ข่าวบนอินเทอร์เน็ตทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ และทุกคนต่างก็เชื่อว่า เวินเที๋ยนเที๋ยนติดสินบนกรรมการและผู้เข้าแข่งขันคนอื่นๆ จึงได้มีผลงานออกมาดีแบบนี้ และคว้าแชมป์ได้ ทุกคนจึงด่าทอและสาปแช่งเธอ
เมื่อเห็นสถานการณ์เป็นแบบนี้ จางลัยยี่ก็รู้สึกพอใจเป็นอย่างมาก
เมื่อเขาเห็นความคิดเห็นต่างๆบนอินเทอร์เน็ต ก็ดีใจจนหัวเราะออกมา
“นี่คือผลของการที่ทำให้ฉันไม่พอใจ เวินเที๋ยนเที๋ยน รอก่อนเถอะ!ฉันจะทำให้ชื่อเสียงของเธอฉาวโฉ่”
ก่อนหน้านั้นที่เขาเห็นข่าว คิดว่าตัวเองคงจบเห่แล้ว ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะเข้าใจสถานการณ์นั้นผิดไป
และในเวลาต่อมา จางลัยยี่ก็คิดหาวิธีได้ จึงเผยแพร่ข้อความอื่นตามมา โดยโยนความผิดทุกอย่างไปให้กับเวินเที๋ยนเที๋ยน
สุดท้ายผลก็ออกมาตามที่เขาได้คาดการณ์เอาไว้ รอเหตุการณ์นี้จบลง เวินเที๋ยนเที๋ยนคงไม่มีหน้าอยู่ต่อไปได้อีก !
ผู้เข้าแข่งขันที่เขากล่าวถึง ต่างก็บินกลับประเทศของตัวเองไปแล้ว และเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ก็ยังไม่มีใครรู้ข่าวเลยด้วยซ้ำ อย่าว่าแต่จะมาเป็นพยานให้เลย
ไม่ว่ายังไง เวินเที๋ยนเที๋ยนเองก็อย่าหวังว่าจะได้เป็นที่หนึ่งเลย !
จางลัยยี่ยิ้มอย่างผู้ชนะ หยิบมือถือออกมา แล้วกดไปหานิวมั้น
เมื่อเขารับสาย ก็พูดทันทีว่า:“เห็นข่าววันนี้หรือยัง ? หากเป็นไปตามแผน ภายใต้แรงกดดัน สมาคมบูรพาวัตถุโบราณจะถูกผู้คนกดดัน แล้วตัดสิทธิ์การเป็นแชมป์ของเวินเที๋ยนเที๋ยน ถึงตอนนั้น คนที่ชนะก็จะเป็นปรมาจารย์จอห์น”
“ถึงวันนั้น เรื่องที่เราเคยตกลงกันไว้ก็จะยังเหมือนเดิมใช่ไหม ? ”
นิวมั้นไม่คิดว่าจางลัยยี่จะยังคงเล่นเกมนี้อยู่ รีบพยักหน้าให้อย่างพึงพอใจ
“ได้อยู่แล้ว ไม่ว่ายังไง ขอแค่ปรมาจารย์จอห์นชนะ ข้อตกลงที่เราเคยคุยกันไว้ก็จะยังคงเหมือนเดิมแน่นอน ตำแหน่งภัณฑารักษ์ของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เปิดรอรับคุณตลอด”
“งั้นก็ดี”จางลัยยี่พูดอย่างพึงพอใจ :“ช่วงนี้คุณเองก็ควรไปต่างประเทศสักพักหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า เดี๋ยวจะสืบเจอสถานะที่แท้จริงของคุณเข้า”
“ฉันรู้แล้ว ตอนนี้ฉันอยู่ที่สนามบินแล้ว กำลังจะขึ้นเครื่อง ส่วนเรื่องทางนี้ก็ฝากคุณด้วยแล้วกัน ”
“วางใจเถอะ ไม่มีปัญหาอะไรแน่นอน ”
พอวางสายแล้ว จางลัยยี่ก็เปิดดูความคิดเห็นบนอินเทอร์เน็ตอย่างมีความสุข แล้วตัดสินใจว่าจะเพิ่มเชื้อไฟอีกหน่อย
เขาโทรไปหานักข่าวบางคน แล้วเรียกพวกเขามาที่บ้าน แจ้งว่าตัวเองยังมีความลับบางอย่างที่อยากจะแจ้งให้ทราบ
ตอนนี้ เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ทุจริตการแข่งขันการบูรพาวัตถุโบราณหรือไม่ เรื่องติดสินบนพนักงานก็แพร่กระจายไปทั่ว ทุกคนต่างก็ให้ความสนใจ ได้ยินว่าหนึ่งในตัวละครหลักอาจารย์จางลัยยี่จะเปิดเผยเรื่องนี้ ทุกคนต่างก็กรูกันไปดู อยากที่จะได้ลงตีพิมพ์เป็นคนแรก
นิวมั้นดูการเปลี่ยนแปลงบนอินเทอร์เน็ต ก็ยิ่งรู้สึกพอใจมากขึ้น
“ดูไปแล้ว จางลัยยี่คนนี้ก็ใช่ว่าจะเป็นคนที่ไม่รู้อะไรเลยซะทีเดียว ”
หากครั้งนี้ทำสำเร็จได้จริง ต่อไปเราคงได้ร่วมงานกันเรื่อยๆ
เขาคิด แล้วเก็บโทรศัพท์ลง หยิบกระเป๋าเดินทาง แล้วมองดูเวลา
จะได้เวลาขึ้นเครื่องในอีกไม่ถึงสิบนาที ทำไมป่านนี้แล้วยังไม่แจ้งให้ขึ้นเครื่องอีก ?
