จ้อง—
“เราจ้องอะไรอยู่น่ะ?”
จี้จิ่งเชินสังเกตเห็นการเคลื่อนไหวของเขา จึงเอ่ยถามขึ้น
จี้หยู๋ชิงถึงได้กระพริบตาที่รู้สึกแสบอยู่บ้างนี้ จ้องมานานขนาดนี้แล้ว ทำไมเวินเที๋ยนเที๋ยนถึงไม่เงยหน้าขึ้นมาเลย?
“ทำไมแม่ไม่มองผมบ้างฮะ?”
จี้จิ่งเชินเหลือบมองเขาแวบหนึ่ง
“เที๋ยนเที๋ยนกำลังแข่งขันอยู่ ทำไมจะต้องมองเราด้วย? อย่าทำให้ส่งผลกระทบต่อการแข่งขันของเธอสิครับ”
จี้หยู๋ชิงทำปากมุ่ย อย่างไม่เต็มใจนัก
“แต่เมื่อกี้….แม่มองพ่อ!”
จี้จิ่งเชินได้ยินแล้ว ถึงได้เข้าใจขึ้นมาในที่สุด ยกยิ้มขึ้น ราวกับลมในฤดูใบไม้ผลิ เหล็กที่ดูแข็งกระด้างก็เปลี่ยนไปดูอ่อนโยนขึ้นมา
“เพราะว่าพ่อสำคัญกว่าเราน่ะสิ”
อะไรนะ?
จี้หยู๋ชิงได้ยินคำตอบนี้แล้ว ก็ยิ่งรู้สึกโกรธ
มือทั้งสองข้างของเขากอดอกเอาไว้ แล้วหันหลังให้จี้จิ่งเชินอย่างไม่พอใจ
อะไรที่เรียกว่าเขาสำคัญกว่ากัน?
ในหัวใจของแม่ตัวเองต่างหากที่สำคัญที่สุด!
เขาคิด แล้วก็เงยหน้าขึ้นมองไปทางเวินเที๋ยนเที๋ยนต่อ หวังว่าจะสามารถได้รับการตอบรับกลับมา
มองอยู่พักหนึ่ง
คิดไม่ถึงว่าดูเหมือนเวินเที๋ยนเที๋ยนจะได้รับปฏิกิริยาอะไรอย่างไรอย่างนั้น เธอเงยหน้าขึ้นแล้วมองมาทางนี้
ในใจของจี้หยู๋ชิงนั้นรู้สึกดีใจ รีบโบกมือให้
เวินเที๋ยนเที๋ยนเห็นเขา แล้วยิ้มออกมาเล็กน้อย จากนั้นก็เริ่มทำงานต่อ
“แม่เห็นผมแล้ว!”
จี้หยู๋ชิงหันมาโอ้อวดกับจี้จิ่งเชินอย่างภูมิใจ
จี้จิ่งเชินเลิกคิ้วขึ้น แต่ก็ไม่ได้โต้ตอบเขาไปอีก
เห็นท่าทางที่ถูกบีบให้ยอมแพ้ของเขาแล้ว จี้หยู๋ชิงราวกับชนะการแข่งขันแล้วอย่างไรอย่างนั้น เขามองเวินเที๋ยนเที๋ยนที่อยู่บนเวทีต่อ หวังว่าจะได้รับการตอบรับอีกเป็นครั้งที่สอง
ขณะที่กำลังมองอยู่นั้น จู่ๆมือข้างหนึ่งก็มาบังดวงตาของเขาเอาไว้ บดบังสายตาของจี้หยู๋ชิง
“พ่อ?”
จี้หยู๋ชิงกำลังจะดิ้น จี้จิ่งเชินก็เอ่ยพูดขึ้น : “อย่าทำให้ส่งผลกระทบต่อการแข่งขันของแม่สิครับ”
ได้ยินคำพูดนี้แล้ว จี้หยู๋ชิงก็เงียบลงอย่างว่าง่าย ไม่กล้าเอ่ยพูดอีก
ถูกต้องแล้ว
ตอนนี้ใกล้เวลาแล้ว การแข่งขันก็เกือบจะสิ้นสุดลง ตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด
บนเวทีนั้นเข้าสู่ช่วงเวลาสุดท้าย การเคลื่อนไหวของเวินเที๋ยนเที๋ยนนั้นยิ่งดูมั่นคงและทำอย่างมีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น
แต่มองไปอีกทางด้านหนึ่ง อาจารย์ฟ่านก็มือไม้อ่อนจนทำอะไรไม่ถูกตั้งแต่แรกแล้ว
วิธีการของเธอนั้นดูสับสนวุ่นวายไปหมด ยิ่งเห็นเวินเที๋ยนเที๋ยน เธอก็ยิ่งลนลาน
เดิมทีก่อนหน้านี้คนที่ให้ความหวังนี้กับเธอนั้น ก็มองฉากตรงหน้าแล้วส่ายหน้าออกมาอย่างเสียดาย
ติ๊ง—
เสียงกริ่งการแข่งขันสิ้นสุดลงดังขึ้น
ในขณะเดียวกันเวินเที๋ยนเที๋ยนก็วางของในมือลง แล้วรู้สึกโล่งใจ
เธอทำงานในมือเสร็จสิ้นอย่างราบรื่นในช่วงเวลาสุดท้าย
แต่อาจารย์ฟ่านนั้น ในมือยังคงถือเครื่องมือที่ไม่เหมือนกันเอาไว้ถึงห้าหกอย่าง เดิมทียังกำลังสับสนอยู่ว่าจะใช้วิธีไหนดี แต่ทันใดนั้นเองกลับได้ยินเสียงกริ่งสิ้นสุดการแข่งขันดังขึ้น อาการบนใบหน้าของเธอนั้นดูเซื่องซึมไร้ความรู้สึก จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นความรู้สึกแห่งความพ่ายแพ้!
