เวินเที๋ยนเที๋ยนเห็นสายตาที่เป็นกังวลของพวกเขาพลางเอ่ย : “ฉันไม่เป็นไรค่ะ”
ถึงแม้ว่าจะพูดแบบนี้ แต่ทุกคนมองเห็นอารมณ์ที่ดูจิตตกของเธอ
ทานอาหารเสร็จแล้ว เวินเที๋ยนเที๋ยนก็อ่านคำวิพากษ์วิจารณ์ในอินเตอร์เน็ต แต่กลับยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ในใจก็ยิ่งรู้สึกผิดหวังมากขึ้น
“กำลังคิดอะไรอยู่ครับ?”
เสียงของจี้จิ่งเชินดังขึ้นมาจากทางด้านหลัง
เวินเที๋ยนเที๋ยนหันไปมองเขา แล้วรีบปิดคอมพิวเตอร์ ไม่อยากจะให้คนอื่นต้องเป็นกังวลไปด้วย
แต่สายตาของจี้จิ่งเชินที่มองไปนั้น ก็เห็นเนื้อหาบนหน้าจอนั้นแล้ว เขากอดเวินเที๋ยนเที๋ยนเอาไว้จากทางด้านหลัง
“วันนี้เพิ่งจะวันแรกเองครับ ไม่ต้องกังวลไปนะ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้า
ถึงแม้ว่าจะพูดแบบนี้ แต่ก็ยังคงอดที่จะรู้สึกกังวลไม่ได้
เธอไม่ได้เป็นกังวลตัวเอง แต่ยิ่งรู้สึกเป็นกังวลกับคนอื่นๆที่ทุ่มเทให้กับรายการนี้มากกว่า กังวลว่าความหวังของพวกเขานั้นจะล้มเหลว
คิดแล้วนั้น เวินเที๋ยนเที๋ยนก็ยังคงเอ่ยถาม : “จี้จิ่งเชิน พี่เป็นประธานบริษัทเอ็มไอกรุ้ป การตัดสินใจทุกๆครั้งก็ล้วนแต่เป็นอนาคตของบริษัททั้งนั้น ถ้าหากแผนการมันไม่ได้ราบรื่นเหมือนอย่างที่เราคิดว่า ควรจะทำอย่างไรดีคะ?”
“ผมเองก็ไม่ใช่ว่าจะประสบความสำเร็จไปหมดทุกครั้งนี่ครับ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินแล้ว จึงมองเขาอย่างประหลาดใจ
เท่าที่เธอจำได้ เพียงแค่เป็นเรื่องที่จี้จิ่งเชินอยากจะทำ ก็จะต้องทำได้อย่างแน่นอน
เห็นแววตาที่ประหลาดใจของเธอแล้ว จี้จิ่งเชินจึงยิ้มออกมาเล็กน้อย
“ดีใจนะครับ ที่ตำแหน่งของผมในใจของคุณนั้นอยู่สูงขนาดนี้ แต่ผมเองก็มีตอนที่พลาดเหมือนกัน”
จี้จิ่งเชินเสริมขึ้นมาอยู่ในใจ : เพียงแค่ทุกครั้งล้วนแต่สามารถต้านทานคลื่นที่โถมพัดมาได้ อีกทั้งเป็นแบบนี้น้อยครั้งมาอีกด้วย
เขามองเวินเที๋ยนเที๋ยนที่อยู่ตรงหน้า พลางเอ่ยพูดต่อ : “ทำให้ดีที่สุด อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด ทุกอย่างที่คุณทำก่อนหน้านี้มันสมบูรณ์แบบมากแล้ว ตอนนี้คุณไม่ต้องตำหนิโทษตัวเองนะครับ รอเพียงแค่ผลลัพธ์ของเวลาที่จะให้มาก็พอ”
