บทที่ 307 ทำเรื่องอะไรก็ควรไปให้ตลอดรอดฝั่ง
พนักงานต้อนรับแขกคนหนึ่งที่ประตูเดินไปหา เซียวซู่แล้ว แต่เสิ่นเฉียวยังไม่สามารถเข้าไปได้ จึง ทำได้แค่รออยู่ข้างนอก
แต่เนื่องจากชุดราตรีที่เธอใส่ อีกทั้งยังไม่ได้ เข้าไปในงานเลี้ยง ลมด้านนอกพัดมาก็ยิ่งทำให้รู้สึก หนาวมากแม้ว่าตอนนี้เธอจะร้อนใจและรู้สึกว่ามีเรื่อง อยากจะพูดกับเย่โม่เซินมากมาย แต่เธอก็ยังไม่สามารถ ต้านทานความหนาวเหน็บของสายลมในคืนนี้ได้
เธอยื่นมือออกไปกอดแขนตัวเองโดยไม่รู้ตัว พนักงานต้อนรับไม่กี่คนก็มองท่าทางแบบนี้ของเธอ หนึ่งในที่เป็นผู้หญิงจึงหันไปด้านข้างแล้วพูดว่า “ตรง นั้นลมแรงหนาวมาก คุณมายืนข้าง ๆ ฉันไหม”
เมื่อได้ยินเสิ่นเฉียวก็แสดงสีหน้าขอบคุณ เมื่อ เธอกำลังจะก้าวไปข้างหน้า คนรูปร่างเตี้ยที่ยืนอยู่ข้างผู้ หญิงคนนั้นก็พูดว่า: “คุณให้เธอมายืนทำไมน่ะ? ใครจะรู้ ว่าเธอเป็นคนดีหรือคนเลว?”
ด้วยคำพูดเหล่านี้ทำให้เสิ่นเฉียวยืนตัวแข็งอยู่ที่ เดิม ไม่ได้ก้าวไปอีก “อย่าพูดไร้สาระ ดูเธอไม่ใช่คนแบบนั้น แถมตอน
นี้งานเลี้ยงก็ใกล้จะจบแล้ว ถ้าเธอมีจุดประสงค์อื่นเธอน่า จะมาตั้งแต่เช้าสิและคุณก็เห็นว่าเธอบาดเจ็บอยู่”
“แล้วยังไง” หญิงร่างเตี้ยคนนั้นตอบด้วยเสียงห้าว “มีผู้หญิงที่ต้องการพบคุณชายเย่กี่คนกัน? บางที อาการบาดเจ็บพวกนั้นบนร่างกายของเธออาจจะเป็นการ เสแสร้งก็ได้ ตอนนี้เทคนิคการแต่งหน้าสูงขนาดนี้ ไม่ แน่ว่าอาจจะปลอมก็ได้นะ?”
“คงไม่ใช่หรอก?”
เสิ่นเฉียวรู้สึกทนไม่ได้กับสิ่งที่พวกเธอพูด เธอ กัดริมฝีปากล่างของตัวเอง แล้วอดไม่ได้ที่จะพูดเสียง ต่ำ: “อย่างไรก็ตามมีคนไปถามแล้ว พวกคุณรออีกสักพัก ก็รู้ว่าสิ่งที่ฉันพูดเป็นความจริงหรือไม่? แล้วตอนนี้ฉันก็ ไม่ได้มีเจตนาร้ายและก็ไม่ได้บุกเข้าไป พวกคุณไม่ จำเป็นต้องพูดไม่เข้าหูขนาดนี้ก็ได้มั้ง?”
“ใช่แล้วหลันหลัน เธอพูดแบบนี้มันเกินไป พวก เรารออีกสักพักเถอะ!”
หญิงร่างเตี้ยคนนั้นพอได้ยินก็โกรธขึ้นมาแล้ว จึง ตะโกน “เธอไม่ชอบที่ฉันพูดไม่เข้าหู? เธอไม่มีบัตรเชิญ เพื่อนร่วมงานของฉันก็เขาไปถามแทนเธอแล้วนี่ถือว่า ให้ความสำคัญกับเธอมากพอแล้ว ตอนนี้เธอยังจะมีท่าที อะไรอีก? เธออาจจะแค่อยากมาสนิทสนมกับคนที่ฐานะดี กว่าเธอล่ะสิ?”
