จี้หยู๋ชิงพยักหน้า ในตอนนั้นสีหน้าของเขาเคร่งขรึมเป็นอย่างมาก ไม่ได้ต่อล้อต่อเถียงกับจี้จิ่งเชินอีก
ทั้งสองคนจึงลุกขึ้นแล้วเดินไปข้างหลังเวที
ทุกคนด้านล่างเวทีล้วนขมวดคิ้ว ในใจมีความคิดเดียวกัน ไม่รู้ว่าการแข่งขันครั้งนี้ต้องการจะทำอะไรกันแน่?
เกิดสถานการณ์แบบนี้ขึ้นได้อย่างไร?
เวินเที๋ยนเที๋ยนแข่งขันติดต่อกันสองครั้ง แล้วอีกเดี๋ยวต้องแข่งกับจางลัยยี่กับปรมาจารย์จอห์น ต้องแพ้แน่!
ต่อให้ร่างกายจะแข็งแรงแค่ไหน ก็ทนทำงานหนักติดต่อกันหกชั่วโมงไม่ไหว
แต่ในหมู่ผู้ชม มีคนเห็นภาพแบบนี้แล้ว กลับดีใจเป็นอย่างมากจนแสดงรอยยิ้มสาแก่ใจออกมา
จางลัยยี่มองเวินเที๋ยนเที๋ยนบนเวทีด้วยสายตาโหดเหี้ยม
คราวนี้ เธอต้องแพ้แน่!
ทันทีที่อาจารย์ฉู่ที่นั่งอยู่ด้านหน้าหันกลับไปเห็นสีหน้าของเขาที่แสดงออกมาในตอนนี้ ก็มีสีหน้าตกใจขึ้นมาทันที
เรื่องนี้ ต้องเกี่ยวข้องกับจางลัยยี่อย่างแน่นอน!
อีกด้านหนึ่งขณะที่เวินเที๋ยนเที๋ยนกำลังพยายามอย่างหนักเพื่อการแข่งขัน จี้จิ่งเชินกับจี้หยู๋ชิงก็มาถึงที่ด้านหลังเวที
ยังไม่ทันได้เข้าไป ก็ถูกพนักงานด้านหลังเวทีขวางไว้
“คุณทำอะไร? ที่นี่จะเข้าตามอำเภอใจไม่ได้!”
จี้จิ่งเชินสีหน้าเย็นชา ฝีเท้าที่ไม่เชื่อฟังเดินตรงเข้าไปด้านในทันที
“ไสหัวไป!”
พนักงานคนนั้นตกใจกับสีหน้าของเขา ถูกคำพูดคำเดียวนั้นทำให้ตกใจจนสั่นไปทั้งร่าง ไม่กล้าพูดอะไรอีก
“แต่ว่า……”
เขากำลังจะพูดขึ้น กลับถูกคนที่อยู่ข้างหลังห้ามไว้
“นายอยากตายเหรอ?” คนนั้นกดเสียงเบาเอ่ย “นายรู้ไหมว่าเขาเป็นใคร? ถึงกล้าขวางเขา? ต่อให้ผู้อำนวยการมา ก็ยังต้องก้มหน้าโค้งตัวให้เขาเลย! นี่จี้จิ่งเชิน!”
พนักงานได้ยินดังนั้น ก็เบิกตากว้างทันที มองจี้จิ่งเชินที่มีสีหน้าเย็นชาที่อยู่ตรงหน้าอย่างตกใจ
“ที่แท้ก็คือประธานจี้”
เขาคิดจะปล่อยผ่าน แต่เมื่อนึกถึงคำสั่งของผู้จัดรายการก่อนหน้านี้ ก็ลังเลเล็กน้อย จึงได้แต่กัดฟันเดินขึ้นไปข้างหน้า
“ต้องขออภัย ประธานจี้ ที่นี่เข้าไปไม่ได้จริงๆ”
จี้จิ่งเชินสนใจเขาเสียที่ไหนกัน?
ปรายตามองเขาอย่างเย็นชา ท่าทางของอีกฝ่ายทำให้สายตาของเขายิ่งเย็นเยียบลงอีก ราวกับออกมาจากอุโมงค์น้ำแข็ง
เขาไม่ได้พูดอะไร แล้วเดินเข้าไปข้างใน
ทันทีที่เขาเดินจากไป คนที่อยู่ข้างๆ ก็ดึงพนักงานอย่างสุดชีวิต
“นายบ้าไปแล้ว? รู้ว่านั่นคือจี้จิ่งเชินยังกล้าขวางอีกเหรอ?”