เขาขมวดคิ้ว ยืนขึ้นแล้วมองไปยังรอบๆอย่างกังวล
มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ?
ในขณะที่คิด ก็มีเสียงตามสายดังขึ้น
“เรียนผู้โดยสารทุกท่าน ต้องขออภัย เนื่องจากสภาพอากาศ เที่ยวบิน M03 ที่จะไปยังสหรัฐอเมริกาเกิดความล่าช้า ได้โปรดอย่าเป็นกังวล”
ล่าช้า?
ทำไมต้องเป็นเวลานี้ !
นิวมั้นลากกระเป๋าอย่างร้อนใจ ไม่อยากจะรอแม้นาทีเดียว แล้วเดินตรงไปยังเคาน์เตอร์
“ช่วยผมดูตั๋วเที่ยวบินอื่นด้วย”
พนักงานต้อนรับมองมาที่เขา แล้วพูดว่า :“ขออภัยด้วยค่ะ เที่ยวบินในช่วงสองวันนี้เต็มหมดแล้วค่ะ ”
“เป็นไปได้ยังไง?”นิวมั้นขมวดคิ้วแล้วพูดว่า :“ไม่ว่ายังไง ช่วยผมหาตั๋วไปต่างประเทศใบหนึ่ง ไปที่ไหนก็ได้ ”
เขาพูดอย่างร้อนใจ ในตอนนี้ จู่ๆก็มีเสียงดังขึ้นจากข้างหลังเขา
“คุณผู้ชายคนนี้ ไม่ทราบว่าจะรีบร้อนไปไหนครับ ? ”
เมื่อนิวมั้นได้ยินคำถามนี้ ในใจก็มีลางสังหรณ์ไม่ดีเกิดขึ้น
เมื่อหันกลับไปมอง ก็เห็นบอดี้การ์ดชุดดำรูปร่างสูงใหญ่สองสามคนยืนอยู่ด้านหลัง
สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปทันที แล้วถอยหลังไปสองสามก้าวอย่างเร็ว
“พวกคุณเป็นใคร ? จะทำอะไร?”
พวกเขาล้อมชายหนุ่มเอาไว้
“คุณจี้มีธุระอยากจะคุยกับคุณเป็นการส่วนตัว ”
“จี้จิ่งเชิน?”
นิวมั้นเบิกตากว้าง คิดจะหันหลังกลับเพื่อหนี
และเพิ่งจะก้าวขาไปได้ก้าวเดียว ก็ถูกบอดี้การ์ดดึงตัวกลับมา แล้วโยนลงพื้น
และคนอื่นๆก็ก้าวเข้ามาอย่างรวดเร็ว จับตัวเขาไว้ แล้วลากออกไปด้านนอก
สีหน้าของนิวมั้นซีดเซียว พยายามดิ้นรนขัดขืน
“พวกคุณจะทำอะไร?ปล่อยผมนะ!ปล่อยผมเดี๋ยวนี้!”