“พอแล้ว พูดให้น้อยหน่อย”
“ฉันต้องพูด”
เส้่นเฉียวหลุบตาลง พอแล้ว เธอจะคิดเล็กคิด น้อยกับคนพวกนี้ไปทำไม อย่างไรเสียเข้าไปได้ก็พอ สถานการณ์ในตอนนี้เป็นเรื่องเร่งด่วน เธอไม่สามารถจัดการได้มากขนาดนั้น
พอเห็นว่าเธอหยุดพูด หญิงร่างเตี้ยคนนั้นก็ ลำพองใจขึ้นมาเล็กน้อย: “เธอคงกินปูนร้อนท้องสินะ ไม่ กล้าพูดล่ะสิ? ถ้าเธอเป็นมิจฉาชีพ ฉันขอเตือนด้วยความ หวังดี จากไปตอนนี้ยังทัน รอให้อีกสักพักผู้ช่วยเชียว ออกมาเธอคิดจะไปก็ไม่มีโอกาสแล้ว”
เสิ่นเฉียวไม่สนใจเธอ เธอยังคงยืนอยู่ที่เดิมไม่
ขยับ
เธอแค่กำลังคิดว่า งานเลี้ยงใกล้จะเลิกแล้วเห รอ? อีกสักพักพอเซียวซู่ออกมาแล้ว เธอเข้าไปหาเขาจะ
ยังทันอยู่ไหม?
“เธอไม่ต้องพูดแล้ว”
เมื่อเห็นว่าเธอไม่ได้พูดต่อ คน ๆ นั้นพูดกับตัวเอง ก็ไม่มีประโยชน์ จึงหันหน้าไปไม่สนใจเธออีก
ไม่รู้ว่ารอนานเท่าไหร่ ในที่สุดคนที่ไปรายงาน แทนเธอก็มาถึงอย่างช้า ๆ
มองจากระยะไกลจึงเห็นว่าเขารีบเดิน แต่เสิ่น
เฉียวกลับไม่เห็นคนอื่น ๆ ด้านหลังเขา ในขณะนั้นหัวใจ ก็รู้สึกหนาวเหน็บอย่างชัดเจน เซียวซูไม่ยอมมา? ถ้า อย่างนั้นคืนนี้เธอก็คงไม่ได้เจอเย่โม่เซินแล้ว?
ไม่รอให้เขาเดินมา เสิ่นเฉียวก็เดินไปข้างหน้า อย่างรวดเร็ว ใครจะรู้ว่าหญิงร่างเตี้ยจะเอื้อมมือมาขวาง ทางเธอ: “เธอจะไปไหน? รอที่นี่”
ไม่มีทางเลือก เสิ่นเฉียวทำได้เพียงกัดริมฝีปาก แล้วรออยู่ที่เดิม
ผู้ชายคนนั้นรีบเข้ามารายงานตรงหน้าเธอ
“เป็นอย่างไรบ้าง? ถามแล้วรึยัง? เธอแอบอ้างใช่
ไหม?”
เสิ่นเฉียวก็มองคน ๆ นั้นอย่างตื่นเต้น
สีหน้าของชายคนนั้นดูอึดอัด หลังจากนั้นเขาก็ เกาหนังศีรษะอย่างแรง “ฉันขอโทษด้วย…ฉันหาดูแล้ว หนึ่งรอบแต่ก็ไม่พบผู้ช่วยเซียว! ขอโทษด้วยจริง ๆ ถ้าไม่ อย่างนั้น….คุณรออยู่ที่นี่อีกสักครู่ เดี๋ยวผมจะเข้าไปตาม หาอีกครั้ง?”
เสิ่นเฉียว: “.อีกนานแค่ไหนกว่างานเลี้ยงจะ จบ?”
“ประมาณสิบนาที”
“มันคงจะสายเกินไปแล้ว ผ่อนผันสักครั้งได้ไหม ฉันต้องเข้าไปเดี๋ยวนี้
“เรื่องนี้.”
“แน่นอนว่าไม่ได้ เธอคิดว่าตัวเองเป็นใคร? ถึงจะ มาฉวยโอกาสนี้? ฉันจะบอกเธอให้ ตราบใดที่ฉันยังอยู่ที่ นี่มันไม่มีทางเป็นไปได้! วันนี้เธออย่าคิดที่จะเข้าไป ฉันดู แล้วเธอก็เป็นแค่คนโกหก จงใจที่จะฉวยโอกาสนี้แอบ เข้าไปใช่ไหม? ไม่ต้องสนใจเธอแล้ว รีบไล่เธอไป ถ้า เธอไม่ยอมไปพวกเราจะแจ้งตำรวจทันที ให้ตำรวจลากเธอเข้าคุก เข้าไปได้หรือไม่เพียงแค่เพิกเฉยและปล่อย เธอไปถ้าเธอไม่ไปเราจะโทรแจ้งตำรวจทันที ให้เธอดู จุดจบของคนโกหกหลอกลวง”
เสิ่นเฉียวกัดริมฝีปากล่าง ในที่สุดก็ทนไม่ไหว “ถ้าอย่างนั้นคุณก็โทรหาตำรวจสิ ทำให้เป็นเรื่องใหญ่ยิ่ง ดีอย่างไรเสียฉันก็ไม่สนใจ ฉันยืนยันได้ ฉันบอกว่ารู้จักก็ คือรู้จัก”
ทันใดนั้น นิสัยเดิมที่ตรงไปตรงมาของเธอก็ ทำให้ทุกคนตกตะลึง มีหญิงสาวคนหนึ่งพูดเสียงเบาว่า “ฉันว่าสิ่งที่เธอพูดไม่ได้โกหกนะและดูเหมือนว่าเธอน่า จะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับประธานเย่ ไม่อย่างนั้น ….พวก เราปล่อยเธอเข้าไปเถอะ”
“ซูถึงเธอพูดง่ายเกินไปแล้ว แค่สองสามประโยค เธอก็ตกใจเชื่อแล้วเหรอ?”