พนักงานเอ่ยอย่างร้อนรน “แต่ผมก็จนปัญญา ผู้จัดรายการบอกว่า ห้ามให้คนที่ไม่รู้จักเข้ามาด้านหลังเวทีเด็ดขาด โดยเฉพาะห้องเก็บอุปกรณ์……”
คนนั้นเอ่ยขึ้นอย่างงงงวย “ห้องเก็บอุปกรณ์มีของอะไรพิเศษไหม?”
“ผมก็ไม่แน่ใจ บอกแค่ว่าเข้าไปไม่ได้”
อีกด้านหนึ่ง จี้จิ่งเชินพาจี้หยู๋ชิงเดินเข้าด้านหลังเวทีไปราวกับเดินเข้าไปในที่ที่ไม่มีใครอยู่
เหมือนว่าเขาจะมีจุดมุ่งหมายอยู่แล้ว จึงเดินตรงไปที่ห้องเก็บอุปกรณ์ที่อยู่ด้านหลังทันที
ไม่นาน ก็เห็นกล่องที่ให้ผู้ท้าชิงใช้จับฉลาก
หรี่ตาลงเล็กน้อยแล้วเดินเข้าไป
“รอเดี๋ยว!”
ตอนโปรดิวเซอร์เห็นจี้จิ่งเชินเดินไปทางกล่องนั้น สีหน้าก็เปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก รีบวิ่งเข้าไป
“ประธานจี้ คุณมีเวลาว่างมาได้อย่างไร?”
เขาขวางหน้าจี้จิ่งเชิน จงใจขวางมือของจี้จิ่งเชินที่จะหยิบกล่องใบนั้นเอาไว้
โปรดิวเซอร์ยิ้มสู้ คิดไม่ถึงว่าจี้จิ่งเชินจะเข้ามา หรือว่าถูกเขาจับอะไรได้แล้ว?
เขาตกใจเป็นอย่างมาก แต่บนหน้ายังคงรักษารอยยิ้มเอาไว้
“ต้องการอะไรแค่บอกผมก็ได้แล้ว ท่านไม่จำเป็นต้องมาด้วยตัวเอง”
“หลีกไป!” จี้จิ่งเชินเอ่ยเสียงเย็น
จี้หยู๋ชิงในอ้อมแขนสีหน้าเต็มไปด้วยความเคร่งขรึม ก็เอ่ยขึ้นตาม “ไป!”
ดูเหมือนเป็นภาพที่ทำให้คนอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้ แต่บรรยากาศที่น่าตกใจของทั้งสองคน ใครก็ยิ้มไม่ออก โดยเฉพาะโปรดิวเซอร์ที่อยู่ตรงหน้า
สีหน้าของเขาซีดขาว แต่ถ้าหากถูกพวกเขาค้นเจอปัญหาในกล่อง ถึงตอนนั้นก็มีโทษที่หนักกว่ารอตนเองอยู่แน่นอน
จะให้พวกเขาเจอไม่ได้เด็ดขาด!
“ประธานจี้” โปรดิวเซอร์พยายามยิ้มสู้เอ่ย “คุณต้องการให้ช่วยเหลืออะไรไหม?”
จี้จิ่งเชินหรี่ตาลงเล็กน้อยฉายประกายความเย็นเยือก
คราวนี้เขาไม่ได้พูดอะไรอีก แต่กลับถีบไปที่ท้องของโปรดิวเซอร์
โปรดิวเซอร์มีสีหน้าบิดเบี้ยวแล้วกระเด็นไปด้านหลังทันที
ร่างกายกระแทกเข้ากับกล่องที่อยู่ด้านหลัง เสียงดังปัง จนกล่องแตก!
ฉลากที่อยู่ด้านในนั้นกระเด็นออกมาทั้งหมดแล้วหล่นลงบนพื้น
จี้จิ่งเชินยกเท้าเดินเข้าไป ก้มมองฉลากที่อยู่บนพื้นพวกนั้น
ทันทีที่เห็นชื่อที่อยู่บนนั้น สายตาก็ยิ่งเปลี่ยนเป็นเย็นเยือกทันที แค่ปรายตามอง ก็ทำให้โปรดิวเซอร์ที่ตอนนี้ร้องโหยหวนอยู่บนพื้นชะงักไปทันที ราวกับถูกแช่แข็ง
จี้จิ่งเชินเอ่ยขึ้นช้าๆ
“ที่แท้นี่ก็คือการเลือกแบบสุ่มของพวกคุณ”
โปรดิวเซอร์รีบหันไปมองอย่างรวดเร็ว ก็เห็นว่าฉลากที่เขียนด้วยตนเองพวกนั้นทั้งหมดถูกเปิดโปงอยู่ตรงหน้าแล้ว
ฉลากหลายร้อยใบ ล้วนเขียนด้วยชื่อเพียงชื่อเดียวซึ่งก็คือเวินเที๋ยนเที๋ยน!
ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ ไม่ว่าผู้ท้าชิงจะสุ่มเลือกอย่างไร ก็ล้วนจับได้แค่เวินเที๋ยนเที๋ยน
ถ้าหากแข่งขันติดต่อกันสามครั้ง ทำงานหนักเก้าชั่วโมง ในการแข่งขันสุดท้ายเวินเที๋ยนเที๋ยนจะต้องแพ้อย่างไม่ต้องสงสัย
จี้หยู๋ชิงเห็นฉลากพวกนั้นล้วนเขียนเป็นชื่อของคุณแม่ ก็โกรธจนกัดฟันน้ำนมของตัวเองแน่น!
“คนเลว!”
จี้จิ่งเชินสายตาเย็นเยียบจากเขาที่เป็นจุดศูนย์กลาง แผ่กระจายไปรอบๆ ไม่หยุด
พนักงานที่เดิมทำงานอยู่ข้างๆ ได้ยินเสียงจึงเดินเข้ามา เมื่อเห็นฉลากพวกนั้นที่พื้นก็ตกใจเป็นอย่างมาก
เพราะตอนจัดทำอุปกรณ์นี้ โปรดิวเซอร์บอกว่าตัวเองทำให้เสร็จเรียบร้อยคนเดียวได้ ดังนั้นคนอื่นๆ จึงไม่มีส่วนร่วมในการทำ
เมื่อสักครู่ตอนที่เวินเที๋ยนเที๋ยนถูกจับฉลากได้สองครั้งติดต่อกัน พวกเขาก็คิดว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนนั้นดวงไม่ดีจริงๆ
แต่คิดไม่ถึงว่าจะเป็นแบบนี้!
มีคนตั้งใจทำร้ายเวินเที๋ยนเที๋ยน
อุณหภูมิทั่วทั้งด้านหลังเวที ราวกับลดต่ำลงในชั่วพริบตาเดียว
ทุกคนล้วนไม่กล้าเอ่ยปาก แม้กระทั่งอัตราการหายใจยังช้าลงเล็กน้อย ด้วยกลัวว่าจะเป็นการยั่วโมโหจี้จิ่งเชินที่กำลังโกรธมาก
จี้หยู๋ชิงขมวดคิ้วแน่น
“คุณพ่อ ทำอย่างไรดี?”
ในตอนนั้นเองสีหน้าโปรดิวเซอร์ที่นั่งอยู่บนพื้นก็ซีดเซียว เอ่ยอย่างร้อนรน “นี่เป็นความผิดพลาด! คุณจี้ ผมอธิบายได้!”
จี้จิ่งเชินไม่พูดอะไร ยกเท้าขึ้นเหยียบหน้าอกของโปรดิวเซอร์ด้วยสายตาราวกับกำลังมองสัตว์ที่ตายไปแล้ว
น้ำเสียงของผู้จัดรายการสั่นเทา
“ประธานจี้ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับผม ต้องเป็นพวกเขาแน่……โอ๊ย”
ยังไม่พูดทันจบ จี้จิ่งเชินก็ยกเท้าขึ้นเล็กน้อย แล้วออกแรงเหยียบลงไป
เสียงเหมือนกระดูกแตกก็ดังขึ้น เป็นกระดูกซี่โครงที่หักทันที!
โปรดิวเซอร์กรีดร้องขึ้นมาทันที สีหน้าซีดขาว เหงื่อเม็ดใหญ่ผุดซึมตามหน้าผากไม่หยุด
“ขึ้นเวทีไปอธิบาย”
เมื่อเอ่ยจบ บอดี้การ์ดหลายคนก็ปรากฏตัวอย่างรวดเร็ว ดึงโปรดิวเซอร์ที่ยังกรีดร้องอยู่บนพื้นขึ้นมา
“โยนขึ้นไป!”
“ครับ!”
แล้วบอดี้การ์ดก็ถีบโปรดิวเซอร์ขึ้นเวทีไป
โปรดิวเซอร์กล้องขึ้นเวทีไปอย่างรวดเร็ว
จี้จิ่งเชินจึงเดินออกไป
ทั้งสองคนบนเวทีกำลังแข่งขันกันอยู่ มีคนโผล่ขึ้นมาจากด้านหลังอย่างกะทันหัน ก็ทำเอาทุกคนตกใจไปตามๆ กัน
แม้กระทั่งจี้จิ่งเชินเองก็เดินตามขึ้นมา