โดยเฉพาะเห็นใบหน้าที่ปรากฏรอยยิ้มของเวินเที๋ยนเที๋ยนแล้ว ยังมีผลงานที่สำเร็จแล้วของเธอที่วางอยู่บนโต๊ะอีก ยิ่งทำให้เธอรู้สึกไม่พอใจ
แต่เมื่อนึกถึงผลงานที่ตัวเองเลือกมาเป็นพิเศษชิ้นนี้แล้ว ก็รู้สึกวางใจขึ้นมาอีกครั้งทันที
ถึงแม้เธอจะทำไม่เสร็จ นั่นก็เป็นเพราะว่าผลงานที่ตัวเองเลือกนั้นมีความยากมากกว่าของเวินเที๋ยนเที๋ยน
เวินเที๋ยนเที๋ยนทำเสร็จในเวลาที่กำหนดก็ยังมีดีอยู่บ้าง
แต่ถ้าหากพิจารณาถึงความยากของผลงาน และเทคนิคในการซ่อมแซมแล้ว เธอก็ชนะได้เหมือนกัน!
ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อครู่นี้เธอเห็นอย่างชัดเจน!
ผลงานที่เวินเที๋ยนเที๋ยนเลือกชิ้นนั้น นอกจากเครื่องเคลือบลายครามและโลหะแล้วยังมีวัสดุประเภทที่สามคือหินโมราอีกด้วย
และเวินเที๋ยนเที๋ยนก็ไม่เคยเรียนรู้เกี่ยวกับการซ่อมแซมทางด้านนี้มาก่อน!
เพียงแค่เธอเกิดความผิดพลาด ตัวเองก็จะชนะได้แล้ว!
อาจารย์ฟ่านคิด แล้วลุกขึ้นยืนด้วยความภาคภูมิใจ แล้วเดินมารอผลจากการตรวจสอบอยู่ทางด้านข้าง
และเจอเข้ากับเวินเที๋ยนเที๋ยนพอดี จึงเอ่ยเยาะเย้ยขึ้นมา : “เธอคิดว่าตัวเองซ่อมเสร็จในเวลาที่กำหนดแล้วจะสามารถชนะได้อย่างนั้นหรือ? อย่าฝันไปหน่อยเลย!”
เวินเที๋ยนเที๋ยนหันมามองเธอ
“อาจารย์ฟ่านคะ คุณเรียนรู้เทคนิคที่ไม่เหมือนกันสิบสองประเภทนี้ที่ประเทศAใช่ไหมคะ? อีกทั้งยังครอบคลุมไปถึงวิธีการซ่อมแซมวัสดุอีกแปดประเภท อย่างพวกโลหะ เครื่องเคลือบลายคราม หินโมรา ก้อนหินด้วยนี่คะ”
อาจารย์ฟ่านได้ยินแล้วในก็รู้สึกตกใจขึ้นมาทันที
“เธอรู้ได้อย่างไร?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเพียงแค่ยิ้มออกไปบางๆ
“เมื่อครู่ตอนที่คุณแข่งขัน ฉันเห็นหมดแล้วล่ะค่ะ”
“เป็นไปได้ยังไง?” แต่อาจารย์ฟ่านกลับไม่เชื่อ
ระหว่างการแข่งขันเมื่อครู่นี้ เธอเห็นอย่างชัดเจนว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนไม่ได้มีเวลามามองดูเทคนิคของตัวเองเลยด้วยซ้ำ จมอยู่กับโลกของตัวเองอยู่ตลอดแบบนั้น
เธอหรี่ตาลงเล็กน้อย เอ่ยขึ้นมาด้วยเสียงสูงที่ดูมีการข่มขู่อยู่ด้วย
“เธอให้คนไปสืบเรื่องของฉันใช่ไหม?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนส่ายหน้า
“ต่อให้ฉันให้คนไปสืบเรื่องคุณ ก่อนหน้าที่คุณจะมาแข่งขันครั้งนี้ ก็คงจะเคยใช้เพียงแค่สองสามประเภทเท่านั้นใช่ไหมคะ? จะเป็นไปได้อย่างไรที่ฉันจะสามารถรู้ทั้งหมดได้?”