มือทั้งสองข้างของเวินเที๋ยนเที๋ยนประสานเข้าหากัน
“แต่ฉันก็ยังอดคิดไม่ได้นี่คะ”
จี้จิ่งเชินมองเธอ แววตาปรากฏรอยยิ้มออกมา อ่อนโยนราวกับน้ำ
“ถ้าอย่างนั้นคุณอาจจะว่างมากเกินไปใช่ไหม? เลยทำให้ตัวเองยุ่งเข้าไว้”
เวินเที๋ยนเที๋ยนขมวดคิ้ว พลางคิด แล้วเอ่ยพูดขึ้น : “ตอนที่ฉันอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ก็ยุ่งมากแล้วนะคะ……”
“ผมหมายถึงตอนนี้ครับ”
น้ำเสียงของจี้จิ่งเชินนั้นทุ้มต่ำลงมาเล็กน้อย พลางก้มตัวลงมาแล้วโอบกอดเวินเที๋ยนเที๋ยนเอาไว้
น้ำเสียงทุ้มต่ำแหบพร่า เหมือนกับดวงดาวในยามค่ำคืน และเหมือนกับเสียงไซเรนที่ดึงดูดกะลาสีเรือให้เข้าใกล้ท่ามกลางทะเลลึกอีกด้วย เป็นเสน่ห์ที่ไม่มีที่สิ้นสุดยิ่งนัก
เวินเที๋ยนเที๋ยนหน้าแดงขึ้นมาทันที แล้วรีบลุกขึ้นยืน
“ถ้าอย่างนั้นฉันจะไปนอนตอนนี้เลยค่ะ……”
และกำลังจะเดินไปนั้น กลับถูกจี้จิ่งเชินดึงเอาไว้ แล้วโอบกอดเธอเอาไว้อีกครั้ง
เวินเที๋ยนเที๋ยนหน้าแดงขึ้นมาเล็กน้อย
จี้จิ่งเชินเอ่ยขึ้น : “ตอนนี้ยังไม่ดึกเลย ถ้าจะนอนก็คงนอนไม่หลับหรอกมั้งครับ?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนส่ายหน้าอย่างจริงจัง พลางยืนยัน : “ไม่หรอกค่ะ! ตอนนี้ฉันง่วงแล้ว ล้มตัวลงนอนก็หลับได้เลย”
“ใช่หรือครับ?”
จี้จิ่งเชินผลักเธอลงเบาๆ ให้เวินเที๋ยนเที๋ยนนอนลงบนเตียง
แล้วเอ่ยด้วยเสียงทุ้มต่ำ : “แต่ผมรู้สึกว่าคุณล้มตัวลงนอนแล้วอาจจะไม่ได้หลับก็ได้นะ”
ว่าแล้วก็คร่อมร่างของเธอเอาไว้ บรรจงจูบลงเบาๆบนหน้าผาก ไล่ลงมาที่ริมฝีปาก และลำคอ
ทีละนิดๆ ก็ได้จุดเปลวไฟเล็กๆนี้ขึ้นมา และไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่เสื้อผ้าบนร่างกายนั้นก็ได้ถูกถอดออกไปหมดแล้ว
ร่างกายแนบชิดกันไม่มีช่องว่างแม้แต่นิดเดียว อุณหภูมิของร่างกายฝ่ายนั้นก็ส่งต่อมายังร่างของตัวเองอย่างชัดเจน ทำให้หัวใจเต้นและหน้าแดงขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว
พอก้มหน้าลงมองแล้วพบสภาพของตัวเองในตอนนี้แล้ว จึงรีบดึงสติกลับมา
“พี่ไม่ได้เคยรับปากฉันแล้วหรอกหรือคะ ว่าถ้าหากฉันบอกว่าไม่พี่ก็จะหยุดไม่ใช่หรือ?”
จี้จิ่งเชินย้อนถามกลับ
“คุณบอกแล้วหรือครับ?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินแล้ว ก็เบิกตาขึ้น
“ไม่………”
เธอที่อยากจะเอ่ยปากนั้น ยังไม่ได้พูดออกมา ก็ถูกฝ่ายนั้นปิดปากไปเสียแล้ว
และไม่นาน ก็ได้ยึดครองความคิดของเวินเที๋ยนเที๋ยนไป ลืมไปแล้วว่าก่อนหน้านี้ตัวเองจะทำอะไร ทำได้เพียงเคลิบเคลิ้มอยู่ในโลกที่จี้จิ่งเชินถักทอขึ้นมาเพียงเท่านั้น
ดูเหมือนกับที่เขาพูดเอาไว้ก่อนหน้านี้ ว่าเขามีเป็นร้อยวิธี ที่จะทำให้เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่สามารถพูดคำว่า “ไม่เอา” กับเขาได้
กลางดึก หลังจากที่เวินเที๋ยนเที๋ยนหลับไปแล้วนั้น จี้จิ่งเชินกลับยังคงมีสติอยู่
เขาก้มหน้าลงมองผู้หญิงที่หลับไปแล้ว และหยิบโทรศัพท์กดโทรออก
ถึงแม้จะดึกมากแล้ว แต่เสียงโทรศัพท์ที่เพิ่งดังขึ้นมานั้น ก็กดรับสายฝ่ายนั้นอย่างรวดเร็ว
น้ำเสียงที่สงบนิ่งของจงหลีดังขึ้น
“ประธานจี้ มีคำสั่งอะไรหรือเปล่าครับ?”
น้ำเสียงของจี้จิ่งเชินกดให้ต่ำลงเล็กน้อย เพื่อไม่ให้รบกวนเวินเที๋ยนเที๋ยนที่กำลังหลับอยู่ พลางเอ่ยขึ้น : “เกี่ยวกับรายการของเวินเที๋ยนเที๋ยนครั้งนี้”
จงหลีที่อยู่ทางปลายสายได้ยินแล้วนั้นก็เข้าใจขึ้นมาในทันที
“จะต้องให้คนไปปรับเปลี่ยนเวลาออกอากาศ แล้วสร้างประเด็นหัวข้อในอินเตอร์เน็ตหรือเปล่าครับ?”
จี้จิ่งเชินก็มีความคิดนี้อยู่
และเมื่อจะตอบรับไปนั้น ก็หันมามองยังเวินเที๋ยนเที๋ยนที่กำลังหลับอยู่
ถ้าหากเวินเที๋ยนเที๋ยนรู้เข้า ว่าความสำเร็จของตัวเองเป็นการส่งเสริมและอยู่ในความช่วยเหลือของเขา คงจะผิดหวังมากใช่หรือเปล่า?
ต่อให้ตัวเองใช้วิธีต่างๆเพื่อไม่ให้เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้ แต่กลับยังคงไม่สามารถบรรเทาลงมาได้
จี้จิ่งเชินคิดแล้วจึงเปลี่ยนใจ : “ไม่ต้องแล้ว”
“อะไรนะครับ?”
จงหลีย้อนถามกลับไปด้วยความประหลาดใจ
“ไม่ต้องจัดการอะไรทั้งนั้น” จี้จิ่งเชินหันมาแล้วยื่นมือมาลูบแก้มของเวินเที๋ยนเที๋ยน
เวินเที๋ยนเที๋ยนที่กำลังหลับสนิทอยู่นั้นราวกับกำลังรับรู้ถึงอะไรเข้า ถูไปถูมาไปตามแหล่งความร้อนอยู่ในฝ่ามือของเขา มุมปากยิ้มออกมาเล็กน้อยแล้วยังคงหลับสนิทอยู่เช่นนั้น
มุมปากของจี้จิ่งเชินยกขึ้นเป็นส่วนโค้งเล็กๆ ด้วยความอาลัยอาวรณ์และความอ่อนโยน
“ให้เวลาเธออีกซักสองวันแล้วกัน”
ทางฝ่ายจงหลีนั้นก็เข้าใจขึ้นมาทันที น้ำเสียงเปลี่ยนไปอย่างจริงจัง
“ครับ ผมจะให้พวกเขาเตรียมตัวเอาไว้ตลอดเวลา”
“แค่นี้แล้วกัน”
จี้จิ่งเชินวางสายไป แววตามองกลับมายังเวินเที๋ยนเที๋ยนอีกครั้ง แล้วโอบกอดเธอเอาไว้อย่างเบามือ แต่กลับดูแข็งแกร่ง ไม่ให้อีกฝ่ายหนึ่งไปจากอ้อมกอดของตัวเอง
แบบนี้ ถึงได้หลับได้ในที่สุด
กลางดึก 《วัตถุโบราณแห่งชาติ》 ในที่สุดก็สามารถเข้าดูได้บนอินเตอร์เน็ตแล้ว
ถึงแม้ว่าตอนนี้จะดึกมากแล้ว แต่พวกคนที่นอนดึกจำนวนไม่น้อยยังคงเล่นอินเตอร์เน็ตอยู่
เห็นหัวข้อโปรโมทของรายการแล้ว ถึงแม้จะจะเป็นการโปรโมทเพียงมุมเล็กๆ แต่ก็ยังคงดึงดูดสายตาพวกเขาได้ในทันที
ก่อนหน้านี้ที่เวินเที๋ยนเที๋ยนเข้าร่วมการแข่งขันการบูรพาวัตถุโบราณ แทบจะทุกคนที่เคยดูการแข่งขันของเธอมาแล้ว พอได้เห็นรายการนั้นเป็นผลงานของเวินเที๋ยนเที๋ยน จึงคลิกเข้าไปด้วยความสงสัย
จากนั้น ก็เห็นหมินอันเกอที่ทุกคนชอบ ก็ยิ่งรู้สึกเซอร์ไพรส์ขึ้นมาในทันที
อีกทั้งนักแสดงไม่เพียงแค่แสดงกันได้อย่างยอดเยี่ยมเท่านั้น รายการยังมีความแปลกใหม่มากอีกด้วย ซึ่งเป็นเนื้อหาที่พวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อน การอธิบายวัฒนธรรมของประเทศ ทำให้พวกเขารู้สึกประหลาดใจและรู้สึกหวั่นไหวไปด้วยเช่นกัน
หลังจากที่ดูจบแล้วคนจำนวนไม่น้อยก็รู้สึกตกตะลึงเป็นอย่างมาก ไม่นาน ทางด้านล่างของคลิปนั้นก็ปรากฏข้อความขึ้นเป็นจำนวนไม่น้อย
มองผ่านตาแล้ว ดูเหมือนจะเป็นการชื่นชมทั้งสิ้น
หลังจากที่ออกอากาศไปในช่วงกลางวันแล้ว ประเด็นที่ไม่มีปฏิกิริยาตอบกลับใดๆนั้นก็พุ่งสูงขึ้นมาทันที พอเห็นรายการที่น่าดูแล้ว คนจำนวนไม่น้อยก็แชร์ให้กับเพื่อนที่อยู่รอบๆข้าง
คนกดเข้ามาดูจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ เข้าชมรายการ หลังจากดูจบแล้วก็รู้สึกเซอร์ไพรส์มากเหมือนกัน
จากนั้นก็แนะนำให้กับคนอื่นๆต่อไปอีก
เหมือนกับสโนว์บอลที่มากจากหน้าม้าทางโซเชียลที่มากขึ้น เริ่มกันโปรโมทรายการนี้
รอจนกระทั่งรุ่งสาง ตอนที่คนส่วนใหญ่ตื่นขึ้นมาแล้วนั้น ก็พบว่าความร้อนแรงของหัวข้อรายการวัตถุโบราณแห่งชาตินี้ได้ระเบิดขึ้นมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว!
แทบจะทุกคนที่กำลังวิพากษ์วิจารณ์ กดเข้าไป ก็พากันตกตะลึงตั้งแต่ตอนนี้!