“ฉัน.
“คุณชายใหญ่มาแล้ว!” ไม่รู้ว่าใครเป็นคนเอ่ย เดือนด้วยเสียงต่ำ จากนั้นหลายคนก็มองไปข้างหลัง เสิ่นเฉียวด้วยสีหน้าตกใจ “คุณชายใหญ่จริงด้วย ทำไม เขา…ถึงดูเหมือนได้รับบาดเจ็บสาหัส นี่มันเกิดอะไรขึ้น เหรอ?”
เมื่อได้ยิน ใบหน้าของเสิ่นเฉียวก็เปลี่ยนไป เธอ รีบหันกลับไปทันที
เย่หลินหานหน้าซีดเม้มริมฝีปากบางของเขาแล้ว เดินมาทางนี้ เขาผอมมาก มีเหงื่อเย็น ๆ ที่หน้าผากของเขา ท่าทางดูอ่อนแอมาก
“แปลกจัง ทำไมคุณชายใหญ่มาตอนนี้ล่ะ? แถม ยัง…สีหน้าของเขาแย่มาก เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?”
หลายคนยังคงพูดคุยกัน แต่พวกเขาเห็นว่าเสิ่น เฉียวที่ยืนนิ่งไม่ขยับตรงหน้า จู่ๆ ก็หันกลับแล้วเดินไป หาเย่หลิ่นหาน จากนั้นก็ถามตรงๆ : “ทำไมคุณถึงมาที่นี่ ได้? ไม่ใช่ให้คุณไม่กลับไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลเห รอ? ทำไมคุณ…”
เสิ่นเฉียวรู้สึกโกรธและร้อนใจมาก เห็นชัด ๆ ว่า เขากลับไปที่โรงพยาบาลหลังจากที่ส่งเธอแล้ว แต่ใคร จะรู้ว่าเธอจะติดอยู่ตรงนี้นานขนาดนี้ คิดไม่ถึงว่าเขายัง คงอยู่ที่นี่!
เย่หลิ่นหานเห็นเธอรีบเดินมาข้างหน้าตนเอง ริม ฝีปากบางขาวซีดของเขาก็ฝืนยิ้มแล้วพูดด้วยน้ำเสียง แผ่วเบา: “ฉันนึกขึ้นได้ว่าเธอไม่มีบัตรเชิญฉันเลยให้คน ขับรถกลับมา ทำเรื่องอะไรก็ควรไปให้ตลอดรอดฝั่ง บอกว่าจะส่งเธอไปตรงหน้าเขา ก็ให้ฉันดูเธอเข้าไป หน่อยเถอะ”
“คุณ…”
พนักงานต้อนรับที่เห็นฉากนี้ ตอนนี้ก็รู้อย่าง ชัดเจนแล้ว
สิ่งที่เสิ่นเฉียวเพิ่งจะบอกพวกเธอ ทั้งหมดเป็น ความจริง!
เธอไม่ใช่มิจฉาชีพ! อาการบาดเจ็บบนร่างเป็นความจริง!
หญิงร่างเตี้ยหนึ่งในนั้นที่ชื่อว่าหลันหลันตอนนี้ ใบหน้าซีดขาวด้วยความตกใจไปแล้ว จะทำอย่างไรดี? ดูเหมือนเธอจะหาเรื่องคนที่ไม่ควรหาเรื่องเสียแล้ว แต่ สถานการณ์ในตอนนั้น…เธอรู้สึกจริง ๆ ว่าผู้หญิงคนนั้น กำลังปลอมตัวนี้นา
จะรู้จักกันจริง ๆ ได้อย่างไร?
เย่หลิ่นหานมองแวบหนึ่ง หลังจากนั้นเดินผ่าน เธอไปยังกลุ่มคนที่อยู่ตรงหน้าเหล่านั้น
“พวกเราประสบอุบัติเหตุระหว่างทางที่นี่และตอน นี้ก็หาบัตรเชิญไม่เจอ แต่ถ้าพอจะเห็นแก่หน้าฉัน ก็ขอ ให้เธอเข้าไปได้ไหม?