อาจารย์ฟ่านมองเธออย่างไม่อยากจะเชื่อ
“หรือว่าเธอเห็นจริงๆ…..เธอเห็นตั้งแต่ตอนไหน? สถานการณ์แบบนั้น เธอจะสามารถจับปลาสองมือทำพร้อมๆกันได้ยังไง?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนยิ้มออกมาอย่างอายๆ
“ความจริงแล้วเป็นเพราะจี้หยู๋ชิงลูกของฉันเองค่ะ”
แววตาของอาจารย์ฟ่านปรากฎความสงสัยออกมา
เวินเที๋ยนเที๋ยนยิ้มพลางเอ่ยขึ้น : “ปกติแล้วตอนที่ฉันฝึก ลูกของฉันจะยืนกรานว่าจะอยู่เป็นเพื่อนข้างๆฉัน ควบคุมให้ฉันต้องพักผ่อน ถึงแม้ว่าเขาจะเชื่อฟังมาก ไม่เคยทำให้ฉันต้องเป็นกังวลเลยมาก่อน”
“แต่เทคนิคที่ฉันใช้ฝึกฝนในห้องฝึกนั้น มีสิ่งของที่เป็นอันตรายวางอยู่ไม่น้อยเลย ฉันจึงทำได้เพียงแค่ต้องฝึกไปพลาง แล้วก็จะต้องคอยมองเขาไปด้วย กังวลว่าเขาจะได้รับบาดเจ็บ แล้วฉันก็ได้เรียนรู้กับการทำอะไรทั้งสองอย่างไปพร้อมๆกันโดยไม่รู้ตัว”
อาจารย์ฟ่านคิดไม่ถึงว่าจะเป็นเพราะสาเหตุเช่นนี้
เธอขมวดคิ้วขึ้น แล้วมองไปทางจี้จิ่งเชินอย่างเย็นชา กำหมัดเอาไว้แน่น
“ต่อให้เป็นแบบนี้ การแข่งขันครั้งนี้ฉันก็จะต้องชนะแน่ๆ! เทคนิคของฉันจะไม่มีทางแพ้โดยเด็ดขาด!”
เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่ได้เอ่ยพูดอีก
เวลานี้คณะกรรมการได้เดินขึ้นมาบนเวที แล้วเริ่มตรวจสอบผลงานของทั้งสองคน
“แม่ฮะ?”
ตอนนี้เสียงของจี้หยู๋ชิงที่อยู่ทางด้านหลังดังขึ้น เป็นการดึงดูดสายตาจากคนจำนวนไม่น้อยขึ้นมาในทันที
เวินเที๋ยนเที๋ยนหันไปมอง เห็นจี้จิ่งเชินกำลังพาจี้หยู๋ชิงเดินมาด้วยใบหน้าที่เฉยเมย
แต่จี้หยู๋ชิงกลับไม่ได้สนใจสายตาของคนอื่นๆแต่ยื่นมือออกมา
“แม่ฮะ!”
เวินเที๋ยนเที๋ยนยิ้มเล็กน้อย แล้วยกมือขึ้นมารับเขาไป ในใจรู้สึกสงสัยอยู่บ้าง
“หยู๋ชิง เมื่อกี้นี้ทำไมหนูมองแม่ตลอดเลยล่ะครับ? มีอะไรหรือเปล่า?”
ดวงตาของจี้หยู๋ชิงเป็นประกายขึ้นมาทันที
“แม่เห็นหรือฮะ?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้า
“ก็ต้องเห็นสิครับ”
จี้หยู๋ชิงได้ยินแล้ว ก็หน้าแดงขึ้นมาทันที
เมื่อกี้เขายังเป็นกังวลอยู่ตลอดว่าทำไมแม่ไม่หันมามองตัวเองเลย
แท้ที่จริงแล้วแม่รู้ตั้งแต่แรกแล้ว?
เวลานี้จี้จิ่งเชินเหลือบมองไปยังจี้หยู๋ขิง
พลางพูดขึ้น : “ไม่มีอะไรหรอกครับ เพียงแค่ลูกดูจริงจังเกินเหตุเท่านั้นเอง”
เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินแล้ว ในใจก็ยิ่งรู้สึกสงสัย
จี้หยู๋ชิงหันมา แล้วมองโทษจี้จิ่งเชิน จับมือเวินเที๋ยนเที๋ยนเอาไว้แน่น
แล้วเอ่ยพูดขึ้นมาด้วยความมุ่งมั่น : “แม่จะต้องชนะฮะ!”
เวินเที๋ยนเที๋ยนยิ้มออกมา
และจะกำลังเอ่ยพูดขึ้นมานั้น อาจารย์ฟ่านที่ยืนอยู่ข้างๆกลับหัวเราะเยาะขึ้นมา
“ดูแล้วตอนนี้พวกเธอคงทำได้เพียงต้องปลอบใจกันเท่านั้นสินะ รอผลการแข่งขันออกมา แล้วพวกเธอจะต้องร้องไห้แน่!”