แต่พื้นที่บริเวณนั้นกลับไม่มีใครสนใจเสียงเรียกของเขา
ในเวลาต่อมา นิวมั้นก็ถูกนำตัวขึ้นรถ แล้วออกจากสนามบิน
หลังจากที่เขาไปแล้ว ก็มีเสียงตามสายดังขึ้นอีกครั้ง
“ผู้โดยสารที่เคารพรัก สภาพอากาศตอนนี้ดีขึ้นแล้ว เที่ยวบิน M03 ที่จะไปสหรัฐอเมริกาพร้อมที่จะออกเดินทางแล้ว ขอให้ทุกท่านเดินทางอย่างมีความสุข”
เวินเที๋ยนเที๋ยนยังอยู่ที่ปราสาท ขมวดคิ้วแน่น เฝ้ามองดูการเคลื่อนไหวบนอินเทอร์เน็ตอย่างเป็นกังวล
ก่อนหน้านั้นหลังจากที่อาจารย์ฉู่กับท่านเปิงรู้ข่าว ทั้งคู่ก็ได้โทรมาสอบถามแล้ว
พวกเขาเชื่อว่า เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่ใช่คนที่จะทำเรื่องอะไรแบบนี้แน่นอน และกลัวว่าเธอจะเป็นทุกข์กับเรื่องที่เกิดขึ้น
เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่ได้เป็นกังวลอะไร เพราะมีจี้จิ่งเชินอยู่ข้างๆ ก็เหมือนกับมียาดี
เธอคิดไปคิดมา ก็รู้สึกว่าเรื่องนี้จางลัยยี่ต้องมีส่วนเกี่ยวข้องเป็นแน่
“ในเมื่ออยากไป งั้นเราก็ไปดูด้วยกัน”จี้จิ่งเชินดูออกว่าเธอกำลังคิดอะไร จึงเอ่ยปากพูด
เวินเที๋ยนเที๋ยนหันมองไปที่เขา
“ได้เหรอคะ ? หากฉันออกไปตอนนี้ มันจะไม่เกิดความโกลาหลเหรอ ?”
“หากไปที่บ้านของจางลัยยี่ ไม่เป็นอะไรหรอก ผมจะไปกับคุณ”
พอพูดจบ ก็มีน้ำเสียงแบบเด็กๆดังขึ้น
“ไอย่า!หม่าม้า!ผมไปด้วย”
จี้หยู๋ชิงดึงไปที่แขนเสื้อของเวินเที๋ยนเที๋ยน ไม่ยอมให้ตัวเองอยู่ตามลำพังคนเดียวแน่นอน
จี้จิ่งเชินมองไปที่เขาแวบหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้คัดค้านอะไร
ในที่สุดเวินเที๋ยนเที๋ยนก็พยักหน้าให้
“งั้นพวกเราไปดูกัน ดูสิว่าจางลัยยี่ต้องการจะทำอะไรกันแน่ ทุกคนไม่ควรที่จะถูกเขาหลอก”
พวกเขาขึ้นรถ แล้วมุ่งหน้าไปยังบ้านของจางลัยยี่
และในเวลาเดียวกันนั้น นักข่าวจำนวนมากก็ได้มารวมตัวกันอยู่ที่วิลล่าของจางลัยยี่
เขามองคนตรงหน้าอย่างประหลาดใจ
จำได้ว่าตอนที่โทรไปแจ้งก็แจ้งไปเพียงแค่คนสองคนเท่านั้น ทำไมตอนนี้ถึงได้แห่กันมาเต็มไปหมด ?
ข่าวมันแพร่กระจายไปรวดเร็วถึงขนาดนี้เชียวเหรอ ?
ช่างมันแล้วกัน ในเมื่อคนมายิ่งเยอะก็ยิ่งดี ถึงตอนนั้นหากเรื่องราวใหญ่โต เวินเที๋ยนเที๋ยนก็อยู่ในสังคมได้ยากลำบากยิ่งขึ้น
เขายิ้มอย่างพอใจ เมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าเริ่มเก็บภาพแล้ว สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป ทำเป็นเสียใจและโทษตัวเอง
พูดอย่างโศกเศร้าไปว่า :“ฉันในฐานะอาจารย์ด้านงานบูรพาวัตถุโบราณ ทำงานในวงการนี้มาหลายสิบปี ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นได้ ฉันละอายใจมาก ”
“แต่เพื่อเกียรติยศของประเทศชาติและของคนทุกคน เมื่อข้อสรุปทุกอย่างออกมา ฉันยินดีรับโทษ แต่ที่ฉันต้องพูดก็คือ เรื่องนี้เวินเที๋ยนเที๋ยนมีส่วนเกี่ยวข้องแน่นอน และเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด เธอได้เตรียมการวางแผนเอาไว้ล่วงหน้าอยู่ก่อนแล้ว !”