อน ผมทองดวงตาสีฟ้า มีส่วนเว้าส่วนโค้งรูปร่างทรงS แต่พออยู่ต่อหน้าของจี้จิ่งเชินแล้วก็ต้องยอมแพ้ให้เขาเลย
จี้จิ่งเชินมองเธอด้วยสายตาเย็นชา
ผู้หญิงล้มลงที่พื้นแล้วกัดฟันด้วยความไม่พอใจ ฝืนยิ้มขึ้นมาทีนึงแล้วมองจี้จิ่งเชิน
“คุณจี้คะ คุณช่วยพยุงฉันลุกหน่อยได้มั้ยคะ”
จี้จิ่งเชินยืนมองเธออย่างเย็นชา นิ่งไม่ขยับอยู่ตรงนั้นเหมือนเดิม
ผู้หญิงเห็นอีกฝ่ายไม่มีท่าทีสนใจตัวเอง เลยลุกขึ้นมาเองด้วยท่าทางที่เปราะบาง ทำให้คนเห็นแล้วรู้สึกสงสาร
“คุณจี้คะ เหมือนข้อเท้าฉันจะแพลงเลยค่ะ ขอเข้าไปพักที่บ้านของคุณหน่อยจะได้มั้ยคะ”
จี้จิ่งเชินมองหน้าเธอทีนึง พูดกับพ่อบ้านอย่างเย็นชา: “โยนออกไปซะ”
พูดจบ ก็หันหน้าเดินจากไปเลย
พอหันหน้า ก็เห็นเวินเที๋ยนเที๋ยนยืนอยู่ข้างๆมาตลอด แววตาดูประหลาดใจ
ใบหน้าของเวินเที๋ยนเที๋ยนมีรอยยิ้มอ่อนๆ แต่จี้หยู๋ชิงกับโดว์โดว์ที่อยู่ข้างๆกลับเต็มไปด้วยสีหน้าโกรธ ใช้สายตาตำหนิมองเขาอย่างไม่พอใจ
จี้จิ่งเชินเดินเข้าไปอย่างทำอะไรไม่ถูก
“ฉันไม่รู้จักเธอ” อ้าปากก็พูด
เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้า
“ฉันเห็นหมดแล้วค่ะ เธอมาที่นี่ได้ยังไงคะ?”
“หลงทาง” จี้จิ่งเชินพูดอย่างเรียบเฉย
เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินแล้วอยากหัวเราะออกมาทันที
หลงทาง?
ฝีมือการแสดงห่วยมากเลยนะ?
ปราสาทตั้งอยู่บนภูเขาชานเมือง
ทั้งเขา รวมถึงถนนที่ขึ้นลงล้วนแต่เป็นอุตสาหกรรมภายใต้ชื่อของจี้จิ่งเชิน ไม่อนุญาตให้รถนอกเข้าออก
แต่ผู้หญิงคนนี้ใส่กระโปรงรัดรูปทรงA และสวมรองเท้าส้นสูง แถมไม่มีรถอยู่ข้างกายด้วย เธอจะหลงทางเดินขึ้นมาเองงั้นหรอ?
แต่เห็นท่าทางเธอตอนนี้ ก็ไม่เห็นเธอจะดูมอมแมมอะไรเลยสักนิด
อย่าว่าแต่จี้จิ่งเชินเลย ขนาดตัวเองยังไม่เชื่อเลย
เวลานี้ ผู้หญิงเดินมา เห็นเวินเที๋ยนเที๋ยนแล้วไม่มีท่าทีจะหยุดเลย กลับยื่นนามบัตรของตัวเองให้เธอ
“สวัสดีค่ะ คุณเวินคะ ฉันชื่อแอนนี่ เป็นเลขากรรมการการแข่งขันบูรพาวัตถุโบราณค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักคุณนะคะ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนรับนามบัตรมา บนนั้นเขียนอาชีพนี้อยู่จริง
แต่ว่า ทุกครั้งที่มีการแข่งขัน เวินเที๋ยนเที๋ยนจะไปที่เวทีแข่งแทบจะทุกครั้ง แต่ไม่เคยเห็นเธอที่เวทีแข่งเลยแม้แต่ครั้งเดียว……
แอนนี่ก้มหน้ามองโดว์โดว์กับจี้หยู๋ชิงที่ยืนอยู่ข้างกายของเวินเที๋ยนเที๋ยนแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม: “น่ารักจังเด็กคนนี้”
น้ำเสียงฟังดูไม่จริงใจเลย พูดจบก็เข้าเรื่องทันที
“รู้สึกว่าฉันจะข้อเท้าแพลงค่ะ สามารถเข้าไปพักสักแป๊บได้มั้ยคะ?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองหน้าจี้จิ่งเชินทีนึงแล้วพยักหน้า
“เข้ามาเถอะค่ะ”
“ขอบคุณมากเลยนะคะ”
เธอพยักหน้า แล้วเดินไปข้างในเลย
ถึงไม่มีคนช่วยพยุง เธอก็เดินได้อย่างมั่งคงแทบไม่มีผลกระทบอะไร
จี้จิ่งเชินเดินตามหลังมา ยืนอยู่ข้างเวินเที๋ยนเที๋ยน
“คุณไปเจอเธอที่ไหนคะ?” เวินเที๋ยนเที๋ยนถาม
“ก็ตรงที่ประตู เหมือนจะรอมานานสักพักแล้ว”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้า พูดอย่างสงสัย: “ฉันไม่เคยเจอเธอมาก่อน เธอดูน่าสงสัยนะคะ”
จี้จิ่งเชินได้ยินคำนี้แล้ว รู้สึกโล่งใจทันที“คุณไม่ได้เข้าใจผิด?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเห็นเขาประหลาดใจ อดไม่ได้แล้วยิ้มขึ้นมา
“เห็นชัดเลยนิคะ คงเป็นเพราะฝีมือการแสดงของเธอห่วยมาก ผ่านเรื่องมามากมาย ฉันก็ต้องมีประสบการณ์บ้างสิคะ”
จี้จิ่งเชินได้ยินแล้วก็พยักหน้า
“มันก็จริง แต่ว่า……”
เขาก้มหน้าไปมองเด็กสองคนที่กำลังโกรธและสีหน้าตำหนิมองเขาอยู่ ปวดหัวขึ้นมาทันที
ดูท่าแล้วพวกเขาคงดูไม่ออกแน่เลย
โดว์โดว์ก็แล้วไป แต่จี้หยู๋ชิงเนี่ยสิ……ตัวปัญหาเลย
เด็กคนนี้ ฉลาดน่ะฉลาดอยู่ แต่ฉลาดเกินตัวไปหน่อย
ขอแค่เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับเวินเที๋ยนเที๋ยน ไอคิวก็จะต่ำลงในพริบตา ทำให้คนทำตัวไม่ถูกจริงๆ
ระหว่างนั้น จี้หยู๋ชิงสองมือคาดเอว ทำแก้มป่อง มองจี้จิ่งเชินด้วยอารมณ์โกรธ
เขารอคำอธิบายจากจี้จิ่งเชินอยู่
แต่จี้จิ่งเชินกลับจับเสื้อเขาแล้วอุ้มขึ้นมาโดยตรง
“เข้าไปได้แล้ว”
จี้หยู๋ชิงกลับขัดขืนอย่างไม่พอใจทีนึง เห็นว่าไม่ได้ผลก็หันตัวไปอีกฝั่งด้วยอารมณ์โกรธ หันก้นเข้าหาเขา
จี้จิ่งเชินยกมือตกเบาๆที่ก้นของเขาทีนึง
โผกทีนึง แต่ไม่เจ็บ
ยู๋ชิงลืมตาโตทันที แววตาเต็มไปด้วยความไม่กล้าเชื่อ ไม่นึกว่าตัวเองจะถูกตีก้น
ใช้สองมือจับก้นตัวเองไว้แน่น สีหน้าเต็มไปด้วยการกล่าวหา สาบานจะขอสู้ตายกับจี้จิ่นเชินให้ตายไปข้างนึงไปเลย
“เก็บความคิดของนายไว้เลยนะ ไม่ต้องคิดเยอะไป”
จี้จิ่นเชินพูดออกมาคำนึง แล้วอุ้มเขาเดินเข้าไปข้างใน
ในห้องรับแขก แอนนี่ที่เข้ามาก่อนได้นั่งอยู่ที่โซฟาแล้ว พ่อบ้านยืนมองอยู่ข้างๆอย่างมึนงง ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
“คนนี้คือแอนนี่ เธอเป็นเลขากรรมการการแข่งขันบูรพาวัตถุโบราณในครั้งนี้ เหมือนเธอจะข้อเท้าแพลง ไปตามหมอประจำบ้านมาหน่อยนะ”
พอแอนนี่ได้ยิน สีหน้าดูตื่นเต้นขึ้นมาทันที เธอรีบพูด: “ไม่ ไม่ต้องหรอกค่ะ ฉันพักหน่อยก็คงจะหายค่ะ”
พ่อบ้านหันไปมองเวินเที๋ยนเที๋ยนด้วยสายตาสงสัย
เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้า
“ถ้าอย่างนนั้น ไปเตรียมน้ำแข็งมาก็พอค่ะ”
“ครับ คุณผู้หญิง”
พอพ่อบ้านเดินไป แอนนี่ก็หันไปมองเวินเที๋ยนเที๋ยนแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม: “ฉันอยากดื่มน้ำผลไม้หน่อย คุณเวิน คุณไปเอาให้ฉันหน่อยได้มั้ยคะ?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนอึ้งเล็กน้อย แต่ก็ไม่ปฏิเสธ
“ได้ค่ะ”
พูดจบ เธอก็ปล่อยให้จี้หยู๋ชิงกับโดว์โดว์นั่งที่โซฟาแล้วเดินเข้าไปในครัว
ห้องรับแขกเหลือแต่จี้จิ่งเชินกับแอนนี่สองคน
ระหว่างกลางของทั้งสอง ยังมีเด็กสองคนที่อยู่ในอารมณ์โกรธนั่งอยู่ด้วย นั่นก็คือจี้หยู๋ชิงกับโดว์โดว์
แต่ว่าตอนนั้น พวกเขาสองคนกลับไม่เป็นอุปสรรคอะไรต่อแอนนี่เลย เธอหันไปยิ้มให้กับจี้จิ่งเชินด้วยรอยยิ้มหว่านเสน่ห์ทีนึง
เธอใช้มือเสยผม แล้วพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อน: “คุณจี้คะ ตอนที่ฉันเจอคุณในที่เวทีแข่งครั้งก่อน ก็อยากจะทำความรู้จักกับคุณมาตลอดเลยนะคะ ไม่นึกเลยว่าวันนี้จะเดินหลงทางมาพบคุณโดยบังเอิญที่นี่ได้ พวกเราสองคนมีวาสนาต่อกันจังเลยนะคะ”
จี้จิ่งเชินยืนอยู่ข้างโซฟามองเธอด้วยสายตาเย็นชา ไม่ได้พูดอะไร
แต่จี้หยู๋ชิงที่นั่งอยู่ตรงกลางกลับตั้งใจกวนพูดขึ้นมาอย่างไม่พอใจ
แอนนี่จ้องจี้หยู๋ชิงอย่างไม่พอใจทีนึง ไม่ชอบใจที่เขารบกวนเธอ แล้วเข้าไปใกล้จี้จิ่นเชินด้วยความชอบพออีกครั้ง
“คุณจี้คะ ฉันชื่นชมคุณมาตลอดเลยนะคะ ถ้าไม่ว่าอะไรละก็ จะขอทานข้าวกับคุณเมื้อนึงได้มั้ยคะ?”
เธอเตรียมที่จะเข้าไปใกล้
มือยังไม่ทันจะแตะถึงจี้จิ่นเชิน……
เพี๊ยะ!
จี้หยู๋ชิงยกมือตีที่หลังมือเธอโดยตรง
“โอ๊ย!”
แอนนี่ร้องขึ้นมาทีนึง เก็บมือกลับไปอย่างเร็ว หันไปมองจี้หยู๋ชิงอย่างโมโห
จี้หยู๋ชิงไม่กลัวเธอเลย ท่าทางดูทรงพลังยิ่งกว่าเธอซะอีก จ้องเธอกลับไปอย่างไม่เกรงกลัวแม้แต่นิดเดียว
ขนาดโดว์โดว์ก็ยังพูดขึ้นมาอย่างเสียงใสชัดแจ๋ว: “คุณน้าใจร้าย!”
ใบหน้าของแอนนี่บิดเบี้ยวเป็นพักๆ
“นี่มันเด็กบ้านใครนะ? ไม่มีมารยาทจริงๆ?”
ยกมือเธอก็จะไปตบ กลับถูกจี้หยู๋ชิงที่อยู่ข้างๆขวางเอาไว้
เห็นจี้หยู๋ชิงปกป้องตัวเอง ตาของโดว์โดว์สว่างขึ้นทันที แววตาที่มองจี้หยู๋ชิงอย่างกับมองขวัญใจอย่างไรอย่างนั้น
เธอเข้าไปกอดจี้หยู๋ชิงไว้แน่น มุ่ยปากและใบหน้ายิ้มดีใจ
“โดว์โดว์ไม่กลัวคุณหรอกนะ!”
สีหน้าของแอนนี่ดูน่าเกลียดมาก รู้สึกเด็กสองคนนี้ขวางหูขวางตาเธอเสียเหลือเกิน
ถ้าไม่ใช่เพราะจี้จิ่นเชินมองอยู่ข้างๆและเธอต้องแสดงตัวเป็นคนดีละก็ เธอตบสั่งสอนพวกเขาไปตั้งนานแล